หมดปัญหาความกังวลใจ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ “ปัสสาวะเล็ด” ที่ทำให้ต้องอยู่ติดบ้าน

อาการปัสสาวะเล็ด พบได้มากขึ้นในผู้หญิงวัย 35 ปีขึ้นไป และพบได้บ่อยในผู้หญิงสูงอายุ สำหรับผู้ชายจะพบปัญหาปัสสาวะเล็ดราดได้น้อยกว่า เนื่องจากผู้ชายมีกล้ามเนื้อหูรูดกระเพาะปัสสาวะที่แข็งแรงกว่า และมีต่อมลูกหมากที่ช่วยป้องกันไม่ให้ปัสสาวะเล็ดนี้ได้ จึงทำให้พบภาวะปัสสาวะเล็ดในผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิง

ปัสสาวะเล็ด หรือ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นับว่าเป็นปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวไปแล้ว เพราะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุจะพบได้เป็นส่วนมากในความเป็นจริงแล้วยังมีผู้หญิงวัยทำงานหลายคนที่มีประสบการณ์ปัสสาวะเล็ด ส่งผลในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมาก และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพราะการใช้ชีวิตในสังคมเมือง มีความเร่งรีบในการใช้ชีวิต ทำให้ละเลยการเข้าห้องน้ำ อั้นปัสสาวะกันจนเคยชิน รวมถึงดื่มน้ำน้อย ทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ด และเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเพียงนิดเดียว

เมื่อมีอาการภาวะปัสสาวะเล็ดขึ้น จะส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก หลายคนรู้สึกอับอายจนทำให้ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในสังคม บางคนต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ กลางวันก็ทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เมื่อจำเป็นต้องเดินทางก็มีความกังวลเรื่องเข้าห้องน้ำ  ปัสสาวะเล็ดเป็นปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต ทำให้ชีวิตแย่ลง ทำให้มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสังคม การใช้ชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพ รวมถึงปัญหาในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์  ทำให้เกิดภาวะเครียดสะสม มีความกังวล เกิดเป็นปมด้อย และอาจทำให้มีอาการของโรคซึมเศร้าตามมาได้

การรักษาภาวะปัสสาวะเล็ด

  1. ฝึกขมิบเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน การขมิบกระชับช่องคลอด เป็นการบริหารมดลูกและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้ช่องคลอดกระชับแข็งแรง ซึ่งเป็นวิธีรักษาปัสสาวะเล็ดที่สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน  การ ขมิบ กระชับช่องคลอดจะช่วยเรื่องเซ็กส์ และ ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ให้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยควบคุมไม่ให้ปัสสาวะเล็ดขณะไอหรือจามได้อีกด้วย
  2. การใช้ยา ถือเป็นการรักษาที่ได้ผลดี ในกลุ่มอาการที่ผู้ป่วยมีการปัสสาวะเล็ดและกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือมีอาการของกระเพาะปัสสาวะที่มีการบีบตัวไวกว่าปกติ ยาที่มีประสิทธิภาพในการักษาความผิดปกตินี้ในปัจจุบันมีหลายชนิด กลไกการออกฤทธิ์ของยา จะเข้าไปยับยั้งการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ลดอาการปัสสาวะบ่อย ลดอาการของการมีปัสสาวะเล็ดราด ทำให้กระเพาะปัสสาวะมีขนาดโตทำให้สามารถเก็บกักปัสสาวะได้มากขึ้น
  3. ใช้นวัตกรรมใหม่ที่ช่วย รักษาอาการของช่องคลอด อาการมดลูกหย่อน หรือ ต่ำ เนื่องจากช่องคลอดไม่กระชับกล้ามเนื้อหูรูดไม่แข็งแรง  ทำให้เกิดอาการ ปัสสาวะเล็ด เกิดขึ้นได้  การรักษาอาการปัสสาวะเล็ดนี้สามารถรักษาได้ด้วยเทคโนโลยีส่งพลังงานคลื่นวิทยุ ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสติน ให้ขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และ ผนังช่องคลอดแข็งแรง กระชับขึ้นได้ ทั้งภายในและภายนอกโดยไม่ต้องผ่าตัด

ผลที่ได้จากการรักษา ด้วยเทคโนโลยีส่งพลังงานคลื่นวิทยุ

  • ช่วยให้บริเวณภายนอกจุดซ่อนเร้น – กระชับผิว ลดริ้วรอยบริเวณรอบ ๆ ให้เรียบเนียนกระชับขึ้น
  • ผนังของช่องคลอดหดกระชับ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประเส้นประสาท และเพิ่มการไหลเวียนของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงบริเวณจุดซ่อนเร้นให้ทำงานสมบูรณ์ขึ้น ลดการเกิดปัสสาวะเล็ด
  • ช่วยให้ระบบการทำงานของต่อมต่าง ๆ ทำงานดีขึ้น สร้างสารคัดหลั่งที่มาหล่อเลี้ยง เพิ่มความชุ่มชื้นภายในช่องคลอด
  • ช่วยกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในช่องคลอด รวมถึงช่วยแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดได้ด้วย

ภาวะปัสสาวะเล็ดราด หรือ ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ คือ การมีปัสสาวะรั่วไหลโดยไม่ตั้งใจ และมากจนทำให้เป็นปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นดูแลรักษาอวัยวะในให้เป็นปกติ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพ ที่จะส่งผลให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดออกมาสร้างปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน และ การเข้าสังคมดังนั้นจึงควรดูแลรักษาอวัยวะในระบบขับถ่ายให้เป็นปกติอยู่เสมอ ซึ่งสามารถทำได้โดยการควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกสุขลักษณะ  ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย รวมทั้งให้ความสำคัญต่อเรื่องสุขภาพอนามัยให้ดี อย่าปล่อยให้อาการปัสสาวะเล็ดต้องเป็นปัญหาเรื่องสุขภาพ ถ้ามีอาการผิดปกติต้องรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวเรานะค่ะ