อย่านอนกรน เสียงลี้ลับมิติใหม่ที่ตามหลอกหลอนทุกครั้งที่หลับตา
มิติใหม่แห่งความลึกลับ ที่มาพร้อมกับเสียงกรนสนั่นในยามค่ำคืน บ้านอาจไม่ใช่สถานที่ที่ควรกลับอีกต่อไป เมื่อสามีกรนหนัก เสียงดังกึกก้องราวกับรถไฟ คืนแล้วคืนเล่าเสียงกรนก็ยังคงดังก้องกังวานไปทั่วบ้าน จนกลายเป็นปริศนาที่ค่อย ๆ ขยายวงกว้างในครอบครัว ภรรยาและลูกต่างพากันหวาดผวา ที่ต้องเผชิญกับเสียงกรนสุดแสนประหลาด ที่หาคำอธิบายไม่ได้ในบ้านหลังนี้ เชื่อว่า เสียงกรนที่เกิดขึ้นต้องมีความลึกลับซ่อนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ซึ่งภรรยาก็พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อสยบเสียงกรนของสามี แต่เสียงกรนเหล่านี้ยังคงทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ความผิดปกติของเสียงกรนที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่รบกวนการนอนหลับของคนรอบข้าง แต่ยังนำพาความวิตกกังวลและความหวาดกลัว มาสู่ทุกคนในครอบครัวอีกด้วย
เสียงกรน จึงได้กลายเป็นปมปริศนาสุดท้าทายที่ยากจะคลี่คลาย ทำให้ทุกคนในบ้านต้องร่วมกันไขปริศนาสุดลึกลับนี้ให้ได้! เพื่อหยุดเสียงกรนอันน่าสะพรึงกลัว โดยทุกคนต่างพากันตั้งคำถามว่า อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของเสียงกรนนี้? จะทำอย่างไรดีให้คืนนี้หลับอย่างสงบสุข? แล้วมีวิธีไหนที่จะช่วยหยุดยั้งเสียงกรนนี้ได้บ้าง? บทความนี้ไขข้อสงสัยมาให้แล้วค่ะ
เปิดเบาะแสลี้ลับกับ “อย่านอนกรน” ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก
นอนกรน คืออะไร?
อาการนอนกรน คือ ภาวะที่มีเสียงดังเกิดขึ้นขณะนอนหลับ เกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณคอและเพดานอ่อนหย่อนตัวลงขณะหลับ ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลง จนลมหายใจที่ผ่านเข้าออก ไปกระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณคอ เช่น ลิ้นไก่ และเพดานอ่อน ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและส่งเสียงดังขึ้น โดยอาการนอนกรนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งผู้ชายมีแนวโน้มที่จะนอนกรนมากกว่าผู้หญิง ทั้งนี้ นอกจากอาการนอนกรน จะเป็นอาการที่รบกวนการนอนหลับของตัวเราเองและคนรอบข้างแล้ว อาการนอนกรนยังเป็นสัญญาณเตือน บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ หากปล่อยปะละเลย อาการนอนกรนอาจนำไปสู่ภาวะที่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอนกรน มีสาเหตุมาจากอะไร?
อาการนอนกรน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละคนก็มีสาเหตุที่แตกต่างกัน โดยสาเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น มีดังนี้
- ทางเดินหายใจแคบ เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณคอและเพดานอ่อน หย่อนตัวลงขณะนอนหลับ ทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนแคบลง ลมหายใจที่ผ่านจึงเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดเสียงกรนรบกวน
- โครงสร้างใบหน้าผิดรูป เช่น คางสั้น คางเล็ก ลิ้นไก่ใหญ่ หรือเพดานอ่อนยาว ส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะนอนกรนมากกว่าคนทั่วไป
- น้ำหนักเกิน เนื่องจากผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน มีไขมันส่วนเกินบริเวณคอ ซึ่งอาจไปกดทับทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอุดตันและเกิดเสียงกรนได้
- อายุมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณคอจะหย่อนตัวลง ทำให้ทางเดินหายใจแคบ ส่งผลให้เกิดอาการนอนกรนได้
- ภูมิแพ้ การอักเสบในโพรงจมูกจากภูมิแพ้ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง ลมหายใจเสียดสีกับทางเดินหายใจส่วนบน จนเกิดอาการนอนกรนได้
- ดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหย่อนตัว ส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลง จนนอนกรนได้
- ท่าทางการนอน อาการนอนกรน มักพบได้บ่อยเมื่อนอนหงาย ซึ่งการนอนหงาย จะทำให้น้ำหนักของลิ้นและเพดานอ่อน ไปกดทับทางเดินหายใจได้ง่ายมากที่สุด
- พันธุกรรม ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวมีประวัตินอนกรน หรือมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการนอนกรนได้มากกว่าคนทั่วไป
- เป็นร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคหัวใจล้มเหลว หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ก็อาจทำให้เกิดอาการนอนกรนได้เช่นกัน
หยุดกรนด้วย Snore Laser เลเซอร์แก้นอนกรน
Snore Laser หรือ เลเซอร์แก้นอนกรน เป็นการรักษาอาการนอนกรนด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ชนิดเออร์เบี่ยม (Erbium: YAG Laser) ซึ่งมีความยาวคลื่น 2940 nm (นาโนเมตร) โดยเลเซอร์จะถูกยิงไปยังบริเวณที่ทำให้เกิดเสียงกรน เช่น เพดานอ่อน ลิ้นไก่ หรือกระพุ้งแก้ม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นตึงตัวมากขึ้น ขยายทางเดินหายใจให้เปิดกว้างมากขึ้น เมื่อทางเดินหายใจเปิดกว้าง ลมหายใจจะผ่านได้อย่างสะดวก ทำให้ลดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อ และแก้ปัญหาอาการนอนกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Snore Laser มีข้อดีอะไรบ้าง?
- Snore Laser ลดอาการนอนกรนได้ถึง 80% เมื่อมีการนอนหลับที่ดี สุขภาพโดยรวมก็ดีขึ้นตามไปด้วย ทั้งตัวคุณเองและคนรอบข้าง สามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
- Snore Laser ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลังเลเซอร์สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องบาดแผล
- Snore Laser ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ในการทำเลเซอร์ จึงประหยัดเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด
- Snore Laser เห็นผลเร็ว ซึ่งอาการนอนกรนจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการกรนมาก แนะนำให้ทำการเลเซอร์อย่างต่อเนื่อง 3 – 4 ครั้ง
- Snore Laser มีความปลอดภัยสูง เนื่องจาก Snore Laser เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจาก US FDA (อย.อเมริกา) และ TH FDA (อย. ไทย)
- Snore Laser มีผลข้างเคียงน้อย หลังทำเลเซอร์แก้นอนกรน อาจมีอาการระคายเคืองในช่องปากเล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้ จะค่อย ๆ หายไปเองภายในไม่กี่วัน
- Snore Laser ไม่ต้องใส่อุปกรณ์ขณะหลับ ไม่ต้องเสียเวลาดูแลรักษาอุปกรณ์ สามารถนอนหลับได้อย่างอิสระ ไม่รู้สึกอึดอัด หรือรำคาญใจ
- Snore Laser ลดความเสี่ยงโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ จากการนอนกรน เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
เตรียมสยบเสียงกรน ได้แล้ววันนี้ ที่ รมย์รวินท์คลินิก ทุกสาขา
สำหรับท่านใดที่กำลังประสบปัญหานอนกรนอยู่ อย่าเพิ่งหวาดกลัวไป สามารถเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ของ รมย์รวินท์คลินิก ได้ทุกสาขา ด้วยเทคโนโลยี Snore Laser เลเซอร์รักษาอาการนอนกรนที่มีความทันสมัย มีความปลอดภัย สามารถแก้ปัญหาอาการนอนกรนของคุณได้อย่างตรงจุด พร้อมที่จะช่วยให้คุณหลับสนิท ตื่นเช้ามาอย่างสดใส บอกลาเสียงกรนกวนใจไปได้เลย