ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ควรรู้อะไรบ้าง
การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว อาจเป็นคำตอบที่สาว ๆ และหนุ่ม ๆ กำลังมองหา ในยุคที่ความสวยงามเป็นสิ่งสำคัญ การมีใบหน้าที่เรียวเล็ก ใบหน้าได้สัดส่วน เป็นสิ่งที่ใครหลายคนต้องการ ซึ่งการผ่าตัดศัลยกรรม อาจไม่ใช่ทางเลือกแรกสำหรับทุกคน แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้น การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว จึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ มาจนถึงในยุคปัจจุบัน
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดโบลดกรามอย่างละเอียด ตั้งแต่หลักการทำงานของโบลดกราม ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบลดกราม หรือ โบลดกราม ปรับหน้ารวมเหมาะกับใครบ้าง รวมไปจนถึงข้อควรระวังและการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ตัดสินใจก่อนฉีดโบลดกรามได้อย่างมั่นใจก่อนเข้ารับการรักษา
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว คืออะไร?
การฉีดโบลดกราม เป็นวิธีการลดกรามให้เล็กลงด้วยการฉีดสารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่สร้างมาจากแบคทีเรียที่ชื่อ Clostridium เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณกราม ทำให้กรามมีขนาดเล็กลง ใบหน้าจึงเรียวเล็กลง ช่วยให้รูปหน้ามีความวีเชฟมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อีกทั้งยังสามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ต่อเนื่อง
ปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน เกิดจากอะไร?
- กรามใหญ่จากพันธุกรรม ลักษณะกรามใหญ่นั้นสามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ โดยเฉพาะคนเอเชียที่มักจะมีขากรรไกรใหญ่ และกรามใหญ่จากกรรมพันธุ์
- กรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม หากกล้ามเนื้อกรามถูกใช้งานหนัก จากพฤติกรรมการบดเคี้ยวอาหารเหนียวและแข็งเป็นระยะเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและมีความแข็งแรงมากขึ้น
- กรามใหญ่จากไขมัน เป็นผลมาจากการบริโภคอาหาร ที่มีปริมาณไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ของทอด ขนมหวาน น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะส่วนล่างของแก้ม เมื่อน้ำหนักไขมันส่วนนี้ สะสมร่วมกับกล้ามเนื้อกรามที่เด่นชัด จะทำให้ใบหน้าดูกว้างและขาดความเรียวกระชับ
- กรามใหญ่จากกระดูก ในบางคนอาจมีการเจริญเติบโตของกระดูกที่มากกว่าปกติ ส่งผลให้กรามใหญ่
กรามใหญ่ มีกี่แบบ?
- กรามใหญ่ หน้าเหลี่ยม เกิดจากการที่โครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ ทำให้ใบหน้าดูเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม
- กรามใหญ่ แก้มเยอะ ทำให้ใบหน้าดูใหญ่ และหน้าบาน
- กรามใหญ่แบบข้างเดียว เกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูกที่ผิดปกติ หรือเกิดจากการเคี้ยวอาหารข้างเดียว ทำให้กรามทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
- กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง ทำให้ใบหน้าดูดุและดูแข็ง
- กรามใหญ่ คางสั้น ทำให้ใบหน้าดูกลม หน้าสั้น ใบหน้าดูไม่มีมิติ
ฉีดโบลดกราม ช่วยลดกราม ปรับหน้าเรียว ได้อย่างไร?
การออกฤทธิ์ของโบลดกราม แพทย์จะทำการฉีดตัวยาเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อ โดยตัวยาจะแยกออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท และ ส่วนที่ไม่ดูดซึมจะถูกนำออกไปตามกระแสเลือด ไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังฉีด โดยจะถูกขับออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ แบบไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์อื่น ๆ
การฉีดโบลดกราม จะช่วยลดการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ Masseter โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ทำงานน้อยลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ถูกใช้งานอย่างหนัก ขนาดของกล้ามเนื้อกรามจึงค่อย ๆ เล็กลง ส่งผลให้รูปหน้าดูเรียวและสมส่วนมากยิ่งขึ้น
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กมากขึ้น
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยให้ส่วนกรามดูเล็กลง
- ฉีดโบลดกราม ช่วยให้แก้มดูเรียวขึ้น เนื่องจากเนื้อบริเวณกรามเล็กลง
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับใคร?
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกราม
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก แบบไม่ต้องผ่าตัด
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการใช้หน้าเร็ว ๆ เพราะไม่มีเวลาพักฟื้น
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับใคร?
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อในการกลืนอาหาร
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีอาการติดเชื้อในจุดที่ต้องการฉีด
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ เนื่องจากแก้มจะยิ่งตอบมากขึ้นถ้ากรามมีขนาดเล็กลง
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มชัด เนื่องจากกรามเล็กลงทำให้โหนกแก้มอาจจะยิ่งเห็นชัดขึ้น
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้มช่วงล่าง กรามเล็กลงอาจจะทำให้แก้มหย่อนคล้อยเพิ่มขึ้นได้
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีปริมาณไขมันที่แก้มเยอะ อาจต้องลดแก้มร่วมด้วย
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรใหญ่กว่ากล้ามเนื้อกราม
- ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามขนาดเล็ก เนื่องจากไม่มีกล้ามเนื้อกรามให้ลด
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อไหนดี?
ปัจจุบันโบลดกรามมีอยู่หลายยี่ห้อที่ผ่านอย. ไทย โดยยี่ห้อที่เหมาะสมกับการนำมาฉีดโบลดกราม มีดังนี้
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Allergan
โบลดกราม Allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในการลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ช่วยลดโอกาสการดื้อยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้รับความไว้วางใจในด้านคุณภาพและความปลอดภัยจากแพทย์และผู้ใช้งานทั่วโลก
ซึ่งโบลดกราม Allergan เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียง และได้รับการรับรองจากงานวิจัยมากกว่า 3,500 ฉบับ โดยมีจุดเด่นที่สำคัญคือ การออกฤทธิ์แบบกระจายตัวแคบ ซึ่งช่วยให้การรักษามีความแม่นยำและตรงจุด เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อบริเวณกราม
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Dysport
โบลดกราม จากประเทศอังกฤษ ตัวยามีโมเลกุลขนาดเล็ก มีการออกฤทธิ์ในรูปแบบการกระจายเป็นวงกว้าง ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการนำมาฉีดลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกว้าง เช่น ต้นแขน ต้นขา อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการฉีดลดริ้วรอยบริเวณระหว่างคิ้วได้อีกด้วย
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Nabota
โบลดกรามคุณภาพสูงจากประเทศเกาหลี ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical และมีการทดสอบอย่างเข้มงวดเพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา โดยมีความบริสุทธิ์ของตัวยาถึง 98.7% ทำให้มีประสิทธิภาพในการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบเห็นผลทันที
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Aestox
เป็นโบลดกรามจากเกาหลีที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย โดยมีคุณสมบัติเด่นคือ ความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ซึ่งช่วยลดโอกาสในการดื้อยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเน้นการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์ที่ได้จะมีอายุการใช้งานนานกว่าโบเกาหลีอื่น ๆ
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ยี่ห้อ Xeomin
โบลดกราม จากประเทศเยอรมัน ผลิตด้วยเทคโนโลยี XTRACT ทำให้ สารออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ไม่มีการปนเปื้อน จากโปรตีน ตัวยามีโมเลกุลขนาดเล็กและมีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์แบบกระจายกว้าง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดลดเลือนริ้วรอย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ไม่มากอีกด้วย
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เตรียมตัวก่อนฉีดอย่างไร?
- ก่อนฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว งดการรับประทานอาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา หรือวิตามินอี ล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน
- ก่อนฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 3-7 วัน
- ก่อนฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว งดยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ประมาณ 1 สัปดาห์
- ก่อนฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่รับประทานประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีด
- ก่อนฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวกับโบแท้ และควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างไร?
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อจุดที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว งดนอนราบ 3 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ตัวยาไหลไปเกาะบริเวณที่ไม่ต้องการได้
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและงดสูบบุหรี่
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว งดอาหารหมักดอง
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ควรฉีดโบลดกรามต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ฉีดถี่เกินไป และไม่ควรเว้นระยะห่างเกินไป
เปรียบเทียบฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว กับ หัตถการอื่น ๆ
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว vs ร้อยไหมหน้าเรียว
การฉีดโบลดกราม และการร้อยไหม สามารถช่วยให้ใบหน้าเรียวได้ทั้งสองหัตถการ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละปัญหานั้นเหมาะกับหัตถการแบบไหน ซึ่งการฉีดโบลดกรามจะช่วยลดกล้ามเนื้อให้เล็กลง ส่วนการร้อยไหมจะช่วยในการยกกระชับ แก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย กรณีที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว vs ผ่าตัดเหลากราม
ปัญหากรามใหญ่ เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน การเลือกวิธีแก้ปัญหา ควรเลือกวิธีแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมกับในแต่ละบุคคล ความแตกต่างของการฉีดโบลดกราม กับ การผ่าตัดเหลากราม มีดังนี้
- การฉีดโบลดกรามนั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ซึ่งหลังฉีดกรามไม่จำเป็นต้องพักฟื้น กรามยุบเต็มที่ใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-5 เดือน
- การผ่าตัดเหลากราม เหมาะกับคนที่มีกระดูกกรามใหญ่ ผลลัพธ์อยู่ได้นานถาวร แต่หลังผ่าตัดต้องดูแลความสะอาดช่องปากเป็นพิเศษ และต้องกินยาที่แพทย์จ่ายอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานจนกว่าแผลจะหายดี 6-12 สัปดาห์
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เห็นผลลัพธ์ เพราะอะไร?
หลายคนที่ฉีดโบลดกรามมา แล้วไม่เห็นผลลัพธ์ มีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัย ดังนี้
- แก้ปัญหาไม่ตรงสาเหตุ : กรณีที่เป็นคนกรามใหญ่เพราะโครงสร้างกระดูกใบหน้า หรือ กรามใหญ่เพราะไขมันกระพุ้งแก้ม การฉีดโบลดกรามเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ จึงไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ เพราะในกรณีที่กรามใหญ่จากกระดูก ต้องใช้การผ่าตัดเหลากราม ส่วนกรณีกรามใหญ่เพราะไขมัน ต้องฉีดแฟต หรือดูดไขมันออก เท่านั้น
- ใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน : การฉีดโบลดกราม ต้องมั่นใจว่าเป็นโบลดกรามแท้ ผ่าน อย. เพราะหากเป็นโบลดกรามปลอม โบลดกรามที่ผสมน้ำเกลือมากเกินไป ฉีดแล้วจะไม่เห็นผลลัพธ์ และอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น ปากเบี้ยว หรือ มุมปากตก
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว กับคำถามพบบ่อย
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ใช้กี่ยูนิต?
- โดยทั่วไปการฉีดโบลดกรามจะอยู่ที่ 50-100 ยูนิต เนื่องจากกล้ามเนื้อกราม (Masseter muscle) มีความหนาและแข็งแรงกว่ากล้ามเนื้อในบริเวณอื่น ๆ การฉีดโบลดกรามจึงต้องใช้ปริมาณโบที่มากกว่า หากผู้เข้ารับบริการมีกล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่มาก อาจต้องใช้ถึง 200 ยูนิต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด
หลังฉีดโบกราม จะปวดกรามหรือเมื่อยกรามไหม?
- อาการปวด หรืออาการเมื่อยบริเวณกราม เป็นผลข้างเคียงของการฉีดโบลดกรามที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับการฉีดโบลดกรามทำงานน้อยลง
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียวได้จริงไหม?
- ฉีดโบลดกราม ช่วยให้หน้าเรียวได้จริง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลด้วย เพราะโบลดกรามจะใช้ได้ผลดีกับบริเวณกล้ามเนื้อเท่านั้น โดยแพทย์จะประเมินว่ามีปัญหาจากจุดไหน จากกระดูก กล้ามเนื้อ หรือว่าไขมัน เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาดังกล่าว
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เจ็บไหม?
- ปกติการฉีดโบลดกราม จะมีการแปะยาชาก่อนฉีด 30 นาที หลังจากนั้นยาชาจะออกฤทธิ์ ทำให้ไม่มีความรู้สึกเจ็บระหว่างฉีด แต่ในบางกรณีอาจรู้สึกตึง ๆ ระหว่างฉีดได้
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว กี่วันเห็นผล?
- หลังจากฉีดโบลดกรามเพื่อปรับรูปหน้าเรียว ผลลัพธ์จะเริ่มปรากฏให้เห็นภายใน 1-2 สัปดาห์แรก กล้ามเนื้อบริเวณกรามจะเริ่มคลายตัว และไม่แข็งตึงเมื่อกัดฟัน โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดมักปรากฏในช่วง 2-3 เดือนหลังการฉีด ทั้งนี้ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคลและการดูแลหลังฉีดอย่างเหมาะสม
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว อันตรายไหม?
- การฉีดโบลดกราม หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญการ และฉีดด้วยโบลดกรามแท้ ผ่าน อย. ที่ตรวจสอบได้ ไม่เป็นอันตายอย่างแน่นอน และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิก แพทย์ที่มีความชำนาญการ และตัวยาแท้ เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว และอาจทำให้เกิดการดื้อโบลดกรามได้
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว อยู่ได้นานไหม?
- ระยะเวลาผลลัพธ์ของโบลดกรามจะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบลดกรามที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองในแต่ละบุคคลอีกด้วย หากรับประทานอาหารที่ต้องเคี้ยวบ่อย ๆ กล้ามเนื้อกรามจะสามารถถูกกลับมากระตุ้นให้กลับมาทำงานเร็วขึ้นได้
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ฉีดบ่อย ๆ ได้ไหม?
- การฉีดโบลดกราม ควรมีการเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละครั้งอย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดห่างกันทุก 3-6 เดือน เพื่อให้กล้ามเนื้อกรามค่อย ๆ ลดขนาดลงอย่างเป็นธรรมชาติ การฉีดถี่เกินไปอาจทำให้ร่างกายดื้อต่อโบลดกราม ในขณะที่การเว้นช่วงนานเกินไป อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ต่อเนื่องและต้องใช้ปริมาณโบลดกรามมากขึ้นในครั้งถัดไป เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว มีผลข้างเคียงไหม?
การฉีดโบลดกราม มีผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติทั่วไป และสามารถหายได้เองภายใน 7 วัน มีดังนี้
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว อาจรู้สึกเจ็บ หรืออาการบวม มีรอยแดง
- หลังฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว อาจมีรอยช้ำที่เกิดจากเข็มโดนเส้นเลือด
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ทำไมเหนียงเยอะขึ้น?
- เมื่อฉีดโบลดกรามลงบนกล้ามเนื้อกราม เมื่อกรามยุบลงไป จะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยขึ้น และผิวหนังบริเวณลำคอเยอะขึ้น ทำให้ใบหน้าดูห้อยหย่อนคล้อยลง ในบางกรณีแพทย์จะแนะนำให้ฉีดโบลดกรามคู่กับโบลิฟกรอบหน้า จะทำให้ผิวกระชับพอดี ไม่หย่อนคล้อยลงมา นอกจากนี้หากฉีดโบด้วยเทคนิค Nefertiti lift จะช่วยลดเหนียงได้อีกด้วย
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ทำให้ยิ้มแข็ง หรือยิ้มไม่สุด เกิดจากอะไร?
สาเหตุของการการฉีดโบลดกรามแล้วมีอาการยิ้มแข็ง ยิ้มไม่สุด เกิดได้จากสาเหตุ ดังนี้
- การฉีดโบลดกรามผิดตำแหน่ง
- กล้ามเนื้อไรซอเรียสเกาะต่ำกว่าปกติ ไม่เหมือนของคนอื่นทั่วไป สามารถพบได้ 1-2%
- ใช้ปริมาณของโบลดกรามเยอะ ยาจึงแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งสาเหตุนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการทยอยฉีดโบลดกราม
- ใช้ตัวยาโบลดกรามปลอม ตัวยาที่ไม่คุณภาพทำให้ยากระจายตัวไม่สม่ำเสมอกัน
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว แล้วปากเบี้ยว เกิดจากอะไร?
- การที่ปากเบี้ยวหลังจากฉีดโบลดกราม อาจเกิดจากการกระทบกับกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของปาก เช่น กล้ามเนื้อ Risorius หรือ Zygomaticus ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในการยิ้มและการเคลื่อนไหวของมุมปาก เมื่อโบถูกฉีดเข้าไปใกล้บริเวณนี้ อาจทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้อ่อนกำลังลงและส่งผลให้มุมปากไม่สมดุลกันได้ ดังนั้นการฉีดโบลดกรามควรทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ และควรเลือกใช้เทคนิคที่ระมัดระวังในการฉีด
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว แล้วแก้มห้อย เพราะอะไร?
- การเกิดก้อนหลังการฉีดโบลดกราม เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการฉีด เนื่องจากโบจะต้องใช้เวลาทำงาน เพื่อคลายกล้ามเนื้อกรามให้มีความนิ่มขึ้น บางครั้งกล้ามเนื้อบางส่วนอาจไม่ตอบสนองทันที ซึ่งอาจรู้สึกเป็นก้อนหรือแข็งตัวเมื่อเคี้ยวอาหารหรือขยับกราม การเกิดก้อนในช่วงนี้ถือเป็นอาการชั่วคราวและจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป จนถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว แล้วแก้มตอบ ปรับหน้าเรียว แล้วแก้มตอบ เพราะอะไร?
- เป็นกรณีที่สามารถพบได้ในคนที่มีเนื้อแก้มน้อย แก้มตอบ เนื่องจากกล้ามเนื้อกรามอยู่บริเวณแนวกระดูกกรามยาวไปจนถึงบริเวณแก้มตอบ การฉีดโบลดกรามจำเป็นต้องอาศัยเทคนิคการฉีดอย่างมาก โดยแพทย์จะเน้นฉีดลดกล้ามเนื้อกรามลงแค่บริเวณส่วนล่างของกล้ามเนื้อตรงแนวกระดูกกราม รวมไปถึงใช้ปริมาณยูนิตที่เหมาะสม ไม่เยอะจนเกินไป เท่านี้ก็จะสามารถช่วยลดโอกาสเกิดแก้มตอบจากการฉีดโบลดกรามได้
ทำไมฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว แล้วเป็นก้อน?
- หลังจากการฉีดโบลดกรามเพื่อปรับหน้าเรียว บางคนอาจรู้สึกถึงการเป็นก้อนในบริเวณกราม ซึ่งเกิดจากการที่โบที่ฉีดไปยังกล้ามเนื้อกรามต้องใช้เวลาในการกระจายตัวและทำงาน โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกที่ผลลัพธ์ยังไม่สมบูรณ์ เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวและยุบลง ก้อนที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ ลดลงเองจนเห็นผลลัพธ์สุดท้ายใน 2-4 สัปดาห์หลังการฉีด
การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้น อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามใหญ่ นอกจากการฉีดโบลดกรามเพื่อปรับให้รูปหน้าเรียวเล็กแล้ว ยังมีการฉีดโบลิฟกรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวกระชับ กรอบหน้าชัดขึ้นได้เช่นกัน ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดโบลดกราม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพใบหน้า และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีจากการฉีดโบลดกราม