ความลับของผิวสวย ยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS ด้วยอัลเทอร่า

ความลับผิวสวยด้วย อัลเทอร่า

ความลับของผิวสวย ยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS ด้วยอัลเทอร่า

ในยุคที่การดูแลผิวหน้าไม่ได้เป็นเพียงแค่ความงามภายนอก แต่ยังสะท้อนถึงความมั่นใจและการดูแลตัวเองอย่างแท้จริง การยกกระชับผิวเพื่อคงความอ่อนเยาว์กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่หลายคนมองหา หนึ่งในเทคโนโลยีที่โดดเด่นและได้รับความวางใจจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก คือ อัลเทอร่า (Ulthera) เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง ในการยกกระชับผิวลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

 

ไม่เพียงแค่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและคืนความกระชับให้ผิวหน้า อัลเทอร่ายังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือพักฟื้นเป็นเวลานาน สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลผิวที่ทั้งปลอดภัยและเห็นผลจริง อัลเทอร่าอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา ค้นพบความลับของผิวสวยและการยกกระชับที่เหนือชั้นไปพร้อมกันที่บทความนี้

 

ULTHERA คืออะไร
ULTHERA คืออะไร

อัลเทอร่า (Ulthera) คืออะไร?

อัลเทอร่า (Ulthera) คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าและลำตัวโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง ที่ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกและเป็นโครงสร้างสำคัญของผิว

 

จุดเด่นของอัลเทอร่าคือการใช้คลื่นเสียงพลังงานสูงที่มีความแม่นยำ สามารถปล่อยพลังงานลงไปยังจุดที่ต้องการได้อย่างเฉพาะเจาะจงโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน กระบวนการนี้จะช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวให้เกิดการฟื้นฟู ทำให้ผิวดูกระชับ อ่อนเยาว์ และลดเลือนริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ

 

หลักการทำงานของ ULTHERA
หลักการทำงานของ ULTHERA

 

หลักการทำงานของอัลเทอร่า (Ulthera)

อัลเทอร่า (Ultehra) ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิวลึกได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นบน กระบวนการทำงานของอัลเทอร่า (Ulthera) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

  • การปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอย่างแม่นยำ

อัลเทอร่า (Ulthera) มีเทคโนโลยีหน้าจอการแสดงผลชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ในระหว่างการทำ เพื่อกำหนดตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการส่งพลังงาน ซึ่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์จะถูกส่งลงไปยังชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว

เมื่อพลังงานคลื่นเสียงถูกส่งไปยังชั้น SMAS จะเกิดความร้อนในจุดเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ ความร้อนนี้จะทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณนั้นหดตัว และกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ กระบวนการนี้ช่วยฟื้นฟูความกระชับและความยืดหยุ่นของผิว

  • การฟื้นฟูและยกกระชับอย่างต่อเนื่อง

หลังจากทำอัลเทอร่า (Ulthera) ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ และผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง

 

ข้อดีของการทำอัลเทอร่า (Ulthera)

อัลเทอร่า (Ulthera) มีข้อดีที่ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยม ดังนี้

  • อัลเทอร่า (Ulthera) ยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีบาดแผล ไม่มีรอยช้ำ
  • อัลเทอร่า (Ulthera) มอบผลลัพธ์ที่ผิวดูเต่งตึงและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ปลอดภัยและได้รับการรับรองมาตรฐานจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
  • อัลเทอร่า (Ulthera) มีระบบแสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำ
  • อัลเทอร่า (Ulthera) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวชั้นลึก
  • อัลเทอร่า (Ulthera) สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทั้งผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง และผิวบอบบาง
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยยกกระชับผิวได้หลายบริเวณ เช่น ใบหน้า ลำคอ และร่างกาย
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ผลลัพธ์ยกกระชับผิวอยู่ได้ต่อเนื่องยาวนาน ประมาณ 1-2 ปี
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการศัลยกรรม
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ตอบโจทย์ได้หลากหลายช่วงอายุ ตั้งแต่ 30-50 ปีขึ้นไป
  • อัลเทอร่า (Ulthera) สามารถลดริ้วรอยในบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น รอบดวงตา ริมฝีปาก
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคต

 

ULTHERA ช่วยอะไรบ้าง
ULTHERA ช่วยอะไรบ้าง

อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยอะไรบ้าง?

อัลเทอร่า (Ulthera) มีประโยชน์และคุณสมบัติเด่นในหลายด้าน ดังนี้

  • อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยแก้ปัญหาผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ และกรอบหน้า
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ยกกระชับบริเวณกรอบหน้า ลดความหย่อนคล้อยของแก้มและคาง
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา รอบริมฝีปาก และ มุมปาก
  • อัลเทอร่า (Ulthera) แก้ปัญหาผิวหน้าและลำคอที่หย่อนคล้อย
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ฟื้นฟูผิวบริเวณเนินอกให้เรียบเนียนและกระชับ
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน พร้อมป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและมีชีวิตชีวา
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ลดความหมองคล้ำ และฟื้นฟูผิวให้ดูสดใส
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ยกกระชับผิวบริเวณแก้มและลดความลึกของร่องแก้ม
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ยกกระชับบริเวณหนังตาที่เริ่มตกหรือหย่อนคล้อย
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวหน้าดูเฟิร์มขึ้น
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใต้คาง
  • อัลเทอร่า (Ulthera) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากการลดน้ำหนัก

 

ใครควรทำ ULTHERA
ใครควรทำ ULTHERA

 

ใครควรทำอัลเทอร่า (Ulthera) บ้าง?

การทำอัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะและความต้องการ ดังนี้

  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก และหางตา
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของลำคอและเนินอก
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเสียจากแสงแดดหรือการเสื่อมสภาพของผิว
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มตกและไขมันสะสมใต้ผิว
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากการแสดงออกทางสีหน้า
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวทั้งใบหน้า ลำคอ และจุดอื่น ๆ 
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน ๆ สามารถใช้ชีวิตประจำวันปกติได้ทันทีหลังทำ
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน 1-2 ปี
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าคมชัด ลดปัญหาคางสองชั้น
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาคางสองชั้น
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวเฉพาะจุด เช่น หนังตาตก ใต้ตาหย่อนคล้อย
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสมดุลใบหน้าให้สมมาตร
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวเฉพาะบริเวณลำตัว
  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวโดยไม่ต้องใช้สารเติมเต็มหรือสารเคมีใด ๆ

 

ใครไม่ควรทำอัลเทอร่า (Ulthera) บ้าง?

บางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้

  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคผิวหนังในบริเวณที่ทำการรักษา เช่น โรคสะเก็ดเงิน ผื่นแพ้เรื้อรัง
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผลเปิดหรือแผลสดบริเวณที่ต้องการรักษา
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหรือเนื้อเยื่อ
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้แสงหรือความร้อน
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือมีอุปกรณ์โลหะฝังในร่างกาย
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของผิว เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่ต้องการทำ
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Autoimmune Disease)
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งทำการรักษาด้วยความร้อนหรือเลเซอร์ในบริเวณเดียวกัน
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้หรือผิวบอบบางจากการรักษาด้วยคลื่นเสียง
  • อัลเทอร่า (Ulthera) ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอักเสบในบริเวณที่จะรักษา เช่น การอักเสบของต่อมน้ำเหลือง สิวอักเสบเรื้อรัง

 

เตรียมตัวก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) ทำอย่างไรบ้าง?

  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมของการรักษา
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรแจ้งประวัติการรักษา โรคประจำตัว หรือแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) งดการทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือการฉีดสารเติมเต็ม อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA หรือ Retinol ในช่วง 3-7 วัน
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) งดการทานยาแอสไพริน ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (เช่น ไอบูโพรเฟน)
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) งดอาหารเสริมที่ทำให้เลือดไหลเวียนง่าย เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี หรือโสม
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดหรือตากแดดเป็นเวลานาน ในช่วง 1 สัปดาห์
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ในช่วง 2-3 วัน
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • ก่อนทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรล้างหน้าให้สะอาดและงดการแต่งหน้า เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกหรือการระคายเคือง

 

ขั้นตอนการทำ ULTHERA
ขั้นตอนการทำ ULTHERA

 

ขั้นตอนการทำอัลเทอร่า (Ulthera)

  1. ก่อนเริ่มทำแพทย์จะตรวจประเมินสภาพผิว วิเคราะห์ปัญหา และพูดคุยถึงเป้าหมายที่ต้องการ
  2. แพทย์จะกำหนดบริเวณที่จะทำการรักษา เช่น ใบหน้า ลำคอ หรือบริเวณเนินอก รวมถึงระดับพลังงานที่เหมาะสม
  3. แพทย์หรือผู้ช่วยแพทย์ จะทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอาง
  4. อาจมีการทายาชาบริเวณที่จะทำ เพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายในระหว่างทำอัลเทอร่า (Ulthera)
  5. แพทย์จะวาดกรอบหรือจุดบนใบหน้า เพื่อกำหนดพื้นที่ที่ต้องการยกกระชับ
  6. เครื่องอัลเทอร่า (Ulthera) จะถูกตั้งค่าพลังงานและความลึกของคลื่นเสียงให้เหมาะสมกับสภาพผิว
  7. ในระหว่างทำแพทย์จะใช้ระบบการมองเห็นภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ เพื่อระบุตำแหน่งที่เหมาะสมในการปล่อยพลังงาน
  8. แพทย์จะคอยตรวจสอบผลระหว่างทำ เพื่อให้มั่นใจว่าพลังงานถูกส่งไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม
  9. หลังจากทำเสร็จ จะมีการทำความสะอาดผิวอีกครั้ง แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลผิวหลังทำ เช่น การใช้ครีมบำรุง ครีมกันแดด และหลีกเลี่ยงแสงแดด

 

ดูแลตัวเองหลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) ทำอย่างไรบ้าง?

  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด หรือกิจกรรมการแจ้งเป็นเวลานาน
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, หรือ Retinol ในช่วง 1 สัปดาห์
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า การว่ายน้ำ หรือการออกกำลังกายหนักที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 1-3 วัน
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) งดการนวดหน้า การกดใบหน้า หรือสัมผัสผิวแรง ๆ 
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ในช่วง 1 สัปดาห์
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเพื่อปกป้องผิว
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรทามอยส์เจอไรเซอร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและโปรตีน

 

การเปรียบเทียบอัลเทอร่า (Ulthera) กับเครื่องยกกระชับอื่น ๆ

ในปัจจุบันมีเทคโนโลยียกกระชับผิวหลายประเภทที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนี้

 

อัลเทอร่า (Ulthera)

  • อัลเทอร่า (Ulthera) เป็นเทคโนโลยี Focused Ultrasound ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้า ซึ่งอัลเทอร่ามีระบบการแสดงผลชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้การปล่อยพลังงานมีความแม่นยำมากขึ้น ผลลัพธ์ของอัลเทอร่า (Ulthera) ช่วยยกกระชับผิวในชั้นลึก และเห็นผลชัดเจนภายใน 2-3 เดือนหลังทำ โดยผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยลึกและต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานโดยไม่ต้องผ่าตัด

 

HIFU

  • HIFU ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบโฟกัสที่สามารถส่งพลังงานไปยังชั้น SMAS ซึ่ง HIFU ไม่มีระบบการแสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์เหมือนอัลเทอร่า (Ulthera) ทำให้การส่งพลังงานอาจไม่แม่นยำเท่า เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวระดับตื้นถึงปานกลาง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

 

Thermage

  • Thermage ใช้เทคโนโลยี Radiofrequency (RF) ที่ส่งพลังงานคลื่นวิทยุเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยในชั้นผิวตื้น เช่น รอบดวงตา และช่วยกระชับรูขุมขน ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นชัดเจนในช่วง 2-3 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี 

 

Ultraformer MPT

  • Ultraformer MPT คือเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถส่งพลังงานได้อย่างลึกและแม่นยำมากยิ่งขึ้น พลังงานคลื่นเสียงถูกออกแบบให้เจาะจงชั้นผิวได้หลากหลาย เช่น ชั้น SMAS และ ชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเหมาะสำหรับการยกกระชับและฟื้นฟูผิวในระดับลึก ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

 

Oligio

  • เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ Monopolar RF (Radiofrequency) ซึ่งทำงานคล้ายกับ Thermage โดยการส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว จุดเด่นของ Oligio คือความสามารถในการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า รวมถึงปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น  ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

 

EMFACE

  • EMFACE เป็นเทคโนโลยีที่รวมพลังงาน RF และ HIFES (High-Intensity Focused Electromagnetic Stimulation) เพื่อยกกระชับใบหน้าและกระตุ้นกล้ามเนื้อพร้อมกัน ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนในชั้นผิว  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าและลดริ้วรอย ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี

 

Morpheus8

  • Morpheus8 ใช้เทคโนโลยี Fractional RF+Microneedling ซึ่งผสานพลังงาน RF กับเข็มขนาดเล็กที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลทั้งพื้นผิวและโครงสร้างลึกใต้ผิว สามารถลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และฟื้นฟูผิวได้พร้อมกัน โดยผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี

 

การฉีดโบยกกระชับ

  • การฉีดโบยกกระชับ เป็นการฉีดสารเพื่อช่วยยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยการฉีดจะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบางส่วนที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย พร้อมกระตุ้นให้กล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ถูกกดทำงานดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวดูกระชับและใบหน้าดูสมส่วน ผลลัพธ์ของโบยกกระชับจะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน

 

การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับ

  • เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เพื่อช่วยยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนยิ่งขึ้น เทคนิคการฉีดนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม หรือใต้ตา แต่ยังช่วยยกผิวบริเวณที่หย่อนคล้อยให้ดูกระชับขึ้น เช่น กรอบหน้า แก้ม หรือขมับ ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลรักษาหลังการฉีด

 

อัลเทอร่า (Ulthera) เจ็บไหม?

  • การทำอัลเทอร่า (Ulthera) มักทำให้รู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยในชั้นผิวลึก เนื่องจากพลังงานคลื่นเสียงถูกส่งลงไปกระตุ้นชั้น SMAS อย่างไรก็ตาม ความเจ็บจะขึ้นอยู่กับความไวของผิวแต่ละคน โดยแพทย์สามารถทายาชา หรือปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มความสบายระหว่างทำ

 

อัลเทอร่า (Ulthera) มีผลข้างเคียงไหม?

  • หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยแดง บวม หรือรู้สึกตึงผิวบริเวณที่ทำ แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 1-2 วัน หากมีอาการผิดปกติ เช่น อาการปวดมากหรือรอยแดงไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ทันที

 

อัลเทอร่า (Ulthera) ราคาเท่าไหร่?

  • ราคาของอัลเทอร่า (Ulthera) ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและจำนวนช็อตที่ใช้ โดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 50,000 – 100,000 บาท หรือมากกว่านั้นในบางคลินิก ทั้งนี้ ควรเลือกสถานที่ที่มีมาตรฐานและใช้เครื่องอัลเทอร่าของแท้

 

สามารถทำอัลเทอร่า (Ulthera) ร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?

  • สามารถทำอัลเทอร่า (Ulthera) ร่วมกับหัตถการอื่น เช่น การฉีดโบ ฟิลเลอร์ หรือเลเซอร์ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อจัดลำดับเวลาที่เหมาะสม เช่น การทำเลเซอร์ควรเว้นช่วงก่อนหรือหลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อผิว

 

อัลเทอร่า (Ulthera) ผู้ชายทำได้ไหม?

  • อัลเทอร่า (Ulthera) เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยผู้ชายสามารถทำเพื่อยกกระชับผิว ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น หรือลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มและใต้คาง

 

หลังทำอัลเทอร่า (Ulthera) ผิวหน้าจะบางลงไหม?

  • การทำอัลเทอร่า (Ulthera) ไม่ทำให้ผิวหน้าบางลง เนื่องจากพลังงานคลื่นเสียงจะส่งลงไปที่ชั้นผิวลึก (SMAS) โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน การกระตุ้นคอลลาเจนยังช่วยให้ผิวแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ขึ้นอีกด้วย

 

สรุปอัลเทอร่า (Ulthera) คือเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งพลังงานลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่สำคัญต่อการยกกระชับ ทำให้อัลเทอร่า (Ulthera) สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ดูเรียบเนียน กระชับ และเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของอัลเทอร่า (Ulthera) คือความแม่นยำด้วยระบบการแสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์ และความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองจากองค์กรชั้นนำทั่วโลก นอกจากนี้ยังไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ อีกทั้งผลลัพธ์ยังอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับ อัลเทอร่า (Ulthera) คือคำตอบที่ลงตัว ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ คุณสามารถเผยความมั่นใจในแบบที่เป็นตัวเองได้อีกครั้ง หากต้องการปรึกษาหรือเริ่มต้นการดูแลผิวด้วยอัลเทอร่า (Ulthera) การเลือกสถานที่ที่มีมาตรฐานและทีมแพทย์ที่ไว้วางใจได้คือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม