Oligio กับ Volnewmer แตกต่างกันอย่างไร? เจาะลึกเทคโนโลยียกกระชับผิวก่อนตัดสินใจทำ

เมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรือคอลลาเจนในผิวเริ่มลดลง ปัญหาผิวหย่อนคล้อยจึงกลายเป็นเรื่องที่หลายคนกังวล การดูแลผิวให้ดูเรียบเนียนและกระชับขึ้นจึงกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ยอดนิยมของยุคนี้ โดยเฉพาะเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แน่นขึ้นอย่างดูกลมกลืนกับใบหน้า ซึ่งในปัจจุบันมีหลายเทคโนโลยีให้เลือก หนึ่งในนั้นคือ Oligio กับ Volnewmer ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

แม้ทั้งสองเทคโนโลยีจะมีเป้าหมายเดียวกัน คือช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้นและปรับโครงหน้าชัดเจนขึ้น แต่หลักการทำงานและคุณสมบัติของแต่ละเครื่องกลับแตกต่างกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนเหมาะกับ Oligio มากกว่า Volnewmer หรือในบางกรณีอาจใช้ร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่สมดุลยิ่งขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Oigio และ Volnewmer อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกเทคโนโลยียกกระชับผิวที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของคุณได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

Oligio กับ Volnewmer เทคโนโลยียกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด

ในปัจจุบัน เทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัดได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยฟื้นฟูผิวให้แน่นและเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ซึ่งเครื่อง Oligio กับ Volnewmer ถือเป็นสองเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจ ด้วยหลักการทำงานของคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวแลดูกระชับขึ้นอย่างกลมกลืนกับใบหน้า

Oligio คืออะไร?

Oligio คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ทำงานด้วยคลื่นวิทยุความถี่ 6.78 MHz แบบ Monopolar RF โดยจะส่งพลังงานความร้อนลงลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันในอุณหภูมิประมาณ 40–60 องศาเซลเซียสอย่างแม่นยำ ความร้อนในระดับนี้ช่วยให้เส้นใยคอลลาเจนหดกระชับอย่างรวดเร็ว พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวแน่น เรียบเนียน และยกกระชับขึ้น

ผลลัพธ์หลังทำคือผิวที่แน่นกระชับขึ้น ดูเรียบเนียนกว่าเดิม ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลง รูขุมขนดูเล็กลง และกรอบหน้าดูคมชัดขึ้นจากการลดไขมันสะสมใต้ผิว อีกทั้ง Oligio ยังมาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิที่ช่วยปกป้องผิวขณะทำหัตถการ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับและฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อน;ypโดยไม่ต้องผ่าตัด

Volnewmer คืออะไร?

Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวรุ่นล่าสุดที่พัฒนาภายใต้แนวคิด Continuous Monopolar RF มุ่งเน้นการฟื้นฟูผิวในระดับลึกอย่างต่อเนื่อง โดยผสานการทำงานของสองเทคโนโลยีหลักที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนให้เห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำงานร่วมกันของสองเทคโนโลยีสำคัญ ได้แก่

• Gold Continuous RF Technology (Gold Tilting Tip Head) ที่ช่วยส่งพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ลงสู่ชั้นผิวได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ
• Hydro Cooling System ระบบทำความเย็นที่ช่วยรักษาอุณหภูมิผิวให้สมดุล ปกป้องผิวชั้นบนขณะพลังงาน RF ทำงานในชั้นลึก

นอกจากนี้ ระบบ Hydro Cooling System ของ Volnewmer ยังช่วยระบายความร้อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลังงาน RF สามารถลงลึกได้มากกว่าระบบทั่วไป โดยไม่ทำให้ผิวชั้นบนรู้สึกแสบร้อน ช่วยให้ผิวได้รับพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่อันตราย และรู้สึกสบายตลอดการทำหัตถการ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Volnewmer คือผิวที่กระชับ เต่งตึง และดูมีวอลลุ่ม (Volumization) มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน คืนความยืดหยุ่นให้ผิวหน้าและลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัด

หลักการทำงานของ Oligio กับ Volnewmer แตกต่างกันอย่างไร?

แม้ว่า Oligio กับ Volnewmer จะใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF เหมือนกัน แต่หลักการทำงานและลักษณะการปล่อยพลังงานของแต่ละเครื่องมีจุดเด่นเฉพาะตัว ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำยกกระชับผิวแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของปัญหาผิวและบริเวณที่ต้องการดูแล

• หลักการทำงานของ Oligio

Oligio ใช้พลังงานคลื่น Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ส่งผ่านหัวทิป F4.0 ลงสู่ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ความร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงอุณหภูมิประมาณ 40–60 องศาเซลเซียส จะช่วยกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวมีความแน่นและยืดหยุ่นมากขึ้น

ระบบของ Oligio สามารถปรับการทำงานได้ถึง 3 โหมด คือ โหมดเดี่ยว (Single Mode) โหมดคู่ (Double Mode) และโหมดอัตโนมัติ (Auto Mode) เพื่อให้แพทย์สามารถเลือกใช้พลังงานได้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ความแม่นยำของการยิงพลังงานช่วยให้ผลลัพธ์การยกกระชับผิวมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้า เหนียง หรือคางได้ในคราวเดียว

อีกจุดเด่นของ Oligio คือระบบควบคุมอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวชั้นบนได้รับความร้อนเกินจำเป็น รวมถึงระบบสั่นสะเทือนและความเย็น (Cooling & Vibration System) ที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บ ทำให้การทำหัตถการรู้สึกสบายมากขึ้น ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 1–3 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน

• หลักการทำงานของ Volnewmer

Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่น Monopolar RF เช่นเดียวกัน โดยส่งพลังงานความร้อนที่ส่งลงไปในระดับลึกนี้เรียกว่า Bulk Heat Gold RF ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ I และ III ในชั้น Papillary Dermis และ Reticular Dermis ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัว กระตุ้นการจัดเรียงใหม่ และเกิดการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวแน่น กระชับ และยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างกลมกลืนกับใบหน้า

จุดเด่นของ Volnewmer คือการใช้หัวทิปเคลือบทองคำ (Gold RF Tip) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการส่งพลังงานได้ดีกว่าหัวทิปทั่วไปถึง 4 เท่า ทำให้พลังงานกระจายได้สม่ำเสมอและลงลึกได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำร้ายผิว หัวทิปยังถูกออกแบบให้มีถึง 4 รูปแบบ เพื่อให้เข้ากับสรีระของแต่ละบริเวณบนใบหน้าและร่างกาย เช่น รอบดวงตา แก้ม กรอบหน้า หรือต้นแขน

ด้วยการออกแบบที่เน้นความละเอียดและการกระจายพลังงานอย่างทั่วถึง Volnewmer จึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างล้ำลึก พร้อมเพิ่มความเรียบเนียนและลดริ้วรอยเล็ก ๆ ทำให้ผิวดูแน่น เต่งตึง และอ่อนวัยขึ้นโดยไม่ต้องพักฟื้นนานหลังทำ

จุดเด่นของ Oligio กับ Volnewmer ช่วยยกกระชับผิวได้อย่างไร?

ทั้ง Oligio กับ Volnewmer เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะต่างก็ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวดูแน่นขึ้น เรียบเนียนขึ้น และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างกลมกลืนกับใบหน้า โดยแต่ละเครื่องก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ผิวในแบบที่ต่างกัน ดังนี้

จุดเด่นของ Oligio

• Oligio โดดเด่นด้วยระบบการทำงานที่ออกแบบมาอย่างแม่นยำ โดยมีให้เลือกถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดเดี่ยว โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ เพื่อให้แพทย์สามารถปรับการทำงานให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้ ระบบ Auto ของเครื่องช่วยควบคุมพลังงานให้คงที่ตลอดขั้นตอนการทำ
• หัวทิปของ Oligio มีขนาดกว้าง 4 ตารางเซนติเมตร สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างทั่วถึงในเวลาอันสั้น จึงช่วยลดระยะเวลาในการทำให้เหลือเพียงประมาณ 20–30 นาทีต่อครั้ง ทำให้ผู้รับบริการสะดวกและไม่ต้องใช้เวลานาน
• Oligio ยังมาพร้อมระบบ Cooling System และระบบสั่นสะเทือน (Vibration System) ที่ช่วยลดความร้อนและความรู้สึกเจ็บในระหว่างทำ พร้อมปกป้องผิวชั้นบนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากพลังงาน RF โดยตรง อีกทั้งยังมีระบบ Real-Time Temperature Monitoring ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิและแรงต้านผิวขณะทำหัตถการได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าพลังงานจะถูกส่งในระดับที่เหมาะสมกับสภาพผิว
• ผลลัพธ์จากการทำ Oligio จะเริ่มเห็นความกระชับของผิวภายใน 1–3 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวแน่นเรียบและดูอ่อนวัยขึ้นในระยะยาว

จุดเด่นของ Volnewmer

• เทคโนโลยี Continuous Monopolar RF รุ่นใหม่ ส่งพลังงานได้ต่อเนื่องและแม่นยำกว่าระบบทั่วไป ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อผลลัพธ์การยกกระชับผิวที่ยาวนาน
• ใช้หัวทิปทองคำ (Gold Continuous RF Technology – Gold Tilting Tip Head) ที่ช่วยกระจายพลังงานได้สม่ำเสมอและอ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว ซึ่งมีคุณสมบัติในการนำพลังงานได้ดีกว่าวัสดุทั่วไปถึง 4 เท่า ทำให้สามารถส่งพลังงานได้ลึกและคงประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ทำร้ายผิว
• มาพร้อมเทคโนโลยี Hydro Cooling System ที่กระจายความเย็นอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องผิวจากความร้อนระหว่างทำหัตถการ อีกทั้งยังมี Vibration System ซึ่งช่วยสั่นสะเทือนเบา ๆ ลดความรู้สึกเจ็บและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้การยกกระชับเป็นไปอย่างนุ่มนวลและสบายมากกว่าวิธีทั่วไป
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ I และ III ในชั้น Papillary Dermis และ Reticular Dermis ทำให้ผิวแน่น เรียบ และยืดหยุ่นขึ้น
• เพิ่มวอลลุ่มให้ผิว (Volumization) ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟูและมีมิติ
• หลังทำ Volnewmer ผิวจะรู้สึกกระชับขึ้นทันทีบางส่วน และค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้น ภายใน 1–3 เดือน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน โดยไม่ต้องพักฟื้นนานหลังทำ สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

สรุปภาพรวม ทั้งสองเทคโนโลยีสามารถตอบโจทย์การฟื้นฟูผิวและยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนกับใบหน้าและเหมาะสมกับผิวของแต่ละคน

เปรียบเทียบ Oligio กับ Volnewmer แตกต่างกันอย่างไร?

เทคโนโลยีและหลักการทำงานของ Oligio กับ Volnewmer

• เครื่อง Oligio ทำงานด้วยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่ 6.78 MHz ที่ส่งความร้อนลงลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวแน่น เรียบเนียน และกระชับขึ้น จุดเด่นคือสามารถปรับพลังงานได้ 3 โหมด ได้แก่ โหมดเดี่ยว โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ ช่วยให้แพทย์เลือกใช้ได้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน อีกทั้งยังช่วยยกกระชับใบหน้าและลดไขมันส่วนเกินได้ภายในขั้นตอนเดียว
• ในขณะที่ Volnewmer ใช้พลังงาน Monopolar RF ความถี่เดียวกัน แต่แตกต่างด้วยเทคโนโลยี Gold Continuous RF ที่ส่งพลังงานผ่านหัวทิปเคลือบทองคำ ช่วยกระจายพลังงานได้ลึกและสม่ำเสมอกว่าหัวทิปทั่วไปหลายเท่า พลังงานที่ปล่อยออกมาจะลงสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการฟื้นฟูของคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวมีความแน่นและยืดหยุ่นดีขึ้น พร้อมช่วยปรับโครงสร้างผิวให้เรียบเนียนและกระชับทั่วใบหน้า

หัวทิปและการออกแบบของ Oligio กับ Volnewmer

• Oligio มาพร้อมหัวทิปขนาด F4.0 ที่สามารถปล่อยพลังงานลงได้ทั้งในชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว เหมาะสำหรับบริเวณใบหน้า เหนียง และกรอบหน้า ที่ต้องการทั้งการยกกระชับและลดไขมันสะสมในเวลาเดียวกัน หัวทิปถูกออกแบบมาให้แนบผิวได้ดีและช่วยให้พลังงานกระจายสม่ำเสมอในทุกจุดที่ทำการรักษา
• Volnewmer มีจุดเด่นอยู่ที่หัวทิปซึ่งออกแบบมาเฉพาะถึง 4 ขนาด ได้แก่ F0.25, F3.0, F4.0 และ F16.0 ครอบคลุมการใช้งานทุกส่วนของใบหน้าและร่างกาย ทั้งรอบดวงตา แก้ม กรอบหน้า หรือบริเวณที่ต้องการความละเอียด หัวทิปเคลือบทองช่วยส่งผ่านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียระหว่างทำ พร้อมช่วยป้องกันการระคายเคือง ทำให้ผิวรู้สึกสบายมากขึ้นขณะทำหัตถการ

ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวของ Oligio และ Volnewmer

• ผลลัพธ์จากการทำ Oligio จะเน้นการยกกระชับผิวหน้าและลดไขมันเฉพาะจุด เช่น บริเวณเหนียง ใต้คาง หรือกรอบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติและมักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก
• ในขณะที่ Volnewmer จะเน้นผลลัพธ์ด้านการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวให้แน่นขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และฟื้นฟูผิวที่ดูเหนื่อยล้าให้กลับมาเรียบเนียนและสดใสมากขึ้น ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่กี่สัปดาห์หลังทำ

ใครเหมาะกับการทำ Oligio กับ Volnewmer บ้าง?

• ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของผิวหย่อนคล้อย เช่น กรอบหน้าไม่ชัด เหนียงเริ่มปรากฏ หรือแก้มเริ่มตก
• ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
• ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ผิวแน่นกระชับ เรียบเนียน แลดูอ่อนวัยขึ้น
• ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา มุมปาก หรือหน้าผาก  และต้องการให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• ผู้ที่มีไขมันสะสมเล็กน้อยบริเวณกรอบหน้า คาง หรือเหนียง และต้องการปรับสัดส่วนรูปหน้า
• ผู้ที่มีผิวไม่สม่ำเสมอ ขาดความยืดหยุ่น หรือรู้สึกว่าผิวหน้าและลำคอไม่กระชับเหมือนเดิม

การทำ Oligio กับ Volnewmer แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ความเหมาะสมของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับสภาพผิว โครงสร้างใบหน้า และเป้าหมายของการรักษา ควรเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อเลือกเทคโนโลยีและระดับพลังงานให้เหมาะสมกับผิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนกับใบหน้าอย่างเหมาะสม

การเตรียมตัวก่อนทำ Oligio กับ Volnewmer

• ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ก่อนทำ เพื่อประเมินสภาพผิว ความหย่อนคล้อย และเลือกระดับพลังงานที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
• แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมก่อนทำ
• ดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนเข้ารับการทำ เพราะความชุ่มชื้นของผิวจะช่วยให้พลังงานส่งผ่านได้ดี
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7–8 ชั่วโมงก่อนทำ
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ
• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดหรือกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับแสงแดด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ
• งดการทำหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้า เช่น การผลัดเซลล์ผิว เลเซอร์ หรือร้อยไหม อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ
• งดการทายาหรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ (AHA, BHA, Retinol) อย่างน้อย 3–5 วัน

การดูแลตัวเองหลังทำ Oligio กับ Volnewmer

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเกาแรง ๆ  จนกว่าอาการจะหายเองภายใน 1–2 ชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น การซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกกำลังกายหนัก ภายใน 24–48 ชั่วโมงแรกหลังทำ
• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง และควรทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะจะช่วยยืดอายุผลลัพธ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
• หลีกเลี่ยงครีมหรือเซรั่มที่มีกรดผลไม้หรือเรตินอลในช่วง 3–5 วันแรก
• งดการขัดผิว สครับหน้า หรือทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวประมาณ 1 สัปดาห์หลังทำ
• ดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดี เช่น นอนพักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

Oligio กับ Volnewmer เลือกเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน?

ทั้ง Oligio กับ Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนวัยโดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งสองเครื่องมีจุดเด่นเฉพาะตัว เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวในระดับและความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล

• Oligio โดดเด่นเรื่องการยกกระชับพร้อมลดไขมันในคราวเดียว พลังงาน Monopolar RF สามารถส่งลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว เหมาะกับบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น คาง เหนียง หรือกรอบหน้า อีกทั้งยังมีระบบ Cooling และ Vibration ที่ช่วยลดความร้อนและความเจ็บ ทำให้รู้สึกสบายระหว่างทำ และผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 6–12 เดือน
• ในขณะที่ Volnewmer เน้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวอย่างละเอียด ด้วยหัวทิปทองคำและระบบ Hydro Cooling ที่ช่วยกระจายพลังงาน Monopolar RF ได้ลึกและสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวแน่น เรียบ และยืดหยุ่นมากขึ้น เห็นผลภายในไม่กี่สัปดาห์โดยไม่ต้องพักฟื้น

โดยสรุป หากต้องการยกกระชับพร้อมยกกระชับปรับรูปหน้า และลดไขมันเฉพาะจุด Oligio จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า แต่หากต้องการฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยน เน้นความละเอียดและผิวดูอิ่มฟูจากภายใน Volnewmer คือทางเลือกที่เหมาะสม ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีนั้นให้ผลลัพธ์การยกกระชับผิวอย่างกลมกลืนกับใบหน้าภายใต้การดูแลของแพทย์

Oligio กับ Volnewmer สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?

เทคโนโลยี Oligio กับ Volnewmer สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น การฉีดโบ การฉีดฟิลเลอร์ หรือเลเซอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เห็นผลชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้การวางแผนและดูแลโดยแพทย์ เพื่อกำหนดลำดับการทำอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงการรบกวนผลลัพธ์ของหัตถการอื่น

Oligio กับ Volnewmer ทำแล้วเจ็บไหม?

ขณะทำ Oligio กับ Volnewmer จะรู้สึกเพียงอุ่น ๆ หรือร้อนเล็กน้อยบริเวณผิว ซึ่งเป็นสัญญาณของการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ 

• Oligio มีระบบ Cooling System และ Vibration System ที่ช่วยลดความร้อนและเพิ่มความสบายขณะทำ 
• Volnewmer มีระบบ Hydro Cooling System ที่ปล่อยพลังงานความเย็นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับระบบ Vibration System ที่ช่วยเพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ 

ทั้งสองโปรแกรมให้ความรู้สึกเจ็บน้อยมาก เมื่อเทียบกับเครื่องยกกระชับทั่วไป หากกังวลเรื่องความรู้สึกขณะทำ แพทย์สามารถใช้ยาชาช่วยเพิ่มความสบายได้

Oligio กับ Volnewmer ควรทำบ่อยแค่ไหนจึงจะเห็นผลดี?

สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวอย่างต่อเนื่อง การทำ Oligio กับ Volnewmer ไม่จำเป็นต้องทำบ่อยครั้งเกินไป เพราะเทคโนโลยีทั้งสองชนิดใช้พลังงานคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ยาวนานหลังทำ โดยทั่วไปแนะนำให้ทำซ้ำทุก 6–12 เดือน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อคงความกระชับของผิวและชะลอการหย่อนคล้อยในระยะยาว 

ทำ Oligio กับ Volnewmer แล้วผิวจะบางลงไหม?

ทั้ง Oligio กับ Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวจากภายใน โดยไม่ทำให้ผิวบางลง พลังงานจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF จะลงลึกถึงชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวแน่น แข็งแรง และยืดหยุ่นมากขึ้น

Oligio กับ Volnewmer เหมาะกับช่วงอายุเท่าไหร่?

Oligio กับ Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่สามารถปรับใช้ได้กับหลายช่วงอายุ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและเป้าหมายในการดูแลผิวของแต่ละคน

• Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเริ่มดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันการหย่อนคล้อยในอนาคต สำหรับผู้ที่อายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป เทคโนโลยีนี้ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยเล็ก ๆ และไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ของผิวที่กระชับขึ้นภายใน 3–6 เดือน และสามารถทำซ้ำทุก 6–12 เดือนเพื่อคงความยืดหยุ่นของผิว
• Volnewmer เหมาะสำหรับกลุ่มอายุตั้งแต่ 25–45 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มมีสัญญาณผิวไม่กระชับหรือมีริ้วรอยแรกเริ่ม เหมาะกับการทำเพื่อป้องกันความหย่อนคล้อยก่อนวัย และการฟื้นฟูผิวในผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีผิวเสื่อมตามวัย Volnewmer จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิวกลับมาแน่น เรียบ และยืดหยุ่นขึ้น

หากผู้ที่อายุยังน้อยและต้องการป้องกันผิวหย่อนคล้อยตั้งแต่ต้น Oligio คือทางเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าผิวเริ่มแสดงสัญญาณของความหย่อนหรือขาดความยืดหยุ่น Volnewmer จะช่วยฟื้นฟูและยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำ Oligio กับ Volnewmer แล้วสามารถทำซ้ำได้ไหม?

การทำ Oligio กับ Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่สามารถทำซ้ำได้ เพื่อคงผลลัพธ์ผิวที่แน่นกระชับ และดูอ่อนวัยอย่างต่อเนื่อง  สำหรับ Oligio ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวจะอยู่ได้เฉลี่ย 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ทำซ้ำทุก 6–9 เดือน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และคงความกระชับอย่างสม่ำเสมอ ส่วน Volnewmer สามารถทำซ้ำได้เช่นกัน เพราะการทำซ้ำช่วยให้ผิวฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจนได้ต่อเนื่อง โดยทั่วไปแนะนำให้ทำทุก 6–12 เดือนเช่นเดียวกัน

การทำ Oligio กับ Volnewmer อันตรายไหม?

Oligio กับ Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ไม่อันตราย ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งในและต่างประเทศ ไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือทำลายผิวชั้นบน

หลังทำอาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ผิวแดง บวม หรือรู้สึกอุ่นบริเวณที่ทำ แต่จะหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 1–2 วัน บางรายอาจรู้สึกผิวแห้งหรือตึงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นอาการปกติจากการกระตุ้นคอลลาเจน

อย่างไรก็ตาม การทำ Oligio กับ Volnewmer เป็นหัตถการที่ไม่เป็นอันตราย และมีประสิทธิภาพสูงในการยกกระชับผิว หากทำโดยแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังทำอย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้ดี

การเลือกใช้เทคโนโลยีสำหรับยกกระชับผิว ไม่ว่าจะเป็น Oligio หรือ Volnewmer ควรพิจารณาตามสภาพผิวและเป้าหมายที่ต้องการแก้ไข หากต้องการยกกระชับใบหน้าและสลายไขมันเฉพาะจุด Oligio จะเหมาะกว่า แต่หากต้องการฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง และเสริมวอลลุ่มให้ผิวดูอิ่มเอิบติ Volnewmer ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวเช่นกัน

ทั้งสองเทคโนโลยีทำงานด้วยพลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ที่ไม่เป็นอันตราย ได้รับการรับรองมาตรฐาน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายในโดยไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ผิวที่กระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนวัยขึ้นอย่างกลมกลืนกับใบหน้า

ไม่ว่าจะเลือกทำ Oligio หรือ Volnewmer ต่างก็ช่วยยกระดับคุณภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นได้ ควรเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายของคุณ