อยากหุ่นกระชับ ใส่อะไรก็มั่นใจ แต่ไม่อยากอดข้าว หรือไม่มีเวลาออกกำลังกาย ปัจจุบันมีตัวช่วยดูแลรูปร่าง ลดสัดส่วน ลดไขมัน ที่สามารถทำโดยไม่ต้องอดอาหาร หรือออกกำลังกายอย่างหนัก บทความนี้จะพาไปรู้จัก เทคโนโลยีดูแลรูปร่างกระชับสัดส่วน ลดไขมัน โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่อยากดูดีแต่มีเวลาจำกัด หรือผู้ที่กำลังทองหาตัวช่วยในการดูแลรูปร่าง
ทำไมการดูแลรูปร่างจึงสำคัญ
รูปร่างที่ไม่สมส่วน อยากสร้างความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน การดูแลรูปร่างให้ดูกระชับและสมส่วน สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว เพิ่มความมั่นใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และช่วยเสริมสร้างสุขภาพกาย สุขภาพใจให้ดีขึ้น ทั้งนี้ การดูแลรูปร่างในปัจจุบันสามารถทำได้หลายวิธีเพื่อเข้ากับร่างกายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล
เทคโนโลยีช่วยดูแลรูปร่าง
การดูแลรูปร่างสามารถทำได้หลายวิธี อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ คือ การใช้เทคโนโลยีช่วยดูแลรูปร่าง ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดไขมัน ยกกระชับสัดส่วน และดูแลรูปร่างได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย และไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน เป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างสามารถดูแลตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดูแลรูปร่างด้วย Body Firm คืออะไร?
Body Firm ตัวช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง พร้อมลดไขมัน ด้วยเทคโนโลยีพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง หรือที่เรียกว่า HIFEM (High-Intensity Focused Electromagnetic) ซึ่งมีความเสถียรสูง ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อและลดไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวในคราวเดียวกัน
Body Firm จะทำงานโดยการส่งพลังงานลงไปยังชั้นกล้ามเนื้อและชั้นไขมัน เพื่อทำให้เกิดการหดเกร็งอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง (Supramaximal Contraction) คล้ายกับการออกกำลังกายอย่างหนัก จึงช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ลดไขมันสะสมในร่างกาย และยกกระชับรูปร่างให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม
ดูแลรูปร่างด้วย Body Firm สร้างกล้ามเนื้อ พร้อมลดไขมันในครั้งเดียว
Body Firm สามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เสริมสร้างความแข็งแรง ทั้งยังช่วยลดไขมันส่วนเกิน และกระชับรูปร่างได้พร้อมกัน ซึ่งการทำ Body Firm 30 นาที เทียบเท่ากับการซิทอัพประมาณ 20,000 ครั้ง จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย และผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างให้สวยงาม
แนะนำให้เข้ารับบริการ Body Firm อย่างน้อย 4-6 ครั้ง หรือตามคำแนะนำของแพทย์ และหลังทำ Body Firm จะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณ 1–2 เดือน ควรทำควบคู่กับการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและต่อเนื่อง
ดูแลรูปร่างด้วย Body Firm ช่วยอะไรบ้าง?
Body Firm เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองว่าไม่อันตราย สามารถส่งพลังงานลงชั้นกล้ามเนื้อและชั้นไขมันได้ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณรอบข้าง ซึ่ง Body Firm มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายด้าน ดังนี้
- เสริมสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะจุด
Body Firm สามารถช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะจุดได้ เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือก้น โดย Body Firm จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งในระดับลึก ส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น และมีความแข็งแรงมากขึ้น
- เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscle)
การเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว จะช่วยให้เสริมความสมดุลให้กับร่างกาย ทั้งยังช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการเคลื่อนไหว หรืออาการปวดหลังล่างได้
- กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
Body Firm สามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันสะสมเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยทำให้สัดส่วนดูเล็กลง และระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้เต็มที่มากขึ้นแม้ในช่วงที่ร่างกายพัก
- ลดไขมันสะสมเฉพาะจุด
สำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุด ทำให้ไม่มีความมั่นใจ Body Firm สามารถลงได้ถึงชั้นไขมัน ช่วยลดไขมันสะสมเก่าได้หลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน หรือสะโพก ทำให้รูปร่างดูมีความกระชับมากขึ้น
- ลดไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
ไขมันช่องท้อง เป็นไขมันที่แทรกอยู่ตามอวัยวะสำคัญภายในร่างกาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ Body Firm สามารถช่วยลดได้ทั้งไขมันใต้ชั้นผิว และไขมันช่องท้องได้ ทำให้รูปร่างดูกระชับ และสุขภาพดีขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย
ผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย Body Firm สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากขึ้น จึงช่วยทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น ลดอาการเหนื่อยหอบระหว่างออกกำลังกาย การเคลื่อนไหวดีขึ้น และทำให้ร่างกายใช้พลังงานได้มากขึ้น
- ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
การเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง สามารถช่วยลดโอกาสในการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการใช้ร่างกายหนัก และยังช่วยพยุงข้อและกระดูกได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงและสดใส
- ลดอาการปวดหลังเรื้อรัง
การเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวโดยเฉพาะหน้าท้องและหลังส่วนล่าง ช่วยรองรับกระดูกสันหลังได้ดีขึ้น จึงสามารถช่วยลดอาการปวดหลังจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้
- กระชับรูปร่างและสัดส่วน
Body Firm สามารถช่วยลดไขมัน พร้อมกระชับสัดส่วนให้ดูเล็กลงได้ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณหน้าท้อง ก้น สะโพก ต้นแขน และต้นขา ดูแลรูปร่างให้ดูเฟิร์ม สัดส่วนได้รูปมากขึ้น
- ลดความหย่อนคล้อยของผิว
ไขมันส่วนเกินที่ลดลง อาจก่อให้เกิดผิวที่หย่อนคล้อย Body Firm จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อพร้อมกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้แน่น และเต่งตึงมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือประวัติการรักษา ก่อนเข้ารับการบริการดูแลรูปร่างด้วย Body Firm

ดูแลรูปร่างด้วย Duo Slim Max คืออะไร?
Duo Slim Max คือ เทคโนโลยีช่วยลดไขมันส่วนเกินและยกกระชับผิวในคราวเดียวกัน ด้วยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) และคลื่นเสียง Continuous Ultrasound ที่ส่งพลังงานลงได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และจัดเรียงโมเลกุลคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวดีขึ้น พร้อมช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ลดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดได้พร้อมกัน ส่งผลให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยและเซลลูไลท์ พร้อมปรับรูปร่างให้กระชับได้สัดส่วน
ดูแลรูปร่างด้วย Duo Slim Max ลดไขมัน ยกกระชับ ในขั้นตอนเดียว
Duo Slim Max เป็นการส่งพลังงาน Monopolar RF และคลื่นเสียง Continuous Ultrasound ลงไปยังชั้นผิวหนังและชั้นไขมันที่อยู่ลึกลงไปมากกว่า 2.5 เซนติเมตร เพื่อช่วยลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยดูแลรูปร่างให้สัดส่วนดูกระชับ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวดูเรียบเนียน ริ้วรอยและเซลลูไลท์ดูจางลง โดยไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน สามารถทำได้หลายบริเวณในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า และลำตัว เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก
ดูแลรูปร่างด้วย Duo Slim Max ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
Duo Slim Max เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างให้มีความกระชับ พร้อมลดไขมัน โดยไม่ต้องผ่าตัด โดย Duo Slim Max มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายด้าน ดังนี้
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
ด้วยพลังงาน RF และ Ultrasound สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวและช่วยให้โมเลกุลสามารถเรียงตัวได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง และดูเฟิร์มมากขึ้น
- ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อย
Duo Slim Max ช่วยฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย และช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ให้กลับมากระชับ เรียบเนียนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บริเวณใบหน้า ลำคอ หรือบริเวณลำตัว
- ลดไขมันเฉพาะจุด
Duo Slim Max สามารถลดไขมันสะสมในบริเวณที่ลดได้ยาก หรือมีไขมันดื้อเฉพาะจุดได้ เช่น ต้นแขน หน้าท้อง สะโพก นมน้อย และต้นขา โดยไม่ต้องผ่าตัดดูดไขมัน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- ดูแลรูปร่างให้กระชับได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
Duo Slim Max เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน พร้อมลดไขมันได้พร้อมกัน โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือใช้วิธีรุกราน ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้น
- กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง
พลังงาน Duo Slim Max จะถูกส่งลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ และชั้นไขมัน ทำให้ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และระบบน้ำเหลืองให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกได้ดีขึ้น
- ส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน
Duo Slim Max ช่วยเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ไขมันสะสมถูกนำไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น และทำให้สัดส่วนดูเล็กลง
- ลดเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม
ผู้ที่มีปัญหาผิวแตกลาย หรือมีเซลลูไลท์ บริเวณต้นขา สะโพก และหน้าท้อง Duo Slim Max ดูแลรูปร่าง สามารถช่วยลดปัญหาผิว ที่เกิดจากเซลลูไลท์ ให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวางแผนการรักษาดูแลรูปร่างด้วย Duo Slim Max เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามต้องการ

ดูแลรูปร่างด้วย Slim & Slender คืออะไร?
Slim & Slender หรือเปปไทด์คุมหิวที่พัฒนามาเพื่อเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ซึ่งเป็นฮอร์โมนในร่างกาย โดยมีบทบาทสำคัญ คือ ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความรู้สึกอิ่มไว พร้อมช่วยชะลอการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น เนื่องจากอาหารอยู่ในกระเพาะได้นาน นอกจากนี้ Slim & Slender ยังสามารถช่วยควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ลดความโหยอาหาร ลดการกินจุบจิบระหว่างวัน และช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน และลดการหลั่งของกลูคาคอน ทำให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ลดไขมัน และดูแลรูปร่าง
ดูแลรูปร่างด้วย Slim & Slender ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
Slim & Slender หรือเปปไทด์คุมหิว ไม่ได้มีดีแค่ช่วยลดพุงหรือดูแลรูปร่างเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม เนื่องจากเป็นเปปไทด์ที่เลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-Like Peptide-1) ที่มีบทบาทสำคัญหลายอย่างในร่างกาย ดังนี้
- ช่วยลดความอยากอาหาร
Slim & Slender จะเข้าไปกระตุ้นสมองให้รับรู้ถึงความอิ่ม ทำให้อิ่มได้เร็วและนานขึ้น และยังช่วยลดความโหยอาหาร ช่วยให้กินอาหารได้น้อยลง โดยไม่ต้องอด
- ปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร
Slim & Slender สามารถช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหารได้ เนื่องจากสามารถควบคุมปริมาณอาหารให้พอดีในแต่ละมื้อ จึงช่วยลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ และแน่นท้อง ที่เกิดจากการกินอาหารที่มากเกินไป
- กระตุ้นการเผาผลาญไขมันสะสม
Slim & Slender สามารถช่วยกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึม หรือระบบเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันสะสม โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก จึงทำให้รูปร่างดูกระชับและได้สัดส่วนมากขึ้น
- ลดไขมันสะสมส่วนเกิน
Slim & Slender สามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารและช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้ลดการสะสมของไขมันในร่างกาย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันดื้อ ลดยาก แม้ออกกำลังกาย
- ปรับพฤติกรรมการกินในระยะยาว
การดูแลรูปร่างด้วย Slim & Slender จะสามารถช่วยปรับพฤติกรรมการกินจุบจิบระหว่างวัน ลดความโหย เนื่องจากสามารถควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อได้ดีขึ้น และยังทำให้รู้สึกอิ่มนาน
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
Slim & Slender ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน และลดการหลั่งของกลูคากอน ทำให้ร่างกายสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการควบคุมน้ำหนัก ดูแลรูปร่าง และดูแลสุขภาพโดยรวม
- ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
Slim & Slender สามารถช่วยควบคุมการหลังของอินซูลินและกลูคากอนในร่างกายได้ จึงทำให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือก และยังช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากความไม่สมดุลของน้ำตาลในเลือด เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน หรือภาวะไขมันในเลือดสูง
ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวางแผนการรักษาดูแลรูปร่างด้วย Slim & Slender เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามต้องการ

ดูแลรูปร่างด้วย Fit Shape Body คืออะไร?
Fit Shape Body คือ เทคโนโลยีที่ช่วยดูแลรูปร่าง และลดไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Fit Shape Body จะใช้คลื่นวิทยุความถี่เฉพาะ หรือ Capacitive Resistive Monopolar Radiofrequency (CRMRF) ที่ความถี่ 448 kHz ที่สามารถส่งพลังงานให้ลงลึกสู่ชั้นใต้ผิวหนังได้หลายระดับ โดยเป็นความถี่ที่มีความเสถียร และไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อในร่างกาย Fit Shape Body ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต เพิ่มประสิทธิภาพของการเผาผลาญ และเร่งกระบวนการขับของเสียออกจากร่างกาย ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และช่วยฟื้นฟูการทำงานของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายได้ครอบคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เช่น บริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นแขน หรือต้นขา โดยไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน พร้อมดูแลสุขภาพภายในร่างกาย
ดูแลรูปร่างด้วย Fit Shape Body ทำงานอย่างไร?
เทคโนโลยีที่ใช้ใน Fit Shape Body คือ Capacitive Resistive Monopolar Radiofrequency (CRMRF) เป็นคลื่นวิทยุความถี่ 448 kHz ซึ่งมีความเสถียรสูง และได้รับการยอมรับทางการแพทย์มานานกว่า 35 ปี โดยคลื่นนี้สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังหลายระดับ ทำให้สามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานของเซลล์เนื้อเยื่อ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ พร้อมช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น จึงไม่ใช่เพียงแค่การดูแลรูปร่างเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพได้พร้อมกัน
ดูแลรูปร่างด้วย Fit Shape Body ช่วยเรื่องอะไร?
Fit Shape Body ไม่เพียงแค่ช่วยลดไขมันส่วนเกินเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลรูปร่างและผิวพรรณได้อย่างครอบคลุม ด้วยพลังงานคลื่นวิทยุที่ลงได้ลึกหลายระดับ จึงช่วยปรับสมดุลการเผาผลาญ พร้อมดูแลสุขภาพในหลายด้าน ดังนี้
- ลดไขมันใต้ผิวหนังและในช่องท้อง
Fit Shape Body ดูแลรูปร่าง สามารถช่วยลดได้ทั้งไขมันสะสมใต้ผิว (Subcutaneous Fat) และไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งเป็นไขมันอันตรายที่แทรกอยู่รอบอวัยวะภายใน เช่น ตับ ลำไส้ และกระเพาะอาหาร ทำให้รูปร่างและสุขภาพดีขึ้น
- ลดไขมันเฉพาะจุดที่ลดยาก
Fit Shape Body เป็นพลังงานที่สามารถลงได้ลึกถึงชั้นไขมัน จึงสามารถช่วยลดไขมันเฉพาะจุด ดูแลรูปร่างได้ เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือบริเวณที่ไขมันดื้อ ลดยากแม้ออกกำลังกาย
- ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
Fit Shape Body ช่วยดูแลรูปร่าง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยดูแน่นกระชับขึ้น ริ้วรอยตื้น ๆ ดูจางลง สามารถทำได้หลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณใบหน้า ลำคอ แขน หรือหน้าท้องสำหรับคุณแม่หลังคลอด
- ดูแลรูปร่างให้ได้สัดส่วนที่ต้องการ
Fit Shape Body ช่วยดูแลรูปร่าง พร้อมลดสัดส่วนให้ได้ตามต้องการ เช่น ลดรอบเอว กระชับสะโพก ลดต้นแขน ต้นขา จึงทำให้รูปร่างดูสวยงาม สัดส่วนดูกระชับขึ้น
- ลดเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้ม
Fit Shape Body ช่วยลดไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนังซึ่งเป็นต้นเหตุของผิวขรุขระ หรือผิวเปลือกส้ม โดยจะทำให้ผิวจะดูเรียบเนียน และกระชับขึ้นหลังทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยดูแลรูปร่างกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ ทำให้รอยแผลเป็นดูจางลง ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้น
- กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเมตาบอลิซึม หรือระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดีมากขึ้น ช่วยให้ร่างกายสามารถนำพลังงานไขมันสะสมออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ พร้อมช่วยดูแลรูปร่าง และควบคุมน้ำหนักได้ในระยะยาว
- ฟื้นฟูเนื้อเยื่อในระดับเซลล์
ดูแลรูปร่างด้วยคลื่น CRMRF สามารถช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายในร่างกายให้แข็งแรงได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ หรือบริเวณที่มีความบอบบางหรืออ่อนแอให้กลับมาแข็งแรง ช่วยลดการอักเสบและระคายเคืองของผิว ลดอาการแดง ร้อน และผิวไม่เรียบเนียนได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือมีปัญหาผิวอักเสบ
- ลดอาการปวด บวม และฟื้นฟูหลังศัลยกรรม
สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายหลังทำศัลยกรรม หรือผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดนั้น Fit Shape Body สามารถช่วยลดอาการบวมช้ำ พร้อมทั้งช่วยให้แผลหายไวขึ้นได้
ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวางแผนการรักษาดูแลรูปร่างด้วย Fit Shape Body เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามต้องการ

ดูแลรูปร่างบริเวณไหนได้บ้าง?
- บริเวณหน้าท้อง การลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องหรือพุง จะช่วยทำให้รูปร่างดูกระชับ และหน้าท้องดูแบนราบ นอกจากนี้การสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องจะช่วยทำให้มีซิกแพค หรือร่อง 11 ได้
- บริเวณเอวและรอบเอว การลดไขมันหรือลดความกว้างของรอบเอว จะช่วยทำให้เอวดูคอด และช่วยทำให้ได้รูปร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง มีสัดส่วนทรงนาฬิกาทรายได้
- บริเวณสะโพก การลดไขมันด้านข้างสะโพก จะช่วยทำให้ส่วนเว้าส่วนโค้งดูชัดเจนขึ้น ทั้งยังช่วยยกกระชับให้สัดส่วนดูสวยงามขึ้น
- บริเวณต้นขาด้านในและด้านนอก การลดไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์บริเวณต้นขา จะช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขาดูกระชับ และเรียวขึ้น ช่วยลดปัญหาขาเบียด
- บริเวณต้นแขน การลดไขมันบริเวณต้นแขน สามารถช่วยแก้ปัญหาต้นแขนใหญ่ ทั้งยังช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณต้นแขนให้ได้รูปมากขึ้น
- บริเวณหลัง การลดไขมันที่อยู่บริเวณแผ่นหลัง หรืออยู่รอบ ๆ แนวสายเสื้อชั้นใน หรือปีกหลัง สามารถช่วยให้แผ่นหลังเรียบขึ้น ไม่มีเนื้อปลิ้น ทำให้ใส่เสื้อผ้าได้สวยงามขึ้น
- บริเวณก้น การลดไขมันใต้ก้น หรือใต้ร่องบิกินี จะช่วยยกกระชับก้นให้ได้รูป ลดความหย่อนคล้อย
- บริเวณใต้คางและกรอบหน้า การลดไขมันใต้คางหรือเหนียง จะช่วยทำให้หน้าดูเรียว พร้อมกระชับกรอบหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น
- บริเวณลำคอ ลดไขมันสะสมและกระชับผิวบริเวณลำคอ สามารถช่วยแก้ปัญหาคอเหี่ยวย่น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวบริเวณนี้ได้
วิธีประเมินรูปร่างเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ดูแลรูปร่างให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการนั้น สิ่งที่ควรทำคือ การประเมินรูปร่างของตัวเอง เพื่อดูว่ารูปร่างอยู่ในเกณฑ์สมส่วนหรือมีไขมันสะสมเกินกว่าปกติหรือไม่ เพื่อให้เราสามารถดูแลรูปร่างได้ถูกจุด ซึ่งการประเมินรูปร่างสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
- วัดดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นวิธีประเมินรูปร่างที่ทำได้ง่าย ๆ ซึ่ง BMI (Body Mass Index) เป็นค่ามาตรฐานที่ใช้วัดความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักและส่วนสูงของร่างกาย โดยมีสูตรการคำนวณ คือ น้ำหนัก (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เมตร)²
- วัดรอบเอวและรอบสะโพก (Waist-Hip Ratio: WHR) เป็นการประเมินรูปร่างโดยการวัด รอบเอวและสะโพก ซึ่งสามารถช่วยประเมินไขมันสะสมรอบหน้าท้อง ทั้งยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของโรคและระบบเผาผลาญได้ โดยสูตรการคำนวณ คือ WHR = รอบเอว (ซม.) ÷ รอบสะโพก (ซม.)
- สังเกตสัดส่วนร่างกายจากกระจก เป็นวิธีการประเมินรูปร่างที่ทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องคำนวณ วิธีทำ คือ การสังเกตรูปร่างของตัวเองหน้ากระจก โดยใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือชุดที่สามารถเห็นสัดส่วนในร่างกายได้ชัดเจน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้รู้จุดที่ควรดูแลเพิ่มเติม เช่น ลดหน้าท้อง หรือยกกระชับต้นแขน ต้นขา
- ใช้เครื่องวัดองค์ประกอบร่างกาย หากต้องการข้อมูลเชิงลึกในการดูแลรูปร่าง สามารถใช้เครื่องวัดองค์ประกอบร่างกาย (Body Composition Analyzer) ในการประเมินรูปร่างได้ เช่น เครื่อง InBody ที่สามารถแสดงค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น มวลกล้ามเนื้อ มวลไขมัน ปริมาณน้ำในร่างกาย เปอร์เซ็นต์ไขมัน (Body Fat %) และค่าการเผาผลาญพลังงานพื้นฐาน (BMR) ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตามผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
วิธีดูแลรูปร่างให้สมส่วน มีกี่วิธี?
การมีรูปร่างที่สมส่วน ไม่ใช่เพียงแค่การลดน้ำหนักเพียงชั่วคราว แต่เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในระยะยาว โดยแต่ละคนก็จะมีวิธีที่เหมาะสมกับร่างกายและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งการดูแลรูปร่างและสุขภาพสามารถควรทำหลายวิธีควบคู่กัน ดังนี้
- ดูแลรูปร่างด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ดูแลรูปร่างด้วยการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- ดูแลรูปร่างด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ดูแลรูปร่างด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ดูแลรูปร่างด้วยการลดความเครียดในชีวิตประจำวัน
- ดูแลรูปร่างด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีหรือเสริม เช่น เครื่องกระชับสัดส่วน หรือลดไขมันเฉพาะจุด
- ดูแลรูปร่างด้วยการเลือกใช้เปปไทด์คุมหิว ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน และดูแลสุขภาพ
ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรูปร่าง ปริมาณไขมัน ร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล ควรเลือกการดูแลรูปร่างและปรับให้เหมาะกับร่างกายกายของตัวเอง เพื่อที่จะสามารถลดไขมันและดูแลสุขภาพไปพร้อมกันในระยะยาว และได้ผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการ
สรุป
การดูแลรูปร่าง สามารถทำได้หลายวิธีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ ตลอดจนการใช้ตัวช่วยอย่างเทคโนโลยีลดไขมัน กระชับสัดส่วน ที่มีให้เลือกมากมาย เช่น Fit Shape Body, Duo Slim Max, Body Firm หรือ Slim & Slender เปปไทด์คุมหิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการ สำหรับใครที่อยากดูแลรูปร่าง สามารถเข้ามาปรึกษาและสอบถามได้ที่ รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

