ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
UltraClear ดูแลใบหน้า ปิดจบปัญหาแบบครบวงจร
UltraClear เป็นเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นโดย ผู้เชี่ยวชาญในด้านความงาม และการผ่าตัด Acclaro Medical ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระดับโลกในการมุ่งมั่นที่จะพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบสนองด้านความต้องการทางการแพทย์ ความงาม และการผ่าตัด
UltraClear คืออะไร
UltraClear เป็นเครื่องครบวงจร เพื่อผิวที่ดูอ่อนเยาว์ คือ Cold Ablative Fiber หรือเลเซอร์ไฟเบอร์ ในรูปแบบที่มีความเย็นเป็นตัวแรกของโลก เพื่อใช้ในการต่อต้านสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากวัยที่เพิ่มมากขึ้น โดย Ultraclear ใช้ MID IR Fiber รุ่นแรกที่มี wavelength ใหม่คือ 2910 นาโนเมตร ซึ่งเลเซอร์ดังกล่าว ทำงานภายใต้การดูดซับน้ำอย่างสูงสุด มากกว่าทุกคลื่น ที่มีในท้องตลาดถึง 95% ของพลังงานคลื่น จะถูกใช้ในการทำงานกับเนื้อเยื่อ ผิวหนัง และทิ้งความร้อน หรืออาการต่าง ๆ ไว้ที่ผิวของผู้เข้ารับบริการน้อยมาก หลังจากเข้ารับบริการ เนื่องจาก ไฟเบอร์ MID IR มีการระเหยของคลื่นที่ดี และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายจากความร้อนอื่น ๆ อันเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของ PIH และ PIE ส่งผลให้ผิว มีความปลอดภัยหลังจากทำการรักษา นอกจากนี้ UltraClear ยังมีวิธีการสร้างพลังงาน โดยใช้ คลื่นเออร์เบียม (Erbium fluoride) ซึ่งเป็นคลื่นไม่มีหลอดไฟ (lamp) เหมือนกับเครื่องอื่น ๆ ในสมัยก่อน ทั้งยังมีการออกแบบเครื่องที่แตกต่าง จากเครื่องตระกูลเลเซอร์ทุกตัว จึงทำให้ UltraClear ไม่ต้องมีการปรับเทียบพลังงานบ่อย ๆ จึงเป็นการทำให้เครื่องเกิดความเสถียรในการทำงานมากยิ่งขึ้น
อีกทั้ง UltraClear ยังมีการระเหยแบบเย็น และการแข็งตัวแบบ dialed-in รวมทั้งแบบ intra-ablative เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการสามารถทำซ้ำได้ อย่างปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดี
UltraClear ออกแบบมาเพื่อให้เป็นโปรแกรมที่มีความแม่นยำที่สูง ด้วยคุณภาพลำแสงที่เหนือชั้นกว่า และมีขนาดจุดที่เล็กของ MIRACL และให้พลังงานที่สามารถกระจายตัวได้อย่างมีความละเอียดสูง และมีความสม่ำเสมอสูง ทั้งยังมีขนาดจุดคลื่นที่เล็กลง เพื่อให้สามารถยังช่วยให้คลื่นพลังงาน สามารถเจาะลึกลงสู่ชั้นผิวได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สามารถปิดช่องไมโคร ที่ทำลายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยลดความเจ็บปวด ทำให้ในการรักษาใช้ระยะเวลาไม่นาน และยังมีส่วนในการป้องกันเลือดออก
มีเทคโนโลยีการสแกน X-Y ที่เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัล ของแพลตฟอร์มรองรับ ในด้านการทำลายผิว พร้อมกับมีการปรับโครงสร้างคอลลาเจนในระดับลึกในครั้งเดียว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความสม่ำเสมอสูง
สามารถทำได้ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใด มีผิวสีเข้มในระดับใด ก็สามารถทำ Ultraclear ได้ทั้งสิ้น
UltraClear ยังได้รับการรับรองจาก FDA ในด้านการแก้ปัญหาผิวหน้า และฟื้นฟูผิวหน้าด้วย เลเซอร์ MID IR Fiber ตัวแรกของโลก ที่สามารถรักษาชั้นผิวหนังได้พร้อมกันหลาย ๆชั้น โดยนับตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ลงไปจนถึงชั้นผิวหนังแท้ เพื่อเป็นการช่วยอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้น
ด้วยการทำงานของ UltraClear ผิวที่หมองคล้ำจะถูกกำจัดออกไป และชั้นผิวด้านล่าง จะได้รับพลังงานความร้อน ที่แพทย์สามารถทำการควบคุมได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้ผิวที่ทำ UltraClear ถูกรักษา และเกิดการปรับโครงสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการสร้างเซลล์ผิวขึ้นใหม่ เพิ่มการผลิตคอลลาเจนรวมทั้ง อิลาสตินใต้ผิวหนังอีกด้วย จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี มีผิวที่เรียบเนียน มีสุขภาพผิวที่ดี มีความกระจ่างใสมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังมีผิวภาพรวมที่ดูอ่อนกว่าวัย
UltraClear ประกอบไปด้วย 6 Applications ในเครื่องเดียว
เนื่องจาก Ultraclear มีความตั้งใจที่จะเป็นเครื่องที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของผู้เข้ารับการรักษาได้หลากหลาย จึงออกแบบมาให้สามารถตอบโจทย์ผู้เข้ารับบริการที่มีหลากหลายปัญหา ทำให้สามารถทำงานได้คลอบคลุมเกือบทุกปัญหาบนผิวหน้า นับตั้งแต่ การทำหน้าใส บนผิวหนังชั้นตื้น ๆ แก้ปัญหาริ้วรอยในขนาดเล็กจนถึง ขนาดใหญ่ แก้ปัญหาหลุมสิว แผลเป็นได้อย่างแตกต่าง โดยที่ยังไม่มีเครื่องชนิดไหนที่สามารถทำได้ คือ วิธีการ laser coring ที่เป็นลักษณะการตัดหนังส่วนเกิน คล้ายกับการผ่าตัดดึงหน้า แต่เป็นการใช้ laser ตัดหนังที่เป็นจุดเล็ก ๆ ในการเจาะลงไปได้ลึก ตั้งแต่ 0.5 – 4 มม. ใช้สำหรับการยกกระชับผิว แบบดึงหน้า ดึงคอ โดยเป็นการเอาหนังส่วนเกินออกไป โดย Ultraclear ประกอบด้วย 6 Applications ดังนี้
- Clear Mode
- Clear+ Mode
- Ultra Mode
- UltraClear Mode
- Laser-Coring Mode
- Surgical Mode
1.Clear Mode
เป็นโหมดที่ใช้การระเหยตัวด้วยความเย็นของชั้นผิว stratum corneum ที่มีสูง 15% โดยทำงานกับชั้นผิว stratum corneum ทำให้มีผลลัพธ์ในการรักษาอย่าง รวดเร็วสำหรับในด้านของการรักษาผิวสัมผัส ความเสียหายของผิวอันเนื่องจากแสงแดด รวมทั้งยังช่วยในการรักษารอยด่างดำของผิวได้อีกด้วย โดยใช้เวลาในการพักฟื้นต่ำ และมีความเจ็บในระหว่างการรักษาที่ไม่มาก
2.Clear+ Mode
เป็นโหมดที่ใช้การระเหยด้วยความเย็นที่สูงมากถึง 80% โดยทำงานกับชั้นหนังกำพร้า ช่วยในการปรับปรุงผิวให้มีคุณภาพที่ดีมากขึ้น ในการลดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ กระเนื้อ รวมทั้งรอยแผล และรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวได้เป็นอย่างดี
3.Ultra Mode
เป็นโหมดการฟื้นฟูอย่างล้ำลึกในผิวหนังชั้น mid dermis โดยการใช้เทคโนโลยี 3DIntelliPulse ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ UltraClear โดยเฉพาะ เน้นช่วยในการสร้างคอลลาเจน และสร้างอิลาสติน ใต้ผิวหนังขึ้นมาใหม่เพื่อให้ผิวเกิดความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเติมเต็มริ้วรอยลึก ริ้วรอยขนาดเล็ก ๆ รวมทั้งรักษารอยแผลได้
4.UltraClear Mode
เป็นโหมดที่ทำการผสมผสานทั้งโหมด 2 คือ โหมด Clear+ Mode และ โหมด 3 Ultra Mode เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการทำที่ดีอย่างสูงสุด และยาวนานที่สุด คือ การให้ผิวที่เรียบเนียน กระชับ กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
5.Laser-Coring Mode
เป็นโหมดที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการทำ โดยให้ผลลัพธ์เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการแก้ไขริ้วรอยร่องลึก รวมทั้งรอยแผลเป็นที่มีความลึก อีกทั้งโหมดนี้ ยังช่วยให้มีผิวที่เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
6.Surgical Mode
เป็นโหมดผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ และการศัลยกรรมตกแต่งเปลือกตา ให้เกิดผลลัพธ์หลังจากทำอย่างทันที
UltraClear ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
UltraClear เป็นนวัตกรรมที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของผิว อันประกอบไปด้วยหลายอย่างครอบคลุมใน 1 การรักษา เพื่อผู้เข้ารับบริการ สามารถดูดีได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย อย่างมีประสิทธิภาพ โดย
UltraClear สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าได้ ดังนี้
- UltraClear ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยตื้นและริ้วรอยลึก
- UltraClear ช่วยแก้ปัญหาจุดด่างดำ
- UltraClear ช่วยแก้ปัญหาฝ้าหนาที่ไม่ร้ายแรง
- UltraClear ช่วยแก้ปัญหารอยแผลเป็น
- UltraClear ช่วยแก้ปัญหารอยสิว รอยดำต่าง ๆ
- UltraClear ช่วยแก้ปัญหาโทนสีและเนื้อผิว
- UltraClear ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างทั่วถึง
ข้อดีในการทำ UltraClear
- UltraClear ช่วยลดอายุใบหน้าได้ โดยเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก
- UltraClear ลดริ้วรอย จุดด่างดำได้
- UltraClear ช่วยในการยกกระชับ รูปหน้า และผิวหน้า
- UltraClear รักษารอยแผลเป็น
- UltraClear ช่วยปรับสีผิว ที่มีความหมองคล้ำ
- UltraClear ช่วยปรับให้ผิวที่มีความหยาบกร้านดีขึ้นได้
- UltraClear ช่วยในการกำจัดเซลล์ที่ตายไปแล้ว
- UltraClear ช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ตามธรรมชาติ
- UltraClear ช่วยในการฟื้นฟูผิวให้มีความเรียบเนียน เปล่งปลั่ง
- UltraClear ปรับให้ผิวภาพรวมดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
- UltraClear สามารถรักษาร่วมกับเครื่องอื่น ๆ ได้ โดยไม่อันตราย
- UltraClear สามารถทำได้ในทุกสีผิว
- UltraClear ใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งไม่นาน
- UltraClear ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
- UltraClear เครื่องเดียวใช้แก้ปัญหาได้อย่างหลากหลาย
ใครเหมาะกับการทำ UltraClear
- UltraClearเหมาะกับ ผู้ที่ต้องการยกกระชับ ใบหน้า และลำคอ
- UltraClear เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว
- UltraClear เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย ร่องลึก
- UltraClear เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย จุดด่างดำ
- UltraClear เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการรักษารอยแผลเป็น
- UltraClear เหมาะกับ ผู้ที่ผู้ที่ต้องการรักษารอยแผลเป็นจากสิว
- UltraClear เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการมีคุณภาพผิวที่ดี
ใครไม่เหมาะกับการทำ UltraClear
- UltraClear ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์
- UltraClear ไม่เหมาะกับสตรีที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
หากมีโรคประจำตัวต่าง ๆ หรือใส่อุปกรณ์พิเศษที่เป็นโลหะในร่างกาย ให้แจ้งแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อประเมินการรักษาและความเหมาะสมในการเข้ารับบริการ และเพื่อความปลอดภัยที่สุดในการรักษา
UltraClearใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งกี่นาที
UltraClear ใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งไม่เกิน 15 นาที ตามแต่ปัญหาของผู้เข้าใช้บริการแต่ละคน
ในการรักษา UltraClear แต่ละครั้ง ต้องใช้การรักษากี่โหมด
แพทย์สามารถทำ UltraClear ในหลาย mode ใน 1 การเข้ารักษาแต่ละครั้งได้ ตามแต่ปัญหาที่ผู้เข้าใช้บริการเป็น และต้องการเข้ารับการรักษา และสามารถทำร่วมกันกับเครื่องหรือโปรแกรมอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ เพิ่มเติมได้
UltraClear ต่างจากเครื่องยกกระชับชนิดอื่นๆอย่างไร
เครื่องยกกระชับชนิดอื่น ๆ ทำงานโดยการยกกระชับผิวโดยคลื่น ไม่ว่าจะเป็น คลื่น RF หรือคลื่น Ultrasound แต่เทคนิค Coring ของ UltraClear จะเปรียบเสมือนการเอาหนังส่วนเกินที่มีออกไปด้วย 1 หรือ 2 ส่วน ทำให้ผิวกระชับได้มากขึ้นนั่นเอง โดยในปัจจุบันจะยังไม่มีโปรแกรม หรือเครื่องชนิดไหนทำการตัดหนังส่วนเกินในรูปแบบนี้ออกได้
UltraClear ทำได้ในทุกสีผิวหรือไม่
สามารถทำได้ทุกสีผิว ตั้งแต่ระดับ skin type 1-6 โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว และไม่ก่อให้เกิดผลเสียอื่น ๆ ตามมา
UltraClear ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานหรือไม่หลังจากการทำ
UltraClear เป็นโปรแกรมที่ไม่อันตราย ไม่ร้อน ไม่แสบ ไม่มีผลเสียหลังการทำ จึงทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพักฟื้นนาน ในแต่ละครั้งจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3-4 วันเท่านั้น
UltraClear รักษาสิวได้ไหม
UltraClear รักษาสิวโดยตรงไม่ได้ แต่จะเป็นการแก้ปัญหาต้นตอของการเกิดสิว อย่างเช่น รูขุมขน รวมทั้งยังแก้ปัญหารอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวได้
ข้อจำกัดของเครื่องที่ใช้พลังงานต่างๆ ในการรักษาและการยกกระชับ
IPL
- ไม่สามารถปรับพลังงาน ให้เหมาะสมในการกำจัดการสร้างหลอดเลือด ขนาดเล็กบนใบหน้า
- มีความเสี่ยง PIH สูงสำหรับผู้ที่มีผิวสี
- มีการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินที่น้อยกว่าการทำเลเซอร์ชนิดอื่น ๆ
- ไม่มีการทำลายผิวหนัง
- ไม่มีการผลัดเซลล์ผิว ไม่สามารถเคลียร์ริ้วรอย ไม่สามารถรักษารอยแผลเป็น และริ้วรอยต่าง ๆ ได้
- ต้องใช้เวลาในการรักษา 6-8 ครั้งจึงจะเห็นผล
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
RF System
- ให้ความร้อนแก่เนื้อเยื่อ เพื่อให้การหดตัวของผิวหนังโดยชั่วคราว เป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน
- ไม่มีการทำลายผิวหนัง ไม่เกิดการผลัดเพื่อกำจัดผิวหนังชั้นนอก ที่เกิดความเสียหาย หรือผิวหนังที่ตาย
- มีผลต่อการสร้างเม็ดสีผิวน้อย
- ความสามารถในการฟื้นฟูผิวมีจำกัด
- เห็นผลลัพธ์ในการรักษา 6-8 สัปดาห์
- มีความแม่นยำน้อย มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ต้องใช้ร่วมกับหัว Tip ที่ปลอดเชื้อ
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
Micro-Needling
- เป็นเทคนิคที่ใช้การดูแลผิวหนังด้วยเข็ม หรือเครื่องที่มีเข็มเป็นจำนวนมาก เพื่อทำให้ผิวกระชับขึ้น โดยจะไม่มีการทำลายผิวหนังชั้นนอก
- ไม่มีผลในการลอกผิวเพื่อให้ผิวเกิดความเรียบเนียน
- เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้เข้ารับบริการ มีความเจ็บปวดมาก
- ต้องเข้ารับบริการหลายครั้ง เพื่อทำการดูผลลัพธ์หลังทำ
- โดยปกติจะทำควบคู่กันกับ การทำเลเซอร์เพื่อปรับสภาพผิว เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังการทำ
- คงสภาพผลลัพธ์หลังการทำได้ 3-5 เดือน
- มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแผลเป็น หลังเข้ารับบริการหากดูแลไม่ดี
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
Chemical Peel
- เป็นสารละลายเคมี ที่อาจทำให้ผิวเกิดการหลุด ลอดได้
- สามารถรักษารอยไหม้จากแสงแดด และรอยแผลเป็นได้
- ผู้เข้ารับบริการอาจมีความเสี่ยง ในการเกิดอาการ PIH สำหรับผู้ที่มีผิวที่มีสีเข้ม
- หากทำการรักษาในผิวที่มีความลึก อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
- เป็นเทคโนโลยีที่ไม่มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ในผิวหนังระดับลึก
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
CO2 Lasers
- เป็นเทคโนโลยีที่มีความจำกัด เฉพาะผิวหนังประเภท 1-3 เท่านั้น
- อาจมีความเสี่ยงต่อ PIH และ PIE สูงสำหรับในผู้ป่วยที่มีผิวสี
- อาจทำลายผิวหนังชั้นนอก เนื่องจากการบาดเจ็บจากความร้อนที่มากจนเกินไป
- เวลาในการพักฟื้นตัวที่นานกว่า
- มีความเจ็บปวดในระหว่างทำ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุน้อย อาจมีอาการบวมน้ำเป็นเวลานาน
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
ER:YAG Lasers
- ระยะเวลาการฟื้นตัวของผิวหนังนาน
- อาจมีความเจ็บในระหว่างที่ทำ หากได้รับการดูแลที่ไม่ดีมากพอ
- อาจมีความเสี่ยงต่อ PIH
- ผลลัพธ์ที่ไม่มั่นคง หากทำให้บริเวณที่มีผิวบอบบาง
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
Pico Second lasers
- ไม่มีการทำลายผิวหนัง
- ไม่ได้ช่วยในการกำจัดริ้วรอย และรอยแผลเป็นต่าง ๆ
- สามารถกำจัดเม็ดสีผิวหนังได้
- สามารถกำจัดเม็ดสีผิวหนัง (90% ของเม็ดสี)
- ใช้พลังงาน 532 นาโนเมตร
- ทำการรักษา 5-7 ครั้ง
- ไม่เหมาะสำหรับคนเข้ารับบริการที่มีอายุมาก
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
Fraxel
- ไม่ทำลายผิวชั้นหนังกำพร้า
- รักษาริ้วรอย รอยแผลเป็น และรอยตำหนิจากหนังกำพร้าได้น้อย
- อาจความเสี่ยงของ PIH สูงต่อผิวสี
- อาจมีความเจ็บเนื่องจากความร้อนในขณะทำ อาจใช้ยาชาร่วมด้วย
- อาจมีข้อจำกัดในการทำบริเวณรอบดวงตา
- เข้ารับบริการ 6-8 ครั้ง
- ใช้เวลาในการรักษาแต่ละครั้งนานกว่า 1 ชั่วโมง
*ผลลัพธ์ในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งการดูแลหลังการทำ
โดยข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลเปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจในการทำการรักษา โดยการใช้เครื่อง UltraClear เพียงเท่านั้น ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์และแจ้งปัญหาต่าง ๆ ที่พบ และต้องการทำการแก้ไขโดยละเอียด เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรักษา เนื่องจากผู้เข้ารับบริการทุกท่าน จะมีความต้องการ และสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป การประเมินโดยละเอียด จะทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาเป็นไปตามต้องการอย่างดีที่สุด และควรเข้ารับบริการโดยคลินิกเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการรักษา และประเมินปัญหาตามจริงเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยในการรักษา