ฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ทางเลือกใหม่ แก้ปัญหาปวดคอ บ่า ไหล่

office syndrome

ฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ทางเลือกใหม่ แก้ปัญหาปวดคอ บ่า ไหล่

 

ปัญหาออฟฟิศซินโดรม เป็นปัญหาสุขภาพที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ และพบได้บ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนท่าทางที่เหมาะสม ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดเมื่อยเรื้อรัง จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และประสิทธิภาพในการทำงานได้

ปัจจุบัน มีทางเลือกในการรักษาอาการปวดเมื่อยจากออฟฟิศซินโดรมมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ “โปรแกรมฉีดโบ” ซึ่งเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้ จะพาไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมอย่างละเอียดว่า โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมคืออะไร? โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมมีหลักการทำงานอย่างไร? และโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง? เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรมค่ะ

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม คืออะไร? เหมาะกับใคร?
โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม คืออะไร?

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม คืออะไร? เหมาะกับใคร? อัปเดต 2025

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม คืออะไร?

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยการนำสารที่สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่ฉีดเข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อที่เกิดการหดเกร็ง เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว และลดอาการปวดเมื่อยจากออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัญหาออฟฟิศซินโดรม มักเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานในท่าที่ไม่ถูกต้อง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง เกิดอาการตึงเครียด จนส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม มีหลักการทำงานอย่างไร?

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมนั้น สามารถออกฤทธิ์ได้กับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโดยตรง เมื่อฉีดโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม สารโปรตีนบริสุทธิ์จะเข้าไปยังบริเวณที่หดเกร็ง หรือถูกใช้งานอย่างหนักเป็นเวลานาน เช่น คอ บ่า ไหล่ และหลัง โดยจะ ยับยั้งสัญญาณประสาทที่ส่งไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งซ้ำ ๆ เกิดการคลายตัว และลดความตึงเครียดลงชั่วคราว อีกทั้ง ยังลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อ มีชื่อเรียกว่า “Trigger Point” ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรัง

โดย Trigger Point คือ จุดที่กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนกลายเป็นก้อนแข็ง ๆ ขนาดเล็ก ซึ่งมักจะมีขนาดประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร เมื่อกดลงไปที่จุดนี้จะรู้สึกเจ็บปวด และอาจปวดลามไปยังบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อส่วนบน เช่น คอ บ่า ไหล่ และหลัง เนื่องจากการใช้งานกล้ามเนื้อที่ไม่เหมาะสม หรือการนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง หากปล่อยไว้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้ ดังนั้น โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถลดอาการปวดเมื่อย แก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรมบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ทำความรู้จักออฟฟิศซินโดรม คืออะไร?

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ อาการที่เกิดจากการนั่งทำงาน ในลักษณะที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่องในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เกร็งตัวมากกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง หรือเกิดการอักเสบ ซึ่งในบางกรณีอาจมีอาการปวดกระบอกตา หรือปวดศีรษะร่วมด้วย

 

พฤติกรรมเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม มีอะไรบ้าง?
พฤติกรรมเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม มีอะไรบ้าง?

 

พฤติกรรมเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม มีอะไรบ้าง?

ปัญหาออฟฟิศซินโดรม ส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย พบได้บ่อยในบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้ โดยพฤติกรรมเสี่ยง มีดังนี้

นั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ 

  • การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนท่าทาง หรือหยุดพัก เพื่อยืดเส้นยืดสาย อาจทำให้กล้ามเนื้อ และกระดูกต้องรองรับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงเครียด และเกิดอาการปวดเมื่อยได้

ท่าทางการนั่งไม่เหมาะสม

  • การนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งหลังค่อม นั่งคอไม่ตรง นั่งไขว่ห้าง หรือการนั่งท่าเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อกระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้

ยกของหนักผิดวิธี

  • การยกของหนัก โดยไม่ได้ใช้ท่าทางที่ถูกต้อง หรือยกของหนักมากเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อ และข้อต่อได้รับบาดเจ็บ จนเกิดอาการปวดเมื่อยได้

ความเครียด

  • เมื่อรู้สึกเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็ง และตึงเครียด โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ตามมา

การพักผ่อนไม่เพียงพอ 

  • การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟู และซ่อมแซมกล้ามเนื้อได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึงเครียด และเมื่อยล้า โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง

สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่เหมาะสม 

  • สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะทำงานสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป นั่งเก้าอี้ที่ไม่รองรับสรีระ หรือแสงสว่างไม่เพียงพอ อาจทำให้กล้ามเนื้อหดตัว และเกิดอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ เช่น คอ บ่า ไหล่ และหลัง

ขาดการออกกำลังกาย

  • การขาดการออกกำลังกาย ส่งผลให้เกิดออฟฟิศซินโดรมได้ เนื่องจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง และขาดความยืดหยุ่น จนไม่สามารถรองรับการทำงานของร่างกายได้อย่างเต็มที่ เมื่อต้องนั่งทำงานท่าเดิมซ้ำ ๆ  เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการตึงเครียด และปวดเมื่อยได้ง่าย

 

อาการแบบไหนเข้าข่าย ออฟฟิศซินโดรม?
อาการแบบไหนเข้าข่าย ออฟฟิศซินโดรม?

 

อาการแบบไหนเข้าข่าย ออฟฟิศซินโดรม?

ออฟฟิศซินโดรม มีลักษณะอาการที่หลากหลาย และแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว อาการที่เข้าข่ายออฟฟิศซินโดรม มีดังนี้

  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มักเกิดขึ้นบริเวณคอ บ่า ไหล่ สะบัก และหลัง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ที่เป็นออฟฟิศซินโดรม ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการนั่ง หรือยืนในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน 
  • ปวดศีรษะ ในบางกรณี อาจมีอาการปวดศีรษะไมเกรนร่วมด้วย ซึ่งมักเกิดจากความเครียด หรือการใช้สายตาจดจ่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
  • ปวดกระบอกตา ตาล้าพร่ามัว เกิดจากการจ้องมองหน้าจอนาน หรือใช้สายตามากจนเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการตาแห้ง ปวดกระบอกตา และตาล้าได้
  • มือชาและนิ้วล็อก มักเกิดจากการที่ใช้งานมือ และข้อมือซ้ำ ๆ ในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อ และเส้นประสาทบริเวณนั้นถูกกดทับ รวมถึงเกิดการอักเสบได้
  • ปวดตึง เหน็บชา ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นบริเวณแขน และขา เกิดจากการนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?
โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยลดอาการปวดเมื่อยเรื้อรังบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดผ่อนคลายลง
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ (Trigger Point) 
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยให้ลำคอระหง ดูเรียวยาว และมีสัดส่วนที่สวยงาม
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยให้ช่วงบ่า และไหล่มีความเรียวเล็ก มีสัดส่วน และรูปทรงที่เหมาะสม
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม  ช่วยป้องกันไม่ให้อาการปวดเมื่อยลุกลามไปมากกว่าเดิม

 

ใครที่เหมาะกับการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ?
ใครที่เหมาะกับการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ?

 

ใครที่เหมาะกับการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ?

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่นั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนท่าทาง
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังแบบเรื้อรัง
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการยกไหล่ ไหล่ติด ไม่สามารถยกไหล่ได้อย่างเต็มที่
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานยาแก้ปวด หรือเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่เคยลองรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยวิธีอื่นแต่ไม่ได้ผล
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหนัก ใช้งานกล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ จนไหล่แข็ง
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาบ่าและไหล่ หัวไหล่มีความกว้าง ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อให้ดูเรียวเล็กมากขึ้น
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

 

ใครที่ไม่เหมาะกับการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม?

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงขั้นรุนแรง
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม  ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารประกอบ ในโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดหยุดไหลยาก
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลติดเชื้อ ในบริเวณที่จะทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม 
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อ และระบบประสาท

 

ข้อดีของทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม สามารถลดอาการปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ได้อย่างตรงจุด
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม มีความสะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม สามารถเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 7 – 14 วันหลังฉีด
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยไม่ต้องรับประทานยาแก้ปวดอีกต่อไป

 

ข้อเสียของการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม จะให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราว ไม่คงอยู่ถาวร โดยส่วนใหญ่แล้ว การทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม จะอยู่ได้นาน ประมาณ 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโปรแกรมฉีดโบที่เลือกใช้ หลังจากนั้นอาการปวดเมื่อยอาจกลับมาเป็นอีก จึงต้องมีการฉีดซ้ำเป็นระยะเมื่อครบกำหนด
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ดังนั้น จึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และดูแลสุขภาพร่างกายควบคู่ไปด้วย
  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ และมีประสบการณ์เท่านั้น เนื่องจากแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อวางแผนการรักษา กำหนดตำแหน่งที่ต้องฉีดอย่างแม่นยำ และเลือกปริมาณยาที่เหมาะสม ลดโอกาสเสี่ยงให้การเกิดผลข้างเคียงอันตราย

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม แตกต่างจากการรักษาด้วยวิธีอื่นอย่างไร?

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม มีความแตกต่างจากวิธีการรักษาอื่น ๆ อย่างชัดเจน ซึ่งแต่ละวิธีมีหลักการทำงานและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เป็นการฉีดสารสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรง โดยจะเข้าไปบล็อกสัญญาณประสาทที่ส่งไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็ง เกิดการคลายตัวชั่วคราว จึงสามารถลดอาการปวดเมื่อย บริเวณคอ บ่า ไหล่ หลังได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาออฟฟิศซินโดรมที่ไม่ต้องพักฟื้น

กายภาพบำบัด 

  • การกายภาพบำบัด เป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และใช้เครื่องมือทางการแพทย์ร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดให้คลายตัว พร้อมปรับปรุงท่าทางการนั่ง และการยืนที่ถูกต้อง เพื่อลดอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลังได้อย่างตรงจุด ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดเมื่อยซ้ำ ๆ

นวดแผนไทย

  • การนวดแผนไทย เป็นการนวดที่ใช้เทคนิคในการกดจุด หรือนวดเฉพาะจุด เพื่อยืดกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด ให้ผ่อนคลายลงชั่วคราว ซึ่งเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาอาการปวดเมื่อยที่มีมาอย่างยาวนาน ถือเป็นวิธีการทางธรรมชาติ ที่ช่วยลดอาการปวดเมื่อยออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฝังเข็ม 

  • การฝังเข็มออฟฟิศซินโดรม เป็นการปรับสมดุลของร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ  โดยใช้เข็มเล็ก ๆ ปักลงไปยังบริเวณที่มีอาการปวดเมื่อย เช่น คอ บ่า ไหล่ หลัง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการคลายตัว พร้อมกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จึงถือเป็นอีกทางเลือกในการรักษาออฟฟิศซินโดรมแบบแพทย์แผนจีน

รับประทานยา 

  • รับประทานยาแก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม เป็นการใช้ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาต้านการอักเสบ เพื่อลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และลดการอักเสบลงชั่วคราว ทั้งนี้ การรับประทานยาบางชนิดเป็นเวลานาน อาจเกิดผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหาร ไต และตับได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจรับประทานยา โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่แพ้ยา

 

วิธีการเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม

  • ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาออฟฟิศซินโดรมอย่างรอบคอบ 
  • ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ควรแจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติโรคประจำตัว ยาที่กำลังรับประทาน รวมถึง อาการแพ้ต่าง ๆ ให้แพทย์ทราบ
  • ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดรับประทานยา หรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดผลัดเซลล์ผิว หรือสครับผิวในบริเวณที่จะทำการฉีด อย่างน้อย 2 – 3 วัน
  • ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฉีดโบ

 

วิธีการดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม

  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม แนะนำให้ขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดบ่อย ๆ ในช่วง 30 นาทีแรก เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม 
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดนอนราบ หรือนอนคว่ำ อย่างน้อย 3 ชั่วโมงแรก 
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดนวด บีบ หรือกดบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรก
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดสัมผัสความร้อน เช่น เข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรืออยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน 
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม งดการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด หรือของหมักดอง อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม แนะนำให้ปรับปรุงท่านั่ง และท่ายืนอย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
  • หลังทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม หลีกเลี่ยงการนั่งท่าเดิมนาน ๆ ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ เพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อยกลับมา

 

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ควรใช้กี่ยูนิต?

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม มักจะใช้ปริมาณยูนิตที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ และบริเวณที่ต้องการรักษา โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณยูนิตที่แนะนำสำหรับการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ประมาณ 50 – 100 ยูนิต ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจุดที่ต้องฉีด และกำหนดปริมาณยูนิตที่เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องแก้ไข เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม กี่วันเห็นผล?

  • หลังจากการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมแล้ว สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด โดยจะรู้สึกถึงการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด และอาการปวดเมื่อยลดลง ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เมื่อสารเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ ภายใน 7 – 14 วันหลังฉีด 

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม อยู่ได้นานแค่ไหน?

  • โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์หลังจากการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมจะอยู่ได้นาน ประมาณ 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโปรแกรมฉีดโบที่เลือกใช้ ระดับความรุนแรงของอาการ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกาย การปรับท่าทางในการทำงาน ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม และช่วยยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ได้ยาวนานยิ่งขึ้น

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เจ็บไหม?

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม  อาจมีความรู้สึกเจ็บ หรือมีอาการตึงเพียงเล็กน้อยในระหว่างการฉีด ส่วนใหญ่ จะรู้สึกเหมือนถูกเข็มจิ้มเบา ๆ หรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย ซึ่งเป็นระดับความเจ็บที่สามารถทนได้ เนื่องจากแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กในการฉีด และอาจมีการใช้ยาชาร่วมด้วย เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงได้

 

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม อันตรายไหม?

  • โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม  ถือว่ามีความเสี่ยงน้อย เมื่อฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ ความชำนาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ยี่ห้อโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ที่ได้รับการรับรององค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอันตรายได้

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

โปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมมีความเสี่ยงน้อยแต่ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย ได้แก่

  • อาการปวด และบวม ผู้ที่ทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมอาจรู้สึกปวด หรือบวมในบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งเป็นอาการที่ปกติ และพบได้บ่อย สามารถหายได้เอง ภายใน 2 – 3 วัน
  • มีรอยช้ำ ผู้ที่ทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม อาจมีรอยช้ำในบริเวณที่ฉีดได้ เนื่องจากการใช้เข็มฉีดยา ซึ่งเป็นอาการปกติ และสามารถหายได้เอง ภายใน 1 – 2 สัปดาห์

หากพบว่า มีผลข้างเคียงอันตรายจากโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซิโดรม เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที ซึ่งผลข้างเคียงอันตรายนี้ ถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เกิดจากการที่แพทย์ฉีดผิดตำแหน่ง หรือใช้ปริมาณสารมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา

 

หยุดทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม แล้วจะกลับมาเป็นซ้ำไหม?

  • การหยุดทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมนั้น อาจมีโอกาสที่ทำให้อาการปวดเมื่อย จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก เนื่องจากโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม จะทำหน้าที่คลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดให้กลับมาเป็นปกติ เมื่อสารโปรตีนบริสุทธิ์ในโปรแกรมฉีดออฟฟิศซินโดรมหมดฤทธิ์ ภายในระยะเวลา 3 – 6 เดือน กล้ามเนื้อก็จะค่อย ๆ กลับมาหดเกร็งได้เหมือนเดิม หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวืต และดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

 

จะเห็นได้ว่า การทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรมถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการแก้ไขปัญหาออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับวิธีการรักษาออฟฟิศซินโดรมอื่น ๆ เช่น การรับประทานยา การนวด หรือการกายภาพบำบัด เนื่องจากการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม สามารถเห็นผลผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวลง และลดอาการปวดเมื่อยได้อย่างตรงจุด โดยไม่ต้องมีการพักฟื้น 

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด เพื่อประเมินสภาพร่างกาย และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำโปรแกรมฉีดโบออฟฟิศซินโดรม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี