Hifu นวัตกรรมความงามที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปรับรูปหน้าเรียว ทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิว จุดเด่นของมันคือการยิงคลื่นโดยทำให้เกิดแผล เป็น shot เล็กๆ จากภายในโดยที่ผิวหน้าด้านนอกไม่มีเลือดออกเลย จากนั้นร่างกายจะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง เป็นการปรับรูปหน้าเรียวโดยที่ไม่ต้องเติมสารใดเข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้หลายคนมั่นใจว่าจะไม่เกิดความเสี่ยงต่อการแพ้ค่ะ ว่าแต่ Hifu จะได้ผลหรือไม่ จะมีข้อเสียอย่างไรถ้าอยากรู้ตามมาดูกันค่ะ
ผู้ใดที่เหมาะสำหรับการทำ Hifu
Hifu ขึ้นชื่อในเรื่องของการปรับรูปหน้าเรียว เพิ่มความกระชับ ลดความหย่อนคล้อย เก็บกรอบหน้า ทำให้หน้าได้รูปสวยคมขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันเยอะบริเวณเหนียง คาง จะเหมาะสำหรับการทำ Hifu เป็นอย่างมาก โดยการทำ Hifu จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแต่อยู่ในระดับที่เพิ่งเริ่มหรือผิวหย่อนคล้อยไม่มาก เพราะมีระดับความแรงและราคาที่เหมาะสม แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยมากๆ อาจจะต้องทำร่วมกับโปรแกรมดูแลผิวหน้าชนิดอื่น หรือเพิ่มความแรงขึ้นเป็นการยิง Shot ด้วยโปรแกรมที่เรียกว่า Ulthera แทน
การทำ Hifu เจ็บหรือไม่
การทำ Hifu ถ้าบอกว่าไม่เจ็บเลยก็คงจะเป็นเรื่องที่โกหก เพราะการยิง Shot ผ่านผิวหนังลงไปนั้นมันจะเกิดความรู้สึกหน่วง ๆ บ้าง หรือในจุดที่ยิงผ่านส่วนโครงหน้าที่เป็นกระดูก ก็จะทำให้ใบหน้าของเราเกิดความหน่วงมากขึ้น หรือเจ็บแบบแปล๊บๆ (เป็นระดับที่ทนได้) แต่นั่นคือสัญญาณที่ดี เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่าประสิทธิภาพของเครื่องถือว่าใช้ได้ ปรับระดับพลังงานที่พอดีไม่ต่ำเกินไป เพราะถ้าไม่เจ็บเลยนั่นแปลว่ายิง Shot ลงไปได้ไม่ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งแน่นอนว่าการปรับรูปหน้าเรียวอาจจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
การทำ Hifu อยู่ได้นานแค่ไหน
การทำ Hifu แต่ละครั้งจะเห็นผลหลังทำเสร็จเพียง 20-30% (สำหรับท่านใดที่ทำเสร็จแล้วไม่รู้สึกต่าง อย่าเพิ่งตกใจนะคะ ให้สังเกตที่ร่องลึก หรือกรอบหน้าก็จะพอเห็นการปรับรูปหน้าเรียวได้บ้าง) แต่ช่วง 1 เดือนหลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆ สร้างคอลลาเจนขึ้นมาจึงทำให้เห็นผลชัดขึ้นในช่วง 1 เดือน ผลของการทำ Hifu โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นานราว 5-6 เดือน หมายความว่า ใน1ปีถ้าทำ 2-3 ครั้งกำลังดี หรือถ้าหากต้องการยิงซ้ำก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยให้เว้นช่วงจากการทำครั้งแรกประมาณ 3 เดือน จากนั้นก็สามารถยิงซ้ำได้ค่ะ
เลือกทำ Hifu ที่เรทราคาเท่าไหร่ดี
สำหรับใครที่สนใจการปรับรูปหน้าเรียวด้วย Hifu อาจจะพบว่ามีราคาที่แตกต่างกันมากอย่างน่าตกใจ ตั้งแต่หลัก(หลาย)หมื่นบาทไปจนถึงไม่กี่พันบาทเท่านั้น คงจะเป็นเรื่องยากที่จะฟังธงอะไรดีหรือไม่ดี แต่ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดราคาคือยี่ห้อของเครื่องและ หัวยิง Shot เพราะหัวยิงแต่ละหัวมีประสิทธิภาพในการยิงหน้าตื้นต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วหัวยิงที่คุณภาพดี ยิงได้ลึก พลังงานคงที่ จะมีราคาสูงจึงทำให้ต้นทุนสูง และค่าใช้จ่ายแพงกว่า แต่ก็ตามมาด้วยผลลัพธ์ที่ดีกว่า ฉะนั้นก่อนเลือกคอร์สยิง Hifu จากที่ใด ควรสอบถามด้วยว่าที่คลินิกใช้เครื่องรุ่นใดแล้วไปศึกษาคุณภาพของเครื่องเพิ่มเติม ก็จะช่วยคุณตัดสินใจเลือกคอร์สยิง Hifu ได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
สำหรับท่านใดที่สนใจการปรับรูปหน้าเรียว หรืออยากเก็บโครงหน้าให้ชัดเจนขึ้น โดยที่อาจมีปัญหารูปหน้าไม่มากนัก และมีงบปานกลาง Hifu เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณที่สุดแล้วล่ะค่ะ ในส่วนของจำนวน Shot ที่กำลังกังวลว่าควรทำจำนวนเท่าไหร่และบริเวณไหนดี สามารถปรึกษาฟรีได้ที่ โทร 080-153-9000 หรือ Walk in ได้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขาค่ะ