ความเสี่ยงของการนอนกรน
สุขภาพดี เริ่มต้นที่การนอน เมื่อเราหรือคนรอบข้างนอนไม่เต็มที่ จะมีผลอย่างไร
- สร้างความรำคาญ
- เสียบุคลิกภาพ
- อุบัติเหตุจากความง่วง
- หลับใน
- โรคซึมเศร้า
- สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
ยิ่งกว่านั้น! การนอนกรนจากทางเดินหายใจติดขัด มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย
นอนกรนเกิดจากอะไร?
นอนกรนเกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้นมีการหย่อนตัวลง จนทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบ และเมื่อมีลมหายใจผ่าน ก็จะทำให้เนื้อเยื่อดังกล่าวเกิดการสั่นสะเทือน และกระพือ จนทำให้เกิดเป็นเสียงกรนขึ้น
Snore Laser ช่วยคุณได้อย่างไร?
Snore Laser ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น เพื่อเข้าหดกระชับกล้ามเนื้อบริเวณนั้น โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวภายในช่องปาก ลดการปิดกั้นทางเดินหายใจ ช่วยให้อาการกรนลดลง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ การนอนหลับกลับสู่ภาวะปกติ หลับได้ลึก รู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอนในวันรุ่งขึ้น
Snore Laser เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหานอนกรน ที่เกิดจากทางเดินหายใจส่วนต้นหย่อน เช่น บริเวณลิ้นไก่ หรือเพดานอ่อน
- ผู้ที่ใช้ CPAP ไม่ได้ (CPAP : Continuous Positive Airway Pressure คือ เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกสำหรับใช้ในการรักษาผู้ที่มีสภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกลั้น)
- ผู้ที่ใช้ที่ครอบฟันหรือที่ยึดลิ้นไม่ได้
- ผู้ที่เกรงใจเพื่อนร่วมเตียง
ความรู้สึกขณะทำ
จะรู้สึกเพียงอุ่นๆในปากและคอ อาจมีอาการคอแห้งได้บ้าง สามารถจิบน้ำระหว่างทำการรักษาได้
ใช้เวลาในการทำ 45 นาทีต่อครั้ง
การดูแลหลังทำ
หลีกเลี่ยงการดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีอุณหภูมิร้อน หรือเย็นจัด และเลี่ยงอาหารรสเผ็ด หลังทำ 24 ชม.
สามารถดื่มน้ำอุ่นเพื่อลดอาการคอแห้งหลังทำได้
ระยะห่างในการรักษา
ทำต่อเนื่อง 3 ครั้ง
ระยะห่างในการทำ สัปดาห์ที่ 0, 2 และ 6
กรณีทำมากกว่า 3 ครั้ง หลังจากครั้งที่ 3 ให้นัดทำทุก 4 – 6 เดือนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์