หากกำลังมองหาทางเลือกใหม่ในการฟื้นฟูผิว การฉีด Plinest ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจน ซ่อมแซมผิวที่ได้รับความเสียหาย และปรับปรุงคุณภาพผิวโดยเฉพาะ ด้วยส่วนประกอบ และเทคโนโลยีการผลิตที่มีความโดดเด่น ทำให้ได้สารที่มีความเข้มข้น และบริสุทธิ์สูง สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปราศจากสารปนเปื้อนอันตราย วันนี้ รมย์รวินท์คลินิกจะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงข้อดีของการฉีด Plinest ว่า ดีอย่างไร? เหมาะกับใคร? ช่วยเรื่องอะไร? แล้วฉีดบริเวณไหนได้บ้าง? บทความนี้รวมคำตอบมาให้แล้ว

ข้อดีของ Plinest มีอะไรบ้าง?
- ใช้เทคโนโลยี HPT™ ในการผลิต
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เรียกว่า HPT™ (Highly Purified Technology) ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตลิขสิทธิ์เฉพาะ โดยการใช้วิธีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง ทำให้ได้สาร PN (Polynucleotide) ที่มีความบริสุทธิ์สูง พร้อมทั้งมีผลการวิจัยรองรับมากกว่า 70 ฉบับ
- มีการควบคุมมาตรฐานตลอดการผลิต
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่ใช้ PN (Polynucleotide) สกัดจากปลาเทราต์ โดยถูกเพาะเลี้ยงไว้ในฟาร์มปลาน้ำจืดแบบปิด จึงมีการควบคุมมาตรฐานตลอดกระบวนการผลิตในทุกตัวแปรสำคัญ ตั้งแต่การให้อาหาร ความสะอาด คุณภาพน้ำ และสุขภาพของปลา รวมไปถึงการตรวจสอบการปนเปื้อนของโลหะหนัก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสารที่สกัดออกมานั้น มาจากปลาเทราต์ที่แข็งแรง และมีคุณภาพอย่างแท้จริง
- ปราศจากสารพิษปนเปื้อน
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่ใช้ PN (Polynucleotide) สกัดจากปลาเทราต์ที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มระบบปิด จึงมีการควบคุม และตรวจสอบสารพิษอย่างเข้มงวด ทำให้ปราศจากการปนเปื้อนของสารต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น โลหะหนัก พลาสติก อนุภาคกัมมันตรังสี หรือสารอื่น ๆ จากสิ่งแวดล้อม
- เข้ากันได้ดีกับผิวหนังของมนุษย์
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่ใช้ PN (Polynucleotide) สกัดจากปลาเทราต์ ซึ่งมีความเข้มข้นของ DNA สูงกว่าปลาชนิดอื่น และมีโครงสร้างใกล้เคียงกับ DNA ในร่างกายมนุษย์ จึงสามารถเข้ากับผิวหนังได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการแพ้ หรือปฏิกิริยาต่อต้านจากภูมิคุ้มกัน
- ให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง รวมทั้งซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แลดูเป็นธรรมชาติ และกลมกลืนเข้ากับผิวได้ดี โดยไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็ง และไม่ทำให้โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยน
- ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่สามารถย่อยสลายได้เอง ตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย โดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างสะสมไว้ในชั้นผิว อีกทั้ง Plinest ยังสามารถละลายในน้ำ และดูดซึมเข้าร่างกายได้ทั้งหมด จึงลดโอกาสเสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือด หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ในระยะยาว
- ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่สามารถตอบโจทย์กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือแม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื่องจาก Plinest ใช้ส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) ที่มีความบริสุทธิ์ และมีความอ่อนโยนสูง จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และยังช่วยลดการอักเสบของผิวได้อีกด้วย
ข้อจำกัดของ Plinest มีอะไรบ้าง?
- ไม่เหมาะกับการยกกระชับปรับรูปหน้า
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่เน้นการกระตุ้นคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย และปรับปรุงคุณภาพผิวจากภายใน จึงไม่เหมาะสำหรับการนำมายกกระชับปรับรูปหน้า หรือปั้นรูปทรงที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์
- ต้องฉีดต่อเนื่องหลายครั้ง
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่แพทย์มักแนะนำให้ทำการรักษาประมาณ 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกันประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ เพื่อให้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งรีบ หรือต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
- ต้องฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้เท่านั้น
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่ควรฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาคของใบหน้าเท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงอันตราย

ทำความรู้จัก Plinest คืออะไร?
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวจากประเทศอิตาลีที่ใช้ส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) สกัดจากชิ้นส่วน DNA ปลาเทราต์ ซึ่งมีระดับความเข้มข้นสูงกว่า DNA ของปลาแซลมอน โดยนำมาผ่านกระบวนการผลิตที่ชื่อว่า HPT™ (Highly Purified Technology) ทำให้ได้สารที่มีคุณภาพ และมีความบริสุทธิ์สูง ปราศจากโปรตีน แอนติเจน หรือสารพิษปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม เช่น โลหะหนัก พลาสติก หรืออนุภาคกัมมันตรังสี จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง การแพ้ รวมถึงปฏิกิริยาต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน
โดย Plinest ได้รับการออกแบบมาเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย ป้องกันการเสื่อมสภาพของผิว และปรับปรุงคุณภาพผิวโดยเฉพาะ อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบ และสามารถนำมารักษารอยแผลเป็นได้อีกด้วย
หลักการทำงานของ Plinest
เมื่อทำการฉีด Plinest เข้าสู่ผิว PN จะทำหน้าที่ในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ Fibroblast เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินเพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยในการจัดเรียงตัวของคอลลาเจนให้เป็นระเบียบมากขึ้น พร้อมเพิ่มการสร้าง Fibronectin ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยในการยึดเกาะของเซลล์ และฟื้นฟูโครงสร้างผิว อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย และลดกระบวนการอักเสบของเซลล์ผิว รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ส่งผลให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน กระชับ และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
Plinest มีทั้งหมดกี่รุ่น?
Plinest มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Plinest และ Plinest Fast ซึ่งทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- Plinest
Plinest มีส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) ปริมาณ 40 mg ในปริมาณบรรจุ 2 ml ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ฉีดในบริเวณใบหน้า ลำคอ และเนินอก เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน หมองโทรม อ่อนแอ ผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง และหลุมสิว อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น และริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ จนถึงร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Plinest Fast
Plinest Fast มีส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) ปริมาณ 15 mg ในปริมาณบรรจุ 2 ml ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ฉีดในบริเวณที่มีความบอบบางอย่างรอบดวงตา หน้าผาก หนังศีรษะ ลำคอ เนินอก และหลังมือ เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำรอบดวงตา ผิวขาดความยืดหยุ่น ดูโทรม ไม่สดใส และริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ จนถึงร่องลึก อีกทั้งยังสามารถใช้ในการปรับสภาพผิวก่อนทำศัลยกรรมเปลือกตาได้อีกด้วย

ใครที่เหมาะกับการฉีด Plinest?
- ผู้ที่มีริ้วรอย และร่องลึก
การฉีด Plinest เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเส้นเล็ก (Fine lines) จนถึงร่องลึก (Wrinkle) บนใบหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก และริ้วรอยรอบดวงตา
- ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
การฉีด Plinest เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน และขาดความชุ่มชื้น รวมถึงผู้ที่ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง และหลุมสิว
การฉีด Plinest เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง หลุมสิว รอยสิว และรอยแผลเป็นต่าง ๆ บนใบหน้า รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับพื้นผิวให้มีความเรียบเนียนมากขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
การฉีด Plinest เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และขาดความยืดหยุ่นจากการสูญเสียคอลลาเจน รวมถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
การฉีด Plinest เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่มีชีวิตชีวา ขาดความสดใส และสีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมถึงผู้ที่ปัญหาผิวโทรม และต้องการซ่อมแซมผิวที่ได้รับความเสียหาย
- ผู้ที่มีใต้ตาคล้ำ และมีถุงใต้ตา
การฉีด Plinest เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาบริเวณรอบดวงตา เช่น รอยคล้ำใต้ตา และมีถุงใต้ตาเล็ก ๆ รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวก่อนทำศัลยกรรมเปลือกตา
หมายเหตุ ก่อนฉีด Plinest ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างชัดเจน ทั้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการทำหัตถการ และยาที่รับประทานอยู่
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีด Plinest?
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ขั้นรุนแรง
- ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ปลาทะเล ปลาเทราต์ หรือสารที่สกัดจากปลา
- ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงของการตั้งครรภ์ และกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีแผลติดเชื้อ และผิวหนังอักเสบในบริเวณที่ต้องการฉีด Plinest
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือกำลังรับประทานยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคบางชนิด เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือกำลังรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน
หมายเหตุ ก่อนฉีด Plinest ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างชัดเจน ทั้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการทำหัตถการ และยาที่รับประทานอยู่

Plinest ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจน และอีลาสตินมากขึ้น
- ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ได้รับความเสียหาย
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และความแข็งแรงให้ผิว
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และร่องลึกบนใบหน้า
- ช่วยเพิ่มความกระชับ และลดความหย่อนคล้อยของผิว
- ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาอ่อนกว่าวัย
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดความเสื่อมโทรมของผิว
- ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน และกระชับรูขุมขน
- ช่วยลดเลือนหลุมสิว รอยสิว และรอยแผลเป็นต่าง ๆ
- ช่วยลดกระบวนการอักเสบของเซลล์ผิว
- ช่วยลดความหมองคล้ำบริเวณใต้ตา
- ช่วยลดปัญหาถุงใต้ตาเล็ก ๆ และริ้วรอยรอบดวงตา
- ช่วยปรับความสมดุลของผิว และลดความมันบนใบหน้า
- ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูดีมากขึ้น
Plinest vs Rejuran แตกต่างกันอย่างไร?
Plinest และ Rejuran เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
- Plinest
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวจากประเทศอิตาลีที่มีส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) สกัดจาก DNA ของปลาเทราต์ ซึ่งถูกเลี้ยงไว้ในฟาร์มระบบปิดที่มีการควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน โดยมีกระบวนการผลิตผ่านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า HPT™ (Highly Purified Technology) ทำให้ได้ PN ที่มีความเข้มข้น และมีความบริสุทธิ์สูงกว่าปลาชนิดอื่น ปราศจากการปนเปื้อนของโปรตีน แอนติเจน และสารพิษจากสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Plinest ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว พร้อมทั้งซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย และปรับปรุงคุณภาพผิวจากภายใน ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง กระชับ เรียบเนียน ชุ่มชื้น และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- Rejuran
Rejuran เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวจากประเทศเกาหลีใต้ที่มีส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) สกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน ซึ่งอยู่ในน้ำทะเลตามธรรมชาติ และมีการดูแลอย่างเข้มงวด โดยมีกระบวนการผลิตผ่านเทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะที่ชื่อว่า DOT™ ทำให้ได้ PN ที่มีความบริสุทธิ์สูง และสามารถเข้ากันได้ดีกับผิวหนังของมนุษย์ ปราศจากการปนเปื้อนของโปรตีน แอนติเจน และปฏิกิริยาต่อต้าน ซึ่ง Rejuran ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพตามอายุ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมทั้งต้านการอักเสบ และปรับสีผิวให้กระจ่างใส ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้น แข็งแรง กระชับ เรียบเนียน และสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
Plinest vs Profhilo แตกต่างกันอย่างไร?
Plinest และ Profhilo เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
- Plinest
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวจากอิตาลีที่มีส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) สกัดจากปลาเทราต์ ซึ่งถูกเลี้ยงไว้ในฟาร์มระบบปิดที่มีการควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด โดยใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า HPT™ (Highly Purified Technology) ทำให้ได้ PN ที่มีความเข้มข้น และบริสุทธิ์สูง ปราศจากการปนเปื้อนของโปรตีน แอนติเจน และสารพิษจากสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Plinest ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว พร้อมทั้งซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย และปรับปรุงคุณภาพผิวจากภายใน ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง กระชับ เรียบเนียน ชุ่มชื้น และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- Profhilo
Profhilo เป็นผลิตภัณฑ์กระตุ้นคอลลาเจนจากสวิตเซอร์แลนด์ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) แบบไม่เชื่อมพันธะ โดยมีกระบวนการผลิตผ่านเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรเฉพาะชื่อว่า NAHYCO® Hybrid Technology ทำให้ได้ HA ที่มีความบริสุทธิ์สูงทั้งโมเลกุลเล็ก และใหญ่ ซึ่งใช้ความร้อนในการสร้างพันธะต่อกันเป็นโครงสร้างชื่อว่า HCC (Hybrid Cooperative Complex) แทนการใช้สารเคมีอย่าง BDDE จึงลดความเสี่ยงต่อการแพ้ และปฏิกิริยาต่อต้านจากภูมิคุ้มกัน โดย Profhilo ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์ Fibroblast เพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงโครงสร้างผิว (Bio-Remodeling) ส่งผลให้ผิวมีความแน่น กระชับ แข็งแรง ยืดหยุ่น เรียบเนียน และดูสุขภาพดีในระยะยาว
Plinest vs ฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร?
Plinest และฟิลเลอร์มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
- Plinest
Plinest เป็นผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่มีส่วนประกอบของ PN (Polynucleotide) สกัดจากปลาเทราต์ ซึ่งถูกเลี้ยงไว้ในฟาร์มระบบปิดที่มีการควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด โดยใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า HPT™ (Highly Purified Technology) ทำให้ได้ PN ที่มีความเข้มข้น และมีความบริสุทธิ์สูง ปราศจากการปนเปื้อนของโปรตีน แอนติเจน และสารพิษจากสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Plinest ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว พร้อมทั้งซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย และปรับปรุงคุณภาพผิวจากภายใน ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง กระชับ เรียบเนียน ชุ่มชื้น และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์เลียนแบบสารในร่างกาย โดยมีให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฟิลเลอร์เนื้อกลาง และฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ซึ่งแต่ละประเภทก็มีค่าความอุ้มน้ำ ความหนืด ความยืดหยุ่น การกระจายตัว และจำนวนเชื่อมพันธะที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละบริเวณ โดยฟิลเลอร์ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก เสริมปริมาตรให้ผิว และยกกระชับปรับรูปหน้า พร้อมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความอิ่มฟูให้ผิว ส่งผลให้ผิวมีความเต่งตึง เรียบเนียน กระชับ และใบหน้ามีความสมดุลมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนฉีด Plinest
- ก่อนฉีดควรเตรียมพร้อมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีด Plinest แบบละเอียด
- ก่อนฉีดควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ เพื่อพูดคุยถึงความต้องการ รวมถึงให้แพทย์ประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด
- ก่อนฉีดงดรับประทานยาต้านการอักเสบ และยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน
- ก่อนฉีดงดการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
- ก่อนฉีดงดใช้สกินแคร์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA หรือ BHA
- ก่อนฉีดงดสครับผิว ขัดผิว หรือกำจัดขนในบริเวณที่ต้องการฉีด Plinest
- ก่อนฉีดงดทำหัตถการ เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ที่ทำให้ผิวไวต่อการระคายเคือง
- ก่อนฉีดควรนอนหลับให้เพียงพอ และดื่มน้ำสม่ำเสมอทั้งวัน เพื่อให้ผิวพร้อมรับสารบำรุง
ขั้นตอนการฉีด Plinest
- เข้ารับการปรึกษาแพทย์ เพื่อพูดคุยถึงความต้องการ รวมถึงให้แพทย์ประเมินสภาพผิวอย่างละเอียด
- ผู้ช่วยจะทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด โดยการเช็ดเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกออก
- สำหรับผู้ที่มีความกังวลเรื่องความเจ็บ ผู้ช่วยแพทย์จะมีการทายาชา หรือแปะยาชา เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการฉีด
- แพทย์จะทำการฉีด Plinest เข้าไปในชั้นผิวที่เหมาะสม โดยจะใช้เทคนิคที่แตกต่างกันไปตามปัญหาของแต่ละบุคคล
- เมื่อฉีด Plinest เสร็จ แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังฉีดอย่างเหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด งดดื่มแอลกอฮอล์ หรืองดสูบบุหรี่ เป็นต้น
การดูแลตัวเองหลังฉีด Plinest
- หลังฉีดหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- หลังฉีดสามารถประคบเย็นเบา ๆ เพื่อลดอาการบวมจากการฉีด Plinest
- หลังฉีดสามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แต่หลีกเลี่ยงการถูหน้าแรง ๆ
- หลังฉีดควรใช้สกินแคร์ หรือมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- หลังฉีดหลีกเลี่ยงการโดนความร้อน และแสงแดด เช่น เข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือแช่น้ำร้อน
- หลังฉีดงดทำกิจกรรมหักโหม และออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง
- หลังฉีดงดการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
- หลังฉีดงดใช้สกินแคร์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA หรือ BHA
- หลังฉีดงดสครับผิว ขัดผิว หรือกำจัดขนในบริเวณที่ต้องการฉีด Plinest
- หลังฉีดงดทำหัตถการ เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ที่ทำให้ผิวไวต่อการระคายเคือง
- หลังฉีดควรนอนหลับให้เพียงพอ และดื่มน้ำสม่ำเสมอทั้งวัน เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่
Plinest มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
หลังฉีด Plinest อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบ่อย มีดังนี้
- ผิวแดงระเรื่อ ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะค่อย ๆ หายไปภายใน 2 – 3 ชั่วโมง
- บวมช้ำ หรือมีรอยเข็ม ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะค่อย ๆ หายไปภายใน 3 – 4 วัน
- รู้สึกคันเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะค่อย ๆ หายไปภายใน 12 ชั่วโมง
- มีตุ่มบนผิวหนัง ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะค่อย ๆ หายไปภายใน 3 – 4 วัน
แต่ในกรณีที่มีอาการบวมผิดปกติ รู้สึกปวดร้อน และมีหนองสีขาวร่วมด้วย ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบโดยด่วน เพื่อทำการแก้ไข และรักษาอย่างเหมาะสม
การฉีด Plinest ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และปรับปรุงคุณภาพผิวให้มีสุขภาพดีจากภายใน ด้วยส่วนประกอบสำคัญอย่าง PN (Polynucleotide) ที่สกัดจากปลาเทราต์ ทำให้ได้สารที่มีความเข้มข้นของ DNA สูง และมีความบริสุทธิ์สูงกว่าปลาชนิดอื่น ๆ โดยปราศจากการปนเปื้อนของโปรตีน แอนติเจน และสารพิษจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถเข้ากันได้ดีกับผิวหนังของมนุษย์ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ดังนั้น สำหรับใครที่สนใจฉีด Plinest สามารถเข้ารับการปรึกษาแพทย์ได้แล้ววันนี้ที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินสภาพผิวหน้า พร้อมวางแผนการฉีด Plinest อย่างเหมาะสม
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

