Thermage FLX vs Ulthera SPT ตัวช่วยยกกระชับต่างกันอย่างไร?

ยกกระชับ

Thermage FLX vs Ulthera SPT ตัวช่วยยกกระชับต่างกันอย่างไร

ในปี 2024 นี้นวัตกรรมการยกกระชับมีมากมายหลากหลายเครื่องอย่างมาก แต่นวัตกรรมการยกกระชับยอดฮิตติดอันดับตลอดกาลคงหนีไม่พ้น Thermage FLX vs Ulthera SPT 2 นวัตกรรมยกหน้าตึงดึงผิวกระชับระดับท็อปของวงการความงามมาอย่างต่อเนื่องหลายปี และยังนวัตกรรมการยกกระชับที่เหล่า ดารา คนดัง และเซเลปเลือกไว้ใจให้ดูแลเรื่องยกกระชับผิวหน้าอีกด้วย

วันนี้รมย์รวินท์คลินิกจะมาแนะนำ Thermage FLX vs Ulthera SPT ว่าแตกต่างกันอย่างไร ? เลือกยกกระชับตัวไหนดี? ผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างไร? ทุกคำตอบของ Thermage FLX vs Ulthera SPT อยู่ที่บทความนี้เท่านั้น มาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ

Thermage FLX vs Ulthera SPT ศึกแห่งความงาม! ยกกระชับผิวตัวไหนดีแตกต่างกันอย่างไร

thermage vs ulthera
ทำความรู้จักชั้นผิวการทำโปรแกรมยกกระชับ

รู้จักชั้นผิวของเราก่อนทำ Thermage FLX vs Ulthera SPT

ก่อนที่จะเลือกยกกระชับ Thermage FLX vs Ulthera SPT เราต้องมีความเข้าใจกับชั้นผิวหนังก่อน เพราะการทำ Thermage FLX และ Ulthera SPT พลังงานลงสู่ชั้นผิวหนังที่แตกต่างกัน โดยปกติชั้นผิวหนังของเรานั้นจะประกอบไปด้วย 4 ชั้นหลักด้วยกัน คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis), ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Subcutis)

  • ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นผิวหนังชั้นนอกที่ทำหน้าที่คอยปกป้องผิวจากมลพิษ แบคทีเรีย เชื้อรา และป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว
  • ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นผิวหนังชั้นที่มีความหนาแน่นและมีความยืดหยุ่น ประกอบไปด้วยคอลลาเจน (Collagen) และ อีลาสติน (Elastin) ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวดูสวยสุขภาพดี แลดูอ่อนเยาว์ ยืดหยุ่นและดูผิวเต่งตึงมากขึ้น
  • ชั้นไขมัน (Subcutis) เป็นชั้นที่อยู่ด้านในสุดของชั้นผิว ที่ประกอบไปด้วยเซลล์ไขมัน โปรตีนคอลลาเจน และหลอดเลือดต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการกระแทกอวัยวะภายในและคอยกักเก็บพลังงานอีกด้วย
  • ชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) เป็นชั้นของเนื้อเยื่อที่แนบติดชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นไขมันบนใบหน้า มีหน้าที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อของใบหน้า และทำหน้าที่พยุงโครงสร้างผิวให้กระชับ

หากชั้นผิวทั้ง 4 ชั้นมีประสิทธิภาพที่เสื่อมลงจากการโดนทำร้ายจากมลภาวะและแสงแดด หรือผิวเสื่อมประสิทธิภาพลงอันเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น จะทำให้ปริมาณของเส้นใยคอลลาเจนลดน้อยลง และเส้นใยคอลลาเจนสูญเสียความยืดหยุ่น เป็นสาเหตุของการเกิดผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ใบหน้าขาดความกระชับ

ซึ่งคุณสมบัติของพลังงานความร้อนเครื่อง Ulthera SPT และ Thermage FLX สามารถยิงพลังงานลงลึกครอบคลุมผิวทั้ง 3 ชั้น โดยหลังจากยิงพลังงานลงสู่ผิวจะรู้สึกถึงความแน่นกระชับ ยืดหยุ่น รูขุมขนเล็กลง และผิวเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมทั้งยังช่วยสลายไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณใบหน้าได้อีกด้วย

thermage vs ulthera
Thermage FLX vs Ulthera SPT ต่างกันอย่างไร ?

Thermage FLX vs Ulthera SPTทำงานแตกต่างกันอย่างไร

Thermage FLX กับ Ulthera SPT เป็นนวัตกรรมในด้านของการยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ แต่ทั้ง 2 นวัตกรรมมีความแตกต่างกันในด้านของหลักการทำงานและค่าพลังงานที่ยิงลงสู่ชั้นผิว

thermage vs ulthera
หลักการทำงานของ Thermage FLX

การทำงานของ Thermage FLX

hermage FLX หลักการทำงานใช้คลื่นพลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF ซึ่งเป็นคลื่นที่มีความถี่สูง สามารถลงลึกไปถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ชั้นผิวที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน (Collagen) อีลาสติน (Elastin) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยพลังงานความร้อนจะอยู่ที่ 40-50°C ปรับค่าพลังงานได้ถึง 0-4 ระดับ คือ

  • พลังงาน Thermage ระดับ 0-1 ระหว่างที่ทำจะรู้สึกสั่นบริเวณผิวแต่จะยังไม่รู้สึกอุ่น เป็นผลลัพธ์จากการรักษาน้อย
  • พลังงาน Thermage  ระดับ 2-2.5 ระหว่างทำจะรู้สึกร้อนขึ้นแต่จะรู้สึกในระดับที่ทนได้ สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ตามที่ต้องการ
  • พลังงาน Thermage ระดับ 3-4 พลังงานระดับนี้สำหรับในบางกรณีเป็นระดับความร้อนที่ร้อนเกินไป เป็นระดับพลังงานที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากกว่าระดับอื่น ๆ แต่เสี่ยงเกิดการบาดเจ็บได้ และไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบางเกินไป

ในปัจจุบันการทำ Thermage FLX จะมีหัวยิง 4 แบบ ด้วยกัน ดังนี้

  • Thermage FLX Total Tip 3.0 ตารางเซนติเมตร เป็นหัวยิงเฉพาะรุ่นของ CPT เป็นหัวขนาด 3 ตารางเซนติเมตร สามารถยิงได้ 1,200 shot เหมาะทำบริเวณใบหน้าไปจนถึงลำคอ
  • Thermage FLX Total Tip 4 ตารางเซนติเมตร  เป็นหัวยิงเฉพาะรุ่นของ FLX เป็นหัวขนาด 4 ตารางเซนติเมตร สามารถยิงได้ 900 shot เหมาะทำบริเวณใบหน้าไปจนถึงลำคอ
  • Thermage FLX Body Tip 16 ตารางเซนติเมตร เป็นหัวยิงขนาด 16 ตารางเซนติเมตร เหมาะกับการทำในบริเวณลำตัว แขนและขา

จุดเด่นของ Thermage FLX

  • ยิงพลังงานลงที่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ช่วยให้ผิวแน่นเฟิร์ม อิ่มฟู กระชับ หน้าเรียวเล็ก ปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น 
  • หัวยิง 4 รูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีใน Generation ใหม่ ‘FASTER ALGORITHM EXPERIENCE’ ทำให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
  • Thermage FLX สามารถยิงพลังงานลงลึกสู่ชั้นผิวครอบคลุมเป็นวงกว้าง
  • Thermage FLX มีหัว Tip สำหรับการยกกระชับบริเวณรอบดวงตา และหัว Tip สำหรับการยกกระชับบริเวณลำตัวได้
  • สามารถแก้ปัญหาบนใบหน้าได้อย่างครอบคลุม เช่น ริ้วรอย คิ้วตก ตาตก ร่องแก้มลึก ไขมันสะสม
  • ใช้ระเวลาในการทำครั้งละ 45-90 นาที
  • เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ทำครั้งแรก 20% และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ 2-3 เดือน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่ต้องผ่าตัด สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
thermage vs ulthera
หลักการทำงาน Ulthera SPT

การทำงานของ Ulthera SPT

Ulthera SPT หลักการทำงานคือการใช้คลื่นพลังงานอัลตราซาวนด์ชนิด MFU-V (Micro Focused UItrasound with Visualization) เป็นพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง สามารถยิงพลังงานลงสู่ผัวชั้น SMAS ในระดับความร้อนที่ 60-70°C มีหน้าจอในการดูระดับความลึกของพลังงานที่ยิงลงไปแบบ Real time โดยลักษณะพลังงานเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรง  ซึ่งหัวยิงของ Ulthera SPT มีความลึกถึง 3 ระดับ  คือ

  • หัวยิงความลึก 1.5 mm เหมาะสำหรับปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ บนผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
  • หัวยิงความลึก 3 mm เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับ
  • หัวยิงความลึก 4.5 mm สำหรับยิงชั้น SMAS ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ยกแก้ม เหนียง และลำคอ

จุดเด่นของ Ulthera SPT

  • Ulthera SPT มีเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผลแบบ Real time เพื่อการมองเห็นพลังงานที่โฟกัสอย่างแม่นยำ ตรงจุด ทุกชั้นผิว
  • ลงลึกครอบคลุมทุกชั้นผิว แก้ปัญหาอย่างตรงจุด ยกกระชับได้เทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ของผิว ช่วยให้ผิวแน่นเฟิร์มกระชับ
  • เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่หลังทำครั้งแรก 30% และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน 1-2 เดือนหลังทำ
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
  • ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันปกติได้เลย

Thermage FLX vs Ulthera SPT วิธีใช้แตกต่างกันไหม

Thermage FLX กับ Ulthera แตกต่างกันอย่าง สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

Thermage FLX

  • Thermage FLX เป็นการพัฒนานวัตกรรมขึ้นมาในปี 2018 สามารถฌโฟกัสการลดริ้วรอยอย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์ ใช้ระยะเวลาในการทำน้อยกว่าเดิม 25% ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน 1-2 ปี

Ulthera SPT

  • เป็นนวัตกรรมที่มีเพียงรุ่นเดียว ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ และช่วยยกกระชับที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนได้นานถึง 1-2 ปี

Thermage FLX vs Ulthera SPT เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน

Thermage FLX เหมาะคนที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินสะสมเยอะบริเวณใบหน้า ทำให้ผิวขาดความกระชับ แก้มเยอะ ยิวย้วย อันเนื่องมาจากมีไขมันสะสม นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ จากการที่ผิวขาดคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin)

ส่วน Ulthera SPT เหมาะกับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ผิวหย่อนคล้อยตามวัย และมีริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า หางตาและหางคิ้วตก ผิวขาดคอลลาเจน  (Collagen) และอีลาสติน (Elastin)

Thermage FLX vs Ulthera SPTจุดที่นิยมในการยกกระชับแก้ปัญหาผิว

จุดที่นิยมยกกระชับด้วย Thermage FLX 

  • ทั่วใบหน้าบริเวณที่มีไขมันสะสม
  • บริเวณรอบดวงตาและใกล้ตา
  • เหนียง ใต้คาง
  • ร่องแก้มและกรอบหน้า
  • ลำคอ
  • ต้นแขนและต้นขา

จุดที่นิยมยกกระชับด้วย Ulthera SPT

  • ทั่วบริเวณใบหน้า
  • บริเวณรอบดวงตาและใต้ตา
  • หางคิ้ว หางตา
  • บริเวณหน้าผาก
  • ร่องแก้มและกรอบหน้า
  • ลำคอ

Thermage FLX vs Ulthera SPT ผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างไร?

จุดเด่นเรื่องผลลัพธ์ของการทำ Thermage FLX คือจะช่วยให้ผิวแน่นเฟิร์มกระชับ ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้าได้ดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น

ส่วนจุดเด่นผลลัพธ์ของ Ulthera SPT คือช่วยยกผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น ช่วยให้ผิวเต่งตึง กรอบหน้าคมชัด และยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) อีกด้วย

Thermage FLX vs Ulthera SPT จำนวน Shot ที่แตกต่างกัน

Thermage FLX มีจำนวน Shot ในการยิงอยู่ที่ 900 shot ยิงได้ทั่วใบหน้า ซึ่งใช้ระยะเวลาในการทำ 45-90 นาที

ส่วน Ulthera SPT นั้นจำนวน Shot ในการยิงทั่วใบหน้าไม่ได้มีจำนวนที่เหมาะสมชัดเจน เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Thermage FLX vs Ulthera SPT vs HIFU แตกต่างกันอย่างไร?

  • Thermage FLX เป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว ซึ่งพลังงานสามารถลงลึกถึงชั้นหนังแท้ ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำตัว รวมถึงช่วยลดไขมันส่วนเกินด้วย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
  • Ulthera SPT ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง โดยพลังงานสามารถลงลึกได้ถึงผิวหนังชั้น SMAS ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
  • HIFU ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง พลังงานลิงลงลึกได้ถึงผิวหนังชั้น SMAS ได้เหมือน Ulthera SPT แต่ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำตัว

ราคาการทำThermage FLX vs Ulthera SPT อยู่ที่เท่าไหร่

ราคาในการยกกระชับ Thermage FLX โดยปกติทั่วไปหากเป็น Thermage FLX 900 shot จะอยู่ที่ราคาเริ่มต้น 65,000 บาท ส่วน Ulthera SPT จะมีราคาเริ่มต้นที่ 60,000 บาท ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำด้วยค่ะ

คำถามพบบ่อยเรื่องของ Thermage FLX vs Ulthera SPT

Thermage FLX vs Ulthera SPT สามารถทำร่วมกันได้หรือไม่?

การยกกระชับด้วย Thermage FLX และ Ulthera SPT สามารถทำร่วมกันได้ แต่ไม่ควรทำพร้อมกัน เนื่องจากจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า อาจส่งผลให้ชั้นผิวของเราเกิดอาการเบิร์นไหม้ (Burn) ควรเลือกยกกระชับอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ชำนาญการประเมินปัญหาสภาพผิวของแต่ละบุคคลค่ะ

ระดับความเจ็บของ Thermage FLX vs Ulthera SPT

ก่อนทำ Ulthera SPT จะทำการแปะยาชาก่อนทำเสมอ จึงทำให้การยกกระชับด้วย Ulthera SPT ไม่เจ็บอย่างที่คิดเพราะยาชาช่วยลดความเจ็บได้อย่างมาก ระหว่างทำจะรู้สึกจี๊ด ๆ และอุ่นบริเวณที่ทำ ซึ่งเป็นระดับความร้อนที่ทนได้

ส่วนการทำ Thermage FLX ระดับของความเจ็บนั้นจะไม่แตกต่างจากการทำ Ulthera SPT เท่าไหร่ เพราะ Thermage FLX มีระบบ Cooling Effect ที่ช่วยปล่อยพลังงานความเย็นในระหว่างทำ เพื่อคอยป้องกันการไหม้เบิร์น (Burn) ของผิวหน้า และช่วยทำให้เจ็บน้อยลงอีกด้วยค่ะ

ระยะเวลาในการทำ Thermage FLX vs Ulthera SPT ในแต่ละครั้งนานไหม

ระยะเวลาในการทำ Thermage FLX ในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 45-90 นาที ส่วนในการทำ Ulthera SPT ในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีค่ะ

Thermage FLX vs Ulthera SPT  จะเห็นผลลัพธ์ภายในกี่วัน?

ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์ของ Thermage FLX จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำประมาณ 20% และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ภายใน 2-3 เดือนหลังทำ ส่วน Ulthera SPT เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำประมาณ 30% และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ภายใน 1-2 เดือนหลังทำค่ะ

สรุป Thermage FLX vs Ulthera SPT

Thermage FLX และ Ulthera SPT ช่วยยกกระชับเก็บกรอบหน้าคมชัดคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างกันที่พลังงานค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหานวัตกรรมยกกระชับ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทำโปรแกรมยกกระชับตัวไหนดี สามารถเข้ามาพูดคุยปรึกษากับทางรมย์รมรวินท์คลินิก เพื่อให้แพทย์ผู้ชำนาญการประเมินวิเคราะห์ใบหน้าและเลือกหัตถการยกกระชับที่เหมาะสมกับปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดค่ะ

รมย์รวินท์คลินิกใช้ Thermage FLX และ Ulthera SPT เครื่องแท้ได้มาตรฐานระดับสากล ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์กว่า 10 ปี ดูแลทุกเคสแบบ 1:1 วิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม ตรงจุด และปลอดภัย