สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting กระชับสัดส่วน ดีจริงไหม?

CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting กระชับสัดส่วน ดีจริงไหม?

อยากหุ่นดี แบบไม่ต้องลงมีด ไม่ต้องผ่าตัด ทำได้ไหม?  หนึ่งในวิธีการที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันที่จะช่วยสร้างหุ่นสวยได้แบบตรงใจ  คือ การสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) หรือที่รู้จักในชื่อเครื่อง CoolSculpting ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดที่ยากต่อการลด แต่ยังปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย มาทำความเข้าใจว่า ความเย็นสลายไขมันได้อย่างไร ? CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น กระชับสัดส่วน ดีจริงไหม? ที่ควรรู้ก่อนทำ 

 

CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็นคืออะไร
CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็นคืออะไร

 

สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร?

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมาย ที่ช่วยในเรื่องการสลายไขมัน ลดไขมันเฉพาะส่วน อย่าง การสลายไขมันด้วยความเย็น ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้ ซึ่งการสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) เป็นกระบวนการที่ใช้ความเย็นในการควบคุมเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง โดยการแช่แข็งเซลล์ไขมัน เนื่องจากเซลล์ไขมันนั้นมีความไว และตอบสนองต่อความเย็นมากกว่าเซลล์เนื้อเยื่อชนิดอื่นในร่างกาย เมื่อเซลล์ไขมันนั้นถูกทำให้เย็นจนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม เซลล์ไขมันก็จะถูกทำลายและถูกกำจัดออกจากร่างกาย ผ่านกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย ทำให้มีความปลอดภัย และไม่ต้องผ่าตัด

 

ความเย็นสลายไขมันได้อย่างไร ด้วย CoolSculpting ?

การสลายไขมันด้วยความเย็นเฉพาะส่วนด้วยเทคโนโลยี สามารถทำได้ผ่านเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting โดยมีหลักการทำงานแบบ Cryolipolysis คือ การส่งความเย็นในระดับจุดเยือกแข็งประมาณ -11°C ถึง -13 °C  ลงไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อเข้าไปแช่แข็งเซลล์ไขมันทำให้เซลล์ไขมันค่อย ๆ ตายไปด้วยความเย็นจากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ ส่งผลให้หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็นเสร็จสัดส่วนจะดูกระชับขึ้นถึง 27-31% โดยคลื่นความเย็นนั้นจะเกาะเฉพาะที่เซลล์ไขมันเท่านั้น ไม่ไปทำลายเนื้อเยื่อบริเวณอื่น ๆ 

 

เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting จะส่งความเย็นผ่านหัวดูดผิว (Vacuum) ที่จะประกบกับผิวหนังบริเวณที่จะทำ จากนั้นจะส่งความเย็นเข้าไปที่เซลล์ไขมันใต้ชั้นผิว ให้เซลล์ไขมันแข็งตัว จากนั้นจะทำการกำจัดเซลล์ไขมัน โดยไขมันที่ถูก CoolSculpting กำจัดจะถูกขับออกทางระบบขับถ่ายของเสียของร่างกาย และจากนั้นเซลล์ไขมันที่เหลือจะค่อย ๆ เรียงตัวใหม่ ชั้นไขมันจะดูบางลง และทำให้รูปร่างดูกระชับมากขึ้น

 

โดยกระบวนการสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting นั้นจะไม่ทำให้เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นภายหลังทำ ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

 

สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting มีข้อดีมีอะไรบ้าง

การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting มีข้อดีเด่น ๆ อยู่ดังนี้

  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น เป็นแบรนด์ที่พัฒนาโดยบริษัท Zeltiq Aesthetics, Inc. จากสหรัฐอเมริกา และได้รับการรับรองจาก FDA (องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ)
  • CoolSculpting ใช้เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Cryolipolysis เพื่อกำจัดเซลล์ไขมันด้วยความเย็น โดยมีระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ และยังมีหัวดูดที่หลากหลายสำหรับบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง แขน ต้นขา และเหนียง
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น มีระบบป้องกันผิวหนังจากความเย็นเพื่อป้องกันความเสียหาย
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น โดยเซลล์ไขมันจะถูกทำลายมากถึง 27-31% ตั้งแต่ครั้งแรก
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ใช้เวลาในการทำประมาณ 35-60 นาที
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น มีความปลอดภัย ไม่เจ็บ
  • CoolSculpting หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ไม่มีการดูดไขมันหรือผ่าตัด (Non-Invasive Lipolysis) 
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยมาก
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ช่วยกำจัดไขมันแบบถาวร
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ช่วยให้สัดส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น จะไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นบริเวณข้างเคียง
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ทำให้เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ต้องฉีดยา หรือใช้ยาชาเฉพาะจุด
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สามารถกลับไปทำซ้ำที่จุดเดิมได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น
ความเย็นสลายไขมันได้อย่างไร
ความเย็นสลายไขมันได้อย่างไร

 

ความเย็นสลายไขมันได้อย่างไร ทำส่วนไหนได้บ้าง?

การสลายไขมันด้วยความเย็น จะช่วยลดจำนวนเซลล์ไขมันลงอย่างถาวร เป็นการกำจัดไขมันแบบเฉพาะจุด สามารถทำได้ทุกจุดบนร่างกาย เช่น 

  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ เหนียงใต้คาง 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ ต้นแขนด้านใน 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ เนื้อส่วนเกินบริเวณรักแร้ 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ หน้าอก 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ ปีกด้านหลัง 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ หน้าท้องบน-ล่าง 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ รอบเอว
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ ไขมันส่วนเกินข้างสะโพก บั้นท้าย 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณ ต้นขาด้านใน-นอก 

 

สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting มีขั้นตอนการรักษาอย่างไร ?

  1. ก่อนเริ่มการรักษาสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา หรือต้นแขน
  2. หลังจากการประเมิน แพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  3. แพทย์เริ่มทำการรักษาสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting จะทำการติดตั้งเครื่องมือในลักษณะแผ่นปล่อยความเย็นในบริเวณที่ต้องการ โดยอุปกรณ์ Cryolipolysis จะถูกวางลงบนบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน
  4. จากนั้นแพทย์จะทำการเช็กอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเหมาะสม ก่อนจะปล่อยคลื่นสลายไขมันด้วยความเย็นเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง
  5. เครื่องมือสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting จะดูดบริเวณผิวหนังและชั้นไขมันขึ้นมาภายในหัวของเครื่อง จากนั้นจะปล่อยความเย็นที่ควบคุมอย่างแม่นยำประมาณ -11°C ถึง -13 °C เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัว
  6. แพทย์จะทำการใช้คลื่นความเย็นต่อเนื่องกันครั้งละ 30-35 นาที ขึ้นอยู่ที่จุดที่ทำ จากนั้น แพทย์จะใช้เครื่องมือนวดบริเวณที่ทำประมาณ 2-5 นาที ถือเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการสลายไขมัน
  7. ขณะทำสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ในช่วงแรก อาจเกิดความรู้สึกเย็น ตึง หรือชา บริเวณที่ทำการรักษา
  8. หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังทำ รวมถึงการวางแผนการรักษาในอนาคต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting เหมาะกับใคร?

การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting สามารถทำได้เกือบทุกคน หากมีความต้องการกำจัดเซลล์ไขมันในจุดที่กำจัดได้ยากออก และไม่ต้องการให้มีเซลล์ไขมันกลับมาอีก โดยผู้ที่เหมาะกับการสลายไขมันด้วยความเย็น ได้แก่

 

  • สลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะกับ ผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนเฉพาะจุด
  • สลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะกับ ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเกินเล็กน้อย 
  • สลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะกับ ผู้ที่ออกกำลังกาย แต่ไม่สามารถลดไขมันในบางจุดได้
  • สลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะกับ ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างโดยไม่ต้องเจ็บตัว
  • สลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินสะสมเฉพาะจุดบริเวณร่างกาย

 

 สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ไม่เหมาะกับใคร ?

  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่รับการผ่าตัดคลอดบุตรน้อยกว่า 6 เดือน
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่อยู่ระหว่างการมีประจำเดือน
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่แพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือผู้ที่เป็นโรคเลือดที่มีการแข็งตัวผิดปกติ เมื่อสัมผัสกับความเย็น
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด หรือยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวตามปกติ
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่เป็นโรคไส้เลื่อน
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่ติดอุปกรณ์ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรืออุปกรณ์ควบคุมการเต้นของหัวใจ
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่เพิ่งผ่าตัด หรือมีแผลผ่าตัด ในบริเวณที่จะทำการสลายไขมันน้อยกว่า 6 เดือน
  • สลายไขมันด้วยความเย็นไม่เหมาะกับ ผู้ที่มีแผลเปิด ผิวหนังอักเสบ หรือติดเชื้อ ในบริเวณที่จะทำการสลายไขมัน

 

สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่ใช่วิธีการดูดหรือการผ่าตัดไขมัน แต่จะคล้ายกับการทำทรีตเมนต์ทั่วไป ทำให้หลังทำ CoolSculpting สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถเตรียมตัวได้ ดังนี้

  • ก่อนสลายไขมันด้วยความเย็น ควรรับประทานอาหาร และดื่มน้ำ ตามปกติ
  • ก่อนสลายไขมันด้วยความเย็น ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ก่อนสลายไขมันด้วยความเย็น ควรงดอาหารอย่างน้อย 1 ชม. หากทำการสลายไขมันด้วยความเย็นบริเวณช่วงท้อง
  • ก่อนสลายไขมันด้วยความเย็น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

 

ผลลัพธ์ของ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
ผลลัพธ์ของ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

 

ผลลัพธ์ของ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น 

การสลายไขมันด้วยความเย็น จะทำให้เซลล์ไขมันที่ถูกคลื่นความเย็นค่อย ๆ ถูกขับออกทางระบบขับถ่ายของเสียตามธรรมชาติ โดยจะเริ่มเห็นผลได้ใน 3 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นหลัง 3 เดือน เพราะร่างกายขจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกจากชั้นไขมันใต้ผิวหนังจนหมด จึงทำให้สัดส่วนกระชับและผิวเรียบเนียนขึ้น ทั้งนี้ในการสลายไขมันด้วยความเย็นแต่ละครั้งจะกำจัดเซลล์ไขมันออกได้ประมาณ 27-31%เท่านั้น ขึ้นอยู่กับจุดที่ทำและคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ด้วย

 

ความเย็นสลายไขมันได้อย่างไร เจ็บไหม ?

ในระหว่างทำ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย พร้อมกับรู้สึกแสบ และชา บริเวณผิวที่ทำ โดยในช่วง 5-10 นาทีแรก จะรู้สึกไม่สบายผิว ตึง รั้ง เนื่องจากความแน่นของหัวเครื่องมือสลายไขมันด้วยความเย็น ที่ค่อย ๆ ดูดบริเวณผิว จากนั้นจะรู้สึกเย็นก่อนจะรู้สึกชา และปวดเล็กน้อย 

ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ทุเลาลงเมื่อได้รับลมเย็นต่อเนื่องจนครบ 30-35 นาที หลังจากการสลายไขมันด้วยความเย็นในช่วง 1-2 สัปดาห์ จะยังรู้สึกเมื่อย และคันบริเวณผิว และในช่วงหลังทำสลายไขมันด้วยความเย็นระยะ 3-4 สัปดาห์ บางคนอาจยังมีอาการชาอยู่บ้าง แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเอง พร้อมกับผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน

 

สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting มีข้อควรระวังไหม ?

การสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นยังมีข้อจำกัด หรือข้อควรระวังอยู่บางประการ ดังนั้นก่อนจะเข้าไปทำสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting อาจต้องทราบข้อจำกัดของ CoolSculpting ดังนี้

 

  • การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting จะค่อย ๆ เริ่มเห็นผลที่ชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน โดยครั้งแรก CoolSculpting จะสามารถลดไขมันได้มากถึง 27-31% แต่อาจจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์แบบทันที เพราะสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting เป็นการใช้คลื่นความเย็นในการทำลายเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง และต้องรอให้เซลล์ไขมันนั้นถูกขับออกจากร่างกาย
  • การสลายไขมันด้วยความเย็น จากเครื่อง CoolSculpting ไม่เหมาะกับผู้ที่มีชั้นไขมันมากเกินไป หรือมีค่า BMI>35 เพราะอาจจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจจะไม่เห็นผลที่ชัดเจนมาก
  • CoolSculpting เป็นเครื่องมือที่ใช้สลายไขมันด้วยความเย็น มุ่งเน้นไปที่การกำจัดไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และกระชับสัดส่วนร่างกาย แต่ไม่สามารถกำจัดไขมันที่แทรกอยู่ในอวัยวะได้
  • สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรค หรือมีความผิดปกติในร่างกายบางประการ เช่น โรคแพ้ความเย็น ผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ รวมไปถึงผู้ที่อยู่ระหว่างมีประจำเดือน และผู้ที่ตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร 

 

สลายไขมันด้วยความเย็น ช่วยลดไขมันในช่องท้องได้หรือไม่?

การสลายไขมันด้วยความเย็น (CoolSculpting หรือ Cryolipolysis) สามารถช่วยลดไขมันในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ที่มองเห็นและสัมผัสได้ เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ไม่สามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งเป็นไขมันที่สะสมอยู่ลึกภายในรอบอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ ลำไส้ และหัวใจ ได้

 

ระหว่างทำ ความเย็นสลายไขมันได้อย่างไร ต้องอยู่ท่าไหนจึงจะเหมาะสม?

การสลายไขมันด้วยความเย็น (CoolSculpting หรือ Cryolipolysis) จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษาและประเภทของเครื่องมือที่ใช้ ในระหว่างการทำหัตถการ ผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกอิริยาบถที่สะดวกและเหมาะสมกับตัวเองได้ โดยส่วนใหญ่ระหว่างทำสลายไขมันด้วยความเย็น ผู้เข้ารับบริการจะนั่งหรือเอนตัวในท่าที่สบาย และคงที่ระหว่างการรักษาสลายไขมันด้วยความเย็นจะเหมาะสมที่สุด

 

ระหว่างการสลายไขมันด้วยความเย็น ควรหลีกเลี่ยงการขยับร่างกายหรือเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็วในระหว่างการรักษา เพื่อป้องกันหัวดูดหลุด หรืออาจทำให้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และหากรู้สึกไม่สบายในอิริยาบถใด สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้

 

 

ทำไมต้อง CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
ทำไมต้อง CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น

 

ทำไมต้องสลายไขมันด้วยความเย็น ?

  1. การสลายไขมันด้วยความเย็นมีความปลอดภัย เนื่องจากการสลายไขมันด้วยความเย็น ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) 
  2. การสลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีการใช้เข็ม ทำให้ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ หรือผลข้างเคียงที่รุนแรง
  3. การสลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ต้องพักฟื้น หลังการใช้ความเย็นสลายไขมัน สามารถกลับไปทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
  4. การสลายไขมันด้วยความเย็นช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุด วิธีสลายไขมันด้วยความเย็นเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก หรือบริเวณใต้คาง ที่ลดได้ยากแม้จะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร
  5. การสลายไขมันด้วยความเย็นช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในระยะยาว เนื่องจากเมื่อเซลล์ไขมันถูกกำจัดออกไปแล้ว จะไม่กลับมาใหม่อีกหากมีการรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่

เซลล์ไขมัน คืออะไร ?

ทำความรู้จักกับ เซลล์ไขมัน (Fat Cell) หรือ Adipocyte ซึ่งเป็นเซลล์ที่ช่วยทำหน้าที่กักเก็บพลังงานภายในร่างกาย โดยจะอยู่ในรูปแบบของไตรกลีเซอไรด์ โดยร่างกายจะปล่อยพลังงานออกมาใช้ ในช่วงที่ร่างกายขาดพลังงานจากอาหาร ทำให้เซลล์ไขมันมีความสำคัญในกระบวนการรักษาสมดุลพลังงานในร่างกาย แต่หากมีมากเกินไปอาจจะส่งผลต่อสุขภาพ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้

 

หากมีเซลล์ไขมันในร่างกายมากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น ?

  • เมื่อร่างกายของเราสะสมไขมันมากเกินไป จะทำให้เซลล์ไขมันขยายขนาดมากขึ้น หรือเกิดความหนาแน่นสูง อาจจะทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง อย่าง เซลลูไลท์ (Cellulite) ที่ทำให้ผิวเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน
  • บริเวณที่มีเซลล์ไขมันสะสมมาก ในบางจุดอาจทำให้เกิดเป็นลักษณะผิวเปลือกส้ม โดยมักเป็นบริเวณที่ไขมันใต้ผิวหนังเยอะ เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก และก้น

 

เซลล์ไขมัน มีหน้าที่อะไร?

เซลล์ไขมันไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเก็บพลังงาน แต่ยังมีส่วนสำคัญในการหลั่งฮอร์โมนและสารชีวเคมีที่มีอิทธิพลต่อระบบเผาผลาญและการอักเสบในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความอยากอาหาร และอะดิโพเนคติน (Adiponectin) ที่ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินและช่วยในการเผาผลาญไขมัน หากมีเซลล์ไขมันที่มากเกินไปอาจจะทำให้ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพได้

ซึ่งการจัดการไขมันส่วนเกินสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือจะเป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยลดไขมัน เช่น การสลายไขมันด้วยความเย็น ที่สามารถช่วยลดและสลายไขมันสะสมส่วนเกินได้เป็นอย่างดี

 

ลดน้ำหนัก กับลดไขมัน ต่างกันไหม
ลดน้ำหนัก กับลดไขมัน ต่างกันไหม

 

ลดน้ำหนัก กับ ลดไขมัน ต่างกันไหม?

การลดน้ำหนักและกำจัดเซลล์ไขมันมีความแตกต่างกันตรงที่การลดน้ำหนัก ดังนี้

  • การลดน้ำหนัก 

การลดน้ำหนักนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร หรือการทำหัตถการ ซึ่งเมื่อน้ำหนักลดลง เซลล์ไขมันก็จะมีขนาดเล็กลงแต่ยังมีอยู่จำนวนเท่าเดิม และในอนาคตก็สามารถกลับมาขยายได้ และเมื่อไม่สามารถกักเก็บต่อไปได้จะแบ่งตัวออกเป็นเซลล์ไขมันใหม่ ทำให้เกิดเป็นความอ้วนได้

  • การลดไขมัน

การลดไขมัน หรือการการกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินให้ได้แบบถาวร การเอาเซลล์ไขมันออกจากร่างกาย หรือการทำให้เซลล์ไขมันนั้นตาย ในปัจจุบันจะใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยกำจัดไขมัน เช่น การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting โดยไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด

 

อยากลดไขมัน เลือกวิธีไหนดี? 

ปัจจุบันมีวิธีที่จะช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้หลายวิธี โดยแต่ละวิธีก็มีความโดดเด่น ข้อดี หรือข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป การเลือกใช้วิธีลดไขมันที่เหมาะกับเราจะช่วยให้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยข้อแตกต่างของ วิธีลดไขมันแต่ละวิธี มีดังนี้

  1. Cryolipolysis (การสลายไขมันด้วยความเย็น)

การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นการใช้ความเย็นที่ควบคุมอย่างแม่นยำในการทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัว และตายตามธรรมชาติ (Apoptosis) โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที 

ทั้งการสลายไขมันด้วยความเย็นยังมีความเสี่ยงต่ำ อาจมีผลข้างเคียงหลังทำเล็กน้อย ได้แก่ แดง บวม หรือชาในบริเวณที่ทำ ซึ่งมักจะค่อย ๆ หายไปเอง การสลายไขมันด้วยความเย็นสามารถเห็นผลชัดเจนใน 2-3 เดือน เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลาในการกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกไปตามกระบวนการขับของเสีย

  1. Liposuction (การดูดไขมัน)

การดูดไขมัน เป็นการผ่าตัดเพื่อดูดไขมันออกจากร่างกายโดยตรง โดยใช้ท่อดูดขนาดเล็กเข้าไปในชั้นไขมันผ่านแผลขนาดเล็ก หลังทำต้องพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ดูดและพื้นที่ที่ทำ

ทั้งนี้การดูดไขมันอาจความเสี่ยงปานกลางถึงสูง เช่น การติดเชื้อ เลือดออก รอยแผลเป็น หรือผลข้างเคียงจากการดมยาสลบ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ การดูดไขมันสามารถเห็นผลทันทีหลังทำ แต่ต้องรอให้รอยบวมและช้ำหายไปเพื่อเห็นรูปร่างที่ชัดเจน

  1. การลดไขมันด้วยเลเซอร์ (Laser Lipolysis)

การลดไขมันด้วยเลเซอร์ เป็นการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติ หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจวัตรได้ทันที

ทั้งนี้การลดไขมันด้วยเลเซอร์อาจมีความเสี่ยงต่ำ เช่น ผิวแดง หรือระคายเคืองเล็กน้อยบริเวณที่ทำ และสามารถถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1-2 เดือน เนื่องจากต้องรอให้ร่างกายขจัดไขมันออกไป

เปรียบเทียบการลดไขมัน แต่ละวิธี

  • Cryolipolysis: การสลายไขมันด้วยความเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ต้องการสลายไขมันด้วยความเย็น กระชับสัดส่วน และมีเวลาพักฟื้นน้อย มีกิจวัตรประจำวันเยอะ
  • Liposuction: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันจำนวนมากในคราวเดียว และสามารถพักฟื้นได้
  • Laser Lipolysis: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดเล็ก ๆ และต้องการกระชับผิวร่วมด้ว

หากต้องการที่จะลดไขมัน ควรศึกษาวิธีหรือเทคนิคการลดไขมันที่ตรงโจทย์ และปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป ซึ่งการสลายไขมันด้วยความเย็นก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มาแรงมากในตอนนี้ เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว ทั้งยังไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนวิธีอื่น ๆ 

สลายไขมันด้วยความเย็น ต้องดูแลตัวเองหลังทำอย่างไร ?

แม้ว่าการสลายไขมันด้วยความเย็น จะเป็นการลดไขมันที่ไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ใช้เวลาพักฟื้นน้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ และอยู่ได้นานขึ้น ควรดูแลตัวเองหลังทำ ดังนี้

  1. หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น ดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น และช่วยทำให้กระบวนการกำจัดเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายในร่างกาย ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น รักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ การควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไขมันสะสมใหม่
  3. หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำมากเกินไป เช่น การนวดหรือกดแรง ๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เนื่องจากอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคืองได้
  4. หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนในบริเวณที่ทำการรักษา เช่น การอาบน้ำร้อนหรือการทำซาวน่าในช่วงแรก เพื่อป้องกันการระคายเคือง
  5. หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันดี และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์หรือน้ำตาลสูง เพื่อป้องกันการสะสมไขมันใหม่
  6. หลังทำสลายไขมันด้วยความเย็น หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อไม่ให้สารต่าง ๆ เข้าไปรบกวนกระบวนการเผาผลาญและกำจัดเซลล์ไขมัน

สรุป

CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัดหรือพักฟื้น แม้ผลลัพธ์จะไม่ได้เห็นผลทันที แต่การลดไขมันอย่างถาวรด้วยการสลายไขมันด้วยความเย็น ก็เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างอย่างเป็นธรรมชาติและไม่เสี่ยงต่อสุขภาพ หากใครกำลังมองหา การสลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis) หรือการใช้เครื่องการสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting สามารถเข้ามาปรึกษาสอบถามเบื้องต้นได้ที่ รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา