ผิวหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่มาจากการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินลดลงตามวัย ร่วมกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำร้ายผิวในชีวิตประจำวัน เช่น แสงแดด มลภาวะ หรือการดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และไม่กระชับ จนทำให้ใบหน้าดูมีอายุขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปัจจุบันการแก้ผิวหย่อนคล้อยสามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้น “การฉีดฟิลเลอร์” ซึ่งสามารถแก้ไขผิวหย่อนคล้อย และริ้วรอย ร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน บทความนี้ รมย์รวินท์คลินิกจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ การแก้ผิวหย่อนคล้อย ด้วยฟิลเลอร์อย่างละเอียด

ผิวหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร?
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งโดยส่วนใหญ่สาเหตุที่ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย มีดังนี้
- อายุ
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการลดลงของคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง รวมถึงชั้นไขมัน และชั้นกระดูกที่เสื่อมสภาพลงตามวัย จนทำให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ และบางลง ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ ใบหน้าดูตอบ กรอบหน้าไม่ชัด และผิวหย่อนคล้อยมากขึ้น
- ฮอร์โมน
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในช่วงที่เข้าสู่วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินที่ลดลงตามไปด้วย ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่แน่นกระชับ และหย่อนคล้อยได้ง่าย
- แสงแดด
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากแสงแดด และรังสี UV โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB ที่สามารถทะลุถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เข้าไปทำลายเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินได้โดยตรง รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ และเซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จนส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย และแก่กว่าวัยได้ง่าย
- มลภาวะ
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากมลภาวะที่พบเจอในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะฝุ่นละออง ควันรถ สารเคมี หรือมลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นตัวการที่ทำลายเซลล์ผิว และกระตุ้นให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ จนทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น ไม่แน่นกระชับ และหย่อนคล้อยได้ง่าย
- ดื่มน้ำน้อย
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากน้ำเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกาย และเซลล์ผิว หากเซลล์ผิวได้รับน้ำไม่เพียงพอ โครงสร้างผิวก็จะค่อย ๆ สูญเสียความชุ่มชื้น ขาดความยืดหยุ่น และไม่แข็งแรง จนทำให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย หยาบกร้าน และแต่งหน้าไม่ติดได้
- พักผ่อนน้อย
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการพักผ่อนน้อย เนื่องจากการนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่เซลล์ผิวจะได้รับการฟื้นฟู และซ่อมแซมอย่างเต็มที่ หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินเสื่อมสภาพเร็ว จนส่งผลให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น ไม่แน่นกระชับ และเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย
- ความเครียด
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากความเครียดสะสม เนื่องจากเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ก็จะหลั่งออกมามากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินเสื่อมสภาพเร็วขึ้น รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ จนส่งผลให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ และเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย
- รับประทานอาหารที่มีน้ำตาล
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป เนื่องจากเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็จะเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า ไกลเคชั่น (Glycation) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่โมเลกุลของน้ำตาลเข้าไปจับตัวกับโปรตีนในร่างกาย จนทำให้เกิดสารชนิดหนึ่งเรียกว่า AGEs (Advanced Glycation End Products) ที่สามารถทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินได้โดยตรง ส่งผลให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ และเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย
- สูบบุหรี่
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการสูบบุหรี่บ่อยจนเกินไป เนื่องจากในบุหรี่มีสารอันตรายหลายชนิด เช่น นิโคติน และคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินเสื่อมสภาพเร็วขึ้น รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ และทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้น้อยลง ส่งผลให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น ดูโทรม ไม่สดใส และเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย
- ดื่มแอลกอฮอล์
ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์บ่อยจนเกินไป เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการดูดซึมน้ำออกจากร่างกาย และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ สูญเสียน้ำ ขาดความยืดหยุ่น ดูเหี่ยวย่น และเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย

แก้ผิวหย่อนคล้อยด้วยฟิลเลอร์ได้อย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่งฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ในการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ และพยุงโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับมากขึ้น เพื่อทดแทนคอลลาเจน ไขมัน และกระดูกที่เสื่อมสภาพลงตามอายุ โดยจะเน้นฉีดในจุดสำคัญบนใบหน้าที่มักเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย เช่น ใต้ตา หน้าแก้ม โหนกแก้ม ขมับ ร่องแก้ม กราม หรือคาง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ และปัญหาที่ต้องการแก้ไข ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์นั้น สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยไม่ต้องผ่าตัด และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว และลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า
ทำความรู้จักกับฟิลเลอร์คืออะไร?
ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ใช้ส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมา เพื่อเลียนแบบสารในร่างกายตามธรรมชาติ โดยจะใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย ซึ่งฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการเสริมปริมาตร เพิ่มวอลลุ่มให้ผิว และเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก พร้อมทั้งยกกระชับปรับรูปหน้า และแก้ไขความหย่อนคล้อยของผิว อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้น และปรับสภาพผิวจากภายใน ส่งผลให้ผิวมีความเรียบเนียน เต่งตึง กระชับ อิ่มฟู และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย
- แก้ผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะช่วยยกกระชับปรับรูปหน้า และพยุงโครงสร้างผิวให้กลับมาเต่งตึงมากขึ้น
- เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และชัดเจน
การฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการฉีด โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ผิวที่หย่อนคล้อยจะกลับกระชับ เต่งตึง อิ่มฟู และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- ใช้แก้ปัญหาผิวได้หลายบริเวณ
การฉีดฟิลเลอร์ สามารถใช้แก้ปัญหาผิวพร้อมกันได้หลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นใต้ตา หน้าแก้ม โหนกแก้ม ขมับ แก้มตอบ ร่องแก้ม มุมปาก กราม หรือคาง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ และปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- มีความสะดวก และรวดเร็ว
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่มีความสะดวกสบาย และมีความรวดเร็วในการรักษา โดยจะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 15 – 30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และปัญหาที่ต้องการแก้ไข
- ไม่ต้องผ่าตัด และพักฟื้นน้อย
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องศัลยกรรมผ่าตัด และใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย โดยหลังฉีดเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียง
- สลายง่ายหากไม่พอใจผลลัพธ์
การฉีดฟิลเลอร์ สามารถย่อยสลายได้ง่ายหากไม่พอใจในผลลัพธ์ หรือเกิดข้อผิดพลาดภายหลังการฉีด โดยการใช้เอนไซม์ที่ชื่อว่า Hyaluronidase ในการฉีดสลายฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) โดยเฉพาะ
- ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากใช้ฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่านการรับรองจาก อย. รวมถึงเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาคของใบหน้า สามารถตรวจประเมินสภาพผิว และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย
การฉีดฟิลเลอร์สามารถยกกระชับผิวได้หลายบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณที่มักเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ดังนี้
- ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกใต้ตา ลดปัญหาใต้ตายุบ ใต้ตาโหล และถุงใต้ตา รวมถึงช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้ตาที่หย่อนคล้อย ทำให้ใต้ตาดูสดใส และอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- โหนกแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์โหนกแก้ม สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยยกกระชับบริเวณแก้มส่วนบน ลดปัญหาหน้าแก้มตก หน้าแก้มห้อย ร่องใต้ตาลึก และร่องแก้มลึก ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- ขมับ
การฉีดฟิลเลอร์ขมับ สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยเติมเต็มขมับตอบ ขมับยุบ และลดปัญหาโหนกแก้มชัด รวมถึงช่วยยกกระชับผิวบริเวณใบหน้าส่วนบน ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึง มีมิติ และอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
แก้มส้ม
การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยเติมเต็มหน้าแก้มตอบ หน้าแก้มยุบ และลดปัญหาร่องใต้ตาลึก ร่องแก้มลึก รวมถึงช่วยยกกระชับผิวบริเวณหน้าแก้มที่หย่อนคล้อย ทำให้หน้าแก้มดูอิ่มฟู มีมิติ และอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- แก้มตอบ
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยเติมเต็มข้างแก้มตอบ ข้างแก้มยุบ ลดปัญหาโหนกแก้มชัด และกระเปาะแก้ม รวมถึงช่วยยกกระชับผิวบริเวณข้างแก้มที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึง มีมิติ และมีความสมดุลมากขึ้น
- ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึก และกระดูกร่องแก้มทรุด รวมถึงช่วยยกกระชับผิวบริเวณร่องแก้มที่หย่อนคล้อย และลดปัญหามุมปากตก ทำให้ร่องแก้มดูอิ่มฟู เรียบเนียน และอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- คาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยเพิ่มปริมาตรให้ผิวบริเวณคาง เพื่อลดปัญหาคางตัด คางสั้น คางบุ๋ม หรือคางถอย รวมถึงช่วยยกกระชับผิวบริเวณข้างคาง ทำให้ใบหน้าดูสมดุล มีมิติ และอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
- กรอบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยจะช่วยเติมเต็มแนวกราม และกรอบหน้าให้มีความคมชัด รวมถึงช่วยยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้าที่หย่อนคล้อย และลดปัญหาเหนียงใต้คาง ทำให้ใบหน้าดูสมดุล มีมิติ และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น

ใครที่ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย?
- ผู้ที่มีอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป ผิวเริ่มหย่อนคล้อยจากการสูญเสียคอลลาเจน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยจนถึงปานกลาง เช่น หน้าแก้มเริ่มตก ร่องแก้มลึก หรือกรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย และร่องลึกจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างผิวเสื่อมสภาพ ชั้นไขมัน และชั้นกระดูกทรุดตัวตามวัย
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าตอบ ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า และดูมีอายุ
- ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่สมส่วน ขาดความสมดุล และดูไม่มีมิติ
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัย
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม และเพิ่มความอิ่มฟูให้ผิว
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด และไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
คำแนะนำ ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย ควรปรึกษาแพทย์ และแจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์อย่างชัดเจน ทั้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ ประวัติการรักษา และยาที่รับประทานอยู่
ฉีดฟิลเลอร์ กับ เครื่องยกกระชับ แก้ผิวหย่อนคล้อยต่างกันอย่างไร?
การแก้ผิวหย่อนคล้อยด้วยฟิลเลอร์ มีความแตกต่างจากการทำเครื่องยกกระชับอย่างชัดเจน ดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสาร Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปในชั้นผิว เพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้า และเพิ่มปริมาตรให้ผิว ซึ่งจะใช้แทนที่ชั้นไขมัน และชั้นกระดูกที่ทรุดตัวเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึง กระชับ เรียบเนียน อิ่มฟู และดูมีมิติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ใบหน้าตอบ ไม่สมดุล ขาดวอลลุ่ม และมีริ้วรอย ร่องลึก โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
- การทำเครื่องยกกระชับ
การทำเครื่องยกกระชับ เป็นการส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นให้คอลลาเจนเดิมเกิดการหดตัว พร้อมทั้งกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับ เต่งตึง และยืดหยุ่นจากภายใน เหมาะสำหรับที่มีผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ มีกระเปาะแก้ม และมีเหนียงใต้คาง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะแลดูเป็นธรรมชาติ และสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใน 1 – 3 เดือนหลังทำ
วิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย
- ควรค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ให้อย่างถี่ถ้วน
- ควรเข้ารับการตรวจประเมินสภาพผิวจากแพทย์ ก่อนวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
- ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว อาการแพ้ และยาที่ใช้เป็นประจำ
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม และยาที่อาจกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดบุหรี่ก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- งดทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือหัตถการใด ๆ ที่อาจทำให้ผิวไวต่อการระคายเคือง
- งดขัดหน้า และสครับหน้า รวมถึงงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของ AHA หรือ BHA
- ควรดื่มน้ำให้สม่ำเสมอทั้งวัน และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการฉีดฟิลเลอร์
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 12 – 24 ชั่วโมงแรก
- ควรประคบเย็นอย่างเบามือ หากเกิดอาการบวมแดงช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์
- ควรทาครีมกันแดด และใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส และกดนวดในบริเวณที่ฉีดอย่างรุนแรง
- งดเผชิญแสงแดดจัด และงดสัมผัสความร้อนในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- งดออกกำลังกายที่ทำให้เลือดสูบฉีด และงดทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดบุหรี่หลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- งดทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือหัตถการใด ๆ ที่อาจทำให้ผิวไวต่อการระคายเคือง
- งดขัดหน้า และสครับหน้า รวมถึงงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของ AHA หรือ BHA
- ควรดื่มน้ำให้สม่ำเสมอทั้งวัน และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อฟื้นฟูผิวหลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- ควรดูแลตัวเอง และรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

รวมคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย
ฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย ใช้ฟิลเลอร์กี่ CC?
- การฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ บริเวณที่ฉีด และปัญหาที่ต้องการแก้ไข ซึ่งโดยทั่วไปการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยจะฟิลเลอร์ประมาณ 1 – 3 CC ต่อบริเวณ แนะนำให้เข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด
ฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย เจ็บไหม?
- โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย จะให้ความรู้สึกเจ็บน้อย เนื่องจากมีการประคบเย็น และทายาชาให้ก่อนฉีด ทำให้รู้สึกตึงผิว หรือแสบเพียงชั่วคราว ซึ่งเป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด เทคนิคของแพทย์ และสภาพผิวแต่ละบุคคล
ฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย อยู่ได้นานไหม?
- โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด และการปฏิบัติตัวหลังฉีดของแต่ละบุคคล
ฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย มีผลข้างเคียงไหม?
- โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ อาการบวมแดง ปวดตึง และฟกช้ำบริเวณที่ฉีด โดยสามารถหายได้เองภายใน 7 – 14 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการปฏิบัติตัวหลังฉีดของแต่ละบุคคล แต่ทั้งนี้ หากพบว่ามีผลข้างเคียงอันตรายอย่างเช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน อักเสบ บวมผิดปกติ ปวดรุนแรง มีหนอง หรือผิวเปลี่ยนสี ควรรีบเข้ารับการรักษากับแพทย์โดยด่วน
จะเห็นได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ผิวหย่อนคล้อย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า เติมริ้วรอย ร่องลึก และเพิ่มวอลลุ่มให้ผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน อีกทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วหลังทำ และย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่เกิดการตกค้างในชั้นผิว ทำให้ใบหน้ากลับมากระชับ เต่งตึง มีมิติ และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น ดังนั้น สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์แก้ผิวหย่อนคล้อย สามารถเข้ารับการปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินสภาพผิว และวิเคราะห์ปัญหาก่อนวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

