รู้ก่อนตัดสินใจ! ยกกระชับหน้าวิธีไหนดี?
เคยสังเกตไหมว่าเมื่อเวลาผ่านไป ผิวหน้าของเราเริ่มสูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่น ร่องแก้มลึกขึ้น หนังตาตก กรอบหน้าไม่ชัด หรือแม้แต่ริ้วรอยเล็ก ๆ ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจัยเหล่านี้เกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ ร่วมกับปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ ความเครียด และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งล้วนส่งผลให้ผิวดูหย่อนคล้อย ขาดความสดใส และดูมีอายุเกินกว่าความเป็นจริง
แต่ในปัจจุบัน มีเทคนิคยกกระชับหน้าหลากหลายรูปแบบที่สามารถช่วยย้อนวัยให้ผิวเต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็น Ulthera Prime, Thermage FLX, Ultra 4D Lift, Fix Lift, Oligio และ EMFACE แต่ละเทคนิคมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านของหลักการทำงาน ความลึกของพลังงานที่ใช้ ระยะเวลาการเห็นผล และความเหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละประเภท
หากคุณกำลังมองหาวิธียกกระชับหน้าที่ไม่อันตราย เห็นผลลัพธ์จริง และเหมาะกับปัญหาผิวของคุณที่สุด บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเลือกที่ดี พร้อมเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของแต่ละเทคนิค รวมถึงปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ ทั้งปัญหาผิวและไลฟ์สไตล์ได้อย่างมั่นใจ
สรุปยกกระชับหน้า วิธีไหนดี?
การเลือกวิธียกกระชับหน้าที่ดี ขึ้นอยู่กับ ปัญหาผิว อายุ งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ต้องการ เนื่องจากแต่ละเทคนิคมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ซึ่งไม่มีวิธีใดที่ดีสำหรับทุกคน เพราะแต่ละบุคคลมีสภาพผิวและความต้องการที่แตกต่างกัน การปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง จะช่วยให้ทุกคนได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม เลือกเทคนิคที่ไม่อันตราย และให้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของทุกคนมากที่สุด

ยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยียกกระชับ มีอะไรบ้าง? ยกกระชับหน้าวิธีไหนดี?
สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยยกกระชับผิวหน้าเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม โดยเทคโนโลยีที่แนะนำ ดังนี้
-
ยกกระชับหน้าด้วย Ultherapy Prime
เทคโนโลยี Microfocused Ultrasound (MFU-V) ทำงานโดยส่งพลังงานอัลตราซาวนด์แบบโฟกัสสูงลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นการผลิต คอลลาเจน และ อีลาสติน ตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึงขึ้น พร้อมลดเลือนริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม หางตา และลำคอ อีกทั้งยังช่วยปรับกรอบหน้าให้ดูเรียวและได้รูปมากขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าและลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัด หรือผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับปานกลาง โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 2-3 เดือน และสามารถคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี
-
ยกกระชับหน้าด้วย Thermage FLX
ใช้พลังงาน Monopolar RF (Radio Frequency) ส่งความร้อนลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้โครงสร้างผิวแน่นขึ้น ช่วยลดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหน้า เช่น บริเวณแก้ม คางสองชั้น และเหนียง ให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่ดูไม่แปลก ไม่ทำให้ใบหน้าแข็งตึง และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มี ผิวหย่อนคล้อย และต้องการกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยจะเริ่มเห็นผลหลังทำ 2-3 เดือน
-
ยกกระชับหน้าด้วย Ultra 4D Lift
ใช้เทคโนโลยี Micro&Macro focused Ultrasound ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ช่วยให้ใบหน้ากระชับและริ้วรอยจางลง ลดเลือนริ้วรอยและเสริมสร้างอีลาสติน ทำให้ผิวหน้าดูเฟิร์มขึ้นและเนียนละเอียดขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวแบบองค์รวม ทั้งในเรื่องของการยกกระชับหน้าและปรับรูปหน้าให้สมดุล เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน และอยู่ได้นาน 1 ปี
-
ยกกระชับหน้าด้วย Fix Lift
ใช้เทคโนโลยี Microneedle RF (Radio Frequency Microneedling) ซึ่งเป็นการผสานพลังงานคลื่นวิทยุร่วมกับเข็มขนาดเล็ก 24 pin เพื่อส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นใต้ผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และรอยแผลเป็นจากสิว และช่วยยกกระชับหน้า ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มี ริ้วรอยลึก ผิวหย่อนคล้อย หรือมีปัญหารูขุมขนกว้าง และต้องการฟื้นฟูผิวในระดับลึก เห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 1-2 เดือน และสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี
-
ยกกระชับหน้าด้วย Oligio
ใช้พลังงาน Monopolar RF ส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงเพื่อช่วยยกกระชับหน้า โดยให้ความรู้สึกสบายและเจ็บน้อยกว่า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวแน่นขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ผลลัพธ์ที่เป็นดูสวยเหมือนไม่ได้ทำอะไรมา ไม่ต้องพักฟื้น และต้องการทำหัตถการที่เจ็บน้อย สามารถทำได้กับหลายบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ และรอบดวงตา ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน และสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1-2 เดือน
-
ยกกระชับหน้าด้วย EMFACE
ใช้พลังงาน HIFES+Radio Frequency ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรงขึ้น ช่วยยกกระชับหน้า ลดริ้วรอย และฟื้นฟูโครงสร้างผิว โดยไม่ต้องใช้เข็มหรือสารเติมเต็ม ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ กระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อย เห็นผลได้ตั้งแต่ 4-6 สัปดาห์หลังทำ และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน
-
ยกกระชับหน้าด้วยร้อยไหม
ใช้เส้นไหมละลายที่มีโครงสร้างพิเศษสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อดึงและยกกระชับหน้าในทันที กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบเส้นไหม ทำให้ผิวแน่นขึ้นและดูเต่งตึงขึ้นในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ยกกระชับหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้ดูคมชัดขึ้น เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม
-
ยกกระชับหน้าด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
การฉีดไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) เป็นเทคนิคที่ช่วยเติมเต็มบริเวณที่มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ คาง และกรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูเอิบอิ่มขึ้น พร้อมลดปัญหาความหย่อนคล้อยที่เกิดจากการสูญเสียไขมันใต้ผิว
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วน และลดเลือนริ้วรอยเพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ และคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้
-
ยกกระชับหน้าด้วยโปรแกรมฉีดโบ
เป็นวิธีที่ใช้สำหรับลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ช่วยลดขนาดกรามและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น โดยการคลายตัวของกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น เห็นผลภายใน 3-7 วัน และผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน
ยกกระชับหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ มีแบบไหนบ้าง? ยกกระชับหน้าวิธีไหนดี?
สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ การดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติสามารถช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และชะลอการเกิดริ้วรอยได้
- การนวดหน้าเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน
การนวดหน้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและลดอาการบวมของใบหน้า เทคนิคที่นิยม เช่น การนวดกดจุด, การนวดด้วยน้ำมันธรรมชาติ หรือการใช้กัวซา
- การออกกำลังกายใบหน้า (Face Yoga)
ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรง ทำให้ใบหน้ากระชับขึ้น ลดความหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าและแก้ม ท่าที่นิยม ได้แก่ ท่าปากจู๋, ท่ายกหน้าผาก, ท่ายกคาง และการบริหารกล้ามเนื้อรอบดวงตา
- การเลือกใช้ครีมและเซรัมกระชับผิว
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ เปปไทด์, เรตินอล, วิตามินซี และไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งครีมกระชับผิวจะช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ส่วนเซรัมที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์จะช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ผิว
- อาหารที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว
- อาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง และเบอร์รี่ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- อาหารที่มีโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ถั่วอัลมอนด์ และอะโวคาโด ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น
- โปรตีนจากธรรมชาติ เช่น ไข่ขาว กระดูกอ่อน และเจลาติน ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างผิว
- การนอนและดื่มน้ำให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมผิวและผลิตคอลลาเจน และการดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวและทำให้ผิวดูอิ่มฟู
ยกกระชับหน้าวิธีไหนดี? วิธีเลือกวิธียกกระชับหน้าที่เหมาะกับตัวเอง
การเลือกวิธียกกระชับหน้าที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว อายุ งบประมาณ และผลลัพธ์ที่คาดหวัง ซึ่งแต่ละปัจจัยมีผลต่อการเลือกเทคนิคที่ให้ประสิทธิภาพที่ดี โดยพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ปัญหาผิวหน้า
สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ควรเริ่มต้นจากการพิจารณาว่าผิวของตนเองมีปัญหาอะไร และต้องการแก้ไขในบริเวณไหน เช่น
- ผู้ที่มีริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก และร่องแก้ม ควรเลือก Ulthera Prime, Thermage FLX, Oligio, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือโปรแกรมฉีดโบ ซึ่งช่วยลดริ้วรอยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- หากมีปัญหาหนังตาตกหรือคิ้วตก แนะนำ Ulthera Prime, EMFACE หรือร้อยไหม ซึ่งช่วยยกกระชับบริเวณใบหน้า และปรับโครงสร้างให้ดูสดใส อ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
- สำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อยหรือกรอบหน้าไม่ชัด สามารถเลือก Thermage FLX, Fix Lift, Ultra 4D Lift หรือการร้อยไหม ที่ช่วยให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น พร้อมปรับรูปหน้าให้ดูเรียวได้สัดส่วนมากขึ้น
- สำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้นและเหนียง ควรเลือก Thermage FLX, Ultra 4D Lift หรือ Fix Lift เพื่อช่วยลดไขมันและกระชับผิวหน้า
- อายุและสภาพผิว
อายุเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกวิธียกกระชับหน้า เนื่องจากสภาพผิวในแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกัน
- สำหรับผู้ที่อายุ 30+ มักเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ และผิวหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย ควรเลือก Oligio, EMFACE, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือโปรแกรมฉีดโบ ซึ่งช่วยดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- สำหรับผู้ที่อายุ 40+ มักมีความหย่อนคล้อยของใบหน้ามากขึ้น กรอบหน้าเริ่มไม่ชัด และริ้วรอยลึกขึ้น ควรเลือก Ulthera Prime, Thermage FLX, Fix Lift, Ultra 4D Lift หรือ ร้อยไหม ซึ่งช่วยยกกระชับและฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก
- สำหรับผู้ที่อายุ 50+ ปัญหาผิวที่พบได้บ่อยคือ ริ้วรอยลึก ผิวบาง และขาดความยืดหยุ่น ควรเลือก Thermage FLX, Fix Lift, Ultra 4D Lift, โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือร้อยไหม ซึ่งสามารถช่วยเติมเต็มและยกกระชับใบหน้าให้ดูสดใสขึ้น
งบประมาณ
ค่าใช้จ่ายในการยกกระชับหน้าขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่เลือก ซึ่งมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน โดยแต่ละเทคนิคมีช่วงราคาที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Oligio มีราคาเริ่มต้นที่ 10,000 – 30,000 บาท และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- EMFACE มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30,000 – 60,000 บาท สามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Ulthera Prime ราคาเริ่มต้นที่ 50,000 – 100,000 บาท และให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 1-2 ปี
- Thermage FLX มีช่วงราคา 60,000 – 120,000 บาท และผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
- Fix Lift มีค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000 – 80,000 บาท และอยู่ได้นาน 1-2 ปี
- Ultra 4D Lift มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 40,000 – 90,000 บาท และสามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- ร้อยไหม มีค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 20,000 – 50,000 บาท และอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ มีราคาประมาณ 15,000 – 50,000 บาท และสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 6-18 เดือน
- โปรแกรมฉีดโบ มีราคาประมาณ 5,000 – 30,000 บาท และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือน

5 สัญญาณของผิวหย่อนคล้อย มีอะไรบ้าง?
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกายจะค่อย ๆ ลดลง ส่งผลให้โครงสร้างผิวอ่อนแอลง ขาดความยืดหยุ่น และไม่กระชับเหมือนเดิม ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิวในบริเวณต่าง ๆ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากสัญญาณเหล่านี้
- ร่องแก้มลึกขึ้น
การสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังและความยืดหยุ่น ทำให้ร่องแก้มดูชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุ
- หนังตาตกและคิ้วต่ำลง
กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาอ่อนแอลง ทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้า ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวไม่กระชับ
- กรอบหน้าไม่ชัดและคางสองชั้น
เกิดจากการสะสมของไขมันและการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวไม่กระชับ
- ริ้วรอยรอบดวงตาและมุมปาก
การเคลื่อนไหมของกล้ามเนื้อซ้ำ ประกอบกับการสูญเสียคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยเริ่มปรากฏและลึกขึ้น
- ผิวบริเวณลำคอหย่อนคล้อย
เมื่อคอลลาเจนลดลง ผิวจะดูแห้งกร้าน ขาดความเปล่งปลั่ง และม่ร่องรอยแห่งวัยเพิ่มขึ้น
รวมปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยก่อนวัย
แม้ว่าการเสื่อมสภาพของผิวจะเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิวก่อนวัยอันควร ได้แก่
- อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความตึงกระชับ
- แสงแดดและรังสี UV
การได้รับรังสี UV เป็เนวลานานจะทำให้เซลล์ผิวถูกทำลาย คอลลาเจนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- มลภาวะและฝุ่นควัน
ส่งผลให้อนุมูลอิสระสะสมในชั้นผิว ทำให้เซลล์ผิวอ่อนแอและเกิดความเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต
เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
- ความเครียดและฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
ความเครียดเรื้อรังส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเร่งการเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูแก่กว่าวัย
- การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
การลดน้ำหนักโดยไม่ค่อยออกกำลังกาย อาจทำให้ผิวสูญเสียความกระชับ เพราะเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังลดลงเร็วเกินไป

ยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ช่วยอะไรบ้าง?
- ยกกระชับหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ยกกระชับหน้า ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า
- ยกกระชับหน้า ช่วยกระชับกรอบหน้าและลดคางสองชั้น
- ยกกระชับหน้า ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและสุขภาพดี
- ยกกระชับหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
- ยกกระชับหน้า มีเทคนิคที่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ทันที
- ยกกระชับหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นาน โดยไม่ต้องทำบ่อย
- ยกกระชับหน้า สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- ยกกระชับหน้า สามารถช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิว พร้อมปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- ยกกระชับหน้า ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้ดีขึ้น
- ยกกระชับหน้า สามารถเลือกแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดได้
- ยกกระชับหน้า สามารถผสมผสานหลายเทคนิคเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ
- ยกกระชับหน้า มีทั้งวิธีที่เห็นผลทันทีและวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวในระยะยาว
- ยกกระชับหน้า มีตัวเลือกหลากหลายตามความต้องการของแต่ละบุคคล
- ยกกระชับหน้า มีเสี่ยงอันตรายเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
- ยกกระชับหน้า ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน ด้วยการใช้เทคโนโลยียกกระชับ
ใครบ้างที่ควรยกกระชับหน้า แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และต้องการชะลอวัย
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก คิ้วตก หรือใบหน้าดูเหนื่อยล้า
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสองชั้นหรือกรอบหน้าไม่ชัด
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังลดน้ำหนัก
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเหนียงและกระชับคางสองชั้น
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันหรือชะลอความหย่อนคล้อยของผิว
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและสุขภาพดีขึ้น
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยแบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากแสงแดดและมลภาวะ
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับผิวให้ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน และไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม หรือไม่ต้องการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ร่างกาย
- ยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดจากความเครียด และการใช้ชีวิตประจำวัน
ใครบ้างที่ไม่ควรยกกระชับหน้าเพื่อแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะโรคผิวหนัง หรือมีปัญหาผิวหนังอักเสบ
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือแพ้ภูมิตัวเอง
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุน้อยเกินไป และยังไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดเจน
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้หรือไวต่อพลังงานความร้อนสูง
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะผิวแพ้ง่าย หรือมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นง่าย
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภาวะเลือดออกง่าย
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีมีโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิต
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามีไขมันน้อย หรือใบหน้าผอมมาก
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเริมที่ริมฝีปากหรือใบหน้า
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชาหรือไวต่อความเจ็บปวด
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ผิวหนัง
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยสักบริเวณที่ต้องทำหัตถการยกกระชับหน้า
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวบางเกินไป
- ยกกระชับหน้า ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
การเตรียมตัวก่อนทำยกกระชับหน้า
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรศึกษาและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาผิว
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิว
- ก่อนทำยกกระชับหน้า ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ก่อนวันเข้ารับการรักษา
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง ครีม หรือโลชั่นใด ๆ บนใบหน้า วันที่เข้ารับการรักษา
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ก่อนทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น
- ก่อนทำยกกระชับหน้า งดเลเซอร์หน้า การทำสครับผิว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ก่อนทำยกกระชับหน้า งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
- ก่อนทำยกกระชับหน้า งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิว เรตินอล หรือวิตามินซีเข้มข้น 2-3 วัน
การดูแลตัวเองหลังทำยกกระชับหน้า
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าใน 24 ชั่วโมงแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น ออกกำลังกายหนัก, การซาวน่า, อบไอน้ำ และการแช่น้ำร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 3-7 วัน
- หลังทำยกกระชับหน้า หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกรดผลัดเซลล์ผิว, เรตินอล และวิตามินซีเข้มข้น ในช่วง 5-7 วันแรก
- หลังทำยกกระชับหน้า งดนวดหน้า, ขัดผิวหน้า หรือเลเซอร์ผิวหน้า อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หลังทำยกกระชับหน้า ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเซราไมด์
- หลังทำยกกระชับหน้า ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น
- หลังทำยกกระชับหน้า ควรรับประทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

รวมคำถามที่พบบ่อยของการยกกระชับใบหน้า
การยกกระชับหน้าต่างจากการศัลยกรรมดึงหน้าอย่างไร?
- การยกกระชับใบหน้าด้วยเทคโนโลยี เช่น Ulthera Prime, Thermage FLX และการร้อยไหม เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ทำให้ผิวกระชับและเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ในทางกลับกัน การศัลยกรรมดึงหน้าเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง แม้ว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า แต่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัด
การยกกระชับหน้าอันตรายไหม?
- การยกกระชับหน้าไม่เป็นอันตรายเมื่อทำโดยแพทย์เฉพาะทาง และใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการรับรอง เช่น Ulthera Prime และ Thermage FLX ซึ่งผ่านการรับรองจาก FDA อย่างไรก็ตาม ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อประสิทธิภาพที่ดีของการยกกระชับหน้า
การยกกระชับหน้ามีผลข้างเคียงไหม?
- โดยทั่วไป อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ผิวแดง รู้สึกตึง หรือบวมเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปภายใน 1-7 วัน ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
สามารถทำการยกกระชับหน้าได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
- การยกกระชับหน้าเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป โดยทั่วไปอาจเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือโครงหน้าเริ่มไม่กระชับ ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยี เช่น Oligio หรือ EMFACE เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคต
การยกกระชับหน้าทำให้หน้าเล็กขึ้นจริงไหม?
- การยกกระชับหน้า เช่น Thermage FLX และ Ultra 4D Lift สามารถช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง เช่น บริเวณ แก้ม คางสองชั้น และเหนียง ทำให้ใบหน้าดูเล็กขึ้น นอกจากนี้การร้อยไหม หรือโปรแกรมฉีดโบกราม สามารถช่วยปรับรูปทรงของใบหน้าให้ดูเล็ก สมส่วนมากขึ้น
ยกกระชับหน้าสำหรับผู้ชายสามารถทำได้ไหม?
- ผู้ชายสามารถยกกระชับหน้าได้ ผู้ชายที่ต้องการกระชับใบหน้า ลดเหนียง หรือปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น สามารถทำโปรแกรมยกกระชับ เช่น Thermage FLX, Ulthera Prime, EMFACE หรือร้อยไหม ได้เหมือนผู้หญิงทั่วไป
การเลือกวิธียกกระชับหน้า แบบไหนดี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิว อายุ งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ต้องการ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับหน้าให้เลือกมากมาย ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและระยะเวลาของผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ถึงแม้ว่าไม่มีวิธีไหนดีสำหรับทุกคน แต่มีวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ ปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล การเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดและมั่นใจได้ว่า การยกกระชับหน้าจะให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ไม่เป็นอันตราย
การดูแลผิวให้เต่งตึง อ่อนเยาว์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องดูแลสุขภาพผิวจากภายใน ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากขึ้น และใช้สกินแคร์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมีใบหน้าที่กระชับ สดใส และดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างมั่นใจ