ปัญหาของคนเรา พอเริ่มมีอายุมาขึ้น ปัญหาหลากหลายเริ่มตามมา คนส่วนใหญ่มักจะเกิดความหย่อนยานของผิวหนัง แทบทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะผิวบริเวณใบหน้า หน้าผาก หางตา หนังตา ร่องแก้ม คางเหนียง เกิดขึ้นได้ ซึ่งแต่ละคนก็หาวิธีที่จะดูแล บำรุง อยากให้ผิวบริเวณใบหน้ากลับมาเรียบดึง กระชับผิวหน้าเหมือนเดิม บางคนฉีดสารเคมี ทำเลเซอร์ หรือผ่าตัด กันซะเลย เพื่อแก้ปัญหาให้กับผิวหน้า
แต่ด้วยวิวัฒนาการสมัยใหม่ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีการพัฒนา ได้มีเครื่องมือในการยกกระชับผิวหน้า ให้ ผิวบริเวณต่างๆ ให้ยกกระชับ ในขั้นตอนเดียว โดยเฉพาะผิวหน้า ล็อคกรอบหน้า ให้ตึงกระชับได้รูป ด้วย HIFU และ Thermage ที่อยากแนะนำ สองตัวนี้ช่วยยกกระชับผิวหน้าได้เหมือนกัน แต่ประสิทธิภาพต่างกัน จึงขอเปรียบเทียบข้อมูลให้เพื่อเป็นทางเลือกให้ได้ชิมลางกัน
HIFU คืออะไร
HIFU คือ การใช้เลเซอร์ รักษายกกระชับผิวหน้า ชื่อก็น่าใช้แล้วเนอะ ทำแล้วหน้าจะต้องฟู ๆ แน่ๆ HIFU ย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound เป็นการนำคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถปล่อยคลื่นเสียงออกโดยโฟกัสเฉพาะจุด ตรงลึกถึงโครงสร้างเนื้อเยื่อชั้นใน คลื่นมีความเข้มข้นสูงถูกปล่อยออกมา 1000 ครั้ง / วินาที ผลที่ได้คือทำให้เกิดกระบวนการเสริมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ของร่างกายและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่มีความหย่อนคล้อย ทำแล้วไม่เจ็บปวดเวลาทำซึ่งเป็นการดึงหน้าที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี
Thermageคืออะไร
Thermage เป็นการใช้ความถี่ของคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว ซึ่งนำมาใช้กระตุ้นได้ลึกลงตั้งแต่ชั้นหนังแท้จนถึงชั้นกล้ามเนื้อ โดยคลื่นนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และทำให้ส่วนที่หย่อนคล้อยไม่กระชับหดตัว ผิวที่ถูกทำด้วย Thermage จะกลับมามีเกลียวขึงเนื้อเยื่อทำให้มีความยืดหยุ่นและกระชับได้ดีอีกครั้ง Thermage ช่วยยกกระชับได้ทั้งผิวหน้า ผิวกาย และลดริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งผิวในบริเวณที่ทำ Thermage จะดูมีน้ำมีนวลเต่งตึงขึ้น ส่งผลให้ยกกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้า ผิวกายผิวมีริ้วรอยร่องแก้มลึก ผู้ที่มีหนังตาตก ต้องการยกคิ้ว ยกหางตาขึ้นกระชับหนังตาบน อีกทั้งผิวหมองคล้ำไม่สดใส มีริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก และริมฝีปาก ยังเหมะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และมือ แม้แต่ผู้ที่ผิวไม่เรียบเนียนเป็นเซลล์ลูไลท์ก็สามารถทำได้ทำแล้วอยู่ได้นาน1 – 2 ปีทำให้ดูอ่อนเยาว์ลง แต่ตอนเวลาทำค่อนข้างเจ็บ ต้องแปะยาชาก่อนทำ
ผลลัพธ์หลังทำ HIFU และ Thermage
- ช่วยดึง ยกกระชับผิวหน้าและผิวกายที่หย่อนคล้อยให้ตึงกระชับขึ้น
- ช่วยแก้ไขปัญหาหนังตาตก
- ช่วยดึงกระชับขอบตาล่างที่หย่อนยาน
- ช่วยดึงกระชับ ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
ข้อดีของHIFU
- เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อยๆ
- ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ HIFU ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้
- เวลาทำจะรู้สึกอุ่นๆ บนผิวขณะทำ ผิวจะไม่แสบร้อนและไม่ต้องใช้ยาชา
- ไม่รู้สึกเจ็บหลังจากการทำไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้น
ข้อดีของ Thermage
- ไม่มีผลข้างเคียงในระยะยาว
- ทำง่าย สะดวก รวดเร็ว และไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลหลังทำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ทำได้กับทุกสีผิวหรือผู้ที่มีผิวเข้มก็ทำได้
- รักษาเพียงครั้งเดียว ก็เห็นผล ซึ่งต่างจากเลเซอร์ทั่วไปที่ต้องทำซ้ำถึง 3 – 4 ครั้ง
การดูแลหลังการรักษา
- อาจมีรอยแดงเกิดขึ้นเล็กน้อยหลังทำ และจะจางหายไปเองภายใน 1-3 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสตรีมซาวด์น่า นวดหน้าด้วยความร้อน หลังทำ 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงแสงแดดที่มากระทบผิวโดยตรงและทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกแดด
- สามารถใช้ครีมบำรุงต่างๆ หรือแต่งหน้าได้ตามปกติทันที
จะเห็นได้ว่า วิวัฒนาการทางการแพทย์สามารถช่วยแก้ปัญหา ให้กับเราได้ แต่การจะเลือกใช้อะไรเป็นตัวช่วยนั้นต้องศึกษาในรายละเอียดให้ดี ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ที่เป็นที่น่าพึงพอใจ อย่างวิธีที่แนะนำ ระหว่าง HIFU และ Thermage นั้น สามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าได้เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ผลลัพธ์ และ ราคา ที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าควรจะใช้ตัวไหนดี และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง การให้ความสำคัญแก่สถานที่ ที่ให้บริการ เครื่องมือ และอุปกรณ์ในการรักษาก็ควรเลือกสถานบริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อความคุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่ต้องจ่ายออกไปกันนะค่ะ