ฉีดโบลดกรามปรับหน้าเรียว ทางเลือกใหม่ของคนอยากหน้า V-Shape
ในยุคที่รูปลักษณ์และความงามมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การมีใบหน้าที่เรียวสวยเป็นเป้าหมายที่หลายคนต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่หรือรูปหน้าไม่สมส่วน ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในการเข้าสังคมหรือในสถานการณ์ต่าง ๆ การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เป็นวิธีการที่ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกราม โดยหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการทำหัตถการนี้ไม่เพียงแต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่ยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นนาน ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจทุกแง่มุมของการฉีดโบลดกราม ตั้งแต่ขั้นตอนการฉีดโบลดกราม ข้อดีข้อเสียของการฉีดโบลดกราม ไปจนถึงคำแนะนำในการดูแลหลังการฉีดโบลดกราม เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยในการปรับรูปหน้าให้สวยงาม
โบลดกรามจุดฮิต ปรับหน้าเรียว ทางลัดของคนอยากหน้า V-Shape
จุดฮิตฉีดโบลดกราม ฉีดถูกจุด ปังกว่าเดิม!
- ขอบกรามด้านล่าง : เป็นการฉีดเน้นบริเวณกล้ามเนื้อที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงกรามล่าง มักจะอยู่ตรงแนวกรามทั้งสองข้าง โดยการฉีดโบลดกรามจุดนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) เล็กลงและดูผ่อนคลายขึ้น ทำให้บริเวณกรามดูเรียวเล็ก
- ตำแหน่งกึ่งกลางของกล้ามเนื้อ Masseter : แพทย์จะทำการหาจุดกึ่งกลางของบริเวณกล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมดุลและสมส่วนที่สุด โดยตำแหน่งนี้จะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกรามให้เล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว คืออะไร?
โบลดกราม ปรับหน้าเรียว คือ การฉีดสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เข้าไปในสู่บริเวณกล้ามเนื้อกราม เป็นวิธีการลดขนาดของกรามเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง โดยมุ่งเน้นการฉีดที่กล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ตรงบริเวณข้างกรามหรือกรามล่างของเรา ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นและกระชับมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นต้องฉีดซ้ำเพื่อนรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่
การทำงานของโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
การออกฤทธิ์ของโบลดกราม เป็นวิธีการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการฉีดโบเข้าไปที่กล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักที่ทำให้กรามดูกว้างและใหญ่ การออกฤทธิ์ของโบลดกรามจะทำงานโดยลดขนาดของกล้ามเนื้อในบริเวณนี้ให้เล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น
ขั้นตอนของการออกฤทธิ์ของโบลดกราม
- โบลดกรามเข้าสู่กล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) : หลังจากฉีดโบลดกรามเข้าสู่กล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) โดยตรง ที่เป็นกล้ามเนื้อที่ใช้สำหรับบดเคี้ยวอาหาร เมื่อทำการฉีดโบลดกรามเข้าไป จะช่วยยับยั้งการทำงานของสัญญาณประสาทที่ส่งจากสมองจากสมองมาที่กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกรามเกิดการผ่อนคลาย ไม่หดตัวหรือขยายขนาดจนมากเกินไป
- ยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อกรามชั่วคราว : โบลดกรามจะยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท Acetylcholine (อะเซทิลโคลีน) ซึ่งเป็นสารที่ส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อเพื่อทำให้กรามเนื้อหดตัว เมื่อสาร Acetylcholine (อะเซทิลโคลีน) ถูกยับยั้ง กล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) จะเริ่มคลายตัวและหยุดการทำงานชั่วคราว ส่งผลลัพธ์ที่ทำให้ขนาดของกล้ามเนื้อค่อย ๆ ลดลง
- กล้ามเนื้อกรามเริ่มเล็กลง : หลังจากฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียวไป 7-14 วัน จะเริ่มเห็นผลลัพธ์กล้ามเนื้อ Masseter (แมสซีเทอร์) มีขนาดเล็กลง ซึ่งผลมาจากการหยุดหดตัวของกล้ามเนื้อและทำให้เกิดการผ่อนคลายในระยะยาว ทำให้กรามดูเรียวลงมากขึ้น ผลลัพธ์ของโบลดกรามนั้นจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมาทำงานอีกครั้ง อาจต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ยาวนานขึ้น
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยเรื่องอะไร
การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว มีข้อดีที่หลากหลายด้าน ดังนี้
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ลดความกว้างของใบหน้าบริเวณกราม
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ทำให้โครงหน้าดูสมดุล สมส่วนมากขึ้น
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลง มีมิติมากขึ้น
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน ละมุนมากขึ้น
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ทำให้รูปหน้าดูสมมาตรมากขึ้น ในกรณีที่กรามสองข้างไม่เท่ากัน
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับใคร
การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับกลุ่มคน ดังนี้
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่มีกรามใหญ่
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่มีใบหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยม
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่มีกรามสองข้างไม่เท่ากัน
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่กล้ามเนื้อกรามเยอะ
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่ต้องการโครงหน้าที่สมส่วนมากขึ้น
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่มีระยะเวลาจำกัด มีเวลาน้อย
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัด
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับใคร
การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับกลุ่มคน ดังนี้
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับคนที่มีโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับคนที่มีประวัติแพ้สารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคที่มีเลือดออกง่าย
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับคนที่ติดเชื้อบริเวณที่ฉีด ควรรักษาให้หายก่อน
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับคนที่มีกรามเล็กอยู่แล้ว
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวหนังบาง
ข้อดีและข้อจำกัดขอการฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
ข้อดีของการฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยปรับหน้าให้เรียวขึ้น
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อกราม
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่ต้องพักฟื้นนาน กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่ต้องผ่าตัด ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องมีรอยแผลเป็น
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจากอย. ไทย
ข้อจำกัดของการฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว อาจเกิดอาการดื้อยาได้
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกประเภท
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวม รอยแดง รอยช้ำ
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว อาจมีความเสี่ยงจากการฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม
- โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ผลลัพธ์ไม่ถาวร เนื่องจากโบสลายได้เองตามธรรมชาติ
ยี่ห้อโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เลือกแบบไหนดี
โบลดกรามที่ใช้มีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลต่อการออกฤทธิ์ ความปลอดภัย และระยะเวลาในการเห็นผล โดยยี่ห้อโบลดกรามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีดังนี้
โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Allergan
- จุดเด่น : โบหางตายี่ห้อ Allergan เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และผ่านการรับรองจากทั้ง FDA สหรัฐอเมริกา และ อย.ไทย มีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ได้อย่างแม่นยำตรงจุด ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 7 วัน และเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : โบลดกรามยี่ห้อ Allergan ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
- เหมาะกับ : คนที่ต้องการลดกรามและต้องการผลลัพธ์เปลี่ยนอย่างเป็นธรรมชาติ
โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Dysport
- จุดเด่น : โบหางตายี่ห้อ Dysport มีขนาดโมเลกุลที่เล็กกว่าโบลดกรามทั่วไป ทำให้กระจายตัวได้ดีและเหมาะสำหรับการฉีดในบริเวณที่ต้องการลดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อกราม เหมาะกับคนที่ต้องการให้โบกระจายตัวไปทั่วกล้ามเนื้อเพื่อให้กรามดูเล็กลงแบบเป็นธรรมชาติ
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 7 วัน และเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : โบลดกรามยี่ห้อ Dysport ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
- เหมาะกับ : คนที่ต้องการลดกรามที่ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ และเหมาะกับกล้ามเนื้อใหญ่ที่ต้องการให้โบกระจายตัวได้ดี
โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Xeomin
- จุดเด่น : มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านความบริสุทธิ์สูง ถูกออกแบบมาให้ปราศจากโปรตีนที่ไม่จำเป็น ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดการดื้อโบ ซึ่งเกิดจากการสะสมของโปรตีนในร่างกายหลังการฉีดหลายครั้ง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบลดกรามระยะยาว
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 7 วัน และเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : โบลดกรามยี่ห้อ Xeomin ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
- เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาริ้วรอยหรือกรามใหญ่ ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงเหมาะกับคนที่ดื้อโบลดกรามอีกด้วย
โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Nabota
- จุดเด่น : เป็นโบลดกรามเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย เพราะมีการพัฒนาคุณภาพที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก FDA สหรัฐอเมริกาและอย.ไทย นอกจากนี้โบลดกราม ยี่ห้อ Nabota ยังมีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ซึ่งช่วยให้ลดโอกาสการดื้อโบลดกรามได้ดี
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 3 วัน และเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : โบลดกรามยี่ห้อ Nabota ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
- เหมาะกับ : คนที่ต้องการลดกรามอย่างรวดเร็ว และต้องการผลลัพธ์ที่ไว
โบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Aestox
- จุดเด่น : เป็นโบลดกรามของเกาหลีรุ่นใหม่ที่พัฒนามาให้มีความบริสุทธิ์สูง ช่วยลดโอกาสการดื้อโบลดกรามได้ดี ได้รับการรับรองจากอย.ไทย
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : เริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 7 วัน และเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : โบลดกรามยี่ห้อ Aestox ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
- เหมาะกับ : คนที่ต้องการโบลดกรามคุณภาพดี ที่ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดกรามเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อให้การฉีดโบลดกรามมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- ก่อนฉีดโบลดกราม ควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน มีแพทย์ที่มีความรู้ด้านการฉีดโบ
- ก่อนฉีดโบลดกราม ควรแจ้งข้อมูลของสุขภาพทั้งหมด เช่น การแพ้ยา โรคประจำตัว และ ยาที่รับประทานประจำ
- ก่อนฉีดโบลดกราม งดยาแก้ปวดประเภทแอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือ ยากลุ่มต้านการอักเสบ ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดรอยช้ำ
- ก่อนฉีดโบลดกราม งดรับประทานอาหารเสริมหรือสมุนไพรบางชนิด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา โสม และแปะก๊วย ประมาณ 5-7 วัน
- ก่อนฉีดโบลดกราม งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำ
- ก่อนฉีดโบลดกราม หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวหน้า เช่น การผลัดเซลล์ผิวหรือเลเซอร์ 1-2 สัปดาห์
- ก่อนฉีดโบลดกราม ในวันนัดฉีดควรล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
- ก่อนฉีดโบลดกราม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
ขั้นตอนการฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
- แพทย์จะวิเคราะห์รูปหน้าและประเมินกล้ามเนื้อกราม เพื่อกำหนดปริมาณโบลดกรามและจุดฉีดที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการฉีดโบลดกรามอย่างทั่วถึงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- แพทย์จะทำการมาร์กจุดฉีดบนกราม ซึ่งมักจะเป็นตำแหน่งที่กล้ามเนื้อ Masseter หรือกล้ามเนื้อบดเคี้ยว
- ในบางกรณีแพทย์อาจใช้ยาชาหรือเจลประคบเย็นเพื่อลดบรรเทาความเจ็บปวด
- แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดโบเข้าไปยังบริเวณที่มาร์กจุดไว้ โดยเข็มจะถูกสอดเข้าไปในกล้ามเนื้อ Masseter ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งระยะเวลาในการฉีดในแต่ละจุดใช้เวลาไม่นาน โดยรวมทั้งหมดใช้ระยะเวลา 20 นาที
- หลังฉีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะตรวจสอบใบหน้าของอีกครั้ง เพื่อดูว่าโบลดกรามกระจายตัวในกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม
- แพทย์จะแนะนำก่อนดูแลตัวเองหลังฉีดโบลดกราม เพื่อให้โบออกฤทธิ์ได้ดีและปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
- หลังฉีดโบลดกราม หลีกเลี่ยงการนอนราบหรือนอนตะแคงในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งอื่น
- หลังฉีดโบลดกราม หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เช่น วิ่ง หรือ ยกน้ำหนัก
- หลังฉีดโบลดกราม หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือถูบริเวณกราม อย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรก
- หลังฉีดโบลดกราม งดการอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือการแช่น้ำร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- หลังฉีดโบลดกราม งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ในช่วง 24-48 ชั่วโมง
- หลังฉีดโบลดกราม งดการทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ บริเวณกรามในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- หลังฉีดโบลดกราม หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยว เช่น หมากฝรั่ง หรืออาหารแข็งมาก ๆ ในช่วง 3-4 วันแรก
- หลังฉีดโบลดกราม ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพราะจะช่วยให้โบออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หลังฉีดโบลดกราม ควรกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ เช่น การยิ้ม ในช่วง 1-2 วันแรก
คำถามพบบ่อยของการฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว
โบลดกราม ปรับหน้าเรียว อยู่ได้นานแค่ไหน?
- ผลลัพธ์ของการฉีดโบลดกรามจะเริ่มเห็นชัดเจนประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังฉีด และอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและพฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อของแต่ละคน
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เจ็บไหม?
- การฉีดโบลดกราม จะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยจากการถูกเข็มจิ้ม แต่ส่วนใหญ่แพทย์จะทำการทายาชาหรือประคบเย็นก่อนฉีดเพื่อลดความเจ็บระหว่างทำ
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผลถาวร?
- การฉีดโบลดกรามผลลัพธ์ไม่ถาวร สามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ แต่หากฉีดต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง โดยห่างกันทุก 4-6 เดือน กล้ามเนื้อกรามอาจเล็กลงถาวร เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ถูกใช้งานจนมีการลดขนาดแบบถาวรได้
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว อาจมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
- ผลข้างเคียงที่อาจพบหลังฉีดโบลดกรามได้ คือ มีอาการบวม หรือรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด และมีอาการตึงบริเวณกรามในช่วงแรก นอกจากนี้ยังสามารถพบอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว หากฉีดโบในปริมาณที่มากเกินไป ได้อีกด้วย
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว มีผลต่อการเคี้ยวอาหารไหม?
- ในช่วงแรกหลังฉีดโบลดกรามอาจรู้สึกเมื่อยหรือเคี้ยวอาหารแข็งได้ยากขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลต่อการเคี้ยวในระยะยาว
หยุดฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว กล้ามเนื้อกรามจะกลับมาใหญ่เหมือนเดิมไหม?
- หากหยุดฉีดโบลดกราม กล้ามเนื้อกรามจะค่อย ๆ กลับมาใหญ่ขึ้นตามการใช้งานปกติ แต่จะไม่ใหญ่ขึ้นกว่าขนาดเดิมก่อนฉีด
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว สามารถทำพร้อมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
- สามารถฉีดโบลดกรามควบคู่กับการทำหัตถการอื่นได้ เช่น การฉีดฟิลเลอร์หรือการทำเลเซอร์ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนหัตถการอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบต่อกัน
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ความสวยที่มาพร้อมความมั่นใจ
การฉีดโบลดกรามเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยขั้นตอนที่ปลอดภัยและไม่ยุ่งยาก ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าที่ดูเรียวเล็กลง ช่วยเสริมความมั่นใจอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้การเตรียมตัวและการดูแลหลังฉีดมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่สวยงามและยาวนาน
ที่สำคัญควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน พร้อมปรึกษาแพทย์ผู้มีความรู้เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการ เพื่อใบหน้าที่เรียวสวยในแบบที่ต้องการ พร้อมกับความมั่นใจในทุก ๆ วัน เพราะความงามที่ปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ การฉีดโบลดกรามจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ