หลังฉีด Sculptra ทำไมต้องนวดหน้า หากไม่นวดจะส่งผลอย่างไร?
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการฉีดเพื่อฟื้นฟูความหย่อนคล้อยของใบหน้า ทำให้ผิวหน้ากลับมากระชับ เต่งตึง และยืดหยุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หลังจากฉีด Sculptra ไปแล้ว หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่แพทย์มักแนะนำคือการ “นวดหน้า” เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีที่สุด แต่ทำไมการนวดหน้าถึงมีความสำคัญ? และหากไม่ทำตามคำแนะนำนี้จะเกิดผลข้างเคียงอะไรขึ้นบ้าง? บทความนี้ จะช่วยไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้เข้าใจ ถึงความสำคัญของการนวดหลังฉีด Sculptra พร้อมเปิดเคล็ดลับนวดหน้าแบบ Triple 5 หลังฉีด Sculpta ที่ถูกต้องค่ะ
นวดหน้าหลังฉีด Sculptra เทคนิค Triple 5 นวดอย่างไรให้ปลอดภัย?
Sculptra คืออะไร?
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนประเภท PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่ใช้สาร Hyaluronic Acid (HA) เนื่องจาก Sculptra ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทันที แต่จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองในระยะยาว ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด
Sculptra ได้มีการนำมาใช้ในวงการแพทย์ในปี 1999 และเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนแบรนด์แรก ที่ได้รับการอนุมัติจาก องค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีงานวิจัยรับรองถึงประสิทธิภาพมากกว่า 50 ฉบับ และมีการใช้งานมาอย่างยาวนานทั่วโลก จึงถือเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีความปลอดภัย และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
Sculptra มีกลไกการทำงานอย่างไร?
เมื่อฉีด Sculptra เข้าสู่ผิวหน้า สาร PLLA จะเริ่มกระจายตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ (Microparticles) และเข้าไปทำงานผ่านเซลล์แมคโครฟาจ (Macrophage) ซึ่งเป็นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยการดึงเซลล์แมคโครฟาจให้เข้ามาล้อมรอบอนุภาคของสาร PLLA และปล่อยสารเคมีที่ส่งสัญญาณไปยังเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้เข้ามารวมตัวกัน จนเกิดการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวมีความหนาแน่น ตึงกระชับ และยืดหยุ่นมากขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไป อนุภาคของสาร PLLA จะค่อย ๆ ย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) และถูกขับออกจากร่างกาย เหลือไว้เพียงเส้นใยคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ และฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงในระยะยาว
หลังฉีด Sculptra ทำไมต้องนวดหน้า นวดหน้าหลังฉีด Sculptra ดีอย่างไร?
Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่ได้ และความปลอดภัยหลังฉีด โดยเหตุผลที่ต้องนวดหน้าหลังฉีด Sculptra มีดังนี้
-
ตัวยากระจายตัวได้ดี
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มาในรูปแบบผง ต้องมีการผสมกับน้ำกลั่น (Sterile water) ก่อนนำมาฉีดเข้าสู่ผิว ซึ่งเมื่อฉีดเสร็จแล้ว ต้องมีการนวดหน้า เพื่อให้สาร PLLA กระจายตัวได้อย่างทั่วถึงในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความสม่ำเสมอ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากไม่ทำการนวดหน้า อาจส่งผลให้สาร PLLA เกาะกลุ่มรวมกันเป็นก้อน จนผิวไม่เรียบเนียนได้
-
เพิ่มประสิทธิภาพการกระตุ้นคอลลาเจน
เนื่องจาก Sculptra ทำงานโดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง ตามกระบวนการธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อมีการนวดหน้าเบา ๆ หลังฉีด สาร PLLA จะสามารถกระจายตัวอย่างเหมาะสม ทำให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
ผลลัพธ์ดูเรียบเนียน และเป็นธรรมชาติ
หากไม่มีการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra อาจทำให้บางบริเวณบนใบหน้ามีคอลลาเจนเพิ่มขึ้นมากกว่าบริเวณอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สม่ำเสมอของผิวหนังได้ ดังนั้น การนวดจะทำให้สาร PLLA กระจายตัวดีขึ้น ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน และสม่ำเสมอมากขึ้น
-
ป้องกันการเกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกาย ดังนั้น หากสาร PLLA กระจายตัวไม่ดี หรือสะสมอยู่ในบางบริเวณ อาจทำให้เกิดเป็นก้อนแข็ง (Nodules) หรือจุดนูนใต้ผิวหนังได้ ซึ่งการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra จะช่วยให้สาร PLLA กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดปัญหาก้อนแข็งใต้ผิวหนัง
หากไม่นวดหน้าหลังฉีด Sculptra จะส่งผลเสียอะไรบ้าง?
หลังฉีด Sculpta หากไม่มีการนวดหน้า หรือนวดหน้าไม่ถูกวิธี อาจทำให้มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บริเวณใบหน้า ซึ่งผลข้างเคียงส่วนใหญ่ที่มักเกิดขึ้นหากไม่นวดหน้า มีดังนี้
- เกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง
หากไม่ทำการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra สาร PLLA จะไม่สามารถกระจายตัวอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุด เมื่อไม่มีการนวดหน้าหลังฉีด โดยสาร PLLA อาจจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง (Nodules หรือ Lumps) หรือเกิดตุ่มนูนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวไม่มีความเรียบเนียน และส่งผลกระทบต่อใบหน้าโดยรวมได้
- ใบหน้าดูไม่สมส่วน
หากไม่ทำการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra สาร PLLA จะไม่สามารถกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ และทั่วถึงในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาจทำให้บางบริเวณของใบหน้าผิวดูยกกระชับมากกว่าบริเวณอื่น ๆ ส่งผลให้ใบหน้าไม่สมดุล และมีสัดส่วนที่เปลี่ยนไปจากเดิมได้
- สร้างคอลลาเจนไม่สม่ำเสมอ
หากไม่ทำการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra สาร PLLA จะกระจุกตัวกันในบางบริเวณ อาจทำให้บางบริเวณของใบหน้ามีการสร้างคอลลาเจนมากเกินไป ในขณะที่บางบริเวณอาจไม่เกิดการสร้างคอลลาเจน หรือไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเลย ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สม่ำเสมอ และไม่เรียบเนียนได้
- เสี่ยงต่อการบวม และอักเสบ
หากไม่ทำการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการบวมช้ำ หรืออักเสบในบริเวณที่ฉีด ซึ่งส่งผลต่อระยะเวลาในการพักฟื้นหลังทำ อาจทำให้อาการเหล่านี้ คงอยู่นานมากกว่าปกติ เนื่องจากการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra สามารถลดอาการบวมช้ำ และอักเสบหลังฉีดได้
Triple 5 เทคนิคนวดหน้าหลังฉีด Sculptra
การนวดหน้าหลังฉีด Sculptra ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่แพทย์จะแนะนำให้ทำหลังจากฉีด Sculptra เสร็จ โดยการใช้เทคนิคตามหลัก Triple 5 นวดหน้าวันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง 5 วัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เนื่องจากการนวดหน้าจะช่วยให้ตัวยากระจายตัวได้อย่างทั่วถึง ลดความเสี่ยงในการเกิดก้อนแข็งให้ชั้นผิว และทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถปฏิบัติตาม 4 ขั้นตอนได้ ดังนี้
- นวดหน้าขั้นตอนที่ 1 : ใช้นิ้วโป้งนวดบริเวณขมับทั้งสองข้าง จากนั้นใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากบริเวณหน้าผากไปทางขมับด้านข้าง
- นวดหน้าขั้นตอนที่ 2 : ใช้นิ้วโป้งยกขึ้น แล้วนวดแนบไปยังบริเวณหน้าแก้มทั้งสองข้าง จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปยัง บริเวณข้างแก้มพร้อมกัน โดยเลื่อนอย่างช้า ๆ
- นวดหน้าขั้นตอนที่ 3 : ใช้อุ้งมือกดบริเวณช่วงข้างแก้ม จากนั้นค่อย ๆ นวดไล่จากด้านล่าง ขึ้นไปด้านบนจนถึงโหนกแก้ม ทำซ้ำไปมาหลาย ๆ ครั้ง
- นวดหน้าขั้นตอนที่ 4 : ทำมือลักษณะเดียวกันกับขั้นตอนที่ 2 โดยนวดบริเวณคาง จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปตามแนวกราม ทำซ้ำไปมาหลาย ๆ ครั้ง
ข้อควรระวังในการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำวิธีการนวดหน้าที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาภายหลัง
- นวดหน้าอย่างเบามือ โดยใช้นิ้วมือนวดหน้าอย่างเบามือ ไม่ควรกด หรือคลึงแรงจนเกินไป
- นวดหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง นวดหน้าในทิศทางที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้สาร Sculptra กระจายตัวได้อย่างทั่วถึง
- นวดหน้าอย่างสม่ำเสมอ นวดหน้าอย่างสม่ำเสมอตามจำนวนครั้ง และระยะเวลาที่แพทย์กำหนดตามหลัก Triple 5
- ทำความสะอาดมือก่อนนวดหน้า โดยล้างมือให้สะอาดก่อนนวดหน้าทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณใบหน้า
- หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ โดยหากมีอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง ร้อน หรือมีหนอง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
Sculptra สามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
- แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
Sculptra สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย มีรอยพับ แก้มเริ่มห้อยลง ต้องการยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึง
- แก้ปัญหาผิวหลวม ผิวไม่หนาแน่น
Sculptra สามารถแก้ปัญหาผิวหลวม ไม่หนาแน่น ดูขาดวอลุ่มได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าตอบ ขมับตอบ และแก้มตอบ ดูไม่มีวอลุ่ม ต้องการเพิ่มความอิ่มฟูให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
- แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ
Sculptra สามารถแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้าได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องลึก หรือมีริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ บริเวณใบหน้า ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวตามวัย
- แก้ปัญหาผิวขาดคอลลาเจน ไม่ยืดหยุ่น
Sculptra สามารถแก้ปัญหาผิวขาดคอลลาเจน ไม่ยืดหยุ่นได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนค่อย ๆ เสื่อมสภาพลงทุก ๆ ปี ต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมายืดหยุ่น
- แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น
Sculptra สามารถแก้ปัญหาคุณภาพผิวโดยรวมได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หมองคล้ำ ไม่สดใส ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น และความกระจ่างใสให้ใบหน้า
Sculptra ช่วยเรื่องอะไร?
- Sculptra ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 เพิ่มขึ้น 66.5%
- Sculptra ช่วยยกกระชับผิวหน้า ให้มีความเต่งตึง
- Sculptra ช่วยให้ผิวเฟิร์มแน่น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- Sculptra ช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า
- Sculptra ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า
- Sculptra ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก
- Sculptra ช่วยให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดีจากภายใน
- Sculptra ช่วยให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลง
- Sculptra ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ผิวกระจ่างใส มีความชุ่มชื้น
Sculptra ฉีดบริเวณใดได้บ้าง?
Sculptra สามารถฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้า เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ผิว โดยตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการฉีด Sculptra ได้แก่
- Sculptra สามารถฉีดได้บริเวณ ขมับ
- Sculptra สามารถฉีดได้บริเวณ หน้าแก้ม (Midface)
- Sculptra สามารถฉีดได้บริเวณ กรอบหน้า
ก่อนฉีด Sculptra ควรเตรียมตัวอย่างไร?
- ก่อนฉีด Sculptra ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวิเคราะห์สภาพผิว ประเมินโครงสร้างใบหน้า และคำนวณปริมาณการฉีด Sculptra ที่เหมาะสม
- ก่อนฉีด Sculptra แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับประวัติโรคประจำตัว ยาที่กำลังรับประทาน รวมถึงหัตถการที่เคยทำก่อนฉีด ให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- ก่อนฉีด Sculptra งดอาหารเสริม ยา หรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพรินวิตามินอี น้ำมันตับปลา อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
- ก่อนฉีด Sculptra งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 – 3 วันก่อนฉีด เพื่อลดโอกาสการเกิดอาการบวมช้ำ
- ก่อนฉีด Sculptra งดการออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ส่งผลให้เลือดสูบฉีด อย่างน้อย 1 – 3 วันก่อนฉีด
- ก่อนฉีด Sculptra แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
- แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิว และโครงสร้างใบหน้า พร้อมกำหนดบริเวณที่จะทำการฉีด และเลือกปริมาณ Sculptra ที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดผิวในบริเวณที่จะทำการฉีด จากนั้นแปะยาชาทิ้งไว้ ประมาณ 30 – 45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ ช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีดได้
- แพทย์จะทำการเตรียม Sculptra โดยการผสมสาร Sculptra ในรูปแบบผง เข้ากับน้ำกลั่นปราศจากเชื้อ (Sterile water) ในปริมาณที่เหมาะสม และใช้เครื่องเขย่ารวมกัน เป็นเวลา 1 นาที เพื่อให้ได้สารที่พร้อมใช้งาน
- แพทย์จะเริ่มทำการฉีด Sculptra โดยการใช้เข็มทู่ขนาด 22 – 25 G ฉีด Sculptra ลงไปยังผิวหนังชั้นลึก (Deep Dermis)
- หลังจากนั้น แพทย์จะแนะนำให้วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra พร้อมขั้นตอนการนวดหน้าหลังฉีดตามหลัก Triple 5
หลังฉีด Sculptra ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
- หลังฉีด Sculptra ควรนวดหน้าตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยนวดวันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ติดต่อกัน 5 วัน
- หลังฉีด Sculptra หากมีอาการบวม สามารถประคบเย็นเบา ๆ เพื่อลดอาการบวมได้
- หลังฉีด Sculptra งดแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด ประมาณ 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลังฉีด Sculptra งดโดนความร้อน และแสงแดด ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
- หลังฉีด Sculptra งดการออกกำลังกายแบบหักโหม ประมาณ 2 – 3 วันแรก
- หลังฉีด Sculptra งดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ประมาณ 2 – 3 วันแรก
- หลังฉีด Sculptra หากพบอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก บวมมาก หรือผิวเปลี่ยนสี ให้แจ้งแพทย์ทันที
ข้อห้ามในการฉีด Sculptra มีอะไรบ้าง?
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ซึ่งเป็นส่วนประกอบใน Sculptra
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิว ผิวอักเสบ ผื่นแพ้ หรือมีอาการติดเชื้ออื่น ๆ ในบริเวณที่จะทำการฉีด Sculptra
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเกิดแผลคีลอยด์ง่าย
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
- Sculptra ไม่เหมาะสำหรับการฉีดในบริเวณที่ผิวบอบบาง เช่น ริมฝีปาก หรือรอบดวงตา
ฉีด Sculptra ต้องฉีดกี่ครั้ง?
การฉีด Sculptra โดยทั่วไป จะแนะนำให้ฉีด Sculptra ประมาณ 2 – 3 ครั้ง ซึ่งควรเว้นระยะห่างในการฉีดแต่ละครั้ง ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้มีเวลาในการสร้างคอลลาเจนอย่างเต็มที่ และให้ได้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพที่สุด
ฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล?
Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ จะไม่เห็นผลลัพธ์ทันทีเหมือนฟิลเลอร์ แต่ผิวจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไป จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดไปแล้ว ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ แต่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด ภายใน 3 เดือน โดยจะรู้สึกได้ว่า ผิวมีความแน่นกระชับ อิ่มฟู และเต่งตึงมากขึ้น
ฉีด Sculptra อยู่ได้นานแค่ไหน?
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในทันที แต่จะทำงานโดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ โดย Sculptra สามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน ประมาณ 2 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด ซึ่งเมื่อครบระยะเวลากำหนด สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ เพื่อคงสภาพของผลลัพธ์ให้มีความยั่งยืนมากขึ้น
Sculptra กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร?
- Sculptra มีส่วนประกอบหลักของ PLLA ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยตรง ตามกระบวนการธรรมชาติ ซึ่งจะไม่ให้ผลลัพธ์ในการเติมเต็ม หรือปรับรูปหน้าในทันทีเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่จะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์เมื่อคอลลาเจนค่อย ๆ สร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้ผิวมีแน่นกระชับ อิ่มฟู และลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ โดยสามารถคงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้ยาวนาน ประมาณ 2 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีด
- ฟิลเลอร์ มีส่วนประกอบหลักของ HA ซึ่งมีคุณสมบัติในการเติมเต็ม ปรับรูปหน้า หรือเพิ่มปริมาตรให้ผิวได้อย่างชัดเจนหลังฉีด แต่จะไม่ให้ผลลัพธ์ในการกระตุ้นคอลลาเจนเหมือนกับการฉีด Sculptra โดยฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มได้หลายบริเวณบนใบหน้า ทั้งขมับ หน้าผาก ใต้ตา หรือริมฝีปาก ซึ่งการฉีดครั้งเดียว สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ในทันทีหลังฉีด แต่ผลลัพธ์จะคงอยู่ ประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
วิธีตรวจสอบ Sculptra แท้
- ตรวจสอบสติกเกอร์บนกล่อง
ตรวจสอบสติกเกอร์บนกล่อง โดยบนกล่อง Sculptra ของแท้ จะต้องมีสติกเกอร์วงกลมโมโนแกรมสีเงิน หรือทองติดอยู่ที่ฝากล่อง โดยไม่มีรอยถูกเปิดออก หรือแกะมาก่อน
- ตรวจสอบสัญลักษณ์ลายน้ำ
ตรวจสอบสัญลักษณ์ลายน้ำตัวอักษร S บนหน้ากล่อง ซึ่งสามารถสัมผัสได้ด้วยมือ หากเป็นของแท้จะต้องมีลักษณะนูนอย่างชัดเจน
- ตรวจสอบเลขทะเบียน อย.
ตรวจสอบเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย โดยจะต้องมีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยระบุไว้ที่ข้างกล่อง อย่างชัดเจน
- ตรวจสอบ QR Code
ตรวจสอบ QR Code ที่กล่อง โดยที่กล่อง Sculptra จะต้องมี QR Code ให้สแกน เพื่อตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านแอป eZTracker โดยข้อมูลที่ได้จะต้องตรงกับเอกสารที่อยู่ข้างกล่อง
- ตรวจสอบขวดผลิตภัณฑ์
ตรวจสอบขวดผลิตภัณฑ์ Sculptra โดยขวด Sculptra จะต้องปิดซีลมาสนิท ไม่มีรอยแกะ หรือเปิดใช้งานมาก่อน รวมถึง ภายในขวด Sculptra จะต้องมีลักษณะเป็นผงสีขาว (PLLA powder) ไม่มีของเหลวผสม
เลือกฉีด Sculptra ที่ไหนดี?
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล จากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ซึ่งภายในคลินิกต้องมีความสะอาด มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ปลอดเชื้อ และปฏิบัติตามมาตรฐานการแพทย์
- เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ ได้รับใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภาอย่างถูกต้อง ซึ่งแพทย์ควรมีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ด้านการฉีด Sculptra โดยเฉพาะ รวมถึง รู้เทคนิคในการฉีด สามารถออกแบบการรักษา ให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด
- เลือกใช้ Sculptra แท้ ที่สามารถตรวจสอบได้ โดย Sculptra ของแท้ จะต้องผลิตโดยบริษัท Galderma เท่านั้น ซึ่งจะต้องมีเลขทะเบียน อย. ระบุไว้อย่างชัดเจน สามารถขอให้ทางคลินิกแกะกล่อง และผสมตัวยาต่อหน้าได้
- เลือกคลินิกที่มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง แนะนำให้ดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจจากช่องทางที่เชื่อถือได้ ทั้งแบบรูปภาพ วิดีโอ และคอมเมนต์
- เลือกคลินิกที่ติดตามผลหลังฉีด ซึ่งคลินิกที่ดีจะต้องมีการติดตามผลลัพธ์หลังทำการรักษา เพื่อให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม และปรับแผนการรักษาในครั้งถัดไปได้อย่างตรงจุด
การฉีด Sculptra เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระตุ้นคอลลาเจน และฟื้นฟูความหย่อนคล้อยของใบหน้า ซึ่งการดูแลตัวเองหลังฉีดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยให้สาร PLLA กระจายตัวได้อย่างทั่วถึง และสม่ำเสมอในบริเวณที่ฉีด จึงลดความเสี่ยงในการเกิดก้อนแข็งหลังฉีด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ผิวมีความเรียบเนียน และเป็นธรรมชาติ ซึ่งหากไม่มีการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา และอาจต้องรับการรักษาเพิ่มเติม
ดังนั้น สำหรับใครกำลังสนใจฉีด Sculptra และต้องการให้ผลลัพธ์ของ Sculptra ออกมาดีที่สุด อย่าลืมทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ