คงไม่มีสาวๆ คนไหนอยากเห็นฝ้า กระ รอยดำ ขึ้นอยู่เต็มบนใบหน้าของเราใช่ไหมคะ แต่เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาแล้วก็จำเป็นต้องหาวิธีการแก้ไขรักษาฝ้า กระ รอยดำเหล่านั้นจางลงไป หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับวิธีการรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ จากคนรอบข้างหลากหลายวิธี แล้วมาทดลองทำตามโดยไม่ได้ศึกษาหาข้อมูล โดยที่บางความเชื่อนั้น ยังไม่ถูกต้อง มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ยิ่งเป็นการซ้ำเติมฝ้า รอยดำ ให้ฝังลึกมากยิ่งขึ้น… เอาล่ะค่ะ งั้นสาวๆ ลองดูข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อผิดๆ ของวิธีการรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ ที่เราได้นำมาฝาก เผื่อสาวคนไหนกำลังทดลองอยู่จะได้ยับยังทัน ก่อนสายเกินแก้ค่ะ
เชื่อคำโฆษณารักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ หายภายใน 7 วัน
การรักษาฝ้า กระ โดยซื้อยามาทาเองนั้นเสี่ยงมากนะคะ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีอย. และโฆษณาว่าสามารถรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำให้หายภายใน 7 วัน หรือหายในเวลาที่รวดเร็ว เพราะปกติจะต้องใช้เวลารักษาประมาณ 4-8 สัปดาห์ ดังนั้น ให้สันนิษฐานว่าอาจใส่สารอันตรายลงไป โดยเฉพาะครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นสารเคมีที่อันตรายมาก ไฮโดรควิโนน ทำให้การผลิตเม็ดสีน้อยลง จึงดูเหมือนว่าสามารถรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำให้หายเร็วขึ้น แต่หากใช้เองโดยไม่ได้ปรึกษาคุณหมออาจเสี่ยงให้ฝ้าฝังลึกเมื่อหยุดใช้ อีกทั้งยังทำให้ผิวหน้าบาง ไวต่อแดด และยังก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างในเซลล์ผิวอีกด้วย ในระยะยาวผิวหน้าจึงเสีย เสื่อมสภาพและมีสิวขึ้นเห่อ ซ้ำฝ้าฝังลึกยังรักษาไม่หายอีกด้วยค่ะ
หากต้องการรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำอย่างจริงจัง แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอดีกว่าค่ะ คุณหมอจะวิเคราะห์และเลือกวิธีการรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ ให้เรา ทั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด ควรอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอและอดทนกับระยะเวลาในการรักษานิดนึงนะคะ เพื่อใบหน้าสวยๆ จะได้อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ
โบ๊ะหน้ากลบรอยฝ้า
สำหรับสาวๆ ที่เริ่มรู้ตัวว่าเป็นฝ้า มันจะหาทางออกในการกลบรอยฝ้าด้วยวิธีโบ๊ะรองพื้นคอนซีลเลอร์หนาๆ แล้วจัดเต็มด้วยเครื่องสำอาง เพราะเป็นวิธีรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ ที่ง่าย ในพริบตารอยดำๆ เหล่านั้นก็ถูกกลบไปได้ แต่สาวๆ ทราบไหมคะว่าเครื่องสำอางบางยี่ห้อที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สารกันบูด ฮอร์โมน และน้ำหอม ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำร้ายผิวของเราให้เกิดฝ้า
ถ้าหากสาวๆ คนไหนที่เป็นฝ้าอยู่แล้วจะทำให้ฝ้าเห็นชัดยิ่งกว่าเดิมและลึกยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะต้องแต่งหน้าได้สาวๆ ควรจะล้างหน้าให้สะอาดหมดจดเช้าและเย็น ไม่ควรลืมล้างเมคอัพก่อนนอนเด็ดขาดและล้างอุปกรณ์แต่งหน้าไม่ว่าจะเป็นแปรงแต่งหน้าแป้งพัฟ ฯลฯ ที่สำคัญหลังล้างหน้าทุกครั้งสาวๆ ควรล้างด้วยน้ำเย็นทุกครั้งจะเป็นการกระชับรูขุมขนทำให้ใบหน้าเนียนกระชับขึ้นค่ะ
ใช้เคมีลอกฝ้า
การใช้เคมีลอกฝ้าอาจเห็นผลดีในช่วงแรกๆ เพราะช่วยให้เซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมหลุดลอกไปได้ รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือคราบไคล ก็หายไปด้วยแต่ต้องอยู่ในปริมาณที่พอดีนะคะ หากปริมาณของน้ำยาลอกหน้าแต่ละตัวมีความรุนแรงเกินไป หรือลอกผิวหน้าบ่อยๆ ก็จะทำให้ผิวหน้าบางลง ลอก แห้ง และระคายเคืองได้ง่าย จึงอาจทำให้ผิวไวต่อแสง มีอาการไหม้ และแสบแดงได้ง่ายขึ้น ทางที่ดีเมื่อลอกหน้าแล้วให้มาร์คหน้าด้วยสูตรธรรมชาติอย่าง มะขามเปียก หรือ มะละกอ ไม่ควรถูกแสงแดดทันทีเมื่อทำการลอกหน้า และอย่าลอกหน้าบ่อยเกินไปอาจทำให้หน้ายิ่งดำจนชอกช้ำระกำใจยิ่งขึ้นค่ะ
ใช้หัวไชเท้าพอกหน้าแบบผิดวิธี
สำหรับสาวๆ ที่เลี่ยงวิธีการรักษาฝ้าด้วยสารเคมี แล้วหันมาพึ่งวิธีธรรมชาติโดยใช้หัวไชเท้าพอกหน้า เพื่อ รักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ เพราะเคยได้ยินมาว่าหัวไชเท้ามีสรรพคุณในเรื่องการลดรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ ก็อยากให้หยุดการกระทำนี้ก่อน แล้วลองศึกษาวิธีการพอกหน้าด้วยหัวไชเท้าที่ถูกต้อง ดังนี้ค่ะ
- การนำหัวไชเท้าพอกหน้าหรือวางแบบสดๆ สามารถใช้ได้กับบางคนเท่านั้น เนื่องจากหัวไชเท้ามีฤทธ์เป็นกรดที่เข้มข้นและมีความเผ็ดร้อน จึงอาจทำให้ผิวหน้ามีอาการแสบแดงได้
- วิธีรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำด้วยหัวไชเท้า คือ หั่นหัวไชเท้าแล้วนำไปแช่เย็น เพื่อลดอาการแสบร้อนจึงค่อยนำมาพอกหน้า หรือผสมกับน้ำผึ้งหรือว่านหางจระเข้ หรือไม่ก็นำน้ำหัวไชเท้า ผสมกับรำข้าวบดละเอียด คนให้เป็นเนื้อครีม จึงค่อยนำมาพอกหน้า ที่สำคัญควรพอกเพียง 3-5 นาทีเท่านั้น หากไม่แน่ใจอาจนำมาทดสอบที่ท้องแขนก่อนก็ได้
- สำหรับผู้มีผิวบอบบางไม่ควรใช้สูตรรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำด้วยหัวไชเท้าค่ะ
กรอผิวหน้าเพื่อลดฝ้า
การรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ ด้วยวิธีนี้จะเป็นการขจัดผิวหน้าที่เสื่อมสภาพและตายแล้วเพื่อให้ฝ้าดูจางลง การกรอผิวหน้า (Microdermabrasion) เป็นเทคโนโลยีการขัดกรอผิวหน้าที่สะดวกรวดเร็ว ให้ประสิทธิภาพสูง เป็นที่นิยมแพร่หลายทั้งในยุโรปและอเมริกา ด้วยวิธีการขจัดผิวในชั้นหนังกำพร้า ซึ่งเป็นเซลล์ชั้นบนที่ตายแล้วให้หลุดออก โดยใช้ผลึกคริสตัลให้วิ่งตามการพ่นของเครื่องปั้มในกระบอกสูญญากาศที่ปลอดเชื้อ โดยมีการปรับความแรง ความเร็วในการพ่นผลึก เพื่อกรอผิวหนังชั้นนอกเพื่อให้ฝ้าหลุดลอกออกและจางลง โดยมีการปรับความแรง ความเร็วในการพ่นผลึกดังกล่าวได้ตามต้องการของผู้ใช้ ซึ่งผลเสียที่ตามมาจากการกรอผิวหน้าเพื่อรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ คือต้องทำมากกว่า 10 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผล หากมีสิวเยอะ หรือหลุมสิวลึกก็จะต้องกรอผิวหน้าในระดับที่ลึก อาจทำให้มีอาการบวม แสบ แดง บางรายอาจจะมีอาการแพ้ผงอัญมณีได้ค่ะ เพราะฉะนั้น ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจทำการกรอผิวหน้า หากมีผิวบางอยู่แล้วไม่แนะนำวิธีนี้นะคะ
ทั้งหมดนี้ คือความเชื่อ หรือความเข้าใจแบบผิดๆ เกี่ยวกับวิธีการรักษาฝ้า กระ ลบรอยดำ ที่เราได้คัดสรรมานำเสนอค่ะ ว่าแต่ว่า… มีวิธีไหนบ้างคะที่สาวๆ กำลังทำอยู่ เมื่อทราบดังนี้แล้ว ก็ให้รีบหยุดการกระทำนั้นทันที ก่อนที่ใบหน้าของคุณจะพังชนิดกู่ไม่กลับ หรือกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็อาจทำให้สาวๆ ท้อใจไปเลยก็มีค่ะ…