ให้วิตามินผิว เคล็ดลับผิวสวย สว่างใสออร่าจับแบบดารา
อยากมีผิวใส ออร่า เหมือนมีสปอร์ตไลท์ส่วนตัว การดูแลผิวด้วย การให้วิตามินผิว เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ที่จะทำให้ผิวพรรณของเรามีความกระจ่างใส เรียบเนียน เติมความชุ่มชื้นให้ผิวแล้ว ทั้งยังช่วยดูแลสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มาทำความรู้จักกับการดูแลผิวสุดล้ำลึก ไขความลับ ให้วิตามินผิว เคล็ดลับผิวสวย ดีจริงไหม ? ก่อนตัดสินใจดูแลผิวให้ออร่า
การให้วิตามินผิว คืออะไร
การให้วิตามินผิว หรือ Intravenous Vitamin Therapy : IV Therapy เป็นการเติมวิตามินและแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งการให้วิตามินผิวนั้น จะมีด้วยกันหลากหลายสูตร ข้อดีของการให้วิตามินผิว จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้มากถึง 90-100% ซึ่งไม่เหมือนกับการกินร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินไปใช้ได้ประมาณ 30% เท่านั้น ทำให้การให้วิตามินผิว 1 ครั้งจะใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรให้วิตามินผิว อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
การให้วิตามินผิว มีกี่แบบ ?
- การให้วิตามินผิว หรือ IV infusion
เป็นการให้อาหารผิว วิตามิน เกลือแร่ ในรูปแบบสารน้ำ ผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย โดยการให้วิตามินผิว จะมีการผสมในน้ำเกลือนอร์มอลซาไลน์ (Normal saline solution/NSS) จากนั้นจะใช้วิธีการค่อย ๆ หยดช้า ๆ ในอัตราความเข้มข้นที่สม่ำเสมอ โดยจะใช้เวลาในการให้วิตามินผิวประมาณ 45-60 นาที วิธีให้วิตามินผิวนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลตัวเอง ฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่อง
- IV Bolus หรือ IV Push
คือ การฉีดยาผ่านทางหลอดเลือดดำโดยตรงและรวดเร็ว โดยไม่ผสมน้ำเกลือ ทำให้สารอาหารผิว วิตามิน และเกลือแร่นั้นเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 30 นาที จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน หรือต้องการฟื้นฟูร่างกายจากการอ่อนเพลีย การขาดน้ำอย่างรุนแรง ทั้งนี้วิธีพุชมีข้อควรระวังสำหรับคนที่มีหลอดเลือดเล็ก เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบวม ช้ำได้
วิตามินสำหรับผิวมีอะไรบ้าง?
- วิตามินซี (Vitamin C) : วิตามินบำรุงร่างกายที่หลาย ๆ คนต่างรู้จัก เป็นสารที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใส และช่วยลดเลือนจุดด่างดำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง
- วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) : ช่วยบำรุงเส้นผม เล็บ ให้สุขภาพดี บำรุงร่างกาย พร้อมช่วยลดความเครียด และช่วยลดอาการเหนื่อยล้า
- กรดอะมิโน (Amino Acids) : เป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์ มีส่วนช่วยในเรื่องการสร้างโปรตีนในร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น และมีความชุ่มชื้นขึ้น
- N-Acetyl Cysteine (NAC) : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี
- แร่ธาตุอื่น ๆ ในแต่ละสูตรนั้นจะมีการเติมสารอาหารผิว วิตามิน หรือเกลือแร่ที่แตกต่างกันไป เช่น คอลลาเจน (Collagen) ซิงค์ (Zinc) คาร์นิทีน (Carnitine) และแมกนีเซียม (Magnesium) ที่เป็นส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
การให้วิตามินผิว ช่วยอะไรได้บ้าง ?
การดูแลผิวพรรณให้มีความไบร์ท อิ่มน้ำ เรียบเนียน และมีผิวที่สม่ำเสมอ ถือเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่าง ที่จะช่วยดึงดูดสายตาคนรอบข้างให้มองมาที่เรา ซึ่งการให้วิตามินผิว นั้นก็เป็นตัวช่วยสร้างผิวสวยจากภายในสู่ภายนอก ทั้งยังมีหลากหลายสูตรให้ได้เลือก ทำให้ปัจจุบันการให้วิตามินผิว สามารถดูแลสุขภาพร่างกายได้หลายอย่าง เช่น
- การให้วิตามินผิว ช่วยเสริมสร้างกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เต่งตึงขึ้น
- การให้วิตามินผิว ช่วยบำรุงผิว ฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย ให้กระจ่างใสขึ้น ผิวดูไบร์ท ไม่หมองคล้ำ
- การให้วิตามินผิว ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ ที่ทำร้ายผิวให้ผิวเสีย และแห้งกร้าน
- การให้วิตามินผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ให้ผิวดูสุขภาพดี นุ่มชุ่มชื้นขึ้น
- การให้วิตามินผิว ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ให้ผิวไม่ดูแก่ก่อนวัย
- การให้วิตามินผิว ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ
- การให้วิตามินผิว ช่วยลดอาการอ่อนเพลียสะสมของร่างกาย ให้ร่างกายดูสดชื่น และตื่นตัวขึ้น
- การให้วิตามินผิว ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการทำงานหนัก และยังช่วยดีท็อกซ์สารพิษที่ตกค้างสะสมอยู่ภายในร่างกาย
ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการให้วิตามินผิวนั้น จะสามารถอยู่ได้นานถึง 2-3 เดือน ซึ่งในแต่ละคนก็จะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำอีกด้วย
ให้วิตามินผิวสูตรไหน ช่วยอะไร?
รมย์รวินท์คลินิก ของเราเข้าใจในปัญหาผิวที่มีความหลากหลาย ทางคลินิกจึงได้คิดสูตรให้วิตามินผิว ที่มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล เช่น
- IV White Skin & Detox
วิตามินบูสต์ผิว ให้วิตามินผิว สูตรเฉพาะของรมย์รวินท์คลินิก ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สารอาหาร และวิตามินบำรุงผิว เพื่อผิวขาว สว่าง กระจ่างใส มีสุขภาพดี พร้อมไปกับการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย ให้ออกทางปัสาวะ เพื่อช่วยในการชะลอวัยให้ดูอ่อนกว่าวัยอย่างมีประสิทธิภาพ
- IV White & Fresh
ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินเพื่อสร้างผิวสวย เป็นการให้วิตามินผิว ที่บำรุงผิวจากภายใน เพื่อผิว ขาวสว่าง กระจ่างใส ดูผิวดีอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังช่วยให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
- IV Super Hydrate
กรดอะมิโนและเปปไทด์ การให้วิตามินผิว ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการทางธรรมชาติของผิว เสริมสร้าง Collagen ช่วยฟื้นฟูผิว เก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิว ลดความแห้งกร้าน เพื่อผิวที่เนียนนุ่ม กระจ่างใส ฉ่ำน้ำ
- IV Detox
มีส่วนช่วยทำให้ตับได้ทำการขับสารพิษและเพิ่มประสิทธิภาพให้ทำงานได้ดีมากขึ้น การให้วิตามินผิวเพื่อปรับสมดุลให้กับร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณสดใส พื้นฟูสุขภาพ และฟื้นฟูระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
- IV Immune
ให้วิตามินผิวประกอบด้วยวิตามินและสารอาหาร เพื่อเสริมสร้างและกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง พร้อมปรับสมดุลร่างกายให้ดีขึ้นเพื่อลดภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ภูมิแพ้ และลดภาวะอ่อนล้าเรื้อรัง
- IV Immune Plus
ให้วิตามินผิวประกอบด้วยวิตามินและสารอาหาร เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยปรับสมดุลร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ ช่วยให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรง
- IV Energy Plus
ช่วยในการเร่งระบบเผาผลาญ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และให้วิตามินผิว ยังช่วยชะลอความเสื่อมให้กับเซลล์ที่เกิดจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ
- IV Blink
ประกอบด้วยวิตามินเเละสารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวภายใน ช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส เป็นธรรมชาติ
ทั้งนี้การให้วิตามินผิว แต่ละสูตรจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ฟื้นฟูผิว บูสต์ความกระจ่างใส เพิ่มพลังงาน หรือบำรุงร่างกาย หากต้องการให้วิตามินผิว ให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการให้วิตามินผิว เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด
ขั้นตอนการให้วิตามินผิว
- หากต้องการให้วิตามินผิว ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับความกังวล หรือปัญหาของร่างกาย ที่ต้องการจะดูแล เพื่อให้แพทย์ให้คำแนะนำได้ตรงจุด
- จากนั้นทำการชั่ง วัดส่วนสูง และวัดความดันโลหิต เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาคำนวณปริมาณตัวยา สำหรับการให้วิตามินผิว
- ก่อนเข้ารับการให้วิตามินผิว ผู้ช่วยจะทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องใช้ เช่น ข้อพับแขน
- การให้วิตามินผิว โดยผ่านสายน้ำเกลือ ผู้เชี่ยวชาญจะทำการเจาะสายน้ำเกลือบริเวณที่ทำควรสะอาด เพื่อให้ตัวสารน้ำเข้าสู่ร่างกาย โดยคนไข้สามารถนั่งพักได้ การให้วิตามินผิว จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที หรือจนกว่าสารน้ำจะหมด
- หลังการให้วิตามินผิว สามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องพักฟื้น และสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการให้วิตามินผิว
ถึงแม้ว่าการให้วิตามินผิว นั้นจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายค่อนข้างสูง แต่ในบางกรณีผู้รับบริการก็อาจจะมีผลข้างเคียงหลังทำที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการแดง บวม หรือช้ำเล็ก ๆ ที่เกิดจากรอยเข็ม หรืออาการเวียนหัวหลังการให้วิตามินผิว ที่สามารถหายไปได้เอง แต่หากเกิดอาการแพ้ คลื่นไส้อาเจียนอย่างหนัก หรือมีผื่นลมพิษที่ผิวนั้น ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเบื้องต้น
การดูแลตัวเองหลังการให้วิตามินผิว
- หลังการให้วิตามินผิว หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง
หลังการให้วิตามินผิว ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวนั้นเกิดการระคายเคือง หรือเกิดความหมองคล้ำ แต่หากมีเหตุจำเป็นให้ต้องโดดแสงแดด หรืออยู่กลางที่แจ้งเป็นเวลานาน ควรหมั่นทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่านั้น เพื่อช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB หรือควรมีร่มและสวมเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด
- หลังการให้วิตามินผิว หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นและน้ำร้อน
หลังจากการให้วิตามินผิว เพื่อหลีกเลี่ยงผิวขาดน้ำ หรือผิวแห้ง ระคายเคือง ไม่แนะนำให้อาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน
- หลังการให้วิตามินผิว ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิว
หลังการให้วิตามินผิว คววรหมั่นทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่จะช่วยล็อคความชุ่มชื้นของผิว ให้ผิวดูอิ่มน้ำ และมีความเต่งตึง การเลือกสกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความชุ่มชื้น หรือมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกหรือวิตามินอี จะช่วยดูแผลผิวให้มีความสดใส เติมน้ำให้ผิวดูสุขภาพดี
- หลังการให้วิตามินผิว งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ จะทำให้ผิวเกิดการอักเสบ ผิวดูโทรม หมองคล้ำ และสำหรับคนที่ให้วิตามินผิว แอลกอฮอล์และบุหรี่จะเข้าไปลดประสิทธิภาพของวิตามินที่ได้รับให้ทำงานได้ไม่เต็มที่
- หลังการให้วิตามินผิว ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
หลังการให้วิตามินผิว ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้วิตามินที่เข้ามาได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และร่างกายจะได้มีเวลาในการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่
การให้วิตามินผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสและสุขภาพดีขึ้นอย่างเร่งด่วน นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับความเหมาะสมในการให้วิตามินผิว
ผู้ที่เหมาะกับการให้วิตามินผิว
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ การให้วิตามินผิว จะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งกร้านการให้วิตามินผิว บางสูตรจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น สุขภาพดี
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว ในบางสูตรการให้วิตามินผิว สามารถช่วยลดการเกิดสิว ลดการอักเสบของสิว ทั้งยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการป้องกันริ้วรอย การให้วิตามินผิว สามารถช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังได้ ช่วยป้องกันปัญหาริ้วรอย ผิวเหี่ยวก่อนวัย
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังจากทำเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ต่าง ๆ การให้วิตามินผิว จะช่วยฟื้นฟูผิวที่บอบบางให้กลับมาแข็งแรงได้ไวขึ้น
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่ทำงานหนัก อ่อนเพลียจากการพักผ่อนน้อย การให้วิตามินผิว จะช่วยฟื้นฟูพลังงานในร่างกาย ลดความอ่อนล้า เติมความสดชื่น และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพโดยรวม ในวิตามินบางชนิดของสูตร การให้วิตามินผิว นั้น มีส่วนช่วยในการช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ช่วยป้องกันโรคได้
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวสวยใสอย่างเร่งด่วน สำหรับใครที่มีปัญหาผิว ต้องการดูแลผิวอย่างเร่งด่วน การทำการให้วิตามินผิว ในบางสูตร สามารถฟื้นฟูผิวให้กลับมาสุขภาพดี มีออร่าขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
- การให้วิตามินผิว เหมาะกับผู้ที่ขาดวิตามิน การให้วิตามินผิวจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างรวดเร็ว และดูดซึมได้ดีกว่าการทาน สำหรับคนที่ร่างกายมีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมวิตามินบางชนิด
ใครบ้างไม่เหมาะกับการให้วิตามินผิว
- การให้วิตามินผิว ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร การให้วิตามินผิว วิตามินอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ หรือทารกแรกเกิดได้
- การให้วิตามินผิว ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต หรือโรคเลือดออกง่าย
- การให้วิตามินผิว ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้ยาหรือวิตามิน เนื่องจากการให้วิตามินผิว อาจทำให้เกิดอาการแพ้ขณะทำได้ เช่น ผื่นคันตามตัว หรือเริ่มหายใจลำบาก
- การให้วิตามินผิว ไม่เหมาะกับผู้ที่มีไข้สูงหรือติดเชื้อ การให้วิตามินในขณะที่ร่างกายอ่อนแอ อาจทำให้ร่างกายมีภาวะที่แย่ลงได้
- การให้วิตามินผิว ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังทานยาบางชนิด ในยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับวิตามินที่ฉีดเข้าไปได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้
- การให้วิตามินผิว ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ภูมิแพ้โรคหืด โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตนเอง หรือโรคเอดส์ (AIDS) เป็นต้น
- การให้วิตามินผิว ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับภาวะพร่องเอนไซม์ ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ร่างกายมีระดับเอนไซม์ต่ำ หลังการให้วิตามินผิวอาจจะทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนได้
การให้วิตามินผิว ต้องทำบ่อยแค่ไหน?
การให้วิตามินผิว เป็นอีกหนึ่งการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาโดยปกติแล้วการให้วิตามินผิวนั้นจะค่อย ๆ เริ่มเห็นผลเมื่อทำการรักษาไป 3-4 ครั้งอย่างต่อเนื่อง และควรทำห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อความต่อเนื่อง จากนั้นจึงค่อย ๆ ลดความถี่เหลือ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรือเดือนละครั้งได้ โดยหลังการให้วิตามินผิว ผิวจะค่อย ๆ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ผิวชุ่มชื้นขึ้น ดูกระจ่างใส และสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสูตรของการให้วิตามินผิวสภาพผิวพื้นฐานของแต่ละคน และการดูแลตัวเองหลังให้วิตามินผิว
เลือกให้วิตามินผิว ที่ไหนดี
การให้วิตามินผิว เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมทำสวยที่มีอยู่ทุกคลินิกในปัจจุบัน แล้วอย่างนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ควรเลือกคลินิกไหน ที่ปลอดภัย และได้ผลจริง? การเลือกให้วิตามินผิว ที่ไหนดี? นั้น จำเป็นที่จะต้องมองหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน ดังนี้
- เลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่เปิดบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการใบรับรอง และมีใบประกอบสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง
- เลือกคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะทาง ผู้ชำนาญการ ที่คอยดูแลให้คำปรึกษา และทำหัตถการเอง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ที่ เว็บไซต์แพทยสภา
- เลือกคลินิกที่มีการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความสะอาด ปลอดภัย และมีสูตรให้วิตามินผิว ตัวยา สารอาหารผิวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังทำ และความอันตราย
- เลือกคลินิกที่สามารถเดินทางสะดวก เข้าถึงได้ง่าย มีที่ตั้งที่ปลอดภัย เนื่องจากการทำ IV Drip นั้นจะต้องใช้ความสม่ำเสมอเผื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ การเลือกคลินิกที่เดินทางสะดวกจะช่วยทำให้เราสามารถเข้าไปให้วิตามินผิวได้สะดวก
- เลือกคลินิกที่มีการแสดงช่องทางติดต่อที่ชัดเจน ติดต่อได้จริง เพื่อที่จะสามารถสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการให้วิตามินผิวได้อย่างมั่นใจ และมีความน่าเชื่อถือ
- เลือกคลินิกที่มีรีวิวการให้วิตามินผิว และความน่าเชื่อถือ หรือความคิดเห็นจากผู้ที่ใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความ ซึ่งสามารถดูได้จากโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ของคลินิก ก่อนตัดสินใจ
ข้อดีของการให้วิตามินผิว
- การให้วิตามินผิว สามารถดูดซึมได้รวดเร็วกว่าการทานวิตามิน : เพราะการให้วิตามินผิว เป็นการฉีดเข้าหลอดเลือดดำโดยตรง จึงทำให้วิตามินที่ได้รับจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที และนำไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นผลได้ไวกว่าการรับประทานวิตามินทั่วไป
- การให้วิตามินผิว สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด : เนื่องจากการให้วิตามินผิว นั้นสามารถเลือกสูตรวิตามินที่ตรงกับปัญหา และความต้องการของแต่ละบุคคลได้
- การให้วิตามินผิวช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ถึงภายใน : การให้วิตามินผิว ช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีความกระปรี้กระเปร่า ช่วยลดความเหนื่อยล้า ทั้งยังช่วยฟื้นฟูร่างกายได้
- การให้วิตามินผิวช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส : การให้วิตามินผิว ช่วยให้บำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง มีออร่าขึ้น ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- การให้วิตามินผิวช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย : การให้วิตามินผิว บางสูตร มีสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้น
ข้อควรระวังในการให้วิตามินผิว
- ผลข้างเคียง : หลังการให้วิตามินผิว อาจมีอาการข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป แต่ไม่เป็นอันตราย เช่น ผื่นคัน คลื่นไส้ หรืออาเจียน
- ความเข้มข้นของวิตามิน : การให้วิตามินผิว ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากหากได้รับวิตามินในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
- การติดเชื้อ : เนื่องจากการให้วิตามินผิวนั้น เป็นการทำหัตถการโดยใช้เข็ม มีการเปิดเส้นเลือด ควรเลือกคลินิกที่มีความสะอาด เพราะหากเครื่องมือหรือสถานที่ที่ทำไม่สะอาด มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- ค่าใช้จ่าย : การให้วิตามินผิว ให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการนั้น ต้องใช้ความสม่ำเสมอ และความต่อเนื่องในการทำหลายครั้งติดต่อกัน ซึ่งอาจเกิดปัญหาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
- ไม่ใช่การรักษาโรค : การให้วิตามินผิวเป็นการดูแลร่างกาย โดยการเสริมวิตามินให้เพียงพอต่อร่างกาย แต่ไม่สามารถรักษาโรคได้
Q&A ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ การให้วิตามินผิว
การให้วิตามินผิว ทำให้ผิวขาวได้จริงหรือ ?
- เรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็ต้องอยากรู้ก่อนทำว่า การให้วิตามินผิว ทำให้ผิวขาวได้จริงไหม? สามารถเปลี่ยนสีผิวได้ไหม ซึ่งการให้วิตามินผิว นั้น เป็นการเติมวิตามินเข้าสู่ร่างกาย ในแต่ละคลินิกก็จะมีสูตรให้วิตามินผิวที่หลากหลาย โดยส่วนมากแล้วส่วนประกอบของการให้วิตามินผิว จะประกอบไปด้วย วิตามินซี วิตามินบี (N-Acetyl Cysteine) กรดอะมิโน Antioxidant หรือ Collagen ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ซึ่งตัว NAC (N-Acetyl Cysteine) ในการให้วิตามินผิวเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสังเคราะห์ Glutathione ได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งอาจจะทำให้ผิวนั้นมีความกระจ่างใสมากขึ้น มีความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีออร่า แต่ การให้วิตามินผิว ไม่สามารถเปลี่ยนเฉดสีผิวได้อย่างฉับพลัน
หยุดให้วิตามินผิว แล้วผิวจะกลับมาคล้ำไหม?
- การให้วิตามินผิว ช่วยฟื้นฟูผิวที่คล้ำเสียจากแสงแดด และมลภาวะ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และยังช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ดังนั้นเมื่อหยุดให้วิตามินผิวแล้ว ผิวจะไม่กลับมาคล้ำเสีย หรือผิวจะไม่บางลง อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังทำด้วย เช่น ควรทาบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินบี วิตามินดี หมั่นทากันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และไม่ควรออกไปสัมผัสกับแดดโดยตรงเป็นเวลานาน
การให้วิตามินผิว แตกต่างกับวิตามินแบบทานอย่างไร ?
แม้ว่าการให้วิตามินผิว หรือการรับประทานวิตามิน จะเป็นการนำวิตามิน สารอาหารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายเหมือนกัน แล้วทั้ง 2 แบบมีความแตกต่างกันไหม ไปดูกันเลย
- วิตามินแบบทาน
วิตามินในรูปแบบทาน มีหลายแบบในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ยาอม เยลลี่ วิตามินอมใต้ลิ้น หรือรูปแบบเม็ด/แคปซูลที่เราคุ้นชินกัน ซึ่งข้อดีของวิตามินประเภทนี้ คือ หาซื้อง่าย สะดวก ทานง่าย และไม่ต้องเจ็บตัว แต่วิตามินรูปแบบทานนั้นอาจจะทำให้เห็นผลได้ช้ากว่า เนื่องจากต้องผ่านการย่อยหลายขั้นตอน กว่าที่ร่างกายจะดูดซึม และไม่สามารถดูดซึมได้เต็มที่ โดยเฉลี่ยแล้วการดูดซึมจะอยู่ที่ 50%
- การให้วิตามินผิว
วิตามินในรูปแบบการให้วิตามินผิวนั้น จะมีอยู่ 2 แบบ คือ การให้วิตามินผิวแบบพุช กับการให้วิตามินผิวแบบผสมน้ำเกลือ การให้วิตามินผิวซึ่งทั้ง 2 วิธีร่างกายจะสามารถดูดซึมสารอาหารและรับวิตามินเข้าไปใช้ได้ถึง 90% เพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการการย่อยหลายครั้ง ทำให้เห็นผลได้เร็วกว่า
ส่วนการรับวิตามินในรูปแบบการฉีดหรือ การให้วิตามินผิว มีข้อดีคือร่างกายสามารถดูดซึมวิตามิน และสารอาหารได้ทันที ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ไม่ต้องผ่านการกรอง ทำให้เห็นผลได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ หากมีวิตามินส่วนเกินร่างกายก็ขับออกมาทางของเสียแทน ทำให้การให้วิตามินผิว ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
การให้วิตามินผิว คืออะไร ดีจริงไหม ? การดูแลผิวพรรณ เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนต่างให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องความสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจอีกด้วย ซึ่งการดูแลผิวนั้นสามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย สำหรับใครที่อยากจะปรนนิบัติผิว เติมเต็มความชุ่มชื้น และออร่าให้ผิว รมย์รวินท์คลินิก เราพร้อมให้บริการ ให้วิตามินผิว แล้ววันนี้ทุกสาขา ให้คุณได้สวยในแบบที่เป็นตัวคุณ