ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
SkinVive เติมน้ำ เพิ่มความฉ่ำให้ผิว
ด้วยความที่เทรนด์งานผิวกำลังมาแรง และงานผิว ก็เป็นเหมือนการเตรียมตัวเพื่อเข้ารับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป เมื่อผิวดี การบำรุงต่าง ๆ ลงสู่ผิวก็จะง่ายมากขึ้น จึงทำให้คนหันมาดูแลและใส่ใจงานผิวกันมากขึ้นนั่นเอง
SkinVive คืออะไร
ใหม่ล่าสุดเทรนด์งานผิวของปีนี้ คือ SkinVive ผลิตภัณฑ์จากบริษัท Juvéderm ที่จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มในกลุ่มงานผิวโดย SkinVive เป็นการฉีด ไฮยาลูรอนิกแอซิดที่ดัดแปลง ให้เป็นไมโครดรอปเล็ตกรดไฮยาลูรอนิก (Microdroplets of Hyaluronic Acid ) ความเข้มข้นสูงในการฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อให้ไฟโบรบลาสกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่อย่างล้ำลึก เพื่อกระตุ้นให้องค์ประกอบที่จำเป็นของผิวหนังอย่างทั้ง 3 ชนิดอย่าง อควาพอริน 3, อิลาสติน,คอลลาเจน ให้สร้างตัวทำงาน และฟื้นฟูทำให้ผิวกลับมาดีแข็งแรงดังเดิม
SkinVive ออกแบบมาเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของผิว เป็นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับการฟื้นฟูผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนโดยเฉพาะ SkinVive ได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจาก ได้รับการรับรองจาก FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ใช้ในการรักษาริ้วรอย ร่องลึก รูขุมขน ความชุ่มชื้น และปรับสภาพผิวโดยรวม และคงผลลัพธ์ได้นานกว่า Skin Booster ทั่วไปถึง 3 เท่า
ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการออกแบบมา ให้มีโมเลกุลที่มีขนาดเล็ก เพื่อให้เข้าทำการฟื้นฟูผิวหนังอย่างลงลึกโดยเฉพาะ ซึ่งแพทย์จะทำการฉีด SkinVive ที่ผิวชั้นบนเพื่อทดแทนปริมาตรของผิวหนังที่เกิดการสูญเสียไป รวมทั้งยังสามารถใช้ SkinVive เพื่อปรับรูปหน้าให้มีความชัดเจนมากขึ้นได้อีกด้วย
SkinVive เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่รับการระบุอย่างชัดเจนในการรักษาว่าสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพิ่มความเรียบเนียนของผิวบริเวณแก้ม และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวจากภายในให้สวยออกมาสู่ภายนอก โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง ภายใต้คอนเซป “ผิววิบ” และการมาฉีด SkinVive ก็คือการวิบผิวนั่นเอง
“ผิวโกลว์ใส เล่นแสงคือผิวที่ใครๆก็ใฝ่ฝัน”
ส่วนผสมสำคัญของ SkinVive คือ
AQUAPORIN-3
- ที่เป็นเหมือนประตูในการเปิดเก็บน้ำ ช่วยในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว, ให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้นานมากยิ่งขึ้น
GLYCOSAMINO GLYCAN
- ทำหน้าที่ในการเติมเต็ม และคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้นานมากยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ของ SkinVive
- ช่วยลดริ้วรอยเล็ก
- กระชับรูขุมขน
- ฟื้นฟูผิวได้อย่างทั่วถึง จากภายใน
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ทำให้ผิวมีสุขภาพดี
- เพิ่มคุณภาพผิวอย่างยาวนาน
- เพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิว
- ทำให้ผิวดูเปล่งประกายฉ่ำวาว
- คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว
- ลดความหยาบกร้านของผิว
- ทำให้ผิวเต่งตึง อุ้มน้ำ
ข้อดีของ SkinVive
- SkinVive เหมาะกับทุกสภาพผิว
- SkinVive ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก FDA
- SkinVive เห็นผลลัพธ์ที่ดีตั้งแต่การทำครั้งแรก
- SkinVive ไม่ต้องทำหลายครั้ง
- SkinVive ใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้น
- SkinVive กักเก็บน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้มากถึง 3 เท่า
- SkinVive ช่วยลดความมันบนใบหน้า
SkinVive เหมาะกับใคร
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ มีปัญหาผิว
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ มีรูขุมขนกว้าง
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ มีริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิว
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ ต้องการมีผิวสวยใสอย่างรวดเร็ว เร่งด่วน
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ มีรอยดำเล็ก ๆ บนใบหน้า
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ มีผิวหน้าแห้ง
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ แต่งหน้าไม่ติด เครื่องสำอางไม่เกาะใบหน้า
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ มีผิวไม่เรียบเนียน
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ อยากมีผิวแบบไม่ต้องบำรุง
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ ผิวแพ้ง่าย รวมทั้งแพ้ส่วนผสมของครีมทาผิว
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ ผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน
- SkinVive เหมาะกับผู้ที่ ผิวมีความเหี่ยวย่น
SkinVive ไม่เหมาะกับใคร
- SkinVive ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้ง่าย
- SkinVive ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้ ยาชาลิโดเคน แพ้สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นสิ่งผสมของ SkinVive รวมทั้งแพ้สารไฮยาลูรอนิกมาก่อน
- SkinVive ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์
- SkinVive ไม่เหมาะกับสตรีที่อยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- SkinVive ไม่เหมาะกับผู้ที่มีความผิดปกติด้านการสร้างเม็ดสีผิว
- SkinVive ไม่เหมาะกับผู้ที่มีการตอบสนองของร่างกายผิดปกติ
- SkinVive ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลเป็น ในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา
- SkinVive ไม่เหมาะกับผู้ที่ทำการเลเซอร์ผิวมาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการพักผิว
การดูแลตัวเองก่อนการทำ SkinVive
- งดการรับประทานยา หรือวิตามิน ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดรับประทานอาหารที่มีผลต่อการเกิดการอักเสบของผิว เช่น ของดอง ของแสลง
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การดูแลตัวเองหลังทำ SkinVive
- งดการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดการสัมผัสกับแสงแดด หรือโดนความร้อนเช่น กลางแจ้ง ซาวน่า เป็นเวลานาน 24 ชั่วโมง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา
- งดการสัมผัส จับ ถู ใบหน้าเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
เนื่องการทำสิ่งเหล่านี้ อาจทำให้เกิดรอยแดง บวม และหรือคันชั่วคราวที่บริเวณที่ฉีดได้
ข้อควรระวังของการใช้ SkinVive
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากมีประวัติความผิดปกติในด้านการสร้างเม็ดสีผิว เนื่องจาก SkinVive ยังไม่ได้รับการศึกษา และวิจัยในผู้ป่วยที่มีประวัติความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีผิว อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีได้ จึงจำเป็นต้องแจ้งอาการให้แก่แพทย์ทราบโดยละเอียดก่อนทำการรักษา
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอยู่ในระหว่างการรับการบำบัดหรือรักษา ในเรื่องเกี่ยวกับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกาย เนื่องจากการใช้ SkinVive อาจจะส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้
- SkinVive ยังไม่ได้รับการศึกษาในการใช้บริเวณอื่น ๆ หากนำไปใช้ผิดบริเวณอาจได้รับผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามต้องการ
- หากเพิ่งผ่านการทำเลเซอร์มา ยังไม่ได้รับการพักผิวแล้วมาทำ SkinVive อาจทำให้ผิวเสี่ยงต่อการอักเสบ หรือลอกได้
- แจ้งให้แพทย์ทราบ หากมีโรคประจำตัวและมีการใช้ยาอยู่เป็นประจำ เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน หรือยาละลายลิ่มเลือดชนิดอื่น ๆ
- หากมีแผล หรือมีปัญหาบริเวณผิวหนัง เช่น สิว ผื่นลมพิษ ซีสต์ หรือการติดเชื้อบนผิวหนัง ควรเลื่อนการรักษาด้วย SkinVive ไปก่อน และรักษาปัญหาดังกล่าวให้หาย ก่อนที่จะใช้บริการ SkinVive
- อาการข้างเคียงหลังทำการรักษาด้วย SkinVive คือ รอยแดง ก้อนเนื้อ ตุ่ม อาการบวม ช้ำ ปวด เจ็บ ตึง เปลี่ยนสี และคัน โดยผลข้างเคียงสามารถจะหายได้เองภายใน 7 วัน
ทั้งนี้ในขั้นตอนการแจ้งประวัติ หรือซักประวัติ ควรแจ้งแพทย์โดยละเอียด เพื่อทำการประเมินการรักษา หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการที่สุด
Skinvive คืออะไร
- Skinvive เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทฟิลเลอร์ชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และช่วยเติมน้ำให้ผิวได้มากกว่าปกติถึง 3 เท่า
Skinvive มีความแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์อย่างไร
- Skinvive เป็นฟิลเลอร์ชนิดที่เนื้ออ่อนนุ่ม ไม่แข็ง ไม่สามารถปรับแต่งหรือปั้นขึ้นทรงได้ ออกแบบมาเพื่อฉีดในบริเวณผิวชั้นตื้น เหมาะกับการทำงานผิวให้ดีมากยิ่งขึ้น ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ด้านการเติมเต็ม
Skinvive ช่วยลดริ้วรอยได้หรือไม่
- Skinvive สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยขนาดเล็ก และตื้นได้ แต่ไม่สามารถลดเลือนริ้วรอย หรือร่องต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ๋ได้ แนะนำหากต้องการลดริ้วรอยด้วยควรทำ Skinvive ควบคู่ไปกับการฉีดสารเติมเต็ม หรือสารยับยั้งกล้ามเนื้อ
Skinvive ใช้ฉีดในบริเวณใดได้บ้าง
- สามารถใช้ Skinvive ได้กับบริเวณใบหน้าเท่านั้นตามงานวิจัย เน้นหลักที่หน้าแก้ม แก้ม หน้าผาก และใต้ตา เพื่อช่วยในการฟื้นฟูคุณภาพผิว
ต้องมีอายุเท่าไรจึงจะทำ SkinVive ได้
- ผู้ที่เหมาะสมในการทำ SkinVive จะต้องมีอายุที่มากกว่า 21 ปีขึ้นไป
การฉีด SkinVive ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานเท่าไร
- การฉีด SkinVive อาจมีอาการข้างเคียง แต่ปกติแล้วจะสามารถหายได้ใน 30 วัน โดยอาการดังกล่าวที่สามารถเป็นได้ คือ อาการบวมของใบหน้ามีรอยช้ำจากเข็ม รอยแดง ก้อนเนื้อ ตุ่ม อาการบวม ช้ำ ปวด เจ็บ ตึง เปลี่ยนสี และคัน โดยผลข้างเคียงหลังทำการรักษาส่วนใหญ่จะหายได้ภายใน 7 วัน
การฉีด SkinVive สามารถคงผลลัพธ์บนผิวได้นานเท่าไร
- ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า SkinVive สามารถคงผลลัพธ์บนผิวได้นานถึง 6-9 เดือนหลังฉีดครั้งแรก หรือในระหว่างนั้นหากความชุ่มชื้น หรือริ้วรอยต่าง ๆ เริ่มกลับมา หรือลดน้อยลงแล้ว ก็สามารถทำการฉีดเพิ่มได้ตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้ผลลัพธ์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิว รวมทั้งการดูแลของผู้เข้ารับบริการ
ฉีด Skinvive จะส่งผลให้ภาพรวมใบหน้าเปลี่ยนไปหรือไม่
- หลังจากการฉีด Skinvive จะไม่ได้ทำให้ใบหน้าภาพรวมเปลี่ยน แต่จะทำให้ผิวหน้าภาพรวมเปลี่ยน เนื่องจากความอ่อนนุ่มของ Skinvive จะทำงานเพียงแค่ผิวชั้นหนังแท้ ไม่ได้ส่งผลให้ใบหน้าภาพรวมเปลี่ยนไปทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
Skinvive มีอันตรายหรือไม่
- ไม่อันตราย เนื่องจาก Skinvive ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ทั้งยังมีการรับรองจาก FDA ซึ่งนับเป็นหน่วยงานด้านการรับรองความปลอดภัยในระดับสากล เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ว่าสามารถทำบริเวณแก้มได้ ทั้งยังมีงานวิจัยรองรับอีกด้วย
- Skinvive เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่อันตราย เนื่องจากผ่านการรับรองความปลอดภัยจากจากองค์การอาหารและยาหรือ อย.จากประเทศไทย คนไข้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านจึงสามารถมั่นใจได้ว่า Skinvive เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถฉีดลงสู่ผิวได้โดยไม่อันตราย อีกทั้ง Skinvive ยังเป็นสินค้าที่ ผ่านการจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องในประเทศไทย โดยบริษัท อัลเลอแกนบริษัทผลิตภัณฑ์ทางความงามชื่อดังของประเทศไทย ผู้ใช้บริการทุกท่านสามารถตรวจสอบเลข อย. และเลขล็อตของยาได้อย่างละเอียด
Skinvive เหมาะกับคนที่มีผิวประเภทใดบ้าง
- Skinvive เหมาะกับผู้ที่มีผิวทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น
การฉีด SkinVive ใช้เวลาในการทำการรักษานานหรือไม่
- ระยะเวลาในการทำการรักษาแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับผู้เข้ารับบริการว่าต้องการทายาชาหรือไม่ หากทายาชาจะต้องใช้เวลาในการรอยาชาให้ออกฤทธิ์ หากไม่ต้องใช้ยาชาจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการรักษา
Skinvive เห็นผลผลลัพธ์หลังทำเมื่อไร
- หลังจากทำ Skinvive ผู้เข้ารับบริการ จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนได้ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังเข้ารับบริการ
ควรทำการฉีด SkinVive ทุกกี่เดือน
- เพื่อการรักษาอย่างต่อเนื่อง ควรทำการฉีดทุก ๆ 6 เดือน ถึงแม้จะยังมีสภาพผิวที่ยังดูดีอยู่ก็ตาม
สามารถทำการฉีด Skinvive ร่วมกันกับหัตถการอื่น ๆ ได้หรือไม่
สามารถทำ Skinvive ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ แต่หากต้องการทำในครั้งเดียวกันแนะนำได้ดังนี้
- หากต้องการทำ Skinvive กับโปรแกรมประเภทยกกระชับ
ควรทำโปรแกรมยกกระชับก่อน ค่อยทำ Skinvive เนื่องจากโปรแกรมยกกระชับจะทำงานโดยการส่งคลื่นลงบนชั้นผิว ทำให้ผิวมีความเจ็บ ร้อน อุ่น หากทำ Skinvive ผิวจะมีรอยเข็มและมีความบอบบางอยู่ อาจทำให้เจ็บมากขึ้น รวมทั้งเพื่อให้ตัวยาที่ฉีดเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่แพทย์ต้องการด้วย
- หากต้องการทำ Skinvive กับโปรแกรมประเภทเลเซอร์ต่าง ๆ
เช่นเดียวกัน การทำเลเซอร์เป็นการรบกวนผิว อาจทำให้ผิวมีความเจ็บได้ การทำ Skinvive จะมีรอยเข็ม ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเจ็บจากความบอบบางของผิวควรทำโปรแกรมประเภทเลเซอร์ก่อนทำ Skinvive
- หากต้องการทำ Skinvive กับการฉีดชนิดอื่น ๆ เช่น การฉีดโบ การฉีดฟิลเลอร์ และสารสลายไขมัน สามารถทำพร้อมกันได้ เนื่องจากตัวยาแต่ละชนิดทำงานกันคนละชั้นผิว
ฉีดโบ : ทำงานที่ชั้นกล้ามเนื้อ โดยการไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ
ฟิลเลอร์ : ทำงานโดยการเติมเต็มทั้งผิวหนังชั้นต่าง ๆ ตามแต่ปัญหาที่ต้องการแก้ไข
สารสลายไขมัน : ทำงานที่ชั้นไขมัน โดยการเข้าไปลดขนาดไขมันและสลายออก
Skinvive : ทำงานที่ชั้นผิวหนังชั้นตื้น โดยการไปฟื้นฟูผิวให้ดียิ่งขึ้น
- Skinvive สามารถทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไร
Skinvive สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยตั้งใจจะให้เป็นหัตถการแรกที่วัยรุ่นควรทำ เพราะงานผิว เป็นสิ่งที่ทุกคนควรสร้าง ก่อนที่จะไปดูแลใบหน้าในส่วนอื่น ๆ
ประโยชน์ของการ ฉีด Skinvive คืออะไร
- SkinVive ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวมีความอิ่มน้ำและเรียบเนียน ทั้งยังทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดี
- SkinVive ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย ให้กลับมามาชีวิตชีวาอีกครั้ง
- SkinVive ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว ในระดับโครงสร้าง
- SkinVive ช่วยลดขนาดรูขุมขน ทำให้รูขุมขนที่เป็นต้นเหตุของการอุดตันของผิว มีขนาดเล็กลง สิวขึ้นน้อยลง
- SkinVive ช่วยทำให้ผิวแพ้ง่าย แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- SkinVive ช่วยลดเลือนริ้วรอยขนาดเล็ก เพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิว ลดริ้วรอยในระยะเริ่มต้น
- SkinVive ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เสริมความยืดหยุ่น นุ่มเด้งให้กับผิว เหมือนคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว
- SkinVive ช่วยฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพ ให้มีสขภาพที่ดีได้อีกครั้ง
- SkinVive ช่วยปรับให้กระบวนการฟื้นฟูผิว ทำงานเร็วขึ้น
- SkinVive ช่วยลดความหย่อนคล้อย ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากวัยของผิว
- SkinVive ช่วยปรับปรุงโทนสีผิว ทำให้ผิวสว่างกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม และดูดีขึ้น
- SkinVive ช่วยทำให้ผิวเนียนละเอียด น่าสัมผัสมากขึ้น
- SkinVive ช่วยลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำอันเนื่องมาจากเม็ดสีได้
- SkinVive ช่วยปรับให้กระบวนการฟื้นฟูผิวทำงานเร็วขึ้น
เปรียบเทียบ skinvive กับงานผิวยี่ห้ออื่น ๆ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
- Skinvive เป็นผลิตภัณฑ์สกินบูสเตอร์ ที่มุ่งเน้นในด้านการเติมความความชุ่มชื้น หรือเปรียบเสมือนการเติมน้ำให้กับผิวในบริเวณที่ฉีด ด้วยสาร Hyaluronic Acid ที่เรารู้จักกันดี แต่มาในรูปแบบ ของ Microdroplets ที่สามารถทำให้ผิวมีความอิ่มน้ำ ชุ่มชื่น ฉ่ำวาว และสามารถคงสภาพอยู่บนผิวได้นานถึง 9 เดือน เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวที่สุขภาพดี หน้าแก้มเรียบเนียน ละเอียด
- Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ประเภท Collagen Biostimulator หรือผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นทางด้านการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพื่อให้ผิวมีความอิ่มฟู และกระชับขึ้นจากคอลลาเจนที่เพิ่มมากขึ้น เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้กับใต้ชั้นผิว ลดริ้วรอย โดยให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูคอลลาเจนตามธรรมชาติ สามารถคงสภาพผลลัพธ์ในผิวได้นาน 2 ปี
- Rejuran เป็นผลิตภัณฑ์ประเภท PDRN หรืออสุจิปลาแซลม่อน ในการฉีดเพื่อฟื้นฟูผิว โดยการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงเป็นการฟื้นฟูจากภายใน ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยและแก้ปัญหาอื่นๆร่วมด้วยได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจาก Rejuran มีหลายรุ่นที่ทำงานแตกต่างกันออกไป เป็นทางเลือกสำหรับ ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม หรือมีความต้องการจะฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากสภาพแวดล้อม แต่ต้องระวังในผู้ที่แพ้อาหารทะเล หรือปลาแซลม่อน
- Belotero Revive เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทฟิลเลอร์ ที่จัดได้ว่าเป็นฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลก ผลิตโดยสาร HA+Glycerol ที่ช่วยในการเพิ่มคุณภาพผิว หรืองาน Skin Quality ได้ถึง 4 มิติ คือ ให้ผิวที่เด้ง อิ่มฟู ให้ผิวเรียบเนียน ให้ผิวมีความชุ่มชื้นฉ่ำวาว รวมทั้งให้ผิวมีกระชับ หนาแน่น
- Gouri เป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวบนใบหน้า ช่วยในการฟื้นฟูผิว เพิ่มความกระชับและยืดหยุ่นให้กับผิว เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ผิวมีความหย่อนคล้อยที่ต้องการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว มีผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- Radiesse เป็นผลิตภัณฑ์ประเภท Collagen Biostimulator ไม่ใช่ฟิลเลอร์ มุ่งเน้นด้านฟื้นฟูผิวไปพร้อมกันกับการกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยเติมเต็มผิวริ้วรอย และร่องลึกบนผิวได้ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว
- ฉีดโบ เป็นผลิตภัณฑ์จำพวกการฉีดโปรตีนจากแบคทีเรีย ช่วยในการ ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อมัดต่างๆบนใบหน้าไม่ให้ทำงาน ลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นรอยเล็กๆ ลดขนาดกราม และลิฟต์กรอบหน้า ให้ผลลัพธ์คงสภาพที่ผิวได้นาน 4-6 เดือน
เพื่อให้การรักษาด้วย SkinVive เป็นไปอย่างปลอดภัย และมีผลข้างเคียงอย่างน้อยที่สุด ควรปรึกษาคลินิกที่ให้บริการ ที่มีแพทย์ที่มีความรู้ ที่สามารถวิเคราะห์และประเมินผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำเป็นอย่างดี อีกทั้งผู้เข้ารับบริการควรมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ว่า ทุกผลิตภัณฑ์ไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน การเข้ามาให้แพทย์ทำการประเมินก่อน จะทำให้ได้มีความรู้ ความเข้าใจของผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้น และอาจเจอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวเรามากกว่า