ไม่อยากเข้าวัยเหี่ยว หน้าเหี่ยว ต้องทำยังไง

วัยเหี่ยว

วัยหนุ่ม ไม่น่ากลัวเท่า “วัยเหี่ยว” ไม่อยากหน้าเหี่ยวก่อนวัย ทำอย่างไรดี?

 

เรื่องราวของชีวิตที่ก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยน เมื่อวัยหนุ่ม วัยสาวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กลับกลายเป็นวัยเหี่ยว วัยแก่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กระจกที่เคยสะท้อนใบหน้าที่สดใส กลับกลายเป็นภาพสะท้อนของกาลเวลา ริ้วรอยเลือนลางเริ่มปรากฏขึ้น ผิวที่เคยเต่งตึงเริ่มหย่อนคล้อย รอบดวงตาเริ่มปรากฏร่องรอยของความเหนื่อยล้า ใบหน้าที่เคยชุ่มชื้นกลับแห้งกร้าน และริมฝีปากที่เคยอวบอิ่มก็เริ่มบางลงทุกที อย่าปล่อยให้กาลเวลาทำร้ายผิวหน้าของเราไปมากกว่านี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาดูแลตัวเอง บอกลาหน้าเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัย เตรียมทวงคืนวัยหนุ่ม วัยสาว เพื่อผิวหน้าที่สวยใส เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์อีกครั้ง

 

เคยสงสัยกันไหมว่า? ทำไมบางคนถึงหน้าเด็ก ดูอ่อนกว่าวัยตลอดเวลา วันนี้ รมย์รวินท์ จะพาไปทำความรู้จักกับโปรแกรมหน้าเด็ก หน้าเด้ง จะมีโปรแกรมอะไรบ้างนั้น ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ

 

เฉลยเคล็ดลับหน้าเด็ก บอกลาวัยเหี่ยว หน้าเหี่ยวก่อนวัย

 

หน้าเหี่ยว เกิดจากอะไร

หน้าเหี่ยว เป็นปัญหาที่หลายคนมักกังวล เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ และทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด โดยสาเหตุหลักของปัญหาหน้าเหี่ยวนั้นมีหลายปัจจัย ได้แก่

อายุที่เพิ่มขึ้น 

  • เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะเริ่มผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ซึ่งคอลลาเจนและอีลาสตินมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ผิวเต่งตึงและมีความยืดหยุ่น หากคอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพลง ผิวจะเริ่มเกิดการหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่าย ส่งผลให้หน้าเหี่ยว หน้าแก่อีกด้วย

แสงแดด 

  • รังสี UV จากแสงแดด ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ขาดความชุ่มชื้น เกิดริ้วรอยก่อนวัย และหน้าเหี่ยวในที่สุด อีกทั้ง แสงแดดยังส่งผลให้ผิวคล้ำเสีย เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่ายอีกด้วย

การแสดงออกทางสีหน้า 

  • เมื่อมีการแสดงสีหน้า กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังจะเกิดการหดตัว ทำให้เกิดรอยพับบนผิวหนังซ้ำ ๆ จนกลายเป็นรอยเหี่ยวย่น ซึ่งมาจากการยิ้ม การหัวเราะ หรือการขมวดคิ้วบ่อย ๆ ทำให้เกิดรอยเส้น และริ้วรอยขึ้นได้

พฤติกรรมการใช้ชีวิต 

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างที่เราทำเป็นประจำ อาจเป็นการเร่งให้ผิวหน้าของเราเสื่อมสภาพ และเกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้นกว่าปกติ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารไม่สมดุล และความเครียดเรื้อรัง ล้วนส่งผลให้ผิวแก่ก่อนวัยได้ทั้งสิ้น

มลภาวะ 

  • มลภาวะ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เร่งให้ผิวแก่ก่อนวัย และเกิดความเหี่ยวย่นได้ง่าย เช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ หรือมลพิษในอากาศ โดยมลภาวะเหล่านี้ จะปล่อยอนุมูลอิสระออกมา ซึ่งจะเข้าไปทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนแอ และเกิดการอักเสบ รวมถึง ทำให้หน้าเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัยได้อีกด้วย

 

เคล็ดลับล็อกหน้าเด็กชะลอหน้าเหี่ยว
เคล็ดลับล็อกหน้าเด็กชะลอหน้าเหี่ยว

 

4 เคล็ดลับ ล็อกหน้าเด็ก ชะลอหน้าเหี่ยว

ฟิลเลอร์

  • ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) เป็นหลัก ซึ่งเป็นสารที่ผลิตขึ้นมา เพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของเรา ใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ และกักเก็บความชุ่มชื้น สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย ปัจจุบันฟิลเลอร์มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจาก อย. ของไทย อย่างเช่น ฟิลเลอร์  Belotero, ฟิลเลอร์ Restylane, ฟิลเลอร์ Juvederm หรือ ฟิลเลอร์ Neauvia เป็นต้น
  • เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ผิวแล้ว ฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่างในบริเวณที่มีริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ และเพิ่มวอลุ่มให้กับบริเวณที่ฉีด เช่น ขมับ แก้ม หรือริมฝีปาก นอกจากนี้ ยังสามารถปรับรูปหน้า แก้ไขใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนได้เป็นอย่างดี 
  • ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึก ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่สมส่วน มีปัญหากระดูกเริ่มทรุดตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น และผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่เรียบเนียน รวมถึง ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ 
  • ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ คือ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ให้ดูตื้นขึ้น ผิวหน้าดูอิ่มฟู มีความยืดหยุ่น ผิวดูชุ่มชื้น ดูอ่อนกว่าวัย รูปหน้ามีสัดส่วนเข้ารูป ดูมีมิติมากขึ้น สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด

 

Radiesse 

  • Radiesse หรือ เรเดียส คือ สารเติมเต็มกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ที่มีความแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปตรงที่ Radiesse มีส่วนประกอบหลักของ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายของเรา เช่น ในกระดูกและฟัน จึงมีความปลอดภัยสูง สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย จุดเด่นของ Radiesse คือ กระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายตรึงผิวใหม่ถึง 5 ประการ ได้แก่  Collagen Type 1, Collagen Type 3, Elastin,  Angiogenesis และ Proteoglycan 
  • เมื่อฉีด Rediesse เข้าสู่ผิวแล้ว สาร CaHA จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรลาสต์ (Fibroblast) ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ เสริมความแข็งแรงของโครงสร้างผิว และฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น
  • Radiesse เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึก มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด ผิวขาดวอลุ่ม ดูแก่กว่าวัย รวมถึง ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง ขาดความยืดหยุ่น 
  • ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด Radiesse คือ ช่วยเพิ่มวอลุ่มให้ผิว ทำให้ผิวอิ่มฟู มีความยืดหยุ่น กรอบหน้าชัด ดูมีมิติ ที่สำคัญยังช่วยมอบ 3 ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าในระยะยาว ได้แก่ Healthier ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ ดูสุขภาพดี, Younger ริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น ผิวมีความอ่อนเยาว์ ดูเด็กลง และ Longer ยืดอายุผิวให้ยาวนาน สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 2 ปี

 

Sculptra

  • Sculptra คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulator ตัวแรกของโลก ที่ได้รับการอนุมัติในการใช้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนจาก US FDA (อย. อเมริกา) โดย Sculptra มีส่วนประกอบหลักของ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติสังเคราะห์จากพืช จึงมีความปลอดภัยสูง ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย จุดเด่นของ Sculptra คือ กระตุ้นการสร้าง Collagen Type 1 ได้ถึง 66.5% พร้อมฟื้นฟูผิวลึกถึงโครงสร้าง 
  • เมื่อฉีด Sculptra เข้าสู่ผิวหนังแล้ว PPLA จะกระจายอย่างทั่วถึงในบริเวณที่ฉีด โดยจะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ทำงานอย่างแข็งขัน ทำให้เกิดการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน  ปรับโครงสร้างผิวจากภายใน สามารถยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ไม่เต่งตึง ผิวหน้าขาดความยืดหยุ่น รวมถึง ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามวัย
  • ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด Sculptra คือ ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง แน่นกระชับ ดูอิ่มฟู ริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ดูตื้นขึ้น ผิวมีความชุ่มชื้น ดูกระจ่างใส สุขภาพดีจากภายใน สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี

 

Ultherapy

  • Ultherapy คือ เทคโนโลยียกกระชับ ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) โดยใช้ความร้อนพลังงาน 60 – 70°C ในการยกกระชับผิวหน้า ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งมีจุดเด่น ที่สามารถมองเห็นหน้าจอสแกนชั้นผิวได้แบบ Real Time ด้วยเทคโนโลยี MFU-V, Plan วิเคราะห์และออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และ Treat มีความแม่นยำในการรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ สามารถปรับระดับคลื่นได้ตามความเหมาะสม กับสภาพผิว และปัญหาของแต่ละบุคคล ทำให้ลดอาการเจ็บ และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ 
  • เมื่อ Ultherapy ส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิว จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้เกิดการสร้างปฏิกิริยาหดตัวของเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้นทันที นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ขึ้นใหม่ ทดแทนคอลลาเจนเก่าที่เสื่อมสภาพตามอายุ
  • Ultherapy เหมาะสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาผิวมีความหย่อนคล้อย ใบหน้าเริ่มเหี่ยวย่น ไม่ตึงกระชับเหมือนเดิม มีกระเปาะแก้ม แก้มห้อย มีปัญหาคางสองชั้น มีเหนียง และมีรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ 
  • ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ Ultherapy คือ ช่วยให้ผิวหน้ามีความกระชับ หน้าเรียวเล็ก กรอบหน้าคมชัด ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางลง ผิวมีความละเอียด และดูเรียบเนียนมากขึ้น โดยสามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 1 ปี

 

จะเห็นได้ว่าทั้ง 4 โปรแกรมหน้าเด็กอย่าง ฟิลเลอร์, Radiesse, Sculptra และ Ultherapy นั้น ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาหน้าเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัยได้อย่างครอบคลุม สามารถจัดการกับปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ทั้งเรื่องความหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ เมื่อทำการรักษาร่วมกันแล้ว จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น ผิวหน้าจะดูอ่อนเยาว์ กระชับ เต่งตึง ริ้วรอยลดเลือน และหน้าเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ทั้งนั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนตัดสินใจทำหัตถการ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวหน้า พร้อมวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หน้าเด็กลงกว่าอายุจริงไปหลายปีเลย