หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? รวมวิธีคืนความกระชับ

ใบหน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร

หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? รวมวิธีคืนความกระชับให้ผิวหน้าแบบได้ผลระยะยาว

ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเป็นสัญญาณแห่งวัยที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ทำให้ผิวขาดความกระชับและเกิดริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอก เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต แสงแดด มลภาวะ และความเครียด ก็ส่งผลให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง

 

หากคุณกำลังมองหาวิธี แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยให้กลับมายกกระชับขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักทั้งวิธีธรรมชาติที่สามารถทำได้เองที่บ้าน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมและตอบโจทย์สภาพผิวของตัวเองได้ดี

 

หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? วิธีไหนเหมาะกับเรา?
หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? วิธีไหนเหมาะกับเรา?

 

หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? วิธีไหนเหมาะกับเรา?

เทคโนโลยีช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

เทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน โดยแต่ละเทคโนโลยีมีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

 

  • เทคโนโลยีโปรแกรม Ultherapy Prime

โปรแกรม Ultherapy Prime เป็นเทคโนโลยีอัลตราซาวนด์เพื่อการยกกระชับผิว ที่พัฒนาขึ้นจาก Ulthera SPT  ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แม่นยำมากขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น เทคโนโลยีนี้ใช้พลังงาน Micro-Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการดึงหน้า ส่งผลให้ผิวหดตัวและกระชับขึ้นทันที พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อฟื้นฟูผิวในระยะยาว

จุดเด่นของเทคโนโลยีโปรแกรม Ultherapy Prime

  • ยกกระชับได้ลึกถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการศัลยกรรมดึงหน้าแต่ไม่ต้องการพักฟื้น
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผิวเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ระบบประมวลผลเร็วขึ้น 20% ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีการทำงานที่รวดเร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาการทำหัตถการ ส่งผลให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายขึ้น และลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ
  • หน้าจอ Full HD ขนาดใหญ่ขึ้น 35% พร้อมความละเอียดสูง ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวได้อย่างคมชัดและแม่นยำมากขึ้น ช่วยให้พลังงานถูกส่งไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง
  • ดีไซน์ล้ำสมัยและใช้งานสะดวกขึ้น ตัวเครื่องถูกออกแบบใหม่ให้มีขนาดกะทัดรัดและทันสมัยขึ้น ช่วยให้แพทย์ใช้งานสะดวกมากขึ้นในทุกขั้นตอนของการรักษา
  • ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที

 

  • เทคโนโลยีโปรแกรม Thermage FLX

โปรแกรม Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้ พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบ Monopolar RF เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูความกระชับของผิว โดยพลังงานความร้อนจะถูกส่งลงลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นให้คอลลาเจนหดตัวทันทีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูตึงขึ้น เรียบเนียนขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

จุดเด่นของเทคโนโลยีโปรแกรม Thermage FLX

  • โปรแกรม Thermage FLX ได้รับการพัฒนาให้ทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยหัวทิปรุ่นใหม่สามารถปล่อยพลังงานได้เร็วขึ้นถึง 25% และครอบคลุมพื้นที่การรักษากว้างขึ้นถึง 33% ทำให้สามารถทำหัตถการได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้เวลาน้อยลง
  • ความแม่นยำสูงด้วยเทคโนโลยี AccuREP™ ระบบอัจฉริยะที่สามารถตรวจวัดความต้านทานของผิวได้แบบ Real Time และปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับโครงสร้างผิวของแต่ละบุคคล ช่วยให้ผลลัพธ์แม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  • โปรแกรม Thermage FLX มาพร้อม ระบบสั่น (Vibration Technology) และ Cooling System ที่ช่วยลดอาการเจ็บระหว่างทำหัตถการ ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวมากขึ้น

 

  • เทคโนโลยีโปรแกรม Ultraformer MPT

โปรแกรม Ultraformer MPT (Ultraformer Micro-Pulse Technology) เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงาน คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์แบบเฉพาะจุด (Focused Ultrasound) โดยมี 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ Micro Focused Ultrasound ที่ช่วยยกกระชับและฟื้นฟูผิว และ Macro Focused Ultrasound ที่สามารถช่วยลดไขมันใต้ผิว เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาให้สามารถดูแลปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย หรือช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ทั้งหมดนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องฉีดสารเติมเต็ม ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น

จุดเด่นของเทคโนโลยีโปรแกรม Ultraformer MPT

  • โปรแกรม Ultraformer MPT มาพร้อมกับ 4 โหมดการปล่อยพลังงานที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการรักษาผิวในแต่ละพื้นที่ ได้แก่ Normal Mode, Mp Mode, Circular Dot และ Micro circular
  • เโปรแกรม Ultraformer MPT มีหัวปล่อยพลังงานที่สามารถปรับความลึกได้ถึง 7 ระดับ (1.5 mm, 2 mm, 3 mm, 4.5 mm, 6 mm, 9 mm และ 13 mm) ทำให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล และสามารถรักษาได้ทั้งชั้นผิวตื้นและลึก
  • ระบบการยิงพลังงานได้รับการพัฒนาให้เร็วขึ้นถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้ระยะเวลาในการทำหัตถการสั้นลง โดยเฉลี่ยใช้เวลาเพียง 15-30 นาที เท่านั้น
  • เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องผ่าตัด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันทีหลังทำ
  • ลดความรู้สึกไม่สบายขณะทำ ด้วยเทคโนโลยี Micro Pulse Mode ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการรักษา ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายขึ้น

 

  • เทคโนโลยีโปรแกรม Oligio

โปรแกรม Oligio เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวและช่วยลดไขมันใต้ชั้นผิว โดยใช้พลังงาน คลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ที่มีความถี่ 6.78 MHz พลังงานที่ปล่อยออกมาจะช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดเลือนริ้วรอย พร้อมทั้งช่วยกระชับรูขุมขน และสลายไขมันส่วนเกินใต้ผิว ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของเทคโนโลยีโปรแกรม Oligio

  • โปรแกรม Oligio มาพร้อมระบบ Vibration Technology ที่ช่วยลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างทำหัตถการ 
  • ระบบ Cooling System ที่ช่วยปกป้องผิวชั้นนอกจากพลังงานความร้อนของ Monopolar RF ทำให้พลังงานถูกส่งลงไปยังชั้นผิวลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน
  • ระบบ Auto Mode ซึ่งช่วยให้การทำงานมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ หัวทิปสำหรับใบหน้ามีขนาดกว้างถึง 4 ซม. ทำให้สามารถครอบคลุมพื้นที่การรักษาได้มากขึ้น ช่วยลดเวลาในการทำโดยยังคงให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
  • โปรแกรม Oligio มาพร้อม Real-Time Temperature Monitoring ที่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิของผิวหนังแบบเรียลไทม์ หากอุณหภูมิสูงเกิน 43°C เครื่องจะหยุดทำงานอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการไหม้ของผิว
  • ระบบ Pressure Sensing System ที่ช่วยตรวจสอบแรงกดของหัวทิปกับผิวหนัง หากหัวทิปไม่แนบสนิทกับผิว เครื่องจะปรับการทำงานเพื่อลดโอกาสเกิดการเผาไหม้ของผิว
  • ใช้งานสะดวก ปรับโหมดได้หลากหลาย ได้แก่ Single Mode, Double Mode และ Auto Mode

 

  • เทคโนโลยีโปรแกรม Morpheus8

โปรแกรม Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีความงามที่ใช้หลักการ Fractional RF Microneedling ซึ่งเป็นการผสานระหว่าง การใช้เข็มขนาดเล็ก (Microneedling) และ พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลึกได้ถึง 8 มม. ทำให้ผิวมีความตึงกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น

จุดเด่นของเทคโนโลยีโปรแกรม Morpheus8

  • เทคโนโลยี Fractional Microneedle RF กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว โดยสามารถลงลึกได้ถึง 4 มม. ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างมีประสิทธิภาพ
  • สามารถปรับระดับความลึกได้ตามต้องการ ตั้งแต่ 1-4 มม. ทำให้สามารถเข้าถึงทั้ง ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
  • โปรแกรม Morpheus8 ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็น และกระชับรูขุมขน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ส่งเสริมให้ผิวผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้น ทำให้ผิวดู เฟิร์ม กระชับ และยืดหยุ่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • สามารถทำได้ในหลายส่วนของร่างกาย เช่น หน้าผาก ใต้ตา คิ้ว ขมับ ร่องแก้ม ใต้คาง และลำคอ รวมไปถึงบริเวณร่างกาย ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างทั่วถึง

 

  • เทคโนโลยีโปรแกรม EMFACE

โปรแกรม EMFACE เป็นเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าที่ไม่ต้องใช้เข็มและไม่ต้องผ่าตัด โดยอาศัยการทำงานร่วมกันของ Synchronized RF (Radiofrequency) และ HIFES™ (High-Intensity Focused Electrical Stimulation) เพื่อช่วยฟื้นฟูทั้งผิวและกล้ามเนื้อบนใบหน้าไปพร้อมกัน พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูเรียบเนียนขึ้น ในขณะที่ HIFES™ ทำหน้าที่กระตุ้นกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้แข็งแรงขึ้น ยกกระชับขึ้น และช่วยลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของเทคโนโลยีโปรแกรม EMFACE

  • เทคโนโลยี HIFES™ และ Synchronized RF ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวตึงกระชับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • นี้สามารถเข้าลึกได้ถึงชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าดูได้รูปและกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่งขึ้น
  • ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และร่องแก้ม ให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และช่วยยกกระชับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

 

หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? รวมวิธีคืนความกระชับ

หัตถการช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

  • โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ช่วยเติมเต็มส่วนที่สูญเสียไขมันใต้ผิว ซึ่งมักเกิดขึ้นตามวัย ส่งผลให้ใบหน้าดูตอบและมีริ้วรอยมากขึ้น โดยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ในบริเวณต่าง ๆ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ขมับ และคาง เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเต่งตึงขึ้น โดยใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูงและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

  • โปรแกรมฉีดโบ

โปรแกรมฉีดโบเป็นหัตถการที่ช่วยลดริ้วรอย ซึ่งเกิดมาจากการแสดงออกทางสีหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก หางตา และรอยขมวดคิ้ว โดยช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและลดการเกิดรอยพับบนผิวหนัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคนิค Nefertiti Lift เพื่อยกกระชับกรอบหน้า โดยการฉีดสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อลงที่แนวกรามและลำคอ ทำให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม

  • โปรแกรมร้อยไหม

โปรแกรมร้อยไหมเป็นเทคนิคการยกกระชับใบหน้าที่ใช้ไหมละลายชนิดพิเศษ โดยแพทย์จะสอดไหมเข้าไปใต้ผิวเพื่อช่วยยกกระชับ และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ไหมที่ใช้สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และช่วยให้ผิวกระชับขึ้นในระยะยาว ผลลัพธ์ของการร้อยไหม สามารถอยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทไหมและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

  • โปรแกรมฉีดไขมัน

เป็นหัตถการที่ใช้ไขมันของตัวเองมาฉีดเติมเต็มบริเวณที่มีปัญหาผิวตอบ เช่น แก้ม ขมับ หรือใต้ตา โดยแพทย์จะทำดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา แล้วนำมาผ่านกระบวนการคัดแยกเพื่อให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพสูง จากนั้นจึงฉีดกลับเข้าไปยังใบหน้า วิธีนี้ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแพ้หรือผลข้างเคียงต่าง ๆ

 

วิธีไหนเหมาะสมในการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

  • ระดับหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อย

ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย มักพบในกลุ่มคนที่อายุ 20-35 ปี หรือเริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อยที่ยังไม่ชัดเจนมาก การดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติและเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันปัญหาผิวได้ มีดังนี้

  • การใช้เทคโนโลยียกกระชับ เช่น โปรแกรม Oligio ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเต่งตึงขึ้น หรือ โปรแกรม Ultraformer MPT ที่ช่วยยกกระชับผิวชั้นลึกโดยไม่ต้องใช้เข็ม
  • ระดับหน้าหย่อนคล้อยปานกลาง

ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลาง มักอยู่ในช่วงอายุ 35-50 ปี โดยเริ่มมีริ้วรอยและผิวที่หย่อนคล้อยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การดูแลด้วยเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงชั้นลึกของผิวและหัตถการเสริมความงามที่เหมาะสม มีดังนี้

  • การทำโปรแกรม Ulthera Prime ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถส่งพลังงานลงไปยกกระชับชั้น SMAS ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงการดึงหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด
  • การทำโปรแกรม Thermage FLX ซึ่งช่วยลดไขมันสะสมและกระชับผิวได้ดี
  • การทำโปรแกรม Morpheus8 ซึ่งผสานเทคโนโลยี Microneedling+RF เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและปรับสภาพผิว
  • โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มบริเวณที่มีการสูญเสียไขมัน เช่น ขมับ ใต้ตา และร่องแก้ม
  • โปรแกรมฉีดโบเพื่อช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น หน้าผาก ตีนกา และร่องลึกระหว่างคิ้ว
  • โปรแกรมร้อยไหมเพื่อช่วยยกกระชับใบหน้าในทันที
  • ระดับหน้าหย่อนคล้อยมาก

สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยรุนแรง ซึ่งมักเกิดในกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยอย่างชัดเจน อาจต้องใช้วิธีที่ให้ผลลัพธ์ระยะยาวและเข้มข้นมากขึ้น โดยวิธีที่แนะนำมีดังนี้

  • การทำโปรแกรม EMFACE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าและฟื้นฟูโครงสร้างผิวโดยไม่ต้องใช้เข็มหรือผ่าตัด
  • การทำโปรแกรม Ulthera Prime ร่วมกับ Thermage FLX เพื่อเสริมประสิทธิภาพทั้งการยกกระชับผิวและลดไขมันสะสม
  • การทำโปรแกรมฉีดไขมันเพื่อเติมเต็มใบหน้าที่มีการสูญเสียไขมันตามธรรมชาติ
  • การทำโปรแกรมร้อยไหม สามารถช่วยให้ผิวกระชับได้ยาวนานขึ้น
  • การทำโปรแกรม Face Lift เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและคงอยู่ได้นาน
  • การทำโปรแกรม Mini Face Lift ซึ่งเป็นการดึงหน้าแบบแผลเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับผิว โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน

 

การแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะกับใครบ้าง?
การแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะกับใครบ้าง?

 

หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? รวมวิธีคืนความกระชับ

การแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะกับใครบ้าง?

  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25-50 ปี
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า ให้กระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก และเนื้อแก้มหายไป
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางสองชั้นหรือแนวกรามหย่อนคล้อย
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้นและคอลลาเจนลดลงตามธรรมชาติ
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่น้ำหนักลดลงมากเกินไป
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ใบหน้าดูเหนื่อยล้า มีริ้วรอย
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หรือไขมันสะสมบนใบหน้า
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีพันธุกรรมทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็ว
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์มากเกินไปจนใบหน้าดูหย่อนคล้อยผิดธรรมชาติ
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่เคยดึงหน้าหรือร้อยไหมมาก่อนแล้วต้องการรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้นานขึ้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดด
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะผิวหย่อนคล้อยจากฮอร์โมน
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเหนียงและลำคอหย่อนคล้อย

 

หมายเหตุ:

ผลลัพธ์จากการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว อายุ ปัญหาผิวเฉพาะบริเวณ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังรับบริการ

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการ แนะนำให้เข้ารับการตรวจประเมินกับแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

 

การแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางและแพ้ง่ายมาก
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินไป
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด เช่น ผู้ที่มี เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Diseases) เช่น SLE หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบ หรือโรคผิวหนังเรื้อรัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีบาดแผลเปิด รอยถลอก หรือแผลติดเชื้อ
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด หรือรับประทานยาต้านเกล็ดเลือด
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้หรือไวต่อสารบางชนิด
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสบนผิวหนัง
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุยังน้อยเกินไปและไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจริง ๆ
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลเป็นคีลอยด์ หรือมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นง่าย
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล หรือมีโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบต่อมไร้ท่อ
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้องอกหรือมีก้อนผิดปกติบริเวณใบหน้า
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่โรคกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด

 

คำแนะนำ:
ก่อนเข้ารับบริการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย แนะนำให้เข้ารับการประเมินโดยแพทย์ประจำคลินิกทุกครั้ง เพื่อให้สามารถตรวจสอบสภาพผิว สุขภาพร่างกายโดยรวม และพิจารณาปัจจัยเฉพาะบุคคลที่อาจมีผลต่อแนวทางการรักษา

 

โดยเฉพาะในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรือข้อจำกัดด้านสุขภาพบางประการ การปรึกษาแพทย์จะช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด และเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด

ข้อดีของการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย
ข้อดีของการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

 

หน้าหย่อนคล้อยแก้ไขอย่างไร? รวมวิธีคืนความกระชับ

ข้อดีของการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยลดความหย่อนคล้อย และทำให้โครงหน้าดูยกขึ้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยเติมเต็มร่องลึกและคืนความเฟิร์มให้กับผิว
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม หนังตาตก และคางสองชั้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียนกว่าเดิม
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณคางสองชั้น และแนวกรามที่หย่อนคล้อย
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับแนวกราม ทำให้หน้าดูเรียวและสมส่วนขึ้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยให้ริ้วรอยลดลงโดยเฉพาะบริเวณ หน้าผาก รอบดวงตา และมุมปาก
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยให้ดูสดใสและดูอ่อนกว่าวัย ใบหน้าดูกระชับขึ้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น กระจ่างใส และดูมีชีวิตชีวาขึ้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ช่วยชะลอความเสื่อมของผิว ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้นานขึ้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย แก้ปัญหาเฉพาะจุดได้ เช่น หนังตาตก คิ้วตก หรือคางสองชั้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย สามารถใช้ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นในใช้ชีวิตประจำวัน
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และสามารถทำซ้ำได้เมื่อจำเป็น

 

ข้อจำกัดของการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ผลลัพธ์ไม่ได้ถาวร ต้องทำซ้ำเป็นระยะ
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ต้องใช้เวลารอดูผล ไม่เห็นผลทันที
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยหรือไม่สบายตัวในบางหัตถการ
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยขั้นรุนแรงได้โดยไม่ผ่าตัด
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่สามารถหยุดกระบวนการเสื่อมของผิวได้ 100%
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยที่เกิดจากโครงกระดูกได้
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวบาง หรือผิวที่สูญเสียไขมันมากเกินไป
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย การตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

 

การเตรียมตัวก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย
การเตรียมตัวก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

 

การเตรียมตัวก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของคุณ
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับ โรคประจำตัว ยาที่รับประทานอยู่ และประวัติแพ้ยา
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย งดยาและอาหารเสริมบางชนิด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เป็นเวลา 5-7 วัน
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย  งดการออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย หลีกเลี่ยงการทำหัตถการหรือเลเซอร์
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย  หลีกเลี่ยงการสครับหน้า หรือขัดผิวแรง ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ก่อนแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือการอบไอน้ำ

 

การดูแลตัวเองหลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย งดนวดหน้า หรือขยับใบหน้ามากเกินไป ในช่วง 1-2 สัปดาห์
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย งดการกด นวด หรือใช้มือลูบใบหน้าแรง ๆ เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย งดออกกำลังกายหนัก หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า หรือแช่น้ำร้อน อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย หลีกเลี่ยงการโดนแดดกลางแจ้ง หรือสถานที่ที่อุณหภูมิร้อนจัด 1 สัปดาห์
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของผิว เช่น เท้าคาง นอนคว่ำ
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50 PA+++ เป็นประจำทุกวัน
  • หลังแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรใช้ยาตามแพทย์แนะนำ และติดตามผลกับแพทย์

 

ผลข้างเคียงทั่วไปจากการยกกระชับผิว แก้หน้าหย่อนคล้อย

  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกอุ่น ๆ ที่ผิว ส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมง
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย อาจมีอาการบวมช้ำ หรือมีจุดแดงบนผิว สามารถลดอาการบวมได้ด้วย การประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรก
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย อาจมีอาการตึง หรือรู้สึกผิวชาเล็กน้อย และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์
  • แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย อาจรู้สึกตึงผิวหรือมีจุดกดเจ็บ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์

 

รวมคำถามที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย

 

แก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ยกกระชับด้วยเครื่องมือ กับศัลยกรรมดึงหน้า อะไรดีกว่ากัน?

  • การยกกระชับ แก้หน้าหย่อนคล้อย ด้วยเครื่องมือยกกระชับ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และไม่ต้องการพักฟื้น ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่เลือกใช้ ในขณะที่ โปรแกรมศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับมาก และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นานหลายปี ซึ่งการดึงหน้าจะต้องมีระยะเวลาพักฟื้น 2-4 สัปดาห์ และมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด ดังนั้นการเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล

 

โปรแกรมร้อยไหมช่วยแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยได้แค่ไหน?

  • โปรแกรมร้อยไหม สามารถช่วยให้ใบหน้าดูกระชับขึ้นได้ทันทีหลังทำ โดยไหมละลายจะช่วยพยุงผิวให้ตึงขึ้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ และการดูแลผิวของแต่ละคน ซึ่งการร้อยไหมไม่สามารถยกกระชับผิวได้ลึกเท่ากับเทคโนโลยียกกระชับ หรือโปรแกรมศัลยกรรมดึงหน้า

 

โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ช่วยให้หน้าหย่อนคล้อยดูดีขึ้นได้จริงไหม?

  • โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยให้ใบหน้าที่ดูตอบหรือมีร่องลึกกลับมาเต่งตึงขึ้นได้ โดยเฉพาะบริเวณ ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ และคาง ซึ่งฟิลเลอร์ไม่ได้ช่วยยกกระชับผิวโดยตรง แต่ช่วยเติมเต็มโครงสร้างใบหน้าให้ดูอิ่มฟูขึ้น หากต้องการยกกระชับจริง ๆ อาจต้องใช้เทคโนโลยียกกระชับร่วมด้วย

 

โปรแกรมการฉีดโบสามารถช่วยแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยได้ไหม?

  • โปรแกรมการฉีดโบช่วยลดริ้วรอยและปรับกล้ามเนื้อให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้น ด้วยเทคนิค Nefertiti Lift ช่วยยกกระชับกรอบหน้าและลำคอ แต่อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยได้โดยตรง ควรใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี

 

ควรเลือกแก้หน้าหย่อนคล้อยด้วยโปรแกรม Thermage FLX หรือ โปรแกรม Ulthera Prime ดีกว่ากัน?

  • โปรแกรม Thermage FLX และ โปรแกรม Ulthera Prime มีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน โดยโปรแกรม Thermage FLX ใช้คลื่นวิทยุ (RF) เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยลดไขมันใต้ผิว ลงลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน ส่วนโปรแกรม Ulthera Prime ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ เพื่อยกกระชับผิวระดับลึกถึงชั้น SMAS การเลือกทำขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข

 

แก้หน้าหย่อนคล้อยด้วยโปรแกรม Ultraformer MPT กับ โปรแกรม Thermage FLX แตกต่างกันอย่างไร?

  • โปรแกรม Ultraformer MPT และ โปรแกรม Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิว แต่มีหลักการทำงานแตกต่างกัน โปรแกรม Ultraformer MPT ใช้พลังงาน Micro&Macro Focused Ultrasound ที่ช่วยยกกระชับใบหน้าโดยส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ขณะที่ โปรแกรม Thermage FLX ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดไขมันใต้ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณคางหรือแก้ม หากต้องการยกกระชับใบหน้าและลดไขมัน โปรแกรม Thermage FLX จะเหมาะกว่า แต่หากต้องการกระชับผิวชั้นลึก แก้หน้าหย่อนคล้อย โปรแกรม Ultraformer MPT จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

 

โปรแกรม EMFACE ช่วยแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างไร?

  • โปรแกรม EMFACE เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ HIFES™ (High-Intensity Focused Electrical Stimulation) ร่วมกับ RF (Radiofrequency) เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อและสร้างคอลลาเจนโดยไม่ต้องใช้เข็มหรือพลังงานที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด สามารถช่วยยกกระชับใบหน้า แก้หน้าหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย และปรับโครงหน้าด้วยการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่รองรับผิว

 

ผลลัพธ์ของการแก้หน้าหย่อนคล้อย แต่ละหัตถการอยู่ได้นานแค่ไหน?

  • โปรแกรม Thermage FLX, โปรแกรม Ulthera Prime, โปรแกรม Ultraformer MPT ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
  • โปรแกรม Morpheus8 ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
  • โปรแกรมร้อยไหม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้
  • โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของโปรแกรมฟิลเลอร์
  • โปรแกรมฉีดโบ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-8 เดือน
  • โปรแกรมศัลยกรรมดึงหน้า (Face Lift) สามารถอยู่ได้นาน 5-10 ปี

 

ทำหัตถการยกกระชับแล้วปัญหาหน้าหย่อนคล้อยจะกลับมาอีกไหม?

  • ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยสามารถกลับมาหย่อนคล้อยอีกตามธรรมชาติ เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้คอลลาเจนลดลง แม้ว่าการทำหัตถการจะช่วยยกกระชับผิว แต่กระบวนการชราของผิวก็ยังคงดำเนินต่อไป หากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ควรเข้ารับการดูแลซ้ำตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ

 

หากไม่พอใจกับผลลัพธ์การแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย สามารถแก้ไขได้ไหม?

  • สามารถแก้ไขได้หากไม่พอใจกับผลลัพธ์ของการแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของหัตถการ เช่น การฉีดสลายฟิลเลอร์ การปรับแก้ร้อยไหม หรือรอให้โปรแกรมโบสลายไปเอง สำหรับการศัลยกรรมดึงหน้า อาจจะต้องรอ 6-12 เดือนก่อนทำการแก้ไข

 

สรุปเรื่องของปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเสื่อมของคอลลาเจน พฤติกรรมทำร้ายผิว และไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีหลายวิธีที่สามารถช่วยแก้ไขและคืนความกระชับให้กับผิวหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็น การดูแลผิวด้วยตนเอง การใช้เทคโนโลยียกกระชับ หัตถการทางการแพทย์ ไปจนถึงศัลยกรรมดึงหน้า ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและระยะเวลาการเห็นผลที่แตกต่างกัน

 

สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด โปรแกรมยกกระชับด้วยเทคโนโลยี เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ โปรแกรมการร้อยไหม โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ หรือโปรแกรมการฉีดโบ ยังสามารถช่วยเสริมสร้างความเต่งตึงและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ ส่วนโปรแกรมศัลยกรรมดึงหน้า เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว และมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก

 

สุดท้ายนี้ การเลือกวิธีแก้ไขปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพผิว อายุ และความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และคุ้มค่า เพราะผิวหน้าที่กระชับเต่งตึง ไม่เพียงช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และทำให้คุณดูดีในแบบที่เป็นตัวเอง