ก้าวสู่วิวัฒนาการ“ลดริ้วรอย” แห่งวัย กระตุ้นผิวให้เรียบเนียนขึ้น

64

วิวัฒนาการของความงามนั้นไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมีแต่จะก้าวล้ำไปข้างหน้า เพื่อการต่อต้านริ้วรอย ลดริ้วรอยบนใบหน้าเพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียบกระชับทำให้เราได้สัมผัสความล้ำหน้าของวิทยาการที่พร้อมจัดการกับผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกอย่างน่าอัศจรรย์ อย่างนวัตกรรม  Thermage  ที่จะแนะนำนี้ ว่าเจ้าตัวนี้สามารถจัดการกับผิวอย่างเรา ๆ ได้อย่างไร

นวัตกรรม  Thretment Thermage

Thretment Thermage  เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิว ลดริ้วรอย อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการปรับรูปหน้าเรียวเล็ก เป็นนวัตกรรมทางการเเพทย์ที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุขั้วเดียว โดยปล่อยพลังงานความร้อนลงไปได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกสุดของโครงสร้างผิวซึ่งมีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบสูงที่สุดจะช่วยในการกระตุ้นและการสร้างคอลลาเจนใหม่  เพื่อเเก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง พร้อมทั้งช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด ปรับยกกระชับรูปหน้า  ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กได้รูป  ผิวหนังมีความยืดหยุ่นขึ้น  และยังสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพปัญหาผิว ทำให้พผิวเเข็งเเรง  รูขุมขนละเอียดขึ้น  ผิวหน้าเรียบเนียบ ลดริ้วรอย คืนความชุ่มชื่นให้กับผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น

Threatment Thermage กับการกระตุ้น คอลลาเจน

คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนเนื้อเยื่อเส้นใยที่ร่างกายมนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย โดยผิวหนังที่มีคอลลาเจนนั้นอยู่ในชั้นหนังแท้ คอลลาเจน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สดใส เปล่งปลั่ง ลดริ้วรอย เมื่ออายุยังน้อยร่างกายจะผลิตได้มาก แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นโดยเฉาพในวัยเลข 30++ การผลิตคอลลาเจนจะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นการเสริมสร้างคอลลาเจนให้ขึ้นมาใหม่ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เราควรปล่อยให้ผิวร่วงโรยไปตามวัย เพราะคอลลาเจนช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ลดริ้วรอยก่อนวัยได้

การทำงานของ  Thermage

Thermage เป็นการใช้คลื่นวิทยุส่งผ่านความร้อนไปยังชั้นหนังแท้ส่วนที่ลึกที่สุดของผิว โดยประสิทธิภาพของ Thermage ทำหน้าที่เพื่อให้ผิวกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มีอยู่เดิมให้สร้างขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวหน้าแน่น กระชับ เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง และลดริ้วรอย ซึ่งเหมาะกับคนที่ไขมันบริเวณใบหน้าค่อนข้างเยอะ ทำแล้วไม่ทิ้งริ้วรอยแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้น

บริเวณที่ต้องทำการรักษา ด้วย Thermage

  • ร่องแก้ม
  • คาง
  • คอ
  • รอบดวงตา
  • หน้าผาก
  • แก้ม
  • เหนียงใต้คาง

ผู้ที่ไม่ควรทำ Thermage

  • ผู้ที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์
  • ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
  • ผู้ป่วยใส่สายสวนหัวใจ
  • ผู้ป่วยที่มีโลหะในร่างกาย

ข้อดีของการทำ Thermage

  • ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับทันทีหลังการทำ
  • ใช้เวลาน้อยในการทำ
  • ทำแล้วอยู่ได้นาน ไม่ต้องทำบ่อย
  • ไม่ทำให้เกิดริ้วรอยและแผลเป็น
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • หลังทำสามารถแต่งหน้า และ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ข้อเสียของการทำ Thermage

  •  อาจเกิดผื่นในจุดที่ทำหรือบวมแดงเล็กน้อยได้ แต่จะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

และนี่คือวิวัฒนาการด้านความงาม ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งช่องทางของการทำสวย และอยากลดริ้วรอยอย่างไรก็ตามถึงจะผลข้างเคียงจากการทำ Thretment Thermage คือ การทำให้เกิดผื่นในจุดที่ทำหรือบวมแดงเล็กน้อยก็ตาม เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ได้มา ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวแต่สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกทำการรักษา คือ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ เครื่องมือ อุปกรณ์ การให้บริการที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับนั้นสำคัญมาก  เพื่อความสบายใจตลอดการรักษา อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นเป็นที่น่าพึงพอใจ

บอกลาหน้าแก่ หน้าย่น “ลดริ้วรอย” กระชับผิวให้เรียบเนียนสวย

63

การมีผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ มีความกระชับผิวนั้นเป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนต้องการแต่ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น ปัญหาผิวเริ่มก่อตัวขึ้นอยู่เงียบ ๆ โดยที่เราเองไม่ทันได้สังเกตุ รู้ตัวอีกที ก็เต็มไปด้วย ปัญหาผิวริ้วรอยจุดด่างดำเกิดขึ้นกับผิวซะแล้วเรื่องริ้วรอยนับเป็นหนึ่งในปัญหาที่ใครหลาย ๆ คนไม่อยากพบเจอ โดยเฉพาะริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งริ้วรอยบนใบหน้านั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ หลายปัจจัยที่เป็นต้นเหตุ มาจากอะไรบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิว และริ้วรอยก่อนวัย

สาเหตุที่ผิวเกิดริ้วรอย

ด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวสร้างอิลาสตินและคลอลาเจนได้น้อยลง ผิวกระชับยืดหยุ่นของผิวลดลงไม่เหมือนเดิม เมื่อผิวสูญเสียคลอลาเจนและอิลาสตินไปตามวัยแล้ว อาการของผิวริ้วรอยก็ตามมาติดๆ นานวันเข้าผิวก็เริ่มเหี่ยวย่น บ่งบอกถึงวัยที่ผู้หญิงอย่างเราไม่พึงปรารถนา จึงต้องหาวิธีการกระชับผิวและลดริ้วรอย

สิ่งแวดล้อม และ แสงแดด

แสงแดด รังสี UVA และ UVB ในแสงแดด จะทำผิวแห้งลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่นและเกิดริ้วรอย จุดด่างดำบนใบหน้า รวมถึงวิถีการใช้ชีวิตล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้มากขึ้น

คอลลาเจนในชั้นผิวลดลง

คอลลาเจนนั้นมีอยู่แล้วในชั้นผิวหนังของเราตามธรรมชาติ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นคอลลาเจนในผิวก็จะลดน้อยลง เสื่อมลงเรื่อย ๆ ตามวัยที่เพิ่มขึ้น  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย ว่ามีปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวมากน้อยแค่ไหน ดังน้น จึงต้องหาวิธีการกระชับผิวและลดริ้วรอย

ดื่มน้ำน้อย

การดื่มน้ำมีประโยชน์มากมาย การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากไม่เพิ่มแคลอรี่แล้วยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย อีกทั้งช่วยทำให้เพิ่มความสดชื่น และมีประโยชน์กับผิว ช่วยกระชับผิว ลดริ้วรอยได้ เพราะร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันจะทำให้เซลล์ผิวเหี่ยวแห้งซึ่งทำให้ใบหน้าเกิดเหี่ยวย่นขึ้นได้

การแก้ปัญหาริ้วรอยก่อนวัย

ฉีดโบ

การฉีดโบเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาผิว ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลได้ดี  โดย การฉีดโบจะออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว รอยเหี่ยว รอยย่นบนใบหน้าที่เกิดจากการดึงรั้งของกล้ามเนื้อก็จะตื้นขึ้น ลดริ้วรอยและค่อยๆหายไปในที่สุด แต่ข้อเสียของการฉีดโบ คือ อยู่ได้ไม่นาน ต้องไปฉีดซ้ำทุก ๆ 4-6 เดือน

ผ่าตัดดึงหน้า

การผ่าตัดดึงผิวหน้าจะช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียน ลดริ้วรอย ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้า ไม่ต้องกลับไปทำซ้ำ ส่วนข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

Treatment Thermage ( เทอร์มาจ)

เทอร์มาจ คือ เทคโนโลยีคลื่นวิทยุช่วยในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย โดยไม่มีแผล  ปัญหาผิวที่มีริ้วรอยและหย่อยคล้อย จะยกกระชับทันทีระดับหนึ่งหลังรักษา และดีขึ้นเรื่อบๆ อย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยี เทอร์มาจ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสีผิว ใช้รักษากับผู้ที่มีผิวสีเข้มได้ ซึ่งต่างจากการเลเซอร์ทั่วไปหลังการรักษาไม่ต้องพักฟื้นสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ หลังการรักษารักษาผิวหน้าจะดูเรียบเนียนขึ้น ลดริ้วรอย ผิวยกกระชับและดูอ่อนเยาว์

Treatment Thermage ( เทอร์มาจ ) นอกจากช่วยรักษาผิวหน้าให้เรียบเนียน ลดริ้วรอยได้แล้ว ยังสามารถรักษาผิว รอบดวงตา และผิวเปลือกตาได้อีกด้วย   การทำทรีทเมนต์เทอร์มาจ สามารถช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา และปัญหาหนังตาตก ซึ่งเกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวตามอายุที่ร่วงโรย ให้ดวงตากลับมาสดใสและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

เมื่อเราพบว่ามีปัญหาริ้วรอยก่อนวัยแล้ว แน่นอนว่าจะปล่อยปละละเลยไปไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งเราสามารถจัดการกับการลดริ้วรอยก่อนวัยบนใบหน้าได้ หากมีความรู้สึกว่า ผิวหน้าที่เคยเต่งตึงกระชับและดูสดใส กำลังจะถูกแทนที่ด้วยความหย่อนคล้อย เต็มไปด้วยริ้วรอย จุดด่างดำแล้ว ควรรีบดูแลรักษา และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดริ้วรอย ให้ผิวของเรา คงความอ่อนเยาว์ ย้อนเวลาให้ผิวกลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน ผิวสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ

แนะวิธีเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว “ลดริ้วรอย” ก่อนวัยที่ดีที่สุด

62

อุปสรรคสำคัญของผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็คือเรื่องริ้วรอยบนใบหน้านี่แหละที่เป็นปัญหา สร้างความกังวลใจอยู่ไม่น้อย และต้องหาวิธีรักษาเพื่อลดริ้วรอย ผู้หญิงเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนและอีลาสติน กรดไฮยาลูรอนิกในผิวจะลดลง และสารอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิว ไม่ได้เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจเกิดได้จากปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวสภาพแวดล้อม  อาหารการกิน หรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการทำให้เกิดริ้วรอยได้

เพราะเมื่อนานวันเข้า ริ้วรอยเหล่านี้จะค่อย ๆ ชัดและลึกลงเรื่อย ๆ และคงอยู่ให้เห็นบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้รู้สึกว่าตัวเองแก่ก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะพยายามแอ๊บหน้าเด็กยังไงหน้าก็ดูไม่เหมือนเดิม ความสดใสเต่งตึงดูเหมือนจะหายไปทำให้ขาดความมั่นใจกับริ้วรอยที่มาเยือน ดังนั้น หากลดริ้วรอยลงได้ก็จะทำให้ความมั่นใจกับมา

วิธีเติมความชุ่มชื่น ลดริ้วรอยบนใบหน้า

  • ใส่ใจเรื่องอาหารการกินสิ่งดี ๆ เริ่มต้นจากภายใน ผิวหน้าก็เหมือนกัน อาหารที่ดีมีประโยชน์จะช่วยให้ผิวเราสวย ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ การทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ถั่ว งาดำ หรือผักผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม อย่างเช่น ส้ม แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ แตงโม  หรืออาหารเสริมที่มีสารเสริมคอลลาเจนสกัด หรือไฮยาลูรอนิก ก็ช่วยลดริ้วรอยได้เช่นกัน
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครีมหรือเซรั่มที่มีสารช่วยบำรุงผิวให้ความชุ่มชื่น ลดริ้วรอย วิธีทาครีมที่ถูกต้องนั้นให้ปัดขึ้นเสมอ ใช้นิ้วไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ไปหาโหนกแก้ม
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวหน้า ได้แก่ การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ การถูหน้าแรง ๆ  การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นมากขึ้น
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด เพื่อลดริ้วรอย เพราะแสงแดดจะเป็นตัวขัดขวางการสร้างคอลลาเจนในผิว จนทำให้ผิวมีคอลลาเจนและอีลาสตินที่น้อยอยู่แล้วยิ่งแย่ไปใหญ่ ดังนั้นควรหันมาปกป้องผิวก่อนการออกแดดด้วยการทาครีมกันแดดอยู่เสมอ รวมไปถึงแสงจากจอคอมพิวเตอร์ที่สว่างมากเกินไปทำให้ต้องหรี่ตา เกิดเป็นริ้วรอยขึ้นได้
  • ใช้ครีมลดริ้วรอยใช้ครีมหรือเซรั่มลดริ้วรอยช่วยให้ผิวเรียบเนียนไม่ต้องการฉีดหรือผ่าตัด ทุกวันนี้เรามีหลายแบรนด์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยจัดการกับปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้ดีเลเซอร์ลดริ้วรอย การทำเลเซอร์ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อเป็นการช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
  • ทรีทเม้นท์ Thermage ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ขึ้นมาใหม่ส่งผลให้ผิวแลดูกระชับตึงขึ้นลดริ้วรอย ด้วยระบบสั่นสะเทือน ทำให้เจ็บน้อย ระบบสั่นสะเทือนจะช่วยเบนความรู้สึกเจ็บ และกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอลงไปยังใต้ผิวได้ลึกขึ้นสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี

ปัญหาผิวหน้าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว สร้างปัญหาให้กับสาว ๆ ไม่น้อยสำหรับริ้วรอยก่อนวัย จะอาศัยแต่วิธีการแก้ไข วิธีการลดริ้วรอยอย่างเดียวอาจไม่พอ จะต้องคอยดูแลไม่ให้ริ้วรอยเกิดขึ้นหรือกลับมาอีกง่าย ๆ เพื่อปกป้องใบหน้าให้ห่างไกลจากริ้วรอยก่อนวัย ริ้วรอยก่อนวัยรักษาได้ ถ้าเราเข้าใจและรู้จักปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา กิจกรรมในชีวิตประจำวันอาจที่เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย หมั่นดูแลผิวทั้งจากภายในและภายนอก เพื่อผิวสวยเพื่อลดริ้วรอยก่อนวัยค่ะ

20 ปลาย ๆ อย่าชะล่าใจ“ลดริ้วรอย” แห่งวัยก่อนจะสายเกินแก้ !!!

61

เรื่องริ้วรอยแห่งวัยเป็นเรื่องใกล้ตัวไปซะแล้ว ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ปัญหาของผิว ก็มากขึ้นเช่นเดียวกันยิ่งกับใบหน้าแล้วยิ่งต้องใส่ใจดูแลกันมากโขเลยเชียว… อย่าปล่อยให้วัยมาเป็นตัวกำหนดอายุเราอีกต้องไป เกิดเป็นหญิงต้องสวยใส ลดริ้วรอยดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์..ใส่ใจสุขภาพกันนะค่ะ..

เรามาเริ่มคุยกันเรื่องริ้วรอยของวัย 20 ปลาย ๆ กัน จะย่างเข้าสู่วัยแห่งการดูแลผิวอย่างจริงจังเสียที…  ช้ากว่านี้ไม่ได้แล้วนะจ๊ะสาวๆ  !!!  ไปแล้วกู้กลับยากนะเออ… 

ริ้วรอยเริ่มต้นจากอะไร..วัย 20  ปลายๆ  ถึงได้อย่าชะล่าใจ  มันมาเร็ว เคลมเร็ว .. ยังกะ  Fast 8   เชียวนะ. เอาไม่ทันอาการเหี่ยวย่น ถามหากันทีเดียว..ซึ่งขั้นตอนการลดริ้วรอย ดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เรามีเคล็ด (ไม่) ลับมาบอกต่อด้วยแหละ…

เคล็ด (ไม่) ลับ  Step 1 ดื่มน้ำให้เพียงพอ ในร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง  1 ใน 3 ส่วน เพราะการดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรดูแลใส่ใจตัวเองด้วยวิธีง่าย ๆ กับการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน อย่างน้อยวันละ  8  แก้ว จะช่วยกระต้นให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดี ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส แลดูชุ่มชื่นอิ่มน้ำตลอดวันและช่วยลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดื่มน้ำแล้วดี ดื่มน้ำกันเยอะ ๆ นะสาว ๆ..

เคล็ด (ไม่) ลับ  Step 2 การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ทำให้เลือดลมไหลเวียนภายในร่างกายเป็นปกติ ส่งผลให้ผิวพรรณแลดูสดใส มีน้ำมีนวล ช่วยลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะร่างกายได้มีการขับของเสียออกจากร่างกาย โดยการเสียเหงื่อ ซึ่งเป็นของเสียที่ออกจากร่างกายทางผิวหนัง เหมือนเป็นการดีท๊อกซ์ไปในตัว..เสียเหงื่อวันละนิด เพื่อผิวพรรณที่สดใสอยู่คู่กับเรานานแสนนาน..

เคล็ด (ไม่) ลับ Step 3 ล้างหน้าอย่างถูกวิธี  อย่า!! ทำร้ายผิว จากการล้างหน้านะจ๊ะสาว ๆ ขอเตือนไว้ก่อน… เพราะการล้างหน้าที่ถูกวิธีสำคัญมากสำหรับผิว เพราะผิวหน้าคนเราบอบบาง ไม่ควรกระทำการรุนแรงใด ๆ ที่เป็นการทำร้ายผิว เริ่มต้นการล้างหน้าที่อ่อนโยน นุ่มนวล ที่สำคัญมือเราต้องสะอาดด้วยนะจ๊ะ ด้วยมือเรานี่แหละเป็นแหล่งรวมเชื่อโรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการนำปัญหามาสู่ผิว เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว ช่วยลดริ้วรอย หลังล้างหน้าอย่าลืมบำรุงผิวด้วยครีมที่มีส่วนผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอนะค่ะ

เคล็ด (ไม่) ลับ Step 4 ใช้ครีมกันแดดทุกครั้ง  ศัตรูตัวร้ายทำลายผิวก็คือแสงแดดนี่แหละ ยิ่งแดดบ้านเรานี่แล้ว เพรี้ยงๆ ทั้งวัน ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เมื่อผิวโดนแสงแดดมาก ๆ ปัญหาผิวก็ตามมามากมาย ทั้งผิวแห้ง ผิวกร้าน ด่างดำ หมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น ดังนั้นจึงต้องดูแลผิวด้วยการทาครีมกันแดดที่สมารถป้องกันรังสี UV ได้ดี  เลือก SPF ที่เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมที่อยู่ เพื่อป้องกันผิวและลดริ้วรอย แม้อยู่ในที่ร่มก็ ไว้ใจไม่ได้นะค่ะสาว ๆ

เคล็ด (ไม่) ลับ Step 5 ทางเลือกใหม่ไม่ต้องเจ็บตัว Thermage เป็นการยกกระชับทั่วใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคนิคทางการแพทย์สมัยใหม่ เป็นการกระตุ้นการสร้าง Collagen ในชั้นผิวหนังแท้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผิวหน้าที่เนียนเรียบ ลดริ้วรอย ยกกระชับ แลดูอ่อนเยาว์

สัญญาณแรกของผิวที่เริ่มมีอายุมากขึ้น จะเริ่มปรากฏเป็นริ้วรอยบาง ๆ เมื่อผิวของเราบางลง ความสามารถในการป้องกันผิวจากรังสีต่าง ๆ จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ  Collagen ในใต้ชั้นผิวก็เหมือนกัน การเริ่มดูแลผิวในวัย 20 ปลาย ๆ  เชื่อเถอะ การเริ่มต้นที่ดี มันส่งผลดีต่อเราได้นะค่ะ ความสวย ความงาม ใคร ๆ ก็ต้องการสิ่งสำคัญ เราต้องใส่ใจตัวเราให้มาก ๆ ไม่ควรมองข้ามการดูแลตัวเอง ดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์หาวิิธีลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างถูกวิธี อย่าให้อายุ มากำหนดวัยเราเลยนะค่ะ..

ตัวช่วย แก้ไขอาการผิวแห้ง “ลดริ้วรอย”รอยเหี่ยวย่น บนผิวหน้า

60

ปัญหาริ้วรอยเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับ คนยุคนี้ไปแล้วสินะ  ลองสังเกตดูจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นสิ  หากไม่ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำแล้วท่าจะไปต่อได้ยาก ทำให้ผู้ผลิตสินค้าต้องคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ  ที่ช่วยลดริ้วรอย มาเป็นจุดขาย จุดดึงดูด เพื่อตอบโจทย์ และ สร้างความพึงพอใจสำหรับผู้ใช้ตลอดเวลา

ปัญหาริ้วรอยเกิดจากอะไร ?  เกิดได้อย่างไร ? ทำไมถึงสร้างปัญหา และความกังวลใจให้กับคนเราได้มากมายขนาดนั้น  และสาเหตุของการเกิดริ้วรอยสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย มาจากอายุก็ดี  ปริมาณสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวก็ใช่  แสงแดดก็เกี่ยว  ตลอดจนสภาวะแวดล้อมที่เราอยู่มลพิษทั้งนั้น…แถมยังเกิดจากวิถีการใช้ชีวิตของเราก็มีส่วนในการทำให้เกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราต้องเข้าใจเกี่ยวกับริ้วรอยบนใบหน้าให้ดีเสียก่อนว่าปัญหามาจากอะไร เราถึงจะหาทางรักษาเพื่อลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ..

ริ้วรอยจากอายุ…

เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นปัญหาผิวก็ตามมาอีกมากโข..โดยช่วงอายุแต่ละวัยยังส่งผลต่อผิวต่างกัน ยิ่งตัวเลขอายุเพิ่มขึ้น ริ้วรอยก็เพิ่มขึ้นตามอายุเช่นกัน การดูแลผิวอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันผิวและลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นตามวัย

การสูญเสียคอลลาเจนที่อยู่ใต้ชั้นผิว

คอลลาเจน คือสิ่งที่สำคัญมากในการคงความอ่อนเยาว์ของผิว แต่ว่าพอเราแก่ขึ้น ระดับคอลลาเจนก็จะค่อยๆลดลง จนในที่สุดแล้วก็จะนำไปสู่ระดับที่ทำให้ผิวเริ่มเหี่ยวย่น เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของระบบต่างๆของ เซลล์ผิวหนังจะมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้สมดุล ระหว่างการสร้างและทำลายเซลล์ผิวสูญเสียไป ผิวจึง เริ่มเสื่อมสภาพและปรากฏออกมาให้เห็นในรูปของ ริ้วรอย ดังนั้น การเสริมสร้างคอลลาเจนจะช่วยให้ผิวกระชับ ลดริ้วรอยได้ค่ะ

สภาวะแวดล้อมและการใช้ชีวิต

ในสภาวะแวดล้อมทุกวันนี้ มีมลพิษปะปนอยู่มากมาย อีกทั้งมลพิษต่าง ๆ เป็นตัวร้ายทำร้ายผิวอย่างร้ายกาจ และการชีวิตก็มีส่วนในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรเลี่ยงอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีมลพิษ เพื่อลดริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้น

แสงแดด (UV)

แสงแดด ศัตรูตัวร้ายของผิวเราไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุไหนๆ ก็ตาม มันสามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ เป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงและควรป้องกันเป็นอย่างยิ่ง รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวถูกทำลายคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แสงแดดเป็นปัจจัยภายนอกเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วก่อนวัยอันควร ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อป้องกันปัญหาผิว ลดริ้วรอยที่จะเกิดขึ้น

วิธีการดูแล รักษา

  • บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ผิวหน้าสดใส ลดริ้วรอย และเมื่ออยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว ผิวจะแห้งกว่าตอนสาวๆ จึงเป็นเหตุให้คนอายุมาก มีรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
  • ทาครีมบำรุงรอบดวงตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวบริเวณรอบดวงตา
  • ทานอาหารที่ช่วยลดริ้วรอยอาหารบางอย่างสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยออกไปจากชั้นผิวได้ โดยเฉพาะอาหารทะเล หากทานเป็นประจำจะมีประโยชน์มาก เพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่อต้านและลดริ้วรอย รวมถึงการรับประทานธาตุเหล็ก, วิตามินและสารอาหารอื่นๆในปริมาณที่เหมาะสมก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่ง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอน้ำเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาสุขภาพและความงามอย่างมาก การดื่มน้ำมากๆจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นและช่วยลดริ้วรอย 
  • ฉีดโบ รักษาลดริ้วรอยที่เป็นริ้วเล็ก ๆ รวมถึงรอยตีน การฉีดโบจะมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายตัวชั่วคราว ทำให้ริ้วรอยจางลงอย่างชัดเจน แต่ต้องทำการฉีดซ้ำทุก ๆ 6-8 เดือน และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • Thermage ตัวช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen ในชั้นผิวหนังแท้ เพื่อผิวหน้าที่เนียนเรียบ ลดริ้วรอย ยกกระชับ ผิวสวยใส

ได้ทราบเรื่องราวจุดเริ่มต้นของการเกิดริ้วรอยกันบ้างแล้ว อย่าได้วางใจกับริ้วรอยที่มารบกวน การป้องกันและดูแลอย่างถูกวิธี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่องร่างกาย จะช่วยลดริ้วรอย ผิวดูอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น อย่ามองข้ามเรื่องเล็กน้อยเพื่อผิวที่ดูดีอยู่คู่กับเรานาน ๆ ไม่ว่าจะดูแลด้วยตัวเอง หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวก็ตาม เพื่อสุขภาพผิวที่ดีอย่าปล่อยให้กาลเวลา และอายุมาพรากผิวสวยไปเลยนะค่ะ

ลดริ้วรอย บอกลาตีนกา ใบหน้าเรียบตึงแบบไม่ต้องผ่าตัดต้องทำยังไง

102

สำหรับคุณสาวๆ หลายท่านที่ยังคงกลุ้มใจกับปัญหาของริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ที่แม้คุณจะพยายามดูแลผิวอย่างดีแล้ว แต่ริ้วรอยก็สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติและวัยที่เพิ่มขึ้น แต่ในปัจจุบันเรามีทางลัดเพื่อทำให้ใบหน้ายังคงความอ่อนเยาว์ ตึงเรียบเนียน ด้วยการใช้ เทคโนโลยีการรักษาลดริ้วรอย อย่างได้ผลเข้ามาช่วยแบบที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว แถมยังเห็นผลลัพธ์หลังการทำว่าสามารถลดริ้วรอย ลบรอยตีนกา และช่วยทำให้ใบหน้าเรียบตึงได้จริงในเวลาไม่นาน เราได้นำหลากหลายวิธีการลดริ้วรอยมานำเสนอ ดังนี้ค่ะ

image003 19

ทรีทเม้นท์ผิวหน้า คือ กระบวนการเพื่อปรนนิบัติผิวหน้า อาจมีหลายขั้นตอน ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะเน้นเพื่อการขจัดปัญหาแต่ละสภาพผิวไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาดผิวหน้า การผลัดเซลล์หรือขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพโดยไม่ทำลายผิวการทำทรีทเม้นท์ช่วยเติ่มความชุ่มชื่น ลดริ้วลอย ลดกระฝ้าและจุดด่างดำ บำรุงคืนความแข็งแรง ลดการอุดตัน และเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าค่ะ

image005 18

การฉีดโบ หรือการใช้สารพิษจากแบคทีเรีย ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดไม่ขยับ จึงไม่เกิดการสร้างริ้วรอยขึ้นนั่นเองค่ะบริเวณที่นิยมฉีดโบ ได้แก่ หน้าผาก หางตา รอยขมวดคิ้ว ลำคอ และกรอบหน้า ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สามารถเห็นผลลดริ้วรอยได้ชัดเจน

การฉีดฉีดโบลดริ้วรอย จำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการรักษา เพราะหากฉีดโดยผู้ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญโดยตรงอาจได้รับฉีดโบปลอมหรือไร้คุณภาพ หรืออาจไม่ได้รับการฉีดโบในปริมาณที่พอเหมาะทำให้ไม่เห็นผล หรืออาจเลวร้ายถึงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเบี้ยวผิดรูปร่างหากฉีดในบริเวณที่ไม่เหมาะสมได้เลยค่ะ

การเติมฟิลเลอร์  คือ สารเติมเต็ม ใช้สำหรับเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะใช้ฟิลเลอร์เพื่อลดริ้วรอยและแก้ไขปัญหารอยร่องลึก ที่เกิดขึ้นบริเวณต่างๆ ของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก ลดริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตา ลดริ้วรอยร่องลึกมุมปาก และยังสามารถนำมาช่วยในการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ได้อีกด้วย เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม และในบางรายที่เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้นทำให้แก้มดูตอบลงก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ปัญหาแก้มตอบได้เช่นกันค่ะ หรือแม้กระทั่งนำมาใช้ในการบำรุงผิวให้กลับกระชับเปล่งปลั่ง ในบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ หรือบริเวณผิวหน้าอกก็นิยมทำกันไม่น้อย

ในปัจจุบัน ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ ชนิดแรก สารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler) จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 4-6 เดือน มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง และยังสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ และเป็นชนิดที่คนนิยมกันมากที่สุด ชนิดที่สองเราจะเรียกว่า แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler) แบบนี้จะมีอายุยาวกว่าแบบแรก สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง และชนิดสุดท้าย แบบถาวร (Permanent Filler) จะเป็นสารเติมเต็มจำพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน หลังฉีดไปแล้วจะสามารถอยู่ในผิวไปได้ตลอดไม่สลายไปตามธรรมชาติแต่ก็จะมีผลข้างเคียงในระยะยาว แต่การฉีดเพื่อเสริมจุดต่างๆ ที่กล่าวไปนั้นจำเป็นต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น เพราะหากฉีดผิดจุด หรือพลาดไปโดนจุดสำคัญบนใบหน้าอาจเกิดผลเสียตามมาได้ค่ะ

การใช้ Nu Pico Laser แสงเลเซอร์เองมีทั้งกลุ่มที่ทำให้เกิดรอยแผลบนผิวหนัง และแบบไม่ทำให้เกิดรอยแผลบนผิวหนัง โดยเลเซอร์ทั้งสองชนิดนี้มีวัตถุประสงค์เข้าไปช่วยให้ผิวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่  เพื่อ ลดริ้วรอย ซึ่งเลเซอร์ชนิดที่ทำให้เกิดรอยแผลจะใช้เวลาในการฟื้นตัวของผิวหลังเลเซอร์นานกว่า แต่ประสิทธิภาพในการรักษาดีกว่า เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยร่องลึก ส่วนเลเซอร์แบบไม่ทำให้เกิดรอยแผลจะเหมาะกับคนที่มีริ้วรอยไม่มากนัก

การใช้คลื่นวิทยุ HIFU ในการลดริ้วรอย เป็นการใช้เครื่องมือส่งผ่านพลังงานชนิดที่มีความเข้มข้น ในรูปของคลื่นความถี่วิทยุสูงลงไปทำปฏิกิริยากับผิวได้ถึง 3 ระดับอย่างแม่นยำ คือ ผิวหนังแท้ชั้นตื้นๆ ชั้นเนื้อเยื่อคอลลาเจน และชั้นเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวหดกระชับและยกตัวขึ้น และเกิดกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินออกใหม่ ผลลัพธ์คือ ผิวที่แน่นกระชับ หน้าเรียวเข้ารูป ริ้วรอยหย่อนคล้อยแลดูลดเลือนลง รวมถึงลดริ้วรอยรอบดวงตาให้จางลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการรักษาด้วยคลื่นวิทยุ HIFU นี้จะเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังทำการรักษาค่ะ

image007 8

การใช้พลังงานอัลตร้าซาวด์ จุดเด่นของพลังงานอัลตร้าซาวด์ คือ สามารถส่งพลังงานลงไปใต้ผิวได้ลึกถึง 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกบริเวณที่เป็นชั้นพังผืดที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) โดยที่พลังงานจะไม่ทำให้เกิดอันตรายกับผิวด้านบน แต่พลังงานอัลตร้าซาวด์จะลงไปทำปฏิกิริยา เฉพาะเจาะจงกับชั้นพังผืด SMAS ทำให้พังผืดที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อหดตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อและผิวด้านบนที่อยู่เหนือชั้น SMAS ถูกดึงให้หดกระชับตามไปด้วย

ผลลัพธ์ก็คือ โครงสร้างผิวของเราจะดูยกกระชับตึงตัวขึ้นคล้ายๆ กับวิธีการดึงหน้าที่ศัลยแพทย์จะเปิดผิวด้านบนและทำการดึงแผ่นเนื้อเยื่อพังพืด SMAS นี้ให้กระชับขึ้น ตัดส่วนเกินออกแล้วค่อยเย็บปิดแผลด้านบนอีกที จะเห็นว่า หลักการคล้ายๆ กัน แต่การใช้เทคโนโยลีช่วยยกกระชับผิวไม่ใช่การผ่าตัดจึงไม่มีแผลไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้น เมื่อพังผืดกล้ามเนื้อหดตึง ดึงยกชั้นผิวให้ตึงกระชับตามไปด้วย รูปหน้าก็จะกลับมายกกระชับ คิ้ว เปลือกตา ก็จะยกสูงขึ้น ผิวใต้คางและลำคอ ก็จะกระชับเข้ารูปขึ้น ใบหน้าโดยรวมกลับมาแลดูสดใส อ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย และรอยตีนกาอย่างเห็นผล จุดเด่นของพลังงานอัลตร้าซาวด์ คือสามารถลงลึกไปใต้ผิว ได้มากกว่าพลังงานเลเซอร์หรือพลังงานคลื่นความถี่วิทยุค่ะ

image009 5

คุณสาวๆ สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อลดริ้วรอยได้ตามความพึงพอใจตามความเหมาะสม ซึ่งระยะเวลาในการเห็นผลของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

แชร์วิธีลดริ้วรอยรอบดวงตาแบบเห็นผลเวิร์คสุดๆ

101

หนึ่งในปัญหาน่าหนักใจอันดับต้นๆ สำหรับสาวๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ก็คือ ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ทั้งรอยตีนกา ปัญหาใต้ตาเหี่ยวย่น มีถุงบวมใต้ตา หรือขอบตาดำคล้ำ ที่มันสร้างความปวดใจทุกครั้งที่เราส่องกระจกเลยล่ะค่ะ ยิ่งอายุมากขึ้นเจ้าปัญหารอยเหี่ยวย่นรอบดวงตาก็ยิ่งปรากฏชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ เราลองมาดูสาเหตุของปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาเหล่านี้ รวมไปถึงวิธีการลดริ้วรอยใต้ดวงตาแบบเห็นผลเวิร์คสุดๆ กันดีกว่าค่ะ

image003 18

ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาเกิดจากอะไร

– ปัญหารอยเหี่ยวย่นใต้ตา ปัญหารอยตีนกา กลายเป็นปัญหาใหญ่ของการสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของสาวๆ เลยค่ะ เพราะทุกครั้งที่ฉีกยิ้มหรือมีเสียงหัวเราะ เจ้ารอยตีนกาและรอยย่นใต้ตาจะปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนมาก จนบางครั้งสาวๆ อาจจะขาดความมั่นใจในรอยยิ้มเพราะอายที่มีรอยตีนกาขึ้นเป็นริ้วๆ ให้ผู้อื่นเห็น

สาเหตุของรอยเหี่ยวย่นใต้ตาและรอยตีนกา เกิดจากคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวถูกทำลาย ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ จึงเกิดริ้วรอยร่องลึก ริ้วรอยรอบดวงตา รอยย่นใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาโดยเฉพาะบริเวณ หางตา ใต้ตา รอบดวงตา ซึ่งผิวหนังรอบดวงตามักเป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าผิวหนังบริเวณ เนื่องจากความละเอียดเเละบอบบางของผิวหนังบริเวณนี้ ร่วมกับสาเหตุกระตุ้นต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเวลาที่มีการเเสดงออกทางใบหน้า เช่น การยิ้ม การหัวเราะ หรือเวลาที่คุณร้องไห้ การขยี้ตาบ่อยๆ รวมไปถึงผิวหนังถูกทำลายด้วยเเสงเเดดหรือบุหรี่ การระคายเคืองอย่างเรื้อรังของผิวหนังใต้ดวงตา ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนเเล้วเเต่ก่อให้เกิดริ้วรอยที่ไม่ต้องการบริเวณรอบดวงตาทั้งสิ้นค่ะ

– ปัญหาถุงใต้ตาบวม หากมองดูเผินๆ อาจจะคิดว่าเพิ่งร้องไห้จนตาบวม แต่ความเป็นจริงแล้ว มันคือปัญหาถุงใต้ตาบวมค่ะ ซึ่งเกิดจากการสะสมของน้ำและไขมันรอบดวงตา เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวก็จะเริ่มเสื่อมและหย่อนคล้อยทำให้เกิดการสะสมของน้ำและไขมันมากขึ้น ยิ่งสะสมมากเท่าไหร่ น้ำหนัก และขนาดของถุงใต้ตายิ่งเพิ่มมากขึ้นจนปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นค่ะ สำหรับการคั่งของน้ำนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคภูมิเเพ้ การติดเชื้อในโพรงไซนัสความดันโลหิตสูง การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไป หรือกระทั่งการร้องไห้ก็ทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน

– ปัญหาขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า สำหรับปัญหาน่าหนักใจนี้ สาเหตุเกิดจากการไหลเวียนของเลือดไม่ดี ทำให้เส้นเลือดดำขยายตัว เกิดการคั่งค้างและรั่วซึมของเลือดรอบดวงตาเนื่องจากเส้นเลือดฝอยเปราะบางลง ทำให้ขอบตาดำและขอบตาคล้ำ หรืออาจเกิดจากการสะสมของเมลานินใต้ผิวหนัง อันเนื่องมาจากสาเหตุทางพันธุกรรม หรือสาเหตุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังบริเวณใต้ดวงตา เช่น การถูหรือขยี้ตาบ่อยๆ  การเป็นผิวหนังอักเสบทรวมไปถึงการเเพ้เครื่องสำอางค่ะ

image005 17

เมื่อทราบถึงปัญหาของริ้วรอยต่างๆ รอบดวงตากันแล้ว คราวนี้เราลองมาดูวิธีลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตากันบ้าง ว่ามีวิธีไหนมาแนะนำให้คุณสาวๆ นำไปปฏิบัติแล้วเห็นผล มาดูกันเลยค่ะ

วิธีลดริ้วรอยรอบดวงตา

image007 7

1. หมั่นดูแลเอาใจใส่ผิวรอบดวงตา

สิ่งสำคัญ คือ คุณควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาได้ เพื่อลดริ้วรอยรอบดวงตาไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ พักผ่อนสายตาบ้างถ้าต้องนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน ไม่ขยี้ตาหรือถูตาแรงๆ เช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาอย่างเบามือ สวมแว่นกันแดดและทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง หมั่นทาครีมบำรุงรอบดวงตาทุกวัน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมการบริโภคอาหารรสเค็ม ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง ลดริ้วรอย งดการสูบบุหรี่ หรือในกรณีที่มีโรคภูมิแพ้คุณควรรักษาโรคภูมิแพ้ก่อน เนื่องจากภูมิแพ้อาจก่อให้เกิดอาการคันและทำให้ขยี้ตาบ่อยขึ้น จนส่งผลให้มีริ้วรอยใต้ตาร่วมด้วย

2. ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาให้ถูกต้อง

สำหรับคุณสาวๆ ใช้ครีมบำรุงผิวรอบดวงตาเพื่อลดริ้วรอย ก่อนอื่นควรเลือกใช้ครีมให้ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผิวรอบดวงตาเช่น มีริ้วรอยใต้ตา มีถุงใต้ตา หรือมีรอยคล้ำใต้ตา ในปัจจุบันมีครีมที่แก้ปัญหา ลดริ้วรอยรอบดวงตาเหล่านี้โดยเฉพาะแล้ว ควรเลือกซื้อให้ตรงกับปัญหาผิวรอบดวงตา  ถ้ามีส่วนผสมของสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวรอบๆ ดวงตาของคุณให้สดใสขึ้น หรือถ้ามีส่วนผสมของ คาโมมายล์ ก็จะช่วยลดการระคายเคืองของดวงตาได้ดีค่ะ

3. สูตรลดริ้วรอยรอบดวงตาแบบทำเองที่บ้าน

image009 4
  1. ไข่ขาว ช่วยให้ผิวมีความเต่งตึง ช่วยลดริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ด้วย วิธีทำ คือ แยกไข่ขาวออกมาแล้วทาบางๆบริเวณผิวรอบดวงตา พอเริ่มรู้สึกตึงๆ ก็ล้างออกได้ค่ะ ทั้งนี้ไม่ควรทิ้งไว้นานมากเกินไปเพราะแรงดึงที่มากของไข่ขาวอาจทำให้เกิดเป็นถุงใต้ตาได้ค่ะ
  2. แตงกวา แตงกวามีความชุ่มชื้นมากและยังช่วยลดริ้วรอย ใต้ตาคล้ำได้ด้วยค่ะวิธีทำ คือ หั่นแตงกวาเป็นชิ้นบางๆ แช่ไว้ในตู้เย็นแล้วแปะใต้ตา 15 นาที ทุกวันแค่นี้ผิวใต้ตาก็จะชุ่มชื่น อ่อนเยาว์แล้วค่ะ
  3.  น้ำมันมะพร้าว มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูผิว และทำให้รอยเหี่ยวย่น ลดริ้วรอยรอบดวงตาให้ตื้นขึ้นได้ค่ะ โดยให้ทาน้ำมันมะพร้าวบริเวณใต้ตาแล้วนวดคลึงเบาๆประมาณ 10 นาที แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน รับรองตื่นมาผิวใต้ตานุ่มเต่งตึงค่ะ
  4.  น้ำมันมะกอก มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดีโดยนวดผิวใต้ตาด้วยน้ำมันมะกอก ประมาณ 3-4 นาที หรือนานกว่านี้ก็ได้ค่ะแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนก็จะช่วยลดริ้วรอยใต้ตาลงได้ค่ะ
  5.  อโวคาโด มีไขมันดีปริมาณมากที่ดีต่อผิวหนัง วิธีทำ คือ หั่นอโวคาโดเป็นแผ่นบางๆแปะบริเวณผิวใต้ตานาน 15 นาที กดแผ่นลงเบาๆ ให้ไขมันซึมลงสู่ผิว จะช่วยลดริ้วรอยทั้งรอยเหี่ยวย่นและรอยดำใต้ตาได้ดีเลยค่ะ
  6.  น้ำผึ้งผสมขิง น้ำผึ้งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ดีมาก ส่วนขิงก็ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นวิธีทำ คือ เอาขิงสกัด 1 ช้อน ผสมกับน้ำผึ้งครึ่งช้อน ทาบริเวณใต้ตาแล้วนวดเบาๆประมาณ 10 นาที ทิ้งไว้ 1 ชม. แล้วล้างออก แค่นี้ผิวก็จะชุ่มชื้นและมีเลือดมาเลี้ยงดีขึ้น ริ้วรอยก็จะจางลงค่ะ

4. รักษาด้วยคลื่นวิทยุ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound)

เป็นการใช้เครื่องมือส่งผ่านพลังงานชนิดที่มีความเข้มข้น ในรูปของคลื่นความถี่วิทยุสูงลงไปทำปฏิกิริยากับผิวได้ถึง 3 ระดับอย่างแม่นยำ คือ ผิวหนังแท้ชั้นตื้นๆ ชั้นเนื้อเยื่อคอลลาเจน และชั้นเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวหดกระชับและยกตัวขึ้น และเกิดกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินออกใหม่ ผลลัพธ์คือ ผิวที่แน่นกระชับ หน้าเรียวเข้ารูป ริ้วรอยหย่อนคล้อยแลดูลดเลือนลง รวมถึงลดริ้วรอยรอบดวงตาให้จางลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการรักษาด้วยคลื่นวิทยุ HIFU นี้จะเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังทำการรักษาค่ะ

5. ทำเลเซอร์ลดริ้วรอยรอบดวงตา

โดยการปล่อยพลังงานแสงลงไปใต้ผิวด้วยความเร็วสูง คลื่นแสงความเร็วสูงนี้จะไปกระแทกเม็ดสีให้แตกละเอียดออกเป็นเม็ดเล็กๆ ทันที โดยไม่ทันจะเกิดความร้อนสะสม ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการเกิดรอยดำหลังการรักษา และยังช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส และช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตาได้ค่ะ

image011

6. ลดริ้วรอยด้วยการฉีดโบ 

เพื่อลดริ้วรอยใต้ตาที่เป็นริ้วเล็กๆ รวมถึงรอยตีนกาอย่างได้ผลภายใน 1-2 สัปดาห์หลังทำ โดยการฉีดโบจะมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายตัวชั่วคราว ทำให้ริ้วรอยจางลงอย่างชัดเจน เหมาะกับคนที่ใช้สารพัดครีมใต้ดวงตามาแล้วแต่ไม่ได้ผล โดยควรทำการฉีดซ้ำทุกๆ 6-8 เดือน และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ เพราะถ้าฉีดมากเกินไปจะทำให้ใต้ตาดูตึงและยิ้มแล้วไม่เป็นธรรมชาติค่ะ

7. เติมเต็มร่องลึกใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ (Filler)

สำหรับผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตาค่อนข้างเยอะและมีปัญหาร่องใต้ตาไม่ลึกหรือกว้างมากนัก (แอ่งใต้ตา หรือเบ้าตาลึก) คุณอาจใช้วิธีเติมฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มแอ่งใต้ตาให้ตื้นขึ้นจะช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นใต้ตา ร่องใต้ตาลึก และทำให้ใต้ตาดูอวบอิ่มสดใสมากขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ

เคล็ดลับขจัดปัญหาหน้าเหี่ยวย่น ลดริ้วรอยบนใบหน้าง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

100

เมื่อกาลเวลาผ่านไป ย่อมมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งต่างๆ รอบตัว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเรา จากวัยเด็กสู่วัยรุ่น จนล่วงเลยเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และสิ่งที่ปรากฎชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ บนใบหน้าของเราก็คือ ริ้วรอยเหี่ยวย่นนั่นเองค่ะ ยิ่งมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่เจ้าริ้วรอยเหี่ยวย่นก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น แต่ช้าก่อนค่ะ ถึงแม้ว่าเราไม่อาจหยุดยั้งกาลเวลาเอาไว้ได้ แต่เราสามารถชะลอความเหี่ยวย่น และลดริ้วรอยบนใบหน้าของเราให้ดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้ ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และวิธีลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าแบบง่ายๆ คุณสามารถทำเองได้ จะมีวิธีใดบ้างนั้น มาลองดูกันและอย่าลืมปฏิบัติตามด้วยนะคะ

เช็คริ้วรอยบนใบหน้าในแต่ละช่วงวัย

  • ในช่วงอายุปลาย 20 จะเริ่มมีริ้วรอยบางๆ เกิดขึ้นที่ใต้ตา หรือมีริ้วรอยรอบๆ ดวงตา ซึ่งเป็นผลจากการยิ้ม หัวเราะ และการแสดงอารมณ์ในชีวิตประจำวันค่ะ
  • ในช่วงอายุ 30 ต้นๆ จะเริ่มมีริ้วรอยบางๆ และริ้วรอยที่รอบดวงตาจะลึกขึ้น และรวมตัวชัดเจนเป็นรอยเหี่ยวย่น จนเริ่มสังเกตเห็นและเริ่มมีรอยตีนกาที่หางตา มีริ้วรอยบางๆ ระหว่างคิ้วและบนหน้าผาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คุณขมวดคิ้วอยู่เป็นประจำนั่นเองค่ะ
image001 1
  • ในช่วงปลายอายุ 30 รอยเหี่ยวย่น หรือเส้นริ้วรอยที่รอบดวงตา หน้าผาก และหว่างคิ้วจะเพิ่มมากขึ้น ตามด้วยการเกิดรอยเหี่ยวย่นรอบริมฝีปาก รอยเหี่ยวย่นที่ใต้ตาและร่องแก้มเริ่มหย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกค่ะ
  • ในช่วงอายุ 40 ขึ้นไป จะมีรอยเหี่ยวย่นที่รอบดวงตา รอบริมฝีปาก บนหน้าผาก และหว่างคิ้ว ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นมาก และยังเกิดรอยเหี่ยวย่นจากการหย่อนคล้อยของผิวหน้า และมีเส้นริ้วรอยที่ลำคอเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ

วิธีลดริ้วรอย ลดตีนกา ลดรอยเหี่ยวย่น เพื่อขจัดปัญหาหน้าแก่ด้วยตัวเอง

image005 16

1. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ ที่สามารถส่งผลให้เกิดรอยตีนกาและริ้วรอยก่อนวัย เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อันเป็นสาเหตุแห่งริ้วรอย  การสูบบุหรี่ทำให้หน้าแห้ง หน้าเหี่ยว เกิดร่องลึกบริเวณใบหน้า เพราะประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนลดลง อีกทั้งยังทำให้ริมฝีปากคล้ำด้วยนะ หากหลีกเลี่ยงก็ช่วยลดริ้วรอยได้ และสาเหตุอีกอย่างที่ตามมาติดๆ หนีไม่พ้นการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ ทำให้ผิวหนังของเราขาดน้ำ เสียความยืดหยุ่น และทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายค่ะ เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ใครที่รักการปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจคงต้องเพลาๆ ลงบ้างนะคะ เพื่อลดริ้วรอย ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวก่อนวัยอันควร

2. พยายามอย่าเครียด เพราะความเครียดทำให้เกิดรอยย่นที่หน้าผาก และการติดนิสัยขมวดคิ้วบ่อยๆ ก็ทำให้เป็นรอยที่หว่างคิ้ว ดังนั้น พยายามหากิจกรรมอะไรทำเพื่อคลายเครียด ตามสไตล์ความชอบของแต่ละคนนะคะ จะช่วยลดริ้วรอยร่องลึกลงได้ และช่วยทำให้ใบหน้าผ่องใสขึ้นด้วยค่ะ

3. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวทำลายคอลลาเจนที่ร้ายกาจที่สุดค่ะ ฉะนั้นวิธีต่อสู้กับแสงแดดที่ได้ผลที่สุดคือ การหลีกเลี่ยง เพราะแม้การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PAสูงๆ จะช่วยปกป้องผิวของคุณจากรังสี UV ตัวร้ายได้ในระดับหนึ่ง แต่สารตกค้างที่มาจากครีมกันแดด ก็อาจทำให้ผิวกร้าน และเกิดการระคายเคืองได้เช่นกันค่ะ ส่วนคนที่ผิวมัน เมื่อทาครีมกันแดดก็อาจทำให้เกิดสิว หน้ามัน เพราะฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดหลีกเลี่ยงแดดจัดมากที่สุดเท่าที่ทำได้ก็สามารถลดริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

4. เลือกกินอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย อาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งมีอยู่มากมายในผัก และผลไม้ เช่น คะน้า ผักโขม กะหล่ำปลี อโวคาโด้ น้ำมันมะกอก มะขามป้อม ฝรั่ง ส้ม นอกจากนี้ ต้องหลีกเลี่ยงมลภาวะจากสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ

5. สครับผิวกันบ้างดีกว่า การสครับผิวหน้าเป็นการช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป เผยผิวใหม่ที่สดใสกว่า และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ด้วย จะได้มาช่วยลดริ้วรอย เติมร่องริ้วรอยให้ตื้นและเรียบขึ้น รวมถึงยังเปิดทางให้สารบำรุงจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าเดิมด้วยค่ะ

6. นวดหน้ากระตุ้นการไหวเวียนโลหิต สำหรับใครไม่ค่อยได้นวดผิวหน้าตัวเองก็ลองมาทำกันดูนะคะ จะนวดตอนล้างหน้า มาส์กหน้า หรือตอนทาครีมบำรุงก็ได้ค่ะ โดยใช้ปลายนิ้วนวดวนไล่จากแก้มสู่คาง แล้ววนขึ้นมาที่หน้าผากจนถึงขมับ การนวดนี้จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตใต้ผิวหนังเดินได้สะดวก เลือดจึงลำเลียงทั้งสารอาหารและออกซิเจนมาสู่เซลล์ผิวได้เต็มที่ ผิวหน้าจึงดูเต่งตึงสดใส เมื่อทำเป็นประจำก็ช่วยลดริ้วรอยให้จางลง และริ้วรอยจะค่อยๆ หายไปด้วยนะ

image007 6

7. เลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Antioxidant, Hyaluronic, Retinoid ช่วยลดริ้วรอย โดยในครีมทาผิวทั่วๆ ไปมักมีส่วนผสมหลักเหล่านี้อยู่ในปริมาณน้อย จึงต้องทาทุกวัน แต่หากใช้ตัวครีมที่มีส่วนผสมของ Retinoid ด้วยแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงแสงแดดด้วยค่ะ เพราะยาชนิดนี้ไวต่อแสง อาจทำให้ผิวมีสีเข้มขึ้นได้ และควรใช้คู่กับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เนื่องจากค่อนข้างจะระคายเคืองและทำให้ผิวแห้งค่ะ

image009 3

และอีกสิ่งที่สำคัญคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอค่ะ เพราะนอกจากคนที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จะดูแก่ช้ากว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วนั้น การออกกำลังกายยังส่งผลดีอย่างมากต่อสุขภาพ ช่วยทำให้เราห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆ มีอายุแข็งแรงยืนยาวไปอีกนานและยังช่วยลดริ้วรอยได้อีกค่ะ

10 พฤติกรรมทำหน้าเหี่ยวก่อนวัย และวิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย

99

เคยทราบหรือไม่คะว่าพฤติกรรมบางอย่างที่เราเคยทำอยู่เป็นประจำเนี่ย สามารถส่งผลเสียต่อผิวพรรณ และทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าก่อนวัยได้อย่างที่เราคาดไม่ถึงเชียวค่ะ เราจะมาดูกันว่า พฤติกรรมแบบไหนบ้างนะ ที่ทำให้หน้าเราเหี่ยวทั้งๆ ที่อายุยังไม่มากเท่าไหร่ เพื่อหาวิธีลดริ้วรอยด้วยการหลีกเลี่ยงและแก้ไขค่ะ

1. การนอนตะแคงหรือคว่ำหน้านานๆ

การนอนคว่ำหน้าหรือตะแคงหน้าในทิศทางเดียวกันตลอดทั้งคืนนั้น จะเป็นการย้ำรอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากธรรมชาติของเราให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเรานั้นทำงานผิดปกติและผิดรูปผิดร่างไปด้วย ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วหน้าเราจะมีริ้วบางๆ เป็นเส้นยาวๆ ขึ้นมา หรืออาจจะทำให้หน้าย่นไปเลยก็ได้นะคะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย เพียงคุณลองปรับพฤติกรรมการนอนของตัวเองดูค่ะ หากใครชอบการนอนตะแคง ก็ลองเปลี่ยนข้างดูบ้างหรือทางที่ดีคือ นอนหงายเลยค่ะ นอกจากจะไม่ส่งผลให้หน้าเหี่ยว และช่วยลดริ้วรอยแล้ว ยังเป็นท่าที่หายใจสะดวกที่สุดด้วยนะคะ

2. หน้าเหี่ยวเพราะความเครียด

สาเหตุที่ความเครียดทั้งหลาย มันมีผลกับหน้าตาของเราก็เพราะสมองเนี่ยหล่ะค่ะ ที่เป็นตัวสั่งการให้เราแสดงออกทางหน้าตา ทุกครั้งที่เราเครียด วิตกกังวล หรือไม่สบายใจหน้าเราจะบูดบึ้งจนคิ้วขมวดเข้าหากัน คือสาเหตุของการเหี่ยวย่นและริ้วรอยบนใบหน้าค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย ปัญหาความเครียดเกิดมาจากความคิดของเราค่ะ เพราะฉะนั้น เรื่องบางหากสามารถปล่อยวางได้ก็ต้องปล่อยวาง หรือหากเผชิญปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกก็ควรหาใครสักคนที่เราสามารถระบายปัญหาได้เพื่อคลายความอึดอัด เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ได้ อยากให้ทุกคนมองโลกไปในทางที่ดีมากกว่าร้าย เพียงแค่คิดบวกก็สามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าได้แล้วค่ะ

image003 16

3. ตากแดดมากเกินไป

แสงแดดถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่เป็นตัวการของการเกิดริ้วรอย และจุดด่างดำบนใบหน้าค่ะ เนื่องจาก 70% ของการเกิดความชราของผิวหนังขึ้นอยู่กับแสงแดดที่ผิวได้รับในตลอดช่วงอายุของเรา อีกทั้งยังทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลงและนำไปสู่ผิวหย่อนคล้อย ซึ่งรังสีต่างๆ ในแสงแดดจะไปเร่งให้คอลลาเจนและอิลาสตินภายใต้ผิวหนังซึ่งล้วนแต่เป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวหนังเต่งตึงและเรียบเนียนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยผ่านกระบวนการออกซิเดชัน ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยและแห้งกร้าน

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย วิธีการปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวีเพื่อลดริ้วรอยที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การทาครีมกันแดดค่ะ ไม่ว่ากิจกรรมประจำวันของคุณต้องออกไปเผชิญแสงแดดหรืออยู่ในที่ร่มก็ไม่ควรละเลยที่จะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน และหากต้องออกแดดเป็นเวลานานก็ควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงค่ะ เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันและลดริ้วรอยได้ค่ะ

4. แต่งหน้าแล้วขี้เกียจล้างออก

สาวๆ ทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันบางทีก็ขี้เกียจอาบน้ำ แถมลืมล้างหน้าเช็ดเครื่องสำอางออกด้วย ตื่นมาก็อย่าตกใจนะคะเมื่อส่องกระจกแล้วแทบช็อคที่เห็นหน้าตัวเองในเวอร์ชั่นสุดเหี่ยว แนะนำว่า ถึงจะขี้เกียจแค่ไหนก็ขอให้ล้างเครื่องสำอางออกเถอะค่ะ เพราะเครื่องสำอาง และฝุ่นต่างๆ จะเข้าไปอยู่ในรูขุมขนของเราตอนนอน แถมทำลายคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวหน้าอีกด้วย นอกจากมีโอกาสเกิดสิวแล้ว การไม่ล้างเครื่องสำอางจะยิ่งไปกระตุ้นให้ผิวดูเหี่ยว ทิ้งริ้วรอยไว้ให้ดูต่างหาก

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย เอาเป็นว่า ไม่ว่าคุณจะขี้เกียจอาบน้ำแค่ไหนไม่ว่ากันค่ะ แต่ได้โปรดอย่าลืมล้างเครื่องสำอาง และล้างหน้าให้สะอาด เพื่อช่วยป้องกันและลดริ้วรอยนะคะ

5. ผิวหนังเหี่ยวเพราะพฤติกรรม Yo-Yo

พฤติกรรม Yo-Yo ก็คือการ ขึ้นๆ ลงๆ ของน้ำหนักตัวเรานั่นเองค่ะ ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาหลักๆ ของเพศหญิงซะด้วย ไม่ว่าการ Yo-Yo นั้นจะเกิดขึ้นเพราะเราไปทานยาเพื่อลดขนาดร่างกาย หรือเราออกกำลังกายก็ตามมันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะการ Yo-Yo นั้นทำให้ผิวหนังเรายืดๆ หดๆ ไปมาอย่างต่อเนื่อง และมันจะส่งผลกระทบต่ออัตราความยืดหยุ่นของผิวหนังเรานั่นเอง พูดง่ายๆ  คือ “ยืดแล้วไม่ค่อยจะอยากหด” แล้วผิวของเราจะเหี่ยว ย้อย และบางรายอาจทำให้เกิดรอยแตกลายของผิวหนังได้ค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย ต้องพยายามรักษาเสถียรภาพของน้ำหนักตัวเองค่ะ เมื่อลดน้ำหนักแล้วก็รักษาไว้ให้คงที่ หรือถ้าจะปล่อยให้รูปร่างอวบอัด ก็อย่าปล่อยจากอวบกลายเป็นอ้วนนะคะเพราะเมื่อเวลาผอมแล้วมันจะเหี่ยวจนเห็นริ้วรอยชัดเจน หากเกิดขึ้นแล้วยากต่อการลดริ้วรอยค่ะ

6. สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยบริเวณที่ผิวหนังบอบบางกว่าบริเวณอื่น เช่น หางตา เหนือริมฝีปากบน เป็นต้น ซึ่งริ้วรอยดังกล่าวจะเกิดเร็วกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10-15 ปี แถมยังทำให้หน้าแห้งได้ง่าย เนื่องมาจากเมื่อคุณสูบบุหรี่จะทำให้วิตามินซีในเลือดลดลงประมาณ 60% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ส่งผลให้คอลลาเจนและอิลาสตินลดลง เพราะว่า วิตามินซีถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตโปรตีนดังกล่าว

image005 15

ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้ง ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยผิวจะดูไม่สดใส และดูไม่มีน้ำมีนวล อีกทั้งในภายภาคหน้า ผิวก็จะสูญเสียความยืดหยุ่น แต่จะเกิดรอยเหี่ยว รอยย่นแทนเนื่องจากการสูญเสียน้ำ นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังส่งผลโดยตรงต่อวิตามิน A ที่ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ และคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เป็นวิตามินสำคัญในการสร้างเซลล์ให้ร่างกาย หากร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนที่น้อยลง ผิวก็จะขาดความชุ่มชื้น ความอ่อนเยาว์ และความยืดหยุ่นไปในตัวค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย สำหรับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นถ้าลดได้ก็ลดนะคะ เลิกได้ก็เลิก มันไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเท่าผลเสียของมันหรอกค่ะ นอกจากนั้นควรดื่มน้ำตามไปเยอะๆ เลย เพราะว่ามันจะทำให้ผิวเราที่แห้งและขาดน้ำกลับมาชุ่มฉ่ำเหมือนเดิม ดังนั้น หากยากป้องกันและลดริ้วรอยก็พยายามเลิกให้ได้ค่ะ

7. เคี้ยวหมากฝรั่ง

สาวๆ คนไหนที่เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อยจะสังเกตได้ง่ายมากค่ะ เพราะจะมีริ้วรอยบริเวณรอบปากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ดูมีอายุเพราะว่ามีรอยย่อนโดยเฉพาะบริเวณปากล่างแถมเคี้ยวมากๆ อาจส่งผลต่อโครงสร้างภายในของปากอีกต่างหาก

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย แนะนำให้ลดการทานหมากฝรั่งลง เพื่ิอลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นนะคะ หรือถ้ากลัวปากเหม็นอาจจะเปลี่ยนเป็นการอมลูกอม หรือหมั่นแปรงฟันบ่อยๆ จะดีกว่าค่ะ

8. โดยสารทางเครื่องบินบ่อยๆ

บางคนออกอาการงงเลยค่ะ ว่าอยู่ในเครื่องบินผิวจะเหี่ยวได้ยังไง เอาเป็นว่าลองนึกดูนะคะ ยิ่งเราในที่สูงแสงแดดยิ่งแรงเพราะไม่ได้ผ่านตัวกรอง และยิ่งเราอยู่บนเครื่องบินแล้วล่ะก็เราจะพบกับแสง UV จากดวงอาทิตย์แบบเต็มๆ ชนิดที่ว่าไม่กรองกันให้เลย ซึ่งเจ้า UV เนี่ยคือศัตรูตัวร้ายที่ทำให้ผิวหนังเราหม่นหมองและเสื่อมสภาพ และมากไปกว่านั้นผิวเราจะแห้งมากกว่าอยู่บนพื้นดินถึง 2 เท่า เพราะอากาศข้างบนนั้นเย็นกว่าข้างล่างมากผิวเราเลยแห้ง การที่ผิวแห้งจะทำให้ผิวของเราขาดความยืดหยุ่น และอาจจะทำให้แตกและเป็นขุยได้ค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย ควรพก Moisturizer ที่มี SPF เป็นส่วนผสมขึ้นเครื่องบินไปด้วย หรือไม่ก็ทาก่อนขึ้นเลยก็ได้ค่ะ เพื่อให้ความชุ่มชื่นลดริ้วรอย (ถ้าใครจะพกก็อย่าให้เกิน 100 มิลลิลิตรนะคะ) และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ อาหารเค็ม และดื่มน้ำเยอะๆ ระหว่างอยู่บนบิน ส่วนใครที่นั่งริมหน้าต่างแนะนำให้เลื่อนที่บังแดดลงมาด้วยค่ะ

9. ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์

ยาบางชนิดมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เช่น ยาแก้หอบหืด ยาแก้โรคไขข้อกระดูก ยาทารอยแผลเป็น รวมไปถึงยาเพิ่มความขาวทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งผลเสียของสเตียรอยด์นั้นจะส่งผลต่อปริมาณคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง และทำให้ผิวหนังบางลง ไม่ทนต่อแดดได้เท่าที่ควร และเมื่อผิวหนังเราไม่มีคอลลาเจนและอิลาสติน แถมยังเจอศัตรูร้ายอย่างแสงอาทิตย์ผิวเราก็มีแต่พังอย่างเดียวค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย สำหรับคนที่ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์อยู่โดยไม่มีความจำเป็นนั้น แนะนำให้เลิกใช้เถอะค่ะ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นในการใช้ยาประเภทนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้หันมาป้องกันผิวหนังตัวเองด้วยการทาครีมกันแดด การหลบแดดในเวลากลางวัน และตอนกลางคืนให้ทาครีมที่ส่วนผสมของเรตินอล เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแทนนะคะ

10. การกินแป้งและน้ำตาลเยอะ

อาหารแปรรูปบางประเภทที่มีแป้งเยอะๆ หรือมีน้ำตาลเยอะๆ นั้น สามารถทำให้เราหน้าเหี่ยวได้ค่ะ เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้น้ำตาลในเลือดเราสูงขึ้น ทำให้ชั้นเซลล์ผิวของเราเกิดการอักเสบขึ้นมา แต่การอักเสบนี้ไม่ได้ทำให้เกิดการเจ็บปวดแต่ประการใดนะคะ แต่ผลจากอาการอักเสบจะส่งผลต่อคอลลาเจนและอิลาสตินที่ทนการอักเสบไม่ไหวจนเสื่อมไปตามสภาพค่ะ

image007 5

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย พยายามลดทานอาหารที่มีปริมาณของแป้งหรือน้ำตาลเยอะเกินไป แล้วให้เลือกทานผักหรือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ เช่น สับปะรด มะละกอ ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยว ฯลฯ เพื่อลดริ้วรอย แถมพ่วงด้วยสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ

7 ขั้นตอนการดูแลตัวเองเพื่อลดริ้วรอย ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย

98

การที่จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอนั้น หากเราดูแลตัวเองเป็นอย่างดีจากภายในและภายนอก รับรองค่ะว่าจะทำให้ดูแก่ช้าลงได้อย่างแน่นอน วันนี้เรามีบทความดีๆ เกี่ยวกับการดูแลผิวอย่างไรให้ดูเปล่งปลั่งสดใส ลดริ้วรอย อ่อนเยาว์กว่าวัย ต้องทำอย่างไรบ้าง รีบตามไปดูกันดีกว่าค่ะ

1. ดื่มน้ำบ่อยๆ ชะลอแก่

ประโยชน์ที่ได้จากการดื่มน้ำนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของผิวพรรณช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ผิวอิ่มเอิบและอ่อนนุ่ม ป้องกันริ้วรอย ลดริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งได้ แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรดื่มน้ำก็คือ ร่างกายมีการสะสมของเสียอยู่ทุกวันจากมลภาวะรอบตัว ซึ่งหากมีมากเข้าก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวหมอง แห้งกร้าน จุดด่างดำหายช้า ต่อให้ใช้สกินแคร์มากแค่ไหนก็เหมือนไม่ค่อยได้ผล ซึ่งน้ำนี่ล่ะค่ะคือนางเอกที่จะช่วยขับของเสียพวกนี้ออกจากร่างกายได้

image003 15

2. รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านริ้วรอย

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย คือการมีอนุมูลอิสระสะสมอยู่ในร่างกาย อนุมูลอิสระนี้สามารถกำจัดออกไปได้ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในอาหาร มีอาหารบางอย่างซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยลดริ้วรอยออกไปจากชั้นผิวได้ ยิ่งคุณอายุมากขึ้นควรจะต้องรับประทานอาหารทะเลเป็นประจำ เพราะมันมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่อต้านริ้วรอย ลดริ้วรอย การรับประทานธาตุเหล็ก วิตามิน และสารอาหารอื่นๆ ในปริมาณที่เหมาะสมก็จะช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่ง

นอกจากนี้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ดาร์กช็อกโกแลต ชาเชียว ผักชี ใบโหระพา ขมิ้น ขิง ยังรวมไปถึง วอลนัท ไข่ ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ถั่วบราซิล หอย ฯลฯ  ผลไม้อย่างเช่น แตงโม สับปะรด แตงกวา อะโวคาโด และมะละกอก็มีส่วนสำคัญในการช่วยลดริ้วรอยด้วยเช่นกัน และข้อสำคัญรับประทานอาหารแค่พอดีกับที่ร่างกายต้องใช้งาน เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานหนักจนเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็วค่ะ

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

เคยลองสังเกตตัวเองบ้างไหมคะ ว่าทำไมเวลาที่เราพักผ่อนน้อย ริมฝีปากเราถึงแห้ง ผิวพรรณกร้านลง และมีริ้วรอยเกิดขึ้นบนใบหน้า สาเหตุก็เป็นเพราะการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อเยื่อต่างๆ จะไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ และเป็นเหตุให้เกิดจุดด่างดำหายช้าลง เกิดริ้วรอย ร่องลึก ผิวแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ดังนั้น ในแต่ละวันเราควรนอนหลับให้ได้ 6-8 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำนะคะ เท่านี้ร่างกายก็จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อยามหลับร่างกายจะฟื้นฟูตัวเอง ทำให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่น ลดริ้วรอยตื่นขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่สดใสดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

image005 14

4. ล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอนทุกครั้ง

ในยุคสมัยนี้ หากสาวๆ จะแต่งตัวออกจากบ้านแต่ละทีก็ต้องโบกเครื่องสำอางแบบจัดเต็มจนหน้าสวยฉ่ำกันซะหน่อย และยิ่งแต่งหน้าบ่อยเท่าไรก็ยิ่งต้องฝึกนิสัยรักการล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอนทุกครั้งด้วยเช่นกัน เพราะการล้างหน้าให้สะอาด คือพื้นฐานของการมีผิวสวยสุขภาพดีนั่นเอง เพียงเช็ดหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง แล้วล้างหน้าตามปกติด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนต่อผิว เพียงเท่านี้ก็สามารถลดริ้วรอย ทำให้หน้าสะอาดสไกลสิว ไปอีกนานค่ะ

shutterstock 1033288084

5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว

โดยปกติแล้วร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่เมื่ออายุ 25 ปี ขึ้นไปคอลลาเจนจะถูกผลิตน้อยลงเรื่อยๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์จึงถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันริ้วรอยก่อนวัยค่ะ ซึ่งครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Vitamin C, AHA หรือ Retinoid จะกระตุ้นวงจรการผลัดเซลล์ผิว และทำให้ร่างกายเร่งสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้ ซึ่งคอลลาเจนถือเป็นสาระสำคัญที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ อวบอิ่ม และลดริ้วรอยได้ค่ะ

6. จัดการกับความเครียด

สำหรับคนในวัยทำงานที่จำต้องรับแบกรับภาระต่างๆ ทางครอบครัว ส่วนใหญ่มักมีใบหน้าที่แก่ก่อนวัย เนื่องจากเกิดความเครียดจากการทำงานหนักและพักผ่อนน้อย ซึ่งความเครียดนี่เองที่เป็นตัวการสำคัญส่งผลให้สภาพร่างกายและจิตใจของเราแย่ลง การที่เราสะสมความเครียดเอาไว้อยู่ตลอดเวลา จะทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำ แลดูไม่มีชีวิตชีวา การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายผิดปกติ ทำให้ง่ายต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้น หากเกิดความเครียดขึ้นขอให้หยุดพัก และลองหาเวลาทำสมาธิกำหนดลมหายใจเพื่อจัดการกับความเครียด เท่านี้ก็จะช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยลงได้ค่ะ

image009 2

7. ไม่อยู่นิ่ง ขยับร่างการอยู่เสมอ

สำหรับสาวออฟฟิศที่วันๆ นั่งทำแต่งานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว เมื่อเป็นเช่นนี้คงต้องปรับพฤติกรรมให้แอคทีฟมากขึ้นแล้วค่ะ โดยในช่วงเวลาที่ต้องขึ้นลิฟต์ ให้หันไปขึ้นบันไดแทน หรือลองเดินไปทานข้าวร้านอาหารที่อยู่ใกล้ออฟฟิศ เพื่อให้ร่างกายเกิดการขยับเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ช่วยให้ร่างกายได้ออกกำลัง กระตุ้นให้สร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใช้งานมากขึ้น ทำให้เกิดความแข็งแรงและยืดหยุ่น ลดการเสื่อมสภาพของผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอย และทำให้เรามีความกระชับเฉงมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

ขั้นตอนการปฏิบัติตนเพื่อลดริ้วรอย และทำให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัยที่มานำเสนอไปนั้นไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เชื่อว่าหากคุณปฏิบัติตัวตามขั้นตอนทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมา รับรองได้ว่า ใบหน้าและผิวพรรณของคุณจะแลดูอ่อนกว่าวัย จนใครๆ ก็เดาอายุจริงของคุณไม่ออกเลยล่ะค่ะ