เสือน้อยเอวา ซุปตาร์ตัวใหม่ อยากหน้าเด็ก หน้าแบ๊วแบบน้องเอวา ต้องทำยังไงนะ
ขึ้นแท่นดาวดวงใหม่! ใครจะไปคิดว่าเสือโคร่งจะน่ารักได้ขนาดนี้ เมื่อทางเพจเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โพสต์ภาพความน่ารักของ “น้องเอวา” ลูกเสือโคร่งสตรอว์เบอร์รีสุดน่ารัก ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กลายขวัญใจของชาวโซเชียลไปแล้ว ด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนลูกแมวเหมียว ทำให้ใคร ๆ ต่างก็หลงรัก จนลืมไปเลยว่านี่คือ เสือโคร่ง ซึ่งความน่ารักของน้องเอวาไม่ใช่แค่หน้าตาเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงนิสัยที่ขี้อ้อน ซุกซน ทำให้ทาสแมวทั้งหลายใจละลาย โดนตกกันแบบเต็ม ๆ ซึ่งหลายคนต่างก็พากันเข้ามาคอมเมนต์ และแชร์ภาพของน้องเอวากันอย่างล้นหลาม จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์
นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของน้องเอวาที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ ความหน้าเด็ก หน้าแบ๊วที่ดูติดแกลม จนหลาย ๆ คนอิจฉา บวกกับความน่ารักของท่าทาง และผิวพรรณลูกคุณหนูที่เหมือนอาบน้ำวันละ 10 รอบ ทำเอาหลาย ๆ คนหลงรักกันไปตาม ๆ กัน แล้วอยากรู้กันไหมว่า เคล็ดลับหน้าเด็กแบบน้องเอวาคืออะไร? ทำอย่างไรให้หน้าเด็ก หน้าอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ วันนี้ รมย์รวินท์คลินิก มีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว อย่าปล่อยให้น้องเอวาหน้าเด็กอยู่คนเดียว!!
ไขความลับ หน้าเด็ก หน้าแบ๊วแบบน้องเอวา มีโปรแกรมอะไรบ้าง
ทำความรู้จักกับ “เสือน้อยเอวา”
“น้องเอวา” เสือโคร่งสีทองสุดหายาก หรือ เสือโคร่งสตรอว์เบอร์รี เพศเมีย อายุ 3 ขวบ ซึ่งมีพี่สาวชื่อ พี่ลูน่า โดยความพิเศษของน้องเอวา คือ ขนสีส้มเข้มสดใส หน้าตาน่ารัก หน้าแบ๊ว ท่าทางซุกซน ขี้เล่นที่ไม่เหมือนเสือตัวไหน ๆ ซึ่งถือเป็นเสือโคร่งสีทองที่หาได้ยากมากในเสือโคร่งทั่วไป โดยสีขนนี้เกิดจากยีนด้อย ที่ทำหน้าที่ควบคุมสีขนบนร่างกาย คล้ายกับเสือโคร่งสีขาว แต่โอกาสที่จะเกิดเสือโคร่งสีทองในลักษณะแบบนี้ จะมีโอกาสเกิดได้ยากมาก มีเพียง 50 – 100 ตัวบนโลกเท่านั้น
ซึ่งความโด่งดังของน้องเอวานั้น กลายเป็นขวัญใจของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกันอย่างหนาแน่น เพื่อมาชมความน่ารักของน้องเอวาด้วยตาตัวเอง สำหรับใครที่อยากเห็น ความน่ารักสดใสของน้องเอวาแบบใกล้ชิดตัวจริงเสียงจริง สามารถแวะมาพบน้องได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โซนอาณาจักรเสือ (Tiger World) รับรองว่าจะไม่ผิดหวังกับความน่ารัก หน้าเด็กของน้องเอวาอย่างแน่นอน
4 โปรแกรม หน้าเด็ก หน้าแบ๊ว แบบน้องเอวา
Radiesse
- Radiesse สารเติมเต็ม Biostimulator ที่ผลิตจากสาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ สร้างโครงตาข่ายสามมิติ (3D Matrix) ในชั้นผิวหนังแท้ ผ่านกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ส่งผลให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน พร้อมเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสาร CaHA ใน Radiesse นั้น เป็นสารที่สามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกาย จึงมีความปลอดภัยสูง ไม่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หลังฉีดสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ข้อดีของ Radiesse คือ ช่วยให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรง กระชับ แน่น เด้ง อิ่มฟู และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้ง ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี อมชมพู มีเลือดฝาด
- Radiesse เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องปรับรูปหน้า มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก และมีผิวหน้าหย่อนคล้อย โครงหน้ายุบจากชั้นกระดูก
- หลังฉีด Radiesse สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี
Sculptra
- Sculptra เป็นหัตถการที่อยู่ในกลุ่ม Biostimulator ซึ่งผลิตจากสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) สารกระตุ้นคอลลาเจนตัวแรกของโลก ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ตั้งแต่ปี 1999 โดยสาร PLLA นั้น มีอนุภาคขนาดเล็กมาก เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว สารนี้จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่เสียไปตามอายุ ทำให้ผิวที่เคยหลวมกลับมาหนาแน่น อิ่มฟู และยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย
- ข้อดีของ Sculptra คือ กระตุ้นคอลลาเจนได้มากถึง 66% ทำให้ผิวแน่น กระชับ อิ่มฟู และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว
- Sculptra เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น และผู้ที่มีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด
- หลังฉีด Sculptra สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 2 ปี
Oligio
- Oligio เทคโนโลยียกกระชับ พร้อมลดไขมันส่วนเกิน โดยใช้คลื่น Monopolar RF (Radio Frequency) ความถี่ 6.78 MHz ซึ่งสามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ และชั้นไขมัน ทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ รวมถึง ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ชะลอความเสื่อมของผิวให้ดีขึ้น อีกทั้ง ยังมีระบบตรวจสอบอุณหภูมิผิว ในระหว่างทำได้อย่างแม่นยำ และระบบทำความเย็นอัจฉริยะ ที่ช่วยป้องกันผิวไหม้ ผิวเบิร์น หรือเกิดการระคายเคือง จึงมีความปลอดภัยสูง หลังทำเสร็จไม่ต้องมีการพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ข้อดีของ Oligio คือ ช่วยให้ผิวแน่น ตึงกระชับ ใบหน้าเรียวเล็ก ริ้วรอยลดเลือนลง และกรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
- Oligio เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ไม่กระชับ และผู้ที่มีไขมันส่วนเกิน มีปัญหาคาง 2 ชั้น ต้องการมีรูปหน้าวีเชฟ
- หลังทำ Oligio สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 6 – 12 เดือน
Ultherapy Prime
- Ultherapy Prime เทคโนโลยียกกระชับผิว ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก เครื่อง Ulthera รุ่นก่อนหน้านี้ โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาที่สูงขึ้นและรวดเร็วขึ้นถึง 20% มีหน้าจอคมชัดและใหญ่ขึ้นถึง 35% ทำให้มีความแม่นยำสูง ในการส่งพลังงานไปยังจุดที่ต้องทำการรักษา รวมถึง สามารถแสดงผลได้ดีกว่าเดิม ทำให้แพทย์เห็นโครงสร้างผิวได้อย่างชัดเจนขณะทำ โดย Ultherapy Prime ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์แบบ Micro-Focused Ultrasound (MFUS) ที่มีความเข้มข้นสูงในการยกกระชับผิว ลงลึกถึงชั้น SMAS จึงทำให้เกิดความร้อนขึ้นแบบเฉพาะจุด สามารถยกกระชับผิวหน้าได้เป็นอย่างดี พร้อมกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อดีของ Ultherapy Prime คือ ช่วยให้ผิวเฟิร์มกระชับ เต่งตึง ริ้วรอยลดเลือนลง ใบหน้าเรียวเล็ก ผิวแข็งแรงขึ้น หน้าเด็กลง
- Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยมาก
- หลังทำ Ultherapy Prime สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น
สำหรับใครที่อยากมีหน้าเด็กแบบน้องเอวา ต้องห้ามพลาดกับ 4 โปรแกรมนี้ ทั้ง Radiesse Plus, Sculptra, Oligio และ Ultherapy Prime ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก ได้ทุกสาขา ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น โดยแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์สภาพผิวหน้าของคุณ เพื่อเลือกโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ในการแก้ไขปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีไขมันสะสม รับรองว่า ทำแล้วเตรียมมีหน้าเด็กแข่งกับน้องเอวาได้เลย