Oligio VS Thermage FLX โปรแกรมไหนที่เหมาะสำหรับเรา

Oligio vs Thermage

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ





    ความแตกต่างระหว่าง Oligio และ Thermage FLX

    Oligio และ Thermage FLX ต่างก็เป็นหัตถการเสริมความงามที่มีการพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากทั้งสองหัตถการมีความสามารถด้านการยกกระชับผิวอย่างเหนือชั้น ทำให้ทั้ง Oligio และ Thermage FLX เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวหน้าไม่เต่งตึง กรอบหน้าไม่ชัดเจน แล้ว Oligio และ Thermage FLX มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

    สำหรับคนที่อยากจะยกกระชับผิวสร้างกรอบหน้าที่ชัดเจน คงกำลังพิจารณาความแตกต่างระหว่าง Oligio และ Thermage FLX อยู่ เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองจะเป็นโปรแกรมที่มีความสามารถเรื่องการยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ สำหรับผู้ใช้บริการแล้วทุกคนล้วนอยากเลือกโปรแกรมที่ตอบโจทย์ด้านปัญหาผิวและเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด รมย์รวินท์คลินิกจึงอยากนำเสนอเกี่ยวกับ Oligio และ Thermage FLX เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับพิจารณาความแตกต่างของทั้งสองโปรแกรม

    Oligio vs Thermage

    รู้จักกับโปรแกรม “Oligio” และกระบวนการทำงานของโปรแกรม

    Oligio เป็นหัตถการเครื่องยกกระชับใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลีใต้ โดยอาศัยนวัตกรรมคลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz เข้ามาช่วยยกกระชับและปรับกรอบหน้า โดยส่วนที่พัฒนาเพิ่มเติม คือ การลดความเจ็บปวดระหว่างทำหัตถการ ทำให้เวลาทำจะมีความผ่อนคลายสบายกว่าเครื่องอื่น อีกทั้งยังช่วยลดไขมันบริเวณแก้มและเหนียง ทำให้ Oligio ตอบโจทย์ทั้งสำหรับคนที่อยากมีหน้าเรียวสวย และคนที่กลัวรู้สึกเจ็บระหว่างทำหัตถการ

    การทำงานของ Oligio

    การทำงานของ Oligio เป็นการนำเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ที่สามารถ ปล่อยคลื่นความลึก 3 mm. ลงไปสู่ชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันเพื่อยกกระชับผิวหน้า โดยสามารถปรับได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดเดี่ยว โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อยิงลงสู่ชั้นผิวผ่านหัวเข็ม Tips F4.0 สามารถปรับเข้าสู่โหมดอัตโนมัติ เพื่อควบคุมการปล่อยคลื่นพลังงานลงสู่ผิวหนังที่มีความสม่ำเสมอ จึงได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

    โดยพลังงานที่ส่งลงไปสู่ชั้นผิวหนัง จะช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังอย่างเป็นระบบระเบียบ ผลลัพธ์ของหัตถการจึงออกมาเป็นผิวหน้าที่มีความเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และไขมันบริเวณแก้มและเหนียงก็จะลดลงไปจากเดิมที่หน้าดูหย่อนคล้อย มีเหนียงชัด ก็จะมีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น เหนียงลดลงนั่นเอง

    จุดเด่นของ Oligio

    • เครื่องของ Oligio มาพร้อมกับระบบเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิผิว (Skin Temperature Tracking Sensor) เพื่อเป็นการตรวจสอบอุณหภูมิผิวตลอดการทำหัตถการ ร่วมกับระบบ Cryogen Gas ที่เป็นการปล่อยความเย็นมาประโลมผิวก็จะช่วยให้ผลข้างเคียงจากการ Burn และ อาการระคายเคืองลดลง ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกผ่อนคลายบริเวณที่ทำยิ่งขึ้น
    • จากระบบ Skin Temperature Tracking Sensor และ Cyrogen Gas ทำให้ Oligio มีความปลอดภัยที่สูงมาก เพราะมีมาตรการรองรับการ Burn ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทำหัตถการ รวมถึงมีการแจ้งเตือนกับทางแพทย์เมื่ออุณหภูมิผิวสูงเกินกำหนด
    • เวลาที่ใช้ในการยกกระชับด้วย Oligio จะอยู่ที่ประมาณ 20 – 30 นาที นับว่าเป็นระยะเวลาที่ไม่นานจนเกินไป เมื่อเทียบกับหัตถการยกกระชับอื่น ๆ ที่ใช้เวลาตั้งแต่ 45 – 60 นาทีเลย
    • หลังทำ Oligio สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
    • ไม่ต้องทายาชา สามารถลงมือทำได้เลย

    Oligio สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง ?

    Oligio เป็นนวัตกรรมยกกระชับ ที่สามารถทำได้เกือบทั่วทั้งใบหน้า โดยบริเวณที่นิยมทำ Oligio อยู่เช่นกัน โดยสามารถเช็กรายละเอียดบริเวณที่นิยมทำหัตถการ Oligio ที่ด้านล่างนี้เลย

    • บริเวณกรอบหน้า – ยกกระชับเพื่อสร้างกรอบหน้า
    • บริเวณผิวหน้าและรอบดวงตา – ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาเต่งตึง แข็งแรง
    • บริเวณแก้ม เหนียง ใต้คาง – ช่วยสลายไขมันทำให้ผิวบริเวณนั้นกลับมายืดหยุ่นและกระชับ
    • บริเวณลำคอ – ลดรอยเหี่ยวรอยย่นบริเวณคอ
    • หน้าท้องและต้นแขน – สลายไขมันและลดรอยเหี่ยวย่นของผิว บริเวณหน้าท้องและต้นแขน สังเคราะห์คอลลาเจนทำให้ผิวบริเวณนั้นกลับมาเรียบเนียน ช่วยยกกระชับผิว

    Oligio vs Thermage

    “Thermage FLX FLX” นวัตกรรมยกกระชับและกระบวนการทำงานของโปรแกรม

    Thermage FLX FLX นวัตกรรมยกกระชับผิว ด้วยคลื่นวิทยุ Monopolar RF ที่ลงลึกไปถึงผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) จากนั้นคลื่นความร้อนที่ปล่อยลงไปจะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อผิวมีจำนวนคอลลาเจนมากขึ้น ก็จะส่งผลให้สุขภาพของผิวเปลี่ยนไปในทางที่ดียิ่งขึ้น จากเดิมที่ผิวหน้ามีริ้วรอย หย่อนคล้อยก็จะเริ่มกลับมาเป็นผิวที่เรียบเนียนกระชับ นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมยกกระชับที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้บริการ

    การทำงานของ Thermage FLX FLX

    หลักการทำงานของ Thermage FLX FLX คือ กระบวนการที่ส่งคลื่นความถี่วิทยุ Monopolar RF ที่ก่อให้เกิดความร้อนลงไปที่ชั้นหนังแท้ (Dermis) ที่อยู่ภายใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดคอลลาเจน ซึ่งส่งผลให้ริ้วรอยจางลง ผิวมีความแข็งแรงยืดหยุ่นและลดการสะสมของไขมัน

    แต่ Thermage FLX FLX มาพร้อมระบบที่คล้ายคลึงกับ Oligio คือ ระบบทำความเย็น (Cooling System) ที่ปล่อยออกมาระหว่างกระบวนการทำ Thermage FLX เพื่อทำให้ผิวชั้นบนได้รับความเย็นในระหว่างการลงมือทำ Oligio จึงทำให้ความร้อนจากเครื่องกลายเป็นความรู้สึกอุ่น ๆ สบาย ๆ เวลาทำ Thermage FLX และส่วนสำคัญของระบบ Cooling System คือ ลดการเบิร์นของผิวระหว่างการทำหัตถการ

    นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี AccuREP ที่ช่วยปรับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวตลอดเวลาที่ทำ Thermage FLX ทำให้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ลงสู่ผิวอย่างสม่ำเสมอ และลดความเสี่ยงจากการเบิร์น เนื่องจากทางแพทย์สามารถตรวจสอบอุณหภูมิระหว่างการทำงานของเครื่อง เพื่อปรับพลังงานให้เหมาะสมกับผิว

    จุดเด่นของ Thermage

    • Thermage FLX สามารถทำได้ทุกสภาพผิวและทุกสีผิว โดยพลังงานความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุ Monopolar RF สามารถยกกระชับได้ทุกชั้นผิว
    • หลังทำ Thermage FLX ไม่มีร่องรอยของแผลหรือการผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังทำเลยสามารถกลับ ไปทำกิจวัตรต่าง ๆ ได้ตามปกติ
    • เห็นผลหลังจากทำ Thermage FLX ทันทีอย่างน้อย 20% และจะเห็นผลชัดเจนหลังจากผ่านไป 2-3 เดือน
    • ระยะเวลาการทำ Thermage FLX อยู่ที่ 45-60 นาที ซึ่งถ้าเทียบกับ Oligio แล้ว Thermage FLX อาจจะใช้เวลาทำนานกว่า แต่ Thermage FLX ก็ถือว่าใช้เวลาไม่นาน
    • ผลลัพธ์ของการทำ Thermage FLX 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่เนื่องจากผลลัพธ์ที่อยู่นานถึง 1-2 ปี ทำให้ไม่ต้องทำ Thermage FLX บ่อย ๆ

    Thermage FLX สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง ?

    ก่อนเลือกทำ Thermage FLX หลายคนน่าจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ Thermage FLX ว่าสามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง ? แล้วคนอื่น ๆ นิยมมาทำ Thermage FLX ที่บริเวณไหน เรื่องนี้ทางรมย์รวินท์คลินิกมีคำตอบให้กับทุกท่าน โดยปกติแล้ว Thermage FLX สามารถทำได้ทุกบริเวณของร่างกาย แต่ก็จะมีบริเวณที่ได้รับความนิยมดังต่อไปนี้

    • รอบดวงตา : ช่วยยกกระชับบริเวณรอบดวงตา แก้ปัญหาหนังตาตกและริ้วรอยรอบดวงตา
    • ผิวหน้า : ช่วยยกกระชับผิวจากเดิม ที่มีริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ผิวหน้าจะกระชับเข้าทรงกับรูปหน้า และช่วยสลายไขมันบริเวณแก้ม ใบหน้าจึงมีความเรียวสวยยิ่งขึ้น
    • คอ : บริเวณลำคอที่มีการสะสมของไขมันจำนวนมาก จนเกิดเป็นเหนียงใต้ลำคอ การทำ Thermage FLX จะช่วยสลายไขมันและยกกระชับผิวบริเวณนี้ให้กลับมาเรียบเนียน มีกรอบหน้าชัดเจน
    • ร่างกาย : Thermage FLX สามารถทำได้หลากหลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแขน, หน้าท้อง, สะโพก, ต้นขา หรือบริเวณที่มีความหย่อนคล้อย Thermage FLX ก็สามารถยกกระชับให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ไม่มีร่องรอยของความหย่อนคล้อยและไขมันออกมาให้เห็น

    Oligio vs Thermage

    ระหว่าง Oligio และ Thermage FLX มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

    เวลามาใช้บริการที่รมย์รวินท์คลินิก เกี่ยวกับโปรแกรมยกกระชับ ทางคลินิกก็จะมีโปรแกรมตัวเลือกหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Oligio หรือ Thermage FLX ในฐานะของผู้ใช้บริการสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนเดินเข้ามาที่รมย์รวินท์คลินิก คือ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองโปรแกรม ซึ่งข้อมูลตรงส่วนนี้จะช่วยให้เราเข้าใจความแตกต่างระหว่างทั้งสองโปรแกรมและสามารถเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับตัวเองได้

    หากไม่แน่ใจว่าควรเลือกทำโปรแกรมไหน อีกหนึ่งทางออก คือ การสอบถามแพทย์ที่รมย์รวินท์คลินิกได้เลย ทางรมย์รวินท์คลินิกสามารถให้คำปรึกษาเรื่องหัตถการได้ แต่การที่เราทราบข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการทั้งสอง ก่อนเข้ามาที่คลินิกก็จะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกทำโปรแกรมยกกระชับเช่นกัน เพราะฉะนั้นมาดูข้อแตกต่างกัน แล้วค่อยเลือกว่าจะทำ Oligio ดีหรือไม่

    Oligio มีระบบทำความเย็น (Cooling System) ที่ตอบโจทย์สำหรับคนกลัวเจ็บมากกว่า

    ถึงแม้ว่าหัตถการทั้งสองจะมีผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน แต่ระบบทำความเย็น (Cooling System) ของ Oligio ทำออกมาตอบโจทย์คนที่กลัวความเจ็บได้เป็นอย่างดี Cyrogen Gas ที่ปล่อยออกมาจะช่วยทำให้บริเวณผิวที่ทำ Oligio รู้สึกเย็น ไม่เจ็บผิวและไม่เกิดการไหม้บริเวณผิว ส่วนของ Thermage FLX จะเป็นระบบปล่อยความเย็นที่ช่วยลดอาการแสบร้อนได้บ้าง แต่ผลลัพธ์ด้านการบรรเทาความเจ็บปวดและการเบิร์นไม่เท่า Oligio

    ระยะเวลาของการทำหัตถการด้วย Oligio รวดเร็วกว่า

    ถึงแม้ว่าเครื่อง Thermage FLX จะใช้เวลาทำเพียง 45-60 นาที Oligio กลับใช้เวลาในการทำน้อยกว่า เพียง 20-30 นาที ซึ่งนับว่าใช้เวลาน้อยกว่าพอสมควร ทำให้ Oligio มีจุดเด่นเรื่องระยะเวลาที่ใช้น้อยลงกว่าการทำ Thermage FLX เมื่อเทียบกับจำนวนช็อตเท่ากัน ดังนั้น Oligio จึงตอบโจทย์เรื่องความเร่งรีบมากกว่า หากไม่ค่อยมีเวลามาทำหัตถการนาน ๆ

    Oligio มาพร้อมหัวทิปที่ดีกว่าและมีโหมดที่สามารถปรับได้ถึง 3 โหมด

    หัวทิปของ Oligio มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับอุณหภูมิ เมื่อตรวจพบบริเวณที่อุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนด ระบบจะหยุดการทำงานเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าบริการ รวมถึงมีโหมดที่สามารถปรับได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดเดี่ยว, โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ ซึ่งช่วยควบคุมพลังงานความร้อนที่ปล่อยลงผิวได้อย่างพอดี Oligio จึงช่วยลดการเบิร์นของผิวได้อย่างเห็นผล และมีการกระจายพลังงานที่ดีกว่า Thermage

    ไม่ว่าจะเป็น Oligio หรือ Thermage FLX ที่รมย์รวินท์คลินิกก็พร้อมให้บริการ

    สำหรับคนที่อยากมีผิวที่กระชับเรียบเนียน มีกรอบหน้าเป็นทรงสวยชัดเจน สามารถมาบอกลาริ้วรอยความหย่อนคล้อยได้ที่รมย์รวินท์คลินิก ซึ่งทางคลินิกมีโปรแกรมที่ช่วยจัดการกับปัญหาผิวและยกกระชับหลากหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น Oligio เครื่องยกกระชับผิวส่งตรงจากเกาหลีใต้, Thermage FLX โดยสำหรับคนที่สนใจสามารถอ่านรีวิว Oligio หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขา

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ