ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ฟิลเลอร์ปากคืออะไร ควรใช้ยี่ห้อไหน ฉีดครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ฉบับอัปเดต
ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การปรับรูปลักษณ์ให้สวยงามเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่ายุคสมัยก่อน หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ การฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งเป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด เพื่อปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ดูอิ่มฟูและสวยงามมากขึ้น
อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปากมีความปลอดภัยและเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว
วันนี้เราจะมาอัปเดตข้อมูลน่าสนใจที่เกี่ยวกับฟิลเลอร์ปากว่า ควรใช้ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรกต้องรู้อะไรบ้าง รวมไปถึงทุกคำถามที่หลายคนอยากรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับทรงสวยแบบธรรมชาติ ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรง เพิ่มความอวบอิ่ม คือ การฉีดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluromic Acid : HA) ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการอุ้มน้ำ ในการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นเป็นการฉีดเติมเต็มเข้าไปบริเวณริมฝีปากบนและล่าง เพื่อเพิ่มเนื้อริมฝีปาก ปรับรูปทรงปากให้สวยธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาริมฝีปากบน-ล่างไม่เท่ากัน ปากแห้ง แตก เป็นร่อง
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถแก้ปัญหารูปปากคว่ำ ให้กลับมาดูยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น ด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก โดยจะฉีดเข้าไปบริเวณใบหน้าช่วงบนหรือช่วงแก้มให้ยกกระชับขึ้น
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดปาก เพื่อรูปทรงสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ แพทย์จะต้องมีเทคนิคและประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ปากได้อย่างเหมาะสม แบบไม่ลึกหรือตื้นจนเกินไป ในการฉีดฟิลเลอร์ปากจุดที่ต้องใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษคือบริเวณขอบปาก (Vermilion border) และ ร่องบนริมฝีปาก (Philtrum) เนื่องจากอาจมีปัญหาขอบปากไม่ชัด ริมฝีปากไม่เป็นทรง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยสร้างขอบปาก เติมเต็มบริเวณติ่งริมฝีปาก ทำให้ปากเป็นรูปทรงกระจับมากขึ้น
รูปทรงปากที่เหมาะกับคนไทย อัปเดตทรงปากที่นิยม
ฉีดฟิลเลอร์ปากเชอร์รี่ (Cherry Lips)
เป็นเทรนด์รูปทรงริมฝีปากที่มีความคล้ายกับลูกเชอร์รี่ มีลักษณะเป็นปากกระจับบน-ล่าง โดยปากบนมีติ่งเนื้อตรงกลาง ริมฝีปากล่างอวบอิ่ม เป็นอีกหนึ่งทรงที่คนส่วนใหญ่นิยมเลือกเสริมโหงวเฮ้งบนใบหน้าให้ดีขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากธรรมชาติ (Classy Lips)
เป็นรูปทรงที่มีลักษณะริมฝีปากอวบอิ่ม โดยริมฝีปากบนจะบางกว่าริมฝีปากล่างในสัดส่วนที่พอดีกัน ช่วยทำให้ใบหน้าสมดุลมากขึ้น เป็นรูปทรงริมฝีปากที่เหมาะกับคนที่มีริมฝีปากบาง เนื้อน้อย ต้องการเพิ่มขนาดของริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากอวบอิ่ม (Sexy Lips)
รูปทรงปากอวบอิ่ม เป็นรูปทรงที่เน้นขอบริมฝีปากชัดเจน เพิ่มปริมาณเนื้อริมฝีปากอวบอิ่มทั้งบนและล่าง แต่ไม่อวบหนาเท่ากับริมฝีปากทรงสายฝอ ซึ่งการฉีดริมฝีปากทรงนี้จะช่วยให้ริมฝีปากดูเซ็กซี่มากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ
เป็นรูปทรงริมฝีปากที่มีลักษณะโค้งเรียวสวยคล้ายกับผลของกระจับ โดยริมฝีปากบน-ล่างมีความสมดุลกัน ช่วยเพิ่มความละมุนให้กับใบหน้า เป็นอีกหนึ่งรูปทรงริมฝีปากที่ได้รับความนิยมตลอดกาล และเป็นรูปทรงริมฝีปากที่เสริมโหงวเฮ้งที่ดีอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ปากปีกนก
รูปทรงปากปีกนก เป็นรูปทรงที่เหมาะกับโครงหน้าของคนไทย โดยรูปทรงปากนี้มุมปากจะยกขึ้นคล้ายกับปีกนก เหมาะสำหรับคนที่มุมปากคว่ำ มุมปากตก รูปทรงปากนี้จะช่วยให้ใบหน้าอ่อนหวานมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากเกาหลี
รูปทรงปากเกาหลี เป็นลักษณะรูปทรงที่มีความอวบอิ่มเล็กน้อย โดยริมฝีปากบนเป็นกระจับเล็กน้อย มุมปากยกขึ้น ซึ่งริมฝีปากทรงเกาหลีจะช่วยให้ใบหน้ามีความละมุน น่ารักแบบสาวเกาหลี
ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ
เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รูปทรงปากวายฝอจะเน้นขอบปากคมชัด เนื้อริมฝีปากแน่นและอวบอิ่มทั้งริมฝีปากบน-ล่าง ทำให้ริมฝีปากมีความโดดเด่น ช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบรูปมทรงริมฝีปากอวบหนา มีเนื้อริมฝีปากเยอะ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก Heavy Upper Lips
เป็นการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยจะเน้นริมฝีปากบนจะหนาและมีขนาดใหญ่กว่าริมฝีปากล่าง เน้นช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น ทำให้ริมฝีปากโดดเด่น ซึ่งรูปทรงริมฝีปากนี้สามารถใช้เทคนิคการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในริมฝีปากบนมากกว่าปกติ ส่วนริมฝีปากล่างจะฉีดแบบพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไป
ฉีดฟิลเลอร์ปาก Heavy Lower Lips
เทรนด์การปั้นรูปทรงริมฝีปากที่เน้นให้ริมฝีปากล่างมีขนาดใหญ่และอวบอิ่มกว่าริมฝีปากบน โดยมีลักษณะคล้ายกับปากกระจับแต่มีความอวบอิ่มเต่งตึงกว่า โดยเป็นหนึ่งในทรงปากสายฝอที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก Full Lips
เป็นรูปทรงริมฝีปากที่มีลักษณะริมฝีปากบนและริมฝีปากล่างจะมีความอวบอิ่มมาก และมีสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งการฉีดริมฝีปากรูปทรงนี้จะทำให้ริมฝีปากดูโดดเด่นมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าชัดอยู่แล้ว
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใครบ้าง?
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากไม่เท่ากัน
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากบางขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณริมฝีปากและขอบปาก
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากลอกและริมฝีปากแห้ง
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่เรียบเนียน ริมฝีปากตกร่อง
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีรูปทรงปากคว่ำ มุมปากตก
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงริมฝีปากให้เข้ากับใบหน้า
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ริมฝีปากชุ่มชื้น อิ่มฟูมากขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่เสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า
ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีอย่างไร?
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เพิ่มความอวบอิ่ม ช่วยปรับรูปทรงปากกระจับ
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาริมฝีปากบาง ปากไม่เท่ากัน
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณริมฝีปากและมุมปาก
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น อิ่มฟู ให้กับริมฝีปาก
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีความปลอดภัยสูง ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอน สามารถย่อยสลายเองได้ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถปั้นรูปทรงริมฝีปากได้หลายทรง
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร แต่สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี?
ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับทรงปากเกาหลี ทรงปากกระจับ
การเลือกฟิลเลอร์สำหรับทรงปากเกาหลี หรือทรงปากกระจับ ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลนิ่มและยืดหยุ่น เพื่อให้ริมฝีปากดูอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์สำหรับทรงปากกระจับมักใช้ปริมาณฟิลเลอร์ประมาณ 1 CC แต่หากต้องการเพิ่มวอลลุ่มมากขึ้น อาจใช้ประมาณ 2 CC ต่อการฉีดในแต่ละครั้ง ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมมีดังนี้
- Restylane Refyne ฟิลเลอร์ปากจากสวีเดน ที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยเติมเต็มริมฝีปากและมุมปากให้ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ถึง 12 เดือน
- Restylane Volyme ฟิลเลอร์ปากจากสวีเดน มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน ช่วยเพิ่มความอิ่มฟูให้ริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volift ฟิลเลอร์ปากจากสหรัฐอเมริกา เนื้อเจลนิ่มและเนียนละเอียด เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณร่องมุมปากที่ไม่ลึกมาก ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
- Definisse Touch ฟิลเลอร์ปากจากอิตาลี ที่มีเนื้อเจลนุ่มพิเศษ ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากและปรับรูปให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมแก้ปัญหาริมฝีปากแห้งแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน
ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับทรงปากเซ็กซี่ อวบอิ่ม แบบสายฝอ
เมื่อเลือกฟิลเลอร์สำหรับทรงปากสายฝอ ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีเนื้อฟูเพื่อสร้างขอบปากที่ชัดเจนและเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่แนะนำจะอยู่ที่ 1-2 CC สำหรับการเพิ่มความเต็มอิ่มธรรมชาติ หากต้องการเพิ่มความหนาให้ชัดเจน อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมากขึ้น ฟิลเลอร์ที่แนะนำ ดังนี้
- Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์ปากจากสหรัฐอเมริกา มีเนื้อสัมผัสนุ่มและฟู ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอิ่มเต็ม พร้อมปรับรูปทรงให้เป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์ปากจากสหรัฐอเมริกา เนื้อเจลเนียนละเอียดและยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเพิ่มวอลลุ่มและความหนาให้ริมฝีปาก ให้ดูเต็มอิ่มและมีมิติอย่างชัดเจน โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
- Restylane Kysse ฟิลเลอร์ปากจากสวีเดน ด้วยเนื้อสัมผัสที่ละเอียดและคงตัวสูง ช่วยเสริมสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจน พร้อมทั้งมอบความชุ่มชื้นและอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
- Belotero Volume ฟิลเลอร์ปากจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีความยืดหยุ่นดีและเนียนละเอียด ช่วยเพิ่มวอลลุ่มและความหนาให้ริมฝีปาก ให้ดูเต็มและมีมิติ ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
- Belotero Lips ฟิลเลอร์ปากคุณภาพจากสวิตเซอร์แลนด์ ออกแบบมาเฉพาะเพื่อปรับแต่งริมฝีปากให้ดูอิ่มเอิบและมีมิติ ช่วยสร้างขอบปากที่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและสามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ก่อนทำต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดการออกกำลังกายหนัก หรือ งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดแว็กซ์บริเวณรอบริมฝีปากก่อนทำ 1 สัปดาห์
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดทายาชนิดผลัดเซลล์ผิวทุกชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ให้แจ้งกับแพทย์ก่อนฉีด
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์จะทำการประเมินลักษณะของริมฝีปากของผู้ที่เข้ารับบริการ เพื่อเลือกทรงริมฝีปากปากที่เหมาะสมกับใบหน้า
- แพทย์จะแนะนำยี่ห้อ และรุ่นที่เหมาะสมของฟิลเลอร์ปาก ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
- เริ่มทำความสะอาดบริเวณริมฝีปากก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อความสะอาดและปลอดภัย
- แปะยาชาและประคบน้ำแข็งก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บจากเข็ม
- แพทย์จะเริ่มฉีดฟิลเลอร์ลงบนบริเวณริมฝีปาก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปาก หลังทำดูแลตัวเองอย่างไร?
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส ดึง ลอก บริเวณริมฝีปาก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดทาลิปสติก และการใช้หลอดดูดน้ำใน 12 ขั่วโมงแรก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดรับประทานอาหารร้อน ๆ อาหารรสจัด หรืออาหารหมักดอง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดการออกกำลังกายหนัก อาจทำให้ปากเสียรูปทรงได้
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยการเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์ฟูและอยู่ได้นานขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปาก vs ศัลยกรรมผ่าตัดปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก กับ การศัลยกรรมผ่าตัดปาก มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ปาก
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน เนื่องจากไม่มีรอยแผล อาจมีแค่รอยจากเข็มเล็กน้อย
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจมีอาการบวมช้ำประมาณ 7-14 วัน และสามารถหายได้เอง
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก ผลลัพธ์จะชัดเจนเต็มที่ ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
การศัลยกรรมผ่าตัดปาก
- การผ่าตัดปากจำเป็นต้องรอแผลสมานตัว ซึ่งใช้ระยะเวลานานกว่า 7-9 วัน และอาจใช้ระยะเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ แผลถึงจะหายสนิท
- การผ่าตัดปากใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน
- การผ่าตัดปากอาจมีรอยแผลนูน หรือรอยแผลเป็นจากบริเวณแผลผ่าตัด
- หลังการผ่าตัดปาก อาการบวมจะชัดเจนที่สุดในช่วง 3-4 วันแรก จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ กระบวนการฟื้นตัวของอาการบวมทั้งหมด จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
- ผลลัพธ์ของการผ่าตัดปาก สามารถรักษารูปทรงปากได้อย่างถาวร
ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากกับการศัลยกรรมผ่าตัดปาก มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป โดยการฉีดฟิลเลอร์ปากจะเน้นปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น สามารถทำทรงปากกระจับได้ แต่ผลลัพธ์อยู่ไม่ได้ถาวร ส่วนการศัลยกรรมผ่าตัดปาก รักษารูปทรงปากได้อย่างถาวร แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงจากการผ่าตัด และถ้าหากมีข้อผิดพลาดก็จะแก้ไขได้ยากมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากที่สามารถฉีดสลายได้
รวมคำถาม Q&A ของฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้กี่ CC?
- โดยปกติทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ปากจะใช้ปริมาณเพียง 1 CC ก็สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ส่วนกรณีที่มีริมฝีปากบางมาก ๆ ต้องการรูปทรงปากอวบอิ่มแบบสายฝอ ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม อาจต้องใช้ปริมาณของฟิลเลอร์ 2 CC
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม?
- ในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์อาจจะมีความรู้สึกเจ็บ แต่เป็นความเจ็บอยู่ในระดับที่สามารถอดทนได้ เนื่องจากบริเวณริมฝีปากอ่อนและบางกว่าบริเวณอื่น ๆ ทำให้ไวต่อความรู้สึก ทั้งนี้ก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีการแปะยาชาก่อนเพื่อช่วยลดความเจ็บจากเข็ม
ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันถึงจะเข้าที่ และอยู่ได้นานแค่ไหน?
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ อวบอิ่ม เป็นทรงสวย ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ปากที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม?
- การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่อันตราย หากฉีดโดยแพทย์ที่มากประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ เพราะการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอน (HA) มีความปลอดภัยสูง และสามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ 100% ซึ่งการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านจะมีความรู้ในด้านของเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เนื่องจากบริเวณริมฝีปากประกอบไปด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก ต้องใช้ความระมัดระวังใจการฉีด เพื่อป้องกันการเกิดฟิลเลอร์อุดตันในเส้นเลือดหรือฉีดโดนเส้นที่อยู่ลึกลงไป เพราะฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จะมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน?
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจมีอาการบวมประมาณ 2-3 วัน ในบางกรณีที่มีผิวบอบบาง บวมง่าย อาจพบอาการบวมประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ หายได้เอง ซึ่งฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ประมาณ 7-14 วัน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันถึงทาลิปได้?
- หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดทาลิปสติกในช่วง 12 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นสามารถทาลิปสติกได้ปกติ โดยหลังจากฉีดฟิลเลอร์อาจมีรอยเข็มอยู่ สามารถใช้ลิปสติกทากลบรอยเข็มได้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอาการข้างเคียงอะไรบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในการเพิ่มความอวบอิ่มของริมฝีปากและปรับรูปทรงริมฝีปากให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยแต่อาจจะมีผลข้างเคียงที่ตามมาได้ ซึ่งผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์มีดังนี้
- รู้สึกเจ็บบริเวณที่ฉีด : เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ เพราะผิวบริเวณริมฝีปากค่อนข้างบางและไวต่อความรู้สึก และสามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ หากมีอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบแจ้งแพทย์เพื่อทำการรักษาตามอาการ
- อาการบวมหรือช้ำ : เป็นอาการที่สามารถพบได้ทั่วไป หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก 3 วันแรก โดยจะมีรอยแดงจากเข็ม ในบางคนอาจมีรอยช้ำ รอยเขียวจากเข็ม หรืออาการบวมในบริเวณที่ฉีด หลังจาก 5-7 วัน จะไม่มีอาการบวม และค่อย ๆ หายได้เอง และฟิลเลอร์เข้าที่ใน 14 วัน สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีด เพื่อช่วยลดอาการบวมได้
- การติดเชื้อ : สามารถพบได้บ่อยในเคสที่ฉีดฟิลเลอร์ปากโดยหมอกระเป๋า หรือคลินิกเถื่อน มีขั้นตอนการฉีดที่ไม่สะอาด อุปกรณ์ที่ใช้ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์จริงที่มีใบรับรอง ฉีดฟิลเลอร์ปากกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น
- ปวดแสบ ปวดร้อน บริเวณที่ฉีด : อาจเกิดขึ้นได้ในบางกรณี ซึ่งเกิดจากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ปากผิดตำแหน่ง โดยการฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดอุดตัน จนนำไปสู่อาการเนื้อตาย (necrosis) เพราะเลือดไม่ไหลเวียนไปเลี้ยงผิวหนัง เพราะฉะนั้นควรฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น
ฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร?
- ชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด
หากนำฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นสูง มาฉีดบริเวณผิวชั้นตื้น ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนได้ เช่น ใช้ฟิลเลอร์ที่มีความแข็งและเหนียวที่ค่อนข้างมากมาฉีดบริเวณปาก อาจจับตัวเป็นก้อนได้
- เทคนิคและประสบการณ์การฉีดของแพทย์
การฉีดฟิลเลอร์ปากต้องฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ โครงสร้างของสรีรวิทยาร่างกายมนุษย์ รวมไปถึงศิลปะด้านการปรับรูปหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด หากแพทย์ขาดความรู้และประสบการณ์ อาจมีความเสี่ยงที่จะฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนได้
- ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ผ่าน อย.
ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. เป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สามารถสลายได้เองแบบธรรมชาติ มีราคาถูก ไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะจับตัวกันเป็นก้อน ไหลย้อยไม่เป็นทรง ไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องผ่าตัดออกเท่านั้น
- ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากจนเกินไป
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปาก ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ และตำแหน่งที่ฉีด ต้องพิจารณาให้มีความเหมาะสม เนื่องจากหากใช้เกินความจำเป็น ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนได้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วเป็นก้อน มีวิธีแก้ไขอย่างไร?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน บวม ผิดปกติ การแก้ไขปัญหาจะมีอยู่ทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน โดยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยในแต่ละเคส ดังนี้
- การฉีดสลายฟิลเลอร์ปาก : เป็นการใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (HYAL) เข้าไปลดคุณสมบัติการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ทำลายการยึดเกาะของฟิลเลอร์ ปรับสมดุลบริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์ ให้กลับมาเหมือนเดิมให้ได้มากที่สุด ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ยุบตัวลง และสลายไปในที่สุด โดยสามารถสลายออกได้หมด 100%
- การขูดฟิลเลอร์ปาก : ในกรณีที่ฉีดสารเติมเต็มประเภทซิลิโคน หรือ พาราฟิน นั้น สารเติมเต็มประเภทนี้ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และไม่มีสารตัวใดสลายฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ต้องทำการขูดออกเท่านั้น
- ผ่าตัดฟิลเลอร์ออก : กรณีนี้เป็นการแก้ไขในคนที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทซิลิโคนเหลวมา จนเกิดการอักเสบ ฟิลเลอร์เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก ซึ่งการผ่าตัดส่วนใหญ่จะไม่สามารถเอาฟิลเลอร์ออกได้ทั้งหมด เพราะต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาทและเส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ
ศัลยกรรมผ่าตัดปากมาแล้วบางเกินไป ฉีดฟิลเลอร์ปากแก้ไขได้ไหม?
- ในกรณีที่ผ่าตัดปากบางมาแต่ริมฝีปากบางเกินไป ในบางเคสสามารถใช้ฟิลเลอร์ปากแก้ไขให้ดีขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพังผืดที่เกิดจากการผ่าตัด ถ้าพังผืดดึงรั้งมากก็จะเติมฟิลเลอร์ได้น้อย ดังนั้นก่อนที่จะผ่าตัดทำริมฝีปากควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะกรณีที่ผ่าตัดริมฝีปากมาบางเกินไปจนเนื้อน้อยมาก จะไม่สามารถเติมฟิลเลอร์แก้ไขได้
บทสรุปของฟิลเลอร์ปาก ปรับทรงสวยแบบธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน เป็นการปรับรูปทรงปากให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยแก้ปัญหาปากแห้งแตกเป็นร่อง และยังช่วยบำรุงริมฝีปากให้อวบอิ่ม เต่งตึง ริมฝีปากแลดูสุขภาพดี รวมไปถึงช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับสาว ๆ ทุกคนมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
ซึ่งการเลือกฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัยอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ด้านการปรับรูปทรงปากให้เข้ากับใบหน้า สามารถเข้ารับคำแนะนำและปรึกษากับแพทย์ประจำรมย์รวินท์คลินิกได้ โดยแพทย์จะแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้ตรงกับทุกความต้องการของทุกท่านอย่างแน่นอน