Category Archives: สลายไขมัน

Emsculpt คืออะไร สร้างซิกแพคได้อย่างไร เหมาะกับใคร ?

Emsculpt

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ




    เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    Emsculpt ลีนไขมัน สร้างซิกแพค ใน 30 นาที

    ตัวช่วยของคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนี้คงหนีไม่พ้น Emsculpt เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้กับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่กำลังใช้ชีวิตบนความยุ่งหยิงไม่ว่าจะต้องทำงาน ต้องทนสภาวะรถติด ต้องทำคอนเทนต์ลงโซเชียลในแต่ละวัน ได้มีรูปร่างที่ดีอย่างที่ใจต้องการโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย

    Emsculpt เป็นเทคโนโลยีทุ่นเวลาและแรงของคนยุคใหม่ที่ต้องการมีรูปร่างที่ดีอย่างหวัง สามารถใช้ได้ทั้งหญิงและชาย โดย Emsculpt ผลิตโดยใช้ High Intensity Focused Electromagnetic – Magnetic (HIFEM ®) เทคโนโลยีที่ใช้ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่เป็นคลื่นที่มี ความเข้มข้นและความถี่สูงในรูปแบบที่จำเพาะเจาะจงโดยการส่งพลังงานเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อทำการสร้างกล้ามเนื้อ และกระตุ้นในการสลายไขมัน ในผิวหนังบริเวณกว้าง รวมทั้งยังลงลึก ให้แก่ผู้เข้ารับบริการ โดย Emsculpt ซึ่งนอกเหนือจากจะทำการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้มีซิกแพคได้แล้ว ยังช่วยลดไขมัน อีกทั้งยังเผาผลาญไขมันได้ในเวลาเดียวกัน ด้วย Emsculpt เพียงเครื่องเดียว

    Emsculpt

    หลักการทำงานของ Emsculpt

    Emsculpt ทำงานโดยการทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ใช้บริการ กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดการหดตัว จึงเป็นการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรงอย่างปลอดภัยไม่อันตราย เนื่องจากไม่ได้ใช้ความร้อนในการทำอันตรายต่อผิว ด้วยวิธีการ  Supramaximal Muscle Contraction ที่เป็นวิธีการที่ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงถึง 2 รูปแบบ คือ 1.การทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหนาตัว และเพิ่มขนาดให้ใหญ่มากขึ้น (Muscle Hypertrophy) 2. การเพิ่มเส้นใยที่อยู่ภายในส่วนของมัดกล้ามเนื้อ (Muscle Hyperplasia)  ซึ่งวิธีดังกล่าวจะส่งผลให้การเผาผลาญในร่างกายเกิดการเพิ่มขึ้น และทำให้เซลล์ไขมันตายลงมากขึ้น และเกิดการสลายเองได้ตามธรรมชาติ (Apoptosis) ไขมันที่สะสมอยู่ที่บริเวณใต้ผิวหนังจะลดลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่มีอยู่สามารถเห็นลายกล้ามเนื้อที่ชัด เป็นระเบียบและสวยงามได้มากยิ่งขึ้น

    เป็นเครื่องที่มีความปลอดภัยต่อผู้เข้ารับบริการเนื่องจาก Emsculpt ได้รับการรับรองทางด้านประสิทธิภาพรวมทั้งด้านความปลอดภัย จากองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรปและทั่วโลก ทั้งยังได้รับผลการวิจัย ว่า Emsculpt เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มขนาดมวลกล้ามเนื้อให้กับบริเวณที่ทำได้มากถึง 16% สามารถเผาผลาญไขมันในบริเวณที่ทำได้ถึง 19% สามารถลดไขมันในช่องท้องได้ถึง10% โดยใช้ระยะเวลาในการทำเพียง 30 นาที เท่านั้น

    Emsculpt

    ความปลอดภัยของ Emsculpt

    มีการทำการวิจัยผลลัพธ์ในเชิงเปรียบเทียบออกมาว่าการใช้บริการ Emsculpt หนึ่งครั้ง ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการ ซิทอัพถึง 20,000 ครั้ง  สามารถใช้ได้กับบริเวณที่ผู้คนมักมีความกังวล และเป็นพื้นที่สะสมของไขมันในร่างกาย อย่างต้นแขน หน้าท้อง และบั้นท้าย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Emsculpt เป็นเทคโนโลยีดูแลรูปร่างที่ได้ใจผู้คนทางฝั่งยุโรป และสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก

    Emsculpt ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

      • Emsculpt ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ 

    นอกจากเพิ่มกล้ามเนื้อแล้ว ยังสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้อีกด้วย

      • Emsculpt ลดไขมันเฉพาะส่วนได้

    ลดและสลายไขมัน รวมทั้งเร่งการเผาผลาญไขมันได้

      • Emsculpt สามารถช่วยสร้าง 6 Pack ได้

    สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายแล้วซิกแพคไม่ขึ้นสักที หรือมีกล้ามเนื้อแต่ไม่ชัด

      • Emsculpt ลดไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)

    ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ที่เป็นสิ่งที่เมื่อสะสมเป็นปริมาณมากแล้วจะทำให้สุขภาพไม่ดี

      • Emsculpt  เพิ่มความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว 

    ช่วยลดอาการปวดหลัง โดยเฉพาะหลังช่วงล่าง เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่ Core Strength เป็นผู้ที่มี กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวไม่แข็งแรง

      • Emsculpt ช่วยยกกระชับก้นและสะโพก 

    ช่วยเพิ่ม Tone กล้ามเนื้อ ด้วยการสร้างความกระชับรวมทั้งเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ปรับให้ก้นและยังทำให้สะโพกทำให้มีความ มีความกระชับเด้ง และยังมีรูปทรงที่สวยงามได้ตามต้องการ เหมือนกับออกกำลังกาย

      • Emsculpt ช่วยลดผนังกล้ามเนื้อท้องหย่อนจากการคลอดบุตร

    แก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนหรือยืดจากตอนตั้งครรภ์ให้มีความกระชับเฟิร์มมากขึ้นและ Emsculpt ยังช่วยในการลดไขมันหน้าท้องได้อีกด้วย

    Emsculpt

    Emsculpt ทำบริเวณใดได้บ้าง ?

      • ต้นแขน (ไบเซ็ปส์ / ไตรเซ็ปส์) 

    Emsculpt จะช่วยในการ สร้างกล้ามเนื้อบริเวณแขน โดยจะใช้ Applicator ที่มีขนาดเล็กในการทำในบริเวณที่มีขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้ Emsculpt สามารถโฟกัสไปที่กล้ามเนื้อภายในจุดที่มีขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี

      • หน้าท้อง 

    Emsculpt จะช่วยในการ สร้างกล้ามเนื้อ  ที่ Six Pack, Sexy Line, 11 Line ,V Line โดยการแก้ปัญหากล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณหน้าท้อง ซึ่งการทำ Emsculpt เพียง 30 นาทีจะ เทียบเท่ากับการที่เราซิทอัพเป็นจำนวน 20,000 ครั้ง

      • บั้นท้าย 

    Emsculpt จะช่วยในการ สร้างกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณบั้นท้าย ก้น  ให้มีความกลม กลึง เต่งตึง ยกกระชับ และสวยงาม โดยการทำ  Emsculpt 30 นาทีจะเทียบเท่ากับการทำท่าสควอชจำนวน 20,000 ครั้ง

      • ต้นขา (ต้นขาด้านใน / ต้นขาด้านนอก) 

    Emsculpt จะช่วยในการ เสริมความแข็งแรง และแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาให้มีความกระชับ แน่น เฟิร์ม โดย Emsculpt จะสามารถทำได้ในบริเวณที่มีความกังวลทั้งต้นขาด้านในและที่ต้นขาด้านนอก

      • น่อง 

    Emsculpt จะช่วยในการ สร้างกล้ามเนื้อช่วงน่องให้มีความสวยงาม ดูเด่นชัดมากขึ้น มีความกระชับไม่ย้วย ไม่หย่อนคล้อย เทียบเท่ากับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ

    ข้อดีของการทำ Emsculpt

    • สามารถทำได้หลายบริเวณในร่างกาย
    • ทำให้รูปร่างสวยงาม เป็นทรง และกระชับมากขึ้น
    • ไม่ต้องผ่าตัด
    • ไม่ต้องฉีดตัวยาเพื่อสลายไขมัน
    • ไม่ต้องออกกำลังกายก็สามารถมีรูปร่างที่สวยงามอย่างใจได้
    • มี ซิกแพคอย่างไม่ต้องออกกำลังกาย
    • เพิ่มความมั่นใจ
    • ปลอดภัย มีงานวิจัยรองรับ
    • สามารถลดไขมันในช่องท้องได้

    ข้อจำกัดของการทำ Emsculpt

    • ผลลัพธ์หลังทำที่ได้รับ ขึ้นอยู่กับรูปร่างเดิมในแต่ละบุคคล
    • Emsculpt อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันในปริมาณมาก เนื่องจากการทำ Emsculpt เป็นการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้มีผลต่อการลดไขมันจากการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นจากการสร้างกล้ามเนื้อของ Emsculpt
    • การทำ Emsculpt จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

    การเตรียมตัวเพื่อเข้ารับบริการ  Emsculpt 

      1. หากมีการสวมเครื่องประดับ ผู้เข้ารับบริการจะต้องถอดเครื่องประดับที่สวมใส่มาออก 

    เนื่องจากเครื่องประดับที่สวมใส่ อาจเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าได้ โดยตัวนำกระแสไฟฟ้าดังกล่าว จะทำให้อาจได้ได้รับอันตรายในระหว่างทำ Emsculpt ได้

      1. ควรถอดเสื้อผ้าที่มีส่วนประกอบของเหล็กออกเพื่อความปลอดภัยขั้นสุดในการรักษา

    เนื่องจาก  Emsculpt เป็นการรักษาด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นสูง โลหะต่าง ๆ อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

    ขั้นตอนเข้ารับการรักษาด้วย Emsculpt

    1. ทำการติดหัวแอปพลิเคเตอร์ (Applicator) หรือหัวพลังงาน ของเครื่อง Emsculpt  ให้แนบกับผิวหนัง บริเวณที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้แน่น สนิท โดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมการใช้เครื่องมาแล้วเท่านั้น
    2. ใช้สายรัดหัวแอปพลิเคเตอร์ (Applicator) เพื่อให้เครื่องไม่ขยับ เพื่อพร้อมสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อ
    3. จัดท่าทางของผู้เข้ารับบริการให้อยู่มีท่าที่สบายที่สุด และไม่ให้แอปพลิเคเตอร์ (Applicator) เคลื่อน
    4. ค่อย ๆ ปรับพลังงาน Emsculpt ให้อยู่ในค่าพลังงานที่เหมาะสมสำหรับผู้เข้ารับบริการ
    5. ใช้เวลาในการทำ 30 นาที ต่อ 1 ครั้ง
    6. ระหว่างที่ทำการรักษา ผู้เชี่ยวชาญจะสอบถามเป็นระยะเกี่ยวกับความรู้สึกในการรักษา หากเมื่อยหรือล้ามากเกินไป สามารถแจ้งผู้เชี่ยวชาญให้ลดพลังงานลดได้ ในกรณีนี้ไม่ควรฝืนตัวเองและแจ้งความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงแก่ผู้เชี่ยวชาญ

    หลังเข้ารับบริการสร้างกล้ามเนื้อด้วย Emsculpt ควรดูแลตัวเองอย่างไร

    • หลังเข้ารับบริการสร้างกล้ามเนื้อด้วย Emsculpt ไม่จำเป็นต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีความรู้สึกเหนื่อย ล้า เหมือนกับว่า พึ่งจะออกกำลังกายเสร็จ หากเหนื่อยมากสามารถพักได้ตามปกติของผู้เหนื่อยจากการออกกำลังกาย หากไม่เหนื่อยมากสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย

    Emsculpt เหมาะกับใคร?

    Emsculpt เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้ชีวิตของคนที่ต้องการมีรูปร่างที่ สวย ลีน เฟิร์ม เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะมากสำหรับ

    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างสวย ลีน เฟิร์ม
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงกล้ามเนื้อก็ยังไม่ชัด
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง (Six Pack) เพื่อความเฟิร์มกระชับ
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างที่สวย มีวีไลน์ หรือมีร่องสิบเอ็ด อย่างชัดเจน
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับหน้าท้อง และทำให้โทนกล้ามเนื้อมีความชัดขึ้น
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างที่สวยงาม มีส่วนเว้าโค้ง
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับรูปร่างเฉพาะส่วน เช่น ต้นแขน ต้นขา
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการผู้ที่เหนื่อยง่าย มีโรคประจำตัวไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการจ้างเทรนเนอร์ แต่ได้รูปร่างที่ต้องการ
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่ม Core Muscle Strength ที่มีส่วนช่วยในการทำให้อาการปวดหลังดีขึ้น
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีอายุมากกว่า 35-40 ปี ที่ไม่สะดวกในการออกกำลังกาย
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น
    • Emsculpt เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อหุ่นลีนสวย
    • Emsculpt เหมาะกับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการยกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องและเพิ่มโทนกล้ามเนื้อ

    Emsculpt ไม่เหมาะกับใคร? 

    เนื่องด้วย Emsculpt ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นสูง จึงทำให้มีขอบเขตในการรักษา และมีคนหลายกลุ่มที่ไม่สามารถรักษาได้คือ

    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังให้นมบุตร
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านการรับรู้ผิดปกติ
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะโรคหัวใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจ
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผู้ทำอยู่ในระหว่างการใช้ยาละลายลิ่มเลือด
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มีและเป็นโรคลมชัก
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการเป็นไข้
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะและกำลังเป็นโรคปอดทำงานผิดปกติ
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ผ่าตัดกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่มี Metal Plate ในร่างกาย
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่พึ่งผ่านการเข้ารับบริการทำทรีตเมนต์ในบริเวณที่มีการเจริญเติบโตของกระดูก
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่อยู่ในระหว่างการมีประจำเดือน ที่ต้องการทำ Emsculpt  บริเวณหน้าท้อง
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ไวหรือแพ้ต่อยาพารา
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ฝังเหล็ก หรือติดอุปกรณ์เสริมในร่างกาย
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ให้ยาหรือให้อาหารทางหลอดเลือด (Infusion Pump)
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ฝังหรือติดอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกาย
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ฝังและใส่เครื่องที่ช่วยในการกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) ในร่างกาย
    • Emsculpt ไม่เหมาะกับผู้ที่ฝังเครื่องกระตุ้นประสาทชนิดต่าง ๆ ไว้ในร่างกาย

    ทำไมต้องทำ Emsculpt

    • Emsculpt เทคโนโลยีเดียวที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มขนาดกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับและแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังช่วยเผาผลาญไขมันหน้าท้อง แบบไม่ต้องเหนื่อยกับการออกกำลังกาย เป็นการแก้ไขปัญหาไขมันที่ต้นเหตุ  โดยไม่ทำให้ร่างกายกลับมาสะสมไขมันส่วนเกินใหม่
    • Emsculpt เป็นเทคโนโลยีเครื่องเดียวที่ช่วยยกกระชับ เพิ่มกล้ามเนื้อ แบบไม่ต้องผ่าตัด
    • Emsculpt ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อได้หลากหลายบริเวณ  เช่น บริเวณน่อง บริเวณแขน
    • Emsculpt เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการออกกำลังกาย
    • Emsculpt เป็นเครื่องสร้างกล้ามเนื้อที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงหลังทำ และผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    • Emsculpt มีผลรองรับการวิจัยที่น่าเชื่อถือ และแสดงถึงความพึงพอใจในผลลัพธ์หลังทำมากถึง 96%
    • Emsculpt มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน โดยพบว่าค่าเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นถึง 16% และไขมันลดลง 19%
    • Emsculpt เป็นเครื่องสร้างกล้ามเนื้อเดียวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในกลุ่มคนดาราและคนดังของวงการฮอลลีวูด

    ผลลัพธ์การรักษาด้วย Emsculpt

    • มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16%
    • ไขมันลดลง 19%
    • ลดการแยกของกล้ามเนื้อหน้าท้อง 11%
    • กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงมากขึ้น
    • กล้ามเนื้อก้นกระชับ เด้งสวย ได้สัดส่วนที่ดีมากขึ้น
    • ต้นแขนและต้นขาเฟิร์มกระชับขึ้น

    การสร้างกล้ามเนื้อด้วย Emsculpt ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร?

    Emsculpt vs Coolsculpting

    • Emsculpt เป็นเทคโนโลยีสร้างกล้ามเนื้อด้วยคลื่นอิเล็กโทรแมกเนติก ซึ่งพลังงานจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างของกล้ามเนื้อ ช่วยทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ไขมันส่วนเกินในร่างกายเผาผลาญมากขึ้นร่วมด้วย เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อพร้อมกับการลดไขมันส่วนเกิน
    • ส่วน coolsculpting เป็นเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยพลังงานความเย็น กระบวนการกำจัดไขมันด้วยความเย็นจะส่งความเย็นในอุณหภูมิ -11 ถึง -13°C ลงไปที่ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง โดยการทำ Coolsculpting ช่วยในเรื่องของการลดไขมันส่วนเกินโดยเฉพาะ
    • ทั้งนี้ Emsculpt เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันไปพร้อมกันมากกว่า coolsculpting ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    Emsculpt vs การดูดไขมัน

    • การดูดไขมัน เป็นการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา ทำให้สามารถลดจำนวนของไขมันในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายได้ เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน ก้น เป็นต้น เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมมาก ซึ่งการดูดไขมันมีความเสี่ยงในการเสียเลือดมาก จำเป็นต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น ทำให้การทำ Emsculpt มีความปลอดภัยมากกว่าเพราะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันส่วนเกินในร่างกายด้วยพลังงานคลื่นอิเล็กโทรแมนเนติก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมือนกับการดูดไขมัน

    Emsculpt vs การฉีดสลายไขมัน

    • การฉีดสลายไขมัน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณร่างกาย โดยตัวยาจะทำให้เซลล์ไขมันส่วนเกินเกิดการแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย โดยจะฉีดเข้าไปในบริเวณชั้นไขมันโดยตรง เพื่อให้เซลล์ไขมันตายและจำนวนของไขมันลดลง ซึ่งการฉีดสลายไขมันเป็นเพียงการลดจำนวนเซลล์ไขมันเท่านั้น ไม่ได้เป็นการช่วยในเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันส่วนเกินแบบ Emsculpt แต่อย่างใด

    Emsculpt vs การเวทเทรนนิ่ง (Weight Training)

    • การเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) เป็นการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน โดยเป็นการฝึกการแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยใช้ดัมเบลในการยกเวท หรือแม้แต่การใช้ร่างกายของเรา หรือที่เรียกว่าการออกกำลังกายแบบบอดี้เวท (Body Weight) เมื่อกล้ามเนื้อได้รับการฝึกฝนพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะทำให้สมรรถภาพความแข็งแรงของร่างกายมากขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้การออกกำลังแบบเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) ยังช่วยในเรื่องของข้อต่อและเส้นเอ็น รวมไปถึงยังช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและกระดูกได้
    • เมื่อเทียบกับการทำ Emsculpt ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันส่วนเกินไปพร้อมกัน การออกกำลังกายร่วมกับการทำ Emsculpt จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้ผลลัพธ์ของการสร้างกล้ามเนื้อและการลดไขมันมีประสิทธิภาพที่ดีเพิ่มขึ้น

    Emsculpt vs การออกกำลังกายแบบทั่วไป

    • การออกกำลังกาย คือ การทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย โดยมีรูปแบบของการออกกำลังกายที่หลากหลาย อาทิ วิ่ง ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก ปั่นจักรยาน ฯลฯ เป็นการออกกำลังกายในรูปแบบคาร์ดิโอ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและปอด ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพของร่างกายในด้านของความแข็งแรง ความทนทาน ความยืดหยุ่น และการทรงตัว รวมไปถึงการออกกำลังกายยังช่วยในเรื่องของเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพื่อสุขภาพที่ดีและแข็งแรงอยู่เสมอ
    • แตกต่างกับการทำ Emsculpt คือ การออกกำลังกายในรูปแบบของการคาร์ดิโอเป็นการเสริมสร้างให้หัวใจและปอดแข็งแรงขึ้น ส่วนการทำ Emsculpt เป็นการสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมันส่วนเกินตามร่างกาย

    Emsculpt

    รวม Q&A คำถามพบบ่อยเรื่องของ Emsculpt

    Emsculpt ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน?

    • การทำ Emsculpt ใช้ระยะเวลาในการทำครั้งละ 30 นาที ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการซิทอัพถึง 20,000 ครั้ง

    เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ควรเข้ารับการบริการ 4-6 ครั้งอย่างสม่ำเสมอ โดยการเข้าทำ Emsculpt ควรเว้นระยะเวลาห่างกัน 2-3 วัน และหลังจากที่ทำครบจำนวนครั้งตามที่กำหนดแล้ว สามารถเว้นระยะห่างของการทำEmsculpt ได้ 1 เดือน และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีมีประสิทธิภาพแนะนำว่าควรออกกำลังร่วมกับการทำ Emsculpt เพื่อเป็นการสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงให้กับร่างกาย

    Emsculpt มีผลข้างเคียงหลังทำไหม?

    • ผลข้างเคียงหลังทำ Emsculpt ที่คนส่วนใหญ่จะพบก็คือ อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย คล้ายกับการออกกำลังกายเท่านั้น ไม่มีผลข้างเคียงอันตรายที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

    Emsculpt อันตรายไหม?

    • การทำ Emsculpt เป็นเครื่องสร้างกล้ามเนื้อที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก FDA และมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือรองรับมากมาย โดย Emsculpt เป็นเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อและไขมันเท่านั้น ทั้งนี้ควรทำ Emsculpt กับคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขและทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น

    Emsculpt เจ็บไหม?

    • ในระหว่างการทำ Emsculpt จะไม่มีความรู้สึกเจ็บ ไม่มีรอยช้ำ แต่หลังจากทำ Emsculpt อาจจะรู้สึกถึงความปวดเมื่อยตามร่างกายเล็กน้อย เป็นความรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเหมือนการทำซิทอัพปกติ

    บทสรุปของ Emsculpt

    Emsculpt เป็นนวัตกรรมเดียวที่เป็นเครื่องสร้างกล้ามเนื้อและสามารถกำจัดไขมันไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือผู้ที่ไม่ต้องการจ้างเทรนเนอร์ในการออกกำลังกาย รวมไปถึงผู้ที่ออกกำลังกายมานานแต่กลับไม่มี six pack เลย ทำให้ Emsculpt เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาของคนอยากหุ่นสวย สำหรับใครที่อยากมีหุ่นสวย สุขภาพดี อยากเปลี่ยนแปลงรูปร่างต้องรมย์รวินท์คลินิกเท่านั้น เพราะรมย์รวินท์คลินิกใส่ใจในทุกการให้บริการ คอยดูแลและให้คำปรึกษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ




      เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

      INDIBA ยกกระชับ ฟื้นฟูได้อย่างไร คืออะไร ช่วยอะไร

      Indiba

      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




        วันที่สะดวกในการติดต่อ




        เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

        INDIBA ฟื้นฟู กระชับ หัวจรดเท้า ในเครื่องเดียว

        ในยุคที่คนหันมาดูแลทั้งสุขภาพและความงามของตัวเองกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก็เข้าคลินิกเสริมความงามกันได้อย่างไม่เคอะเขิน นั่นเป็นเพราะในบางทีเขาอาจไม่ได้เข้าไปเพื่อเสริมความงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่บางคลินิกเสริมยังสามารถเข้าไปเพื่อดูแลร่างกายในส่วนอื่นๆได้ 

        เนื่องจากบางเทคโนโลยีในปัจจุบัน สามารถทำได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาอื่นๆที่นอกเหนือจากการเสริมความงาม เช่น การกระตุ้นให้ผิมแข็งแรง สลายไขมัน ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ยกกระชับเรือนร่าง และช่องคลอด ได้อีกด้วย อย่างเช่นเครื่อง INDIBA ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้นั่นเอง

        INDIBA เป็นโปรแกรมที่ช่วยปรับผิว ให้มีความกระชับโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆได้ทั่วทั้งร่างกาย ทั้งการฟื้นฟู ปรับแต่ง และแก้ไข ด้วยการใช้เทคโนโลยี Capacitive Resistive Monopolar Radiofrequency หรือ CRMRF  หรือเป็นการบำบัดด้วยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ มีความปลอดภัยเนื่องจากเทคโนโลยีนี้ถูกใช้ทางการแพทย์มานานมากกว่า 35 ปี ที่มีความถี่ 448 kHz ในการกำจัดไขมัน กระชับสัดส่วน กระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย ฟื้นฟูผิวหนังชั้นเนื้อเยื่อชั้นลึก ยกกระชับใบหน้า รักษาบรรเทาอาการปวดตามร่างกาย และช่วยลดอาการบวมช้ำหลังจากผ่าตัดศัลยกรรม  ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่มีความเสถียรในการรักษาที่จัดว่ามีความสูงเป็นอย่างมาก

        INDIBA นับเป็นโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในการช่วยปรับสมดุลเซลล์ ช่วยเพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกาย กระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญที่มากขึ้น ช่วยลด สลาย ไขมันและเซลลูไลต์ที่สะสมในร่างกายโดย INDIBA  จะทำงานผ่านคลื่นโดยไม่ทำลายเซลล์ข้างเคียงอื่น ๆ 

        มีความปลอดภัยสูง ได้รับ FDA ทั้งจากประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา และยังผ่านการจดสิทธิบัตรถึง 12 สิทธิบัตร ทั้งยังได้รับรางวัล ในระดับสากลมากมายอย่างต่อเนื่องเนื่องจาก INDIBA ได้รับการพัฒนาโปรแกรมโดยตลอดตามความต้องการและปัญหาที่หลากหลายของกลุ่มผู้เข้ารับบริการ

        ซึ่ง INDIBA เป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากในวงการแพทย์ความงาม เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่สามารถใช้ได้ครอบคลุมทั่วทั้งร่างกายได้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก 

        INDIBA ใช้ระบบโปรไอออนิก (Proionic) โดยการถูกส่งไปยังชั้นลึกของผิวหนัง (ชั้นหนังแท้) ที่มีเส้นใยคอลลาเจนอยู่ คลื่นวิทยุของ INDIBA จึงเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์โดยรวมทั้งเซลล์ที่อยู่ในระดับตื้นและเซลล์ที่อยู่ในระดับลึกให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาด้วย INDIBA ถึง 3 อย่างประกอบไปด้วย

        1. โหมดที่ไม่ทำให้เกิดความร้อนที่ผิว ได้ผลลัพธ์ในการรักษาคือ Biostimulation โดยการกระตุ้นให้ใต้ชั้นผิวหนังได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น 

        • ผลที่เกิดจากการรักษาด้วย INDIBA ในโหมดนี้คือการที่พลังงานเข้าไปทำการซ่อมแซม ฟื้นฟูเซลล์ และกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังใหม่ รวมทั้งยังจัดเรียงตัวกันเป็นอย่างดี

        2.โหมดที่ใช้ความร้อนในระดับปานกลางที่ผิว ได้ผลลัพธ์ในการรักษาคือ Vascularization โดยการกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด 

        • ผลที่เกิดจากการรักษาด้วย INDIBA ในโหมดนี้คือ การเพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์ที่อยู่ใต้ผิว การเพิ่มปริมาณเลือด ในบริเวณเฉพาะที่รวมทั้งการปรับปรุงเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ชั้นผิวให้ดีขึ้น

        3.โหมดที่ใช้ความร้อนในระดับสูงที่ผิว ได้ผลลัพธ์ในการรักษาคือ Hyperactivation โดยการกระตุ้นกระบวนการเมแทบอลิซึม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกาย

        • ผลที่เกิดจากการรักษาด้วย INDIBA ในโหมดนี้คือ  การช่วยขจัดสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย เพิ่มกระบวนการเผาผลาญของเซลล์ ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการผลิตคอลลาเจน

        ความแตกต่างของ INDIBA กับโปรแกรมอื่นๆ

        ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่า INDIBA เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้ได้แทบทุกส่วนของร่างกาย และยังทำให้เกิดผลดีในการรักษาหลายด้าน สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

        Indiba

        ข้อดีในด้านความงามและรูปร่างของ INDIBA

        • INDIBA ช่วยในการเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว
        • INDIBA ช่วยลดการอักเสบ และฟกช้ำของผิวหนังทั้งชั้นในและชั้นนอก
        • INDIBA ช่วยลดอาการปวด จากการทำหัตถการความงาม
        • INDIBA ช่วยการลดไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนัง รวมทั้งยังช่วยลดไขมันที่สะสมภายในช่องท้อง
        • INDIBA ช่วยยกกระชับผิวที่มีความ ห้อย หย่อนคล้อย 
        • INDIBA ช่วยกระชับสัดส่วน รูปร่างให้กระชับมากขึ้น
        • INDIBA ช่วยในการกำจัดเซลลูไลต์ โดยขับออกทางเหงื่อ น้ำเหลืองปัสสาวะและอุจจาระ
        • INDIBA ช่วยในการลดเลือนรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นได้
        • INDIBA ช่วยในการลดผิวเปลือกส้ม และเพิ่มการเผาผลาญ
        • INDIBA ช่วยในการลดไขมันสะสมในช่องท้อง (Visceral Fat) 
        • INDIBA ช่วยในการลดไขมันหน้าท้อง
        • INDIBA ช่วยในการเพิ่มอัตรา การเผาผลาญของไขมัน

        ใครเหมาะกับการดูแลความงามและรูปร่างด้วย INDIBA 

        • ผู้ที่มีผิวที่หย่อนคล้อยต้องการกระชับ 
        • ผู้ที่มีผิวเปลือกส้มที่ต้องการลดความขรุขระของผิว
        • ผู้ที่มีผิวหลวมที่ต้องการการกระชับ
        • ผู้ที่มีไขมันสะสม ที่ต้องการลดไขมัน
        • ผู้ที่ต้องการรักษารอยแผลเป็น
        • ผู้ที่มีริ้วรอยและต้องการลดเลือน
        • ผู้ที่ต้องการลดเซลลูไลต์
        • ผู้ที่มีไขมันหน้าท้อง
        • ผู้ที่ต้องการเผาผลาญไขมันในร่างกาย

        Indiba

        ข้อดีในด้านผิวพรรณของ INDIBA 

        • INDIBA มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
        • INDIBA ช่วยในการลดรอยแตกลายของผิวหนังได้
        • INDIBA ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับ
        • INDIBA ช่วยยกกระชับถุงไขมันใต้ตา

        เนื่องจาก INDIBA เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต จึงส่งผลให้สารอาหารในร่างกายสามารถส่งไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ INDIBA ยังสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้ สามารถใช้ INDIBA ในการรักษาร่วมกันกับการทำหัตถการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์  การทำเครื่องยกกระชับ การทำเลเซอร์ หรือการร้อยไหมได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเหมาะสมในการรักษาก่อนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น

        ในด้านการดูแลรูปร่างด้วย INDIBA จำเป็นจะต้องทำการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่พึงพอใจ เนื่องจาก INDIBA เป็นโปรแกรมที่ใช้คลื่นความถี่สูงในการรักษา หากเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลให้ รูปร่างกระชับมากขึ้น ผิวหย่อนคล้อยน้อยลง เซลลูไลต์และไขมันสะสมลดน้อยลงได้

        ใครเหมาะกับการดูแลผิวพรรณของด้วย INDIBA 

        • ผู้ที่มีริ้วรอย 
        • ผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นที่บริเวณต่างๆ บนใบหน้า
        • ผู้ที่ต้องการ ยกกระชับใบหน้า
        • ผู้ที่มีถุงใต้ตาที่ต้องการกระชับ
        • ผู้ที่มีร่องลึกต่างๆบนใบหน้า

        Indiba

        ข้อดีในด้านการกระชับ และแก้ปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดของ INDIBA 

        • แก้ปัญหาความดันลมที่ช่องคลอด
        • แก้ปัญหาตกขาวมากกว่าปกติ
        • แก้ปัญหาผิวหนังอักเสบ เจ็บ ปวด กล้ามเนื้อช่องคลอด
        • แก้ปัญหาผิวช่องคลอดแห้ง คัน ให้มีความชุ่มชื้นมากขึ้น
        • แก้อาการปวดกระดูกเชิงกราน
        • แก้อาการช่องคลอดหย่อนคล้อย ทั้งภายในและภายนอก
        • แก้ปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และปัสสาวะเล็ด
        • แก้ปัญหาต่างๆอันเนื่องมาจากการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน

        INDIBA ในการแก้ปัญหาช่องคลอด ทำงานด้วยการใช้พลังงานโปรไอโอนิก หรือ Proionic โดยการใช้พลังงานที่ซึมลึกลงไปถึงชั้นผนังเซลล์เนื้อเยื่อด้านในสุด ช่วยทำให้การไหลเวียนโลหิตที่ระบบสืบพันธุ์ดียิ่งขึ้น จึงเป็นการรักษาปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ ทำให้ผลลัพธ์ไม่เพียงแต่จะทำให้ ช่องคลอดเกิดความกระชับแน่นกว่ามาขึ้น  แต่ INDIBA ยังช่วยให้สามารถคงความสมดุลในระดับลงลึกถึงเซลล์ในร่างกาย เป็นการทำให้ช่องคลอดมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงตั้งแต่ต้นเหตุถึงปลายเหตุ การใช้  INDIBA ในการแก้ปัญหาต่างๆเกี่ยวกับช่องคลอด ควรทำการรักษาขั้นต่ำ 3 ครั้ง แต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างกัน 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษา

        ใครเหมาะกับการดูแลและแก้ปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดด้วย INDIBA 

        • ผู้ที่มีลมในช่องคลอด
        • ผู้ที่มีช่องคลอดแห้ง
        • ผู้ที่มีรูปร่างของอวัยวะเพศไม่สวย
        • ผู้ที่มีอวัยวะเพศที่มีสีคล้ำ ต้องการให้มีความสวยงาม
        • ผู้ที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบ
        • ผู้ที่มีอาการเจ็บปวดอุ้งเชิงกราน
        • ผู้ที่มีอาการ ปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้
        • ผู้ที่มีปัญหาตกขาว
        • ผู้ที่ก้าวเข้าสู่ วัยหมดประจำเดือน ที่ไม่ต้องการให้ช่องคลอดเกิดปัญหาต่างๆ

        Indiba

        ข้อดีในด้านการผ่าตัดและศัลยกรรมของ INDIBA 

        • INDIBA ช่วยลดโอกาสในการเกิดแผลเป็นหลังผ่าตัด ทำศัลยกรรมได้
        • INDIBA ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดในบริเวณที่ทำศัลยกรรมและไม่ต้องการให้เป็นพังผืดได้
        • INDIBA ช่วยฟื้นฟูหลังทำการศัลยกรรม 
        • INDIBA ช่วยลดการเกิดพังผืดเกาะหน้าอกในกรณีที่ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก
        • INDIBA ช่วยในการระบายของเสีย เช่นเลือด น้ำเหลืองต่างๆ หลังจากทำการผ่าตัดศัลยกรรม 
        • INDIBA ช่วยทำให้แผลที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดศัลยกรรมฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
        • INDIBA ช่วยลดอาการปวด บวม แดง ช้ำ ที่เกิดขึ้นหลังการผ่าตัดทำศัลยกรรมได้

        INDIBA สามารถใช้ในก่อนหรือหลังการผ่าตัดทำศัลยกรรมประเภทใดเพื่อฟื้นฟูผิวได้บ้าง

        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรมกระชับหน้าอก
        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรมทำกล้ามหน้าท้อง
        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรมเพิ่มขนาดหน้าอก
        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรมผิวหนังเปลือกตา เช่นตาสองชั้น หรือตัดหนังตา
        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรมเสริมจมูก และตัดปีกจมูก
        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรม ใบหู เกี่ยวกับหูกาง หรือหูแนบกับใบหน้ามากเกินไป
        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า และดึงใบหน้า
        • สามารถทำร่วมกันกับ ศัลยกรรมหน้าท้อง
        • สามารถทำร่วมกันกับ การดูดไขมัน
        • สามารถทำเพื่อรักษา แผลเป็นทั้งแผลใหม่ แผลเก่า และแผลเป็นคีลอยด์ได้ 
        • สามารถทำร่วมกันกับ การทำศัลยกรรมตกแต่ง จากอุบัติเหตุได้
        • สามารถทำร่วมกันกับ การทำศัลยกรรมเสริมส่วนต่างๆในร่างกายได้ๆ

        Indiba

        ข้อดีในด้านการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะของ INDIBA 

        • INDIBA ช่วยเรื่องการเพิ่มความแข็งแรงให้หลอดเลือดฝอย
        • INDIBA ช่วยการฟูเส้นเลือดฝอย ด้วยการช่วยการไหลเวียนของโลหิตภายในร่างกาย ส่งผลให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงหนังศีรษะและรากผมได้ดีมากยิ่งขึ้น 
        • INDIBA สามารถทำร่วมกับการรักษาเส้นผมและรากผมชนิดอื่นๆได้ อาทิ การฉีด PRP (Platelet rich plasma), การปลูกผม ,ทรีตเมนต์ผม

        ใครเหมาะกับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะด้วย INDIBA 

        • ที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน 
        • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง
        • ผู้ที่ลองแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นแล้ว แต่ไม่ได้ผล
        • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความหนาของผมบนศีรษะ

        Indiba

        ข้อดีในด้านการลดอาการบาดเจ็บในร่างกายของ INDIBA 

        • INDIBA ช่วยเรื่องการบรรเทาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ อาทิอาการ ช้ำของผิวหนัง อาการระบม เอ็นอักเสบ กระดูกหัก 
        • INDIBA ช่วยเรื่องการบรรเทาอาการ ถุงน้ำอักเสบ ข้อต่ออักเสบ
        • INDIBA ช่วยเรื่องการบรรเทาอาการ ปวดหลัง ปวดข้อเข่า ปวดคอ
        • INDIBA ช่วยเรื่องการบรรเทาอาการ ข้อเสื่อม กระดูกเสื่อม ข้อมืออักเสบ 
        • INDIBA ช่วยเรื่องบรรเทาการบาดเจ็บในนักกีฬา 
        • INDIBA ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ ในกลุ่มนักกีฬาระหว่างเตรียมความพร้อมในการลงสนาม
        • INDIBA ช่วยลดอาการล้าของกล้ามเนื้อและรักษาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา 
        • INDIBA ช่วยลดการเกิดพังผืดใต้ผิวหนังหลังผ่าตัด

        ใครเหมาะกับการดูแลอาการบาดเจ็บในร่างกายด้วย INDIBA 

        • ผู้ที่เล่นกีฬาเป็นประจำ
        • ผู้ที่ได้รับอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
        • ผู้ที่ต้องการยืดอายุของข้อต่างๆในร่างกาย
        • ผู้ที่เล่นกีฬาจนได้รับการผ่าตัด

        ข้อดีในด้านการรักษาอาการในกลุ่มออฟฟิศซินโดรมของ INDIBA 

        • สามารถรักษา ผู้ที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม ได้ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง
        • สามารถรักษาผู้ ที่มีอาการปวด บวม อักเสบของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
        • สามารถรักษา ในผู้ที่มีการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
        • ช่วยกระตุ้น ให้เกิดการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น
        • ช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อมีผลในระยะยาวอันดีต่อร่างกาย
        • ช่วยในการ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่มีอาการปวดเมื่อย หรือบาดเจ็บ ต้นเหตุของอาการออฟฟิศซินโดรม
        • ช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
        • ช่วยในการรักษา อาการปวดเรื้อรัง ทุกส่วนในร่างกาย
        • ช่วยแก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม โดยการบำบัดร่างกายตั้งแต่ในเซลล์ต้นกำเนิด ส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น

        ใครเหมาะกับการดูแลรักษาอาการในกลุ่มออฟฟิศซินโดรมด้วย INDIBA 

        • ผู้ที่มีอาการ ออฟฟิศซินโดรมเรื้อรัง
        • ผู้ที่มีอาการ ออฟฟิศซินโดรมฉับพลัน
        • ผู้ที่มีอาการ ปวดเมื่อยตัวจากการทำงาน
        • ผู้ที่มีอาการ ปวดในบริเวณกระดูกจากการทำงาน
        • ผู้ที่มีอาการ ปวดบวมอักเสบที่เนื้อเยื่อบริเวณต่างๆ

        ข้อดีของ Indiba

        • เป็นโปรแกรมที่มีความปลอดภัยสูง
        • INDIBA  มีระบบการแจ้งเตือนการสัมผัส ในระหว่างตัวหัวอิเล็กโทรด และผู้เข้ารับการรักษา
        • มีความ น่าเชื่อถือ และความปลอดภัยตลอดการทํา
        • INDIBA มีความสะดวก และง่ายต่อการใช้งาน 
        • มีขนาดหัวอิเล็กโทรดในการรักษาที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของบริเวณที่ใช้งาน
        • ความแม่นยำ เที่ยงตรงในการรักษา
        • INDIBA มีพลังงานท่ีใช้ในการส่งออกอย่างมีความแม่นยำ
        • ผู้ท่ีมีเหล็กดามในร่างกาย สามารถทำ INDIBA ได้
        • ผู้ท่ีมีซิลิโคนเสริมหน้าอก และ หรือแม้กระท่ังที่หัวนม สามารถทำ INDIBA ได้
        • ผู้ท่ีมีภาวะอักเสบเฉียบพลัน สามารถทำ INDIBA ได้
        • สามารถทำ INDIBA ได้ในบริเวณที่มีความบอบบาง และไวต่อความรู้สึก เช่น เต้านม ต่อมไทรอยด์ รอบดวงตา
        • ทำในผู้ที่พึ่งร้อยไหม และฉีดฟิลเลอร์ได้
        • ทำในผู้เป็นโรคผิวหนังอักเสบโรซาเซียได้
        • ไม่เจ็บ ไม่ทำให้เกิดบาดแผล
        • สามารถทําลงบนบริเวณท่ีไม่สามารถใช้คลื่นอื่นๆได้

        ข้อห้ามในการทำ INDIBA 

        • ผู้ท่ีใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือมีการ ฝังเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆตามร่างกายไม่ควรทำ
        • ผู้ท่ีตั้งครรภ์
        • หลอดเลือดดําอักเสบ ชนิดมีลิ่มเลือด ไม่ควรทำ

        ข้อควรระวังในการทำ INDIBA 

        • แผลเปิด หรือแผลเบิร์น จะต้องมีวิธีการรักษาที่มีความจำเพาะเจาะจงมากขึ้น
        • ในผู้ป่วยท่ีมีความบกพร่องทางด้านการรับความรู้สึก (บกพร่องแต่กําเนิด, เส้นประสาทถูกทําลาย, อัมพาต ครึ่งซีก หรือครึ่งท่อน, ใช้ยาท่ีส่งผลให้การรับความ รู้สึกผิดปกติไป) ควรแจ้งแพทย์โดยละเอียดก่อนทำการรักษา

        คนไข้ในกลุ่มนี้จำเป็นจะต้องแจ้งรายละเอียดอาการแก่แพทย์อย่างละเอียดเพื่อวางแผนในการรักษาให้เป็นไปได้อย่างดีและปลอดภัยที่สุด

        INDIBA สามารถทำร่วมกับหัตถการประเภทใดได้บ้าง

        • การฉีดฟิลเลอร์ 
        • การร้อยไหม
        • การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน Biostimulation 
        • การฉีดสารยับยั้งกล้ามเนื้อ หรือฉีดโบ
        • การฉีด Mesotherapy
        • การฉีด Platelet-rich plasma (PRP)
        • การผลัดเซลล์ผิว
        • การทํา Fractional 
        • การทำเลเซอร์ประเภทต่างๆ
        • การทำทรีตเมนต์
        • การทำโปรแกรมยกกระชับ
        • การทำโปรแกรมลดสัดส่วน
        • การทำโปรแกรมที่มีความร้อน หรือมีความเย็น
        • รวมทั้งโปรแกรมต่างๆที่ไม่ได้กล่าว ณ ที่นี้

        จะเห็นได้ว่า INDIBA เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้แก้ปัญหาได้อย่างหลากหลายทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สามารถเปลี่ยนหัว Applicator ได้ตามความเหมาะสมของปัญหาที่ต้องการแก้ไขเท่านั้น  โดยเป็นโปรแกรมที่มีความปลอดภัย ใช้ได้ทั้งด้านการฟื้นฟู การรักษา และแก้ปัญหาในร่างกาย

        รวบรวมคำถามเกี่ยวกับ INDIBA 

        ทำ INDIBA เจ็บไหม?

        • INDIBA เป็นโปรแกรมที่ไม่มีความเจ็บ ปวด แสบ ในระหว่างการรักษา

        INDIBA ต้องใช้ยาชาหรือไม่

        • ไม่ต้องใช้ยาชา เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่ไม่ทำอันตรายต่อผิว ไม่แสบ ไม่ร้อน ไม่อันตราย

        INDIBA ใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งนานหรือไม่

        • ระยะเวลาในการทำในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับแต่ละปัญหาในการเข้ามาใช้บริการ และบริเวณที่ทำการรักษา โดยปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 60 นาที

        เว้นระยะเวลาในการทำแต่ละบริเวณนานเท่าไร

        • ในแต่ละบริเวณควรเว้นระยะเวลาในการทำประมาณ 30 วัน ในแต่ละบริเวณ โดยสามารถทำในบริเวณอื่นได้หากยังไม่ครบ 30 วันโดยไม่ส่งผลให้มีอันตราย

        เป็นแผลเป็นจากการผ่าคลอด สามารถทำ INDIBA ได้ไหม

        • สามารถทำได้ เนื่องจาก INDIBA สามารถใช้แก้ปัญหาแผลเป็นได้ และสตรีที่อยู่ในช่วงหลังคลอดไม่ได้เป็นระยะที่ต้องห้ามในการทำ แต่ควรให้แผลหายดีก่อนทำการรักษา

        เป็นแผลสด สามารถทำการรักษาด้วย INDIBA ในบริเวณข้างเคียงได้หรือไม่

        • ได้ เนื่องจาก INDIBA เป็นโปรแกรมที่ไม่ส่งผลต่อผิวหนังหรือเนื้อเยื่อที่อยู่ในบริเวณข้างเคียง และแพทย์จะต้องทำการประเมินการรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีแผลเพื่อความปลอดภัย

        ไขมันที่ทำการสลายโดย INDIBA จะขับออกทางไหน ตกค้างในร่างกายหรือไม่

        • ไขมันที่ทำการสลายโดย INDIBA จะขับออกทางของเหลวในร่างกายเช่น เหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำเหลือง โดยไม่ตกค้างและไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายทั้งทางตรง และทางอ้อม

        หลังทำการสลายไขมันด้วย INDIBA ไขมันจะสามารถกลับมาได้อีกหรือไม่

        • ได้ โดยไขมันที่จะกลับมาสู่ร่างกายจะเป็นไขมันที่ร่างกายได้รับเข้าไปใหม่ เช่นหลังทำกินของมัน ของทอด ก็จะทำให้ร่างกายเกิดการสะสมของไขมันได้อีกครั้ง ดังนั้นเมื่อทำ INDIBA เพื่อลดและสลายไขมันแล้ว ควรควบคุมอาหาร และหลีกเลี่ยงไขมันควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันการสะสมใหม่ของไขมัน

        การทำ INDIBA ที่อวัยวะเพศ เป็นการสอดเข้าในอวัยวะเพศจะมีความร้อน และส่งอันตรายต่ออวัยวะเพศและช่องคลอดหรือไม่

        • ไม่ร้อน โดยแท่งดังกล่าวจะทำงานโดยการส่งคลื่น ผู้เข้ารับบริการจะมีความรู้สึกอุ่นๆเพียงเท่านั้น โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

        INDIBA ต้องทำกี่ครั้ง

        • แต่ละบริเวณและปัญหาจะใช้จำนวนครั้งในการทำที่ไม่เท่ากัน หากได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้วสามารถหยุดทำได้ แต่ INDIBA เป็นโปรแกรมที่ไม่อันตรายหากทำหลายครั้ง

        ดังที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า INDIBA สามารถทำได้ทุกส่วนในร่างกาย และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะมีปัญหาส่วนใด INDIBA ก็สามารถแก้ไขให้ได้เกือบทั้งหมด INDIBA  ทำได้ทุกเพศ และสามารถแก้ปัญหาได้แทบทุกช่วงวัย INDIBA  จึงเป็นเครื่องที่ได้รับความนิยมในตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย 

        อีกทั้ง INDIBA  ยังเป็นเครื่องที่ไม่ส่งผลถึงอันตราย แม้ในผู้ที่ไม่สามารถทำเครื่องอื่นๆได้ในบางโรค ก็สามารถทำ INDIBA ได้ ดังนั้นเมื่อมีปัญหาที่ต้องการได้รับการแก้ไข จึงไม่ต้องกังวล สามารเข้ามาปรึกษาแพทย์ประจำรมย์รวินท์คลินิกได้ทุกสาขา ถึงปัญหาที่มีความกังวลเพื่อวางแผน และประเมินการแก้ไขอย่างเหมาะสมกับร่างกายเพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่เป็นที่พึงพอใจที่สุด ปลอดภัยที่สุด และเหมาะสมกับร่างกายที่สุด หรือปรึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทาง https://bit.ly/RomrawinLINE

        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




          วันที่สะดวกในการติดต่อ




          เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

          CoolSculpting สลายไขมันคืออะไร ?

          COOLSCULPTING

          ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




            วันที่สะดวกในการติดต่อ




            เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

            BEFORE & AFTER

            Coolsculpting
            Coolsculpting

            ฆ่าเซลล์ไขมัน พร้อม สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting

            ด้วยวิถีชีวิตสมัยใหม่ในยุคที่การดูแลตัวเองทำได้ยากมากขึ้นเนื่องจากเวลาที่บีบกระชั้นชิดในแต่ละวันทั้งรถติดทั้งงานที่สามารถทำได้ทุกที ทุกเวลา อาหารอร่อยที่เพียงแต่เดินออกมาหน้าบ้านก็เรียงรายกันเยอะแยะมากมายทำให้การดูแลรูปร่างเป็นสิ่งที่ยากมากขึ้น

            ในทางกลับกันทุกสื่อโซเชียล ทุกคนกลับถ่ายรูปอวดหุ่นสวย ไม่ว่าจะเป็นใส่บิกินีในช่วงซัมเมอร์ใส่เสื้อผ้าตัวเล็กตามแฟชั่น ไม่ใช่แค่ดารานักแสดงเท่านั้น แต่เพื่อนในโซเชียลก็อวดหุ่นกันเหมือนกับว่าการดูแลรูปร่างในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องง่ายเสียอย่างนั้น ไม่ว่าจะแต่งรูปก็แล้ว รีทัชรูปก็แล้วแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำได้เนียนจนคนรอบข้างจับโป๊ะไม่ได้

            จะดีกว่าไหมหากเราสละเวลาเพียง 35 นาทีต่อครั้งก็สามารถมีรูปร่างที่ดีได้ จนคนอื่นอิจฉา แถมยังเป็นรูปร่างดีที่ไม่ทำร้ายร่างกายและไม่ทำลายสุขภาพเนื่องจากมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการดูแลทุกๆขั้นตอนอย่างการทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ CoolSculpting ที่รมย์รวินท์คลินิกนั่นเอง

            Coolsculpting กับ สลายไขมัน ด้วยความเย็น คืออะไร?

            Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบและคิดค้นมาเป็นอย่างดีโดยการใช้หลักการฆ่าไขมัน และสลายไขมันด้วยการใช้ความเย็นในการแทรกซึมสู่ชั้นผิวไปแทนที่ความร้อนที่ร่างกาย เพื่อให้เกิดการแปรเปลี่ยนสภาพของเซลล์ไขมันที่แทรกสะสมอยู่ในชั้นผิวให้เปลี่ยนสภาพเป็นผลึกน้ำแข็งจากการใช้ความเย็นเพื่อฟรีซไขมัน จากนั้นไขมันที่ถูกฟรีซก็จะค่อยๆสลายออกตามระบบกลไกของร่างกาย และเมื่อไขมันดังกล่าวสลายออกไปแล้ว ร่างกายก็จะมีการสั่งงานให้มีการจัดเรียงเซลล์ขึ้นใหม่ หรือเรียกอีกอย่างว่ากระบวนการนี้คือกระบวนการฆ่าไขมันนั่นเอง

            การสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสลายและฆ่าไขมันในร่างกายแต่ไม่มีเวลาหรือทำมาหลายวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่ลดเนื่องจากเป็นวิธีที่ทันสมัยและเป็นวิธีที่ร่างกายไม่ดื้อถึงแม้จะทำนานหรือบ่อยแค่ไหนก็ตาม ด้วยการใช้ Applicator ในการรักษาพร้อมกันถึง 2 จุดเพื่อเพิ่มพลังการฆ่าเซลล์ไขมันด้วยความเย็นแบบคูณ 2 ทั้งประหยัดเวลา และยังช่วยในการสลายไขมันได้อย่างรวดเร็วกว่าโปรแกรมสลายไขมันประเภทอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นโปรแกรมที่มีความปลอดภัย มีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.มีการทำการวิจัยระดับโลกเพื่อเก็บตัวอย่างการรักษาของการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting  มากกว่า 20 ฉบับ

            CoolSculpting

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting มีหลักการทำงานอย่างไร ?

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ทำงานกับไขมันโดยวิธีการส่งความเย็นที่อยู่ในระดับขั้นสูงถึงจุดเยือกแข็ง เป็นความเย็นตั้งแต่อุณหภูมิ -11 ไปจนถึงอุณหภูมิ -13 °C (องศาเซลเซียส) ผ่านชั้นผิวหนัง เพื่อเข้าไปช่วยในการฟรีซไขมันซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการฆ่าและสลายไขมัน ที่สะสมอยู่ทั่วทั้งเรือนร่าง โดยหลักการที่ว่าคือปกติของเซลล์ไขมันจะเป็นเซลล์ที่มีความอ่อนไหวสูง อีกทั้งเซลล์ไขมันยังเป็นสิ่งที่ไม่ทนต่อระดับความเย็นในระดับที่สูงมากๆ เมื่อเซลล์ไขมันถูกความเย็นในระดับที่มีอุณหภูมิติดลบทำการแทรกตัวเข้าไปภายในเซลล์ไขมันในระดับที่มีความสูงถึง -11 ถึง -13 °C (องศาเซลเซียส) เซลล์ไขมันดังกล่าวกลายเป็นเหมือนเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า Apoptosis หรือจัดเป็นภาวะการตายของเซลล์จากการถูกแช่แข็ง ที่เรียกกันว่าการฟรีซนั่นเอง ลักษณะนี้เป็นเหมือนการถูกฆ่าเซลล์ไขมัน โดยเซลล์ที่โดนความเย็นนั้นจะค่อยๆตายและสลายตัวไปเรื่อยๆ ซึ่งการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting จะทำการสลายหรือฆ่าเพียงแค่เซลล์ไขมันเท่านั้น จะไม่ทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่ออื่นๆที่อยู่ในบริเวณเดียวกันและบริเวณข้างเคียง

            กลไกการขับไขมันของการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ?

            เมื่อการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ CoolSculpting ได้ทำการฆ่าไขมัน และสลายไขมันแล้ว ร่างกายจะมีกระบวนการกำจัดไขมันตามกลไกธรรมชาติ และขับออกมาในรูปแบบของเสียในร่างกายอาทิปัสสาวะ อุจจาระ โดยไม่ส่งผลให้ระบบขับถ่ายมีความปกติและไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย

            ระดับความเย็นของการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อส่วนอื่นๆในร่างกายหรือไม่?

            ระดับความเย็นจากการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting  เป็นระดับความเย็นที่ผ่านการวิจัยมาเป็นอย่างดีแล้วว่าทำการฆ่าไขมัน และสลายไขมันได้ แต่ไม่ทำอันตรายต่อผิวหนัง โดยไม่ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำและบริเวณโดยรอบตาย  จึงสามารถมั่นใจได้ว่าในการรักษาปลอดภัยอย่างแน่นอน

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ต่างจาก เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นตัวอื่นอย่างไร ?

              • Coolsculpting ได้การรับรองมาตรฐานจาก US FDA ได้เครื่องเดียว
              • Coolsculpting มีงานวิจัยรับรองผลการรักษาและวิธีการรักษา
              • Coolsculpting สามารถสลายเซลล์ไขมัน ได้มากกว่า
              • Coolsculpting มีความเสถียรเป็นอย่างมากทั้งตัวเครื่องและ Applicator
            CoolSculpting

            ข้อดีของการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting คืออะไร?

            การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting นั้นสามารถเห็นผลลัพธ์ในการรักษาได้ทันทีหลังทำ และยังสามารถลดลงได้เรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเข้ารับบริการจนครบครอส

            โดยในการทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ครั้งแรกนั้นจะเห็นผลถึง 27-31% โดยประมาณ

            ผลข้างเคียงการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting คืออะไร ?

            การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่ไม่มีผลข้างเคียงและไม่มีอันตราย จะมีเพียงอาการเหล่านี้เท่านั้น

            • อาจมีผิวบวม ช้ำ และแดง หลังจากทำ
            • อาจจะยังรู้สึกเสียวแปลบที่ผิวหลังจากทำ
            • อาจมีอาการผิวซีดชั่วขณะในระหว่างที่ทำ
            • อาจมีผิวที่มีก้อนแข็งจากการดูดของหัว Applicator
            • อาจมีอาการกดเจ็บที่ผิวหนัง หลังจากตอนทำ
            • อาจเกิดอาการเป็นตะคริวหลังทำ
            • อาจรู้สึกคันหรือแสบผิว
            • อาจมีรู้สึกตึงผิว

            โดยอาการเหล่านี้เป็นอาการเพียงชั่วคราวหลังทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เท่านั้น โดยอาการดังกล่าวสามารถหายได้เองและไม่ก่อให้เกิดอันตรายตามมา

            CoolSculpting

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting สามารถทำส่วนใดได้บ้าง?

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “Bra Fat ด้านหลัง”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ต้นแขน”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “นมน้อยหรือหน้าอกผู้ชาย”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ใต้แขน”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “หน้าท้อง”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “เอว”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ห่วงยางรอบเอว”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ต้นขาด้านใน”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ต้นขาด้านนอก”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “เหนือหัวเข่า”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “แก้มก้น”

            Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ไขมันใต้ก้น หรือ Banana roll”

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เหมาะกับใครบ้าง ?

            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างที่ดีอยู่แล้วแต่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุด 
            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายแล้วยังมีไขมันที่สะสมตามอวัยวะต่าง 
            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ลดไขมันยาก 
            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างที่ได้สัดส่วน 
            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการความลีน 
            • Coolsculpting เหมาะกับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการกลับไปรูปร่างเท่าตอนก่อนท้อง 
            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการสลายไขมันอย่างยั่งยืน 
            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย 
            • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง 

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ไม่เหมาะกับใคร ?

            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคแพ้ความเย็น อาทิผู้ที่เป็นลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมีอาการเลือดแข็งตัวผิดปกติ
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงอยู่ในช่วงระหว่างเป็นประจำเดือน
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับการผ่าตัดในระยะไม่ เกิน 6 เดือน
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไส้เลื่อน
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับเป็นผู้ป่วยที่พึ่งทำการผ่าตัดในบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน
            • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ติดอุปกรณ์การแพทย์ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ เป็นต้น

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ใช้ระยะเวลาในการทำต่อครั้ง นานเท่าไร ?

            การสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ต่อ 1 บริเวณที่ทำการสลายไขมัน นั้น จะมีหน่วยคำนวณเป็นไซเคิล (Cycle) สามารถกำจัดไขมันได้ครั้งละประมาณ 60-70 % ในการทำ และใช้เวลาในการทำต่อครั้งและต่อ Cycle เพียง 35 นาที เท่านั้นหากใช้ทั้ง 2 Applicator ก็จะเป็นการฆ่าไขมันและ สลายไขมัน ได้แบบคูณ 2 ซึ่ง เพียงพอต่อการฆ่าไขมันแล้วทั้งยังมีเอกสารงานวิจัยรองรับว่าระยะเวลา 35 นาทีที่กำหนดนี้เป็นระยะเวลาที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการฆ่าไขมันให้ตายและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย

            สลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

            สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ในแต่ละครั้ง จะสังเกตเห็นได้ว่า รูปร่างและสัดส่วนของผู้เข้ารับบริการจะลดลงได้ภายใน 3 – 4 สัปดาห์ และจะเริ่มเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 3 เดือน ทั้งนี้หากเข้ารับบริการไปแล้ว ควรกลับมาทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ในการรักษา ขั้นต่ำ 4 ครั้งต่อ 1 หลังจากนั้นสามารถกลับมา ทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ได้ในระยะเวลาที่ห่างขึ้นคือ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในผลลัพธ์การรักษา

            Coolsculpting

            การเตรียมตัวก่อนทำการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting มีอะไรบ้าง?

            การทำ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่สบายๆ สามารถเข้ามาทำการรักษาได้เลยโดยไม่ต้องเตรียมตัวอะไรก่อน

            Coolsculpting กับขั้นตอนในการสลายไขมัน ด้วยความเย็นมีอะไรบ้าง ?

            1. ปรึกษาแพทย์ในบริเวณสัดส่วนที่ต้องการจะลดและแจ้งความกังวลเกี่ยวกับสัดส่วน เพื่อให้แพทย์พิจารณาและวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง
            2. ผู้ช่วยแพทย์จะทำการชั่งน้ำหนัก และวัดสัดส่วน เพื่อเก็บข้อมูลก่อนทำ
            3. ผู้เข้ารับบริการจะต้องเปลี่ยนชุด รวมทั้งถ่ายภาพสัดส่วนที่ทำการรักษาก่อนเข้ารับบริการ
            4. ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิวเพื่อความสะอาด
            5. ทำเครื่องหมายเพื่อความแม่นยำในการติด Applicator
            6. ติด Applicator  อย่างแม่นยำ
            7. จากนั้นทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting

            ผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกท่าทาง ที่ผ่อนคลายที่สุดในระหว่างที่ทำ เนื่องจากต้องใช้เวลาถึง 35 นาที อาจให้พนักงานแนะนำท่าที่เหมาะสมได้ ในระหว่างที่ทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting อยู่นั้นสามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ตามปกติ

            Coolsculpting

            ความรู้สึกขณะทำการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting

            ความรู้สึกขณะทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting จะมีความรู้สึกเย็นบนผิวแต่เป็นความเย็นที่สามารถทนได้ ผู้เข้ารับการรักษาสามารถแจ้งความต้องการและความกังวลต่อแพทย์ในขณะที่ทำการติด Applicator ได้ นอกจากความเย็นแล้วจะรู้สึกเหมือนผิวหนังถูกดูดบริเวณที่ติด  Applicator ด้วยแต่เป็นการถูกดูดที่ไม่เจ็บ ในทางกลับกันยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

            สำหรับความเย็นที่ออกมาจาก Coolsculpting  ลงผ่านผิวหนังนั้นเป็นพลังงานความเย็นที่ ผ่านการควบคุมเป็นอย่างดี และค่อยส่งผ่านผิวหนังลงไปสู่ไขมัน บริเวณต่างๆในร่างกายเพื่อให้ไขมันแข็งตัว

            Coolsculpting

            เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับ โปรแกรมสลายไขมัน

            โปรแกรมสลายไขมันเป็นการฉีดตัวยาบางชนิดที่มีประสิทธิภาพในการสลายไขมัน โดยอาจเป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติหรือเป็นสารสังเคราะห์ โดยการฉีดลงสู่ชั้นไขมันเพื่อให้ตัวยาดังกล่าวเข้าไปทำหน้าที่สลายไขมัน ผลลัพธ์ในการทำก็คือบริเวณที่ทำการสลายไขมันโดยบางตัวยาจะช่วยทั้งลดขนาดและกระชับผิวหนังไปในตัว แต่บางตัวยาจะช่วยเพียงลดไขมันอย่างเดียว ไม่ช่วยในการกระชับผิว อีกทั้งในท่านคนที่ทำไปอาจมีอาการเขียวช้ำ หลังทำอันเนื่องมาจากเข็มอีกด้วย ทั้งนี้ก่อนทำจะต้องหาข้อมูลให้ดีเพื่อไม่ให้บริเวณที่ทำการสลายไขมันไปเกิดการหย่อนคล้อยหลังจากทำ

            โปรแกรม สลายไขมัน สามารถทำได้แทบจะครบทุกบริเวณในร่างกายที่มีไขมันสะสม อาทิเหนียงใต้คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้องเอว สะโพก หรือบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินอื่นๆ แต่บริเวณที่เป็นที่นิยมมากที่สุดจะเป็นบริเวณใบหน้าอย่างเหนียง แก้ม นั่นเอง

            ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรมสลายไขมันจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังจากทำไปประมาณ 1สัปดาห์ สามารถเห็นผลอย่างชัดเจนประมาณ 1 เดือน และสามารถคงสภาพผลลัพธ์หลังการทำได้ 5-6 เดือนโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารของผู้เข้ารับบริการด้วยว่ารับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือไม่ รับประทานของหวานมากหรือไม่ หากรับประทานของมัน ของทอดก็จะทำให้เกิดไขมันสะสมกลับมาได้เร็วมากขึ้น และทำให้ต้องกลับมาทำการสลายไขมันในระยะเวลาที่เร็วขึ้น

            เป็นโปรแกรมที่สามารถเห็นผลได้ในระยะเวลา 1 เดือนและจะลดลงเรื่อยๆหลังทำอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานโดยไม่โย่โย และไม่อันตรายทั้งนี้หลังจากทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ควรลดการรับประทานของทอดและอาหารมันเพื่อป้องกันการสะสมใหม่ของไขมัน

            เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับ Carboxy Therapy

            Carboxy Therapy เป็นการลดไขมันโดยการฉีดก๊าซ Carbon dioxide (CO2)  วิธีการคือใช้ก๊าซดังกล่าว ต่อกับเข็มฉีดยา จากนั้นทำการเจาะผิวและฉีดก๊าซลงไปที่บริเวณใต้ผิวหนังเพื่อให้เกิดกระบวนการ Oxidative Lipolysis หรือเพื่อให้เกิดกระบวนการสลายไขมันที่สะสมอยู่ภายใต้ผิว รวมทั้งลดขนาดของไขมัน ทำให้ ช่วยลดขนาดรูปร่างสัดส่วนมีความกระชับ ลดรอยแตกลายจากไขมันและลดผิวเปลือกส้ม อันเป็นสาเหตุของผิวเป็นคลื่น ขรุขระไม่เรียบเนียน ทำให้กลับมาสวยงามเรียบเนียนอีกครั้ง ระหว่างทำอาจมีความเจ็บจากการเจาะผิวและฉีดก๊าซ

            Caboxy Therapy เป็นโปรแกรมที่จะเป็นจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกๆ 1-2 สัปดาห์ และต้องทำให้ครบ 5-10 ครั้ง ถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง และเมื่อทำครบจะสามารถลดปริมาณไขมันได้ 30% โดยประมาณ  ในขณะที่การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting นั้นหลังจากเข้ารับบริการในครั้งแรกก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเห็นได้ชัด และจะยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อครบระยะเวลา 3 เดือนอีกทั้งยังสามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้นานหากทำการควบคุมอาหารควบคู่

            เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับเครื่องนวดยกกระชับสัดส่วน

            เครื่องนวดกระชับสัดส่วน ที่ดีนั้นจะต้องเป็นเครื่องที่ได้มาตรฐานและผ่านงานวิจัยและทดสอบทางการแพทย์ รวมทั้งเครื่องนวดกระชับสัดส่วนจะถูกจัดกลุ่มให้เป็นเครื่องมีแพทย์ที่มีการควบคุมเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วสถาบันที่มีการให้บริการเครื่องนวดกระชับสัดส่วนจะไม่มีเอกสารดังกล่าว ไม่มีการดูแลและกำกับการรักษาจากแพทย์ รวมทั้งยังไม่มีการจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบคลินิกเวชกรรม จึงจัดเป็นสถานบริการในการกระชับรูปร่างที่ไม่ได้มาตรฐานเนื่องจากไม่มีเครื่องมือแพทย์นั่นเอง

            สถาบันดังกล่าวจึงเป็นสถาบันที่จะใช้การนวดในลักษณะที่เป็นเพียงการนวด ร้อน-เย็น ในรูปแบบพลังงานต่ำหรือพลังงานอ่อน โดยการนวดในลักษณะนี้เป็นการนวดในลักษณะที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ในระยะยาวเนื่องจากเป็นเพียงการนวดเพื่อรีดน้ำในร่างกายที่สะสมออกจนทำให้ร่างกายบวมออกนั่นเอง โดยวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราว เพียงแค่ 3-7วันเท่านั้นไม่ได้เป็นผลลัพธ์ถาวร แม้จะทำการคุมอาหารควบคู่กันไปก็ตาม

            ในขณะที่การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting จะทำการกำจัดไขมัน โดยการฆ่าไขมันและสลายไขมันออกไปจากร่างกายไม่ใช่เพียงแต่การรีดน้ำเท่านั้น จึงทำให้มีผลลัพธ์ในการรักษาที่ถาวร

            เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับการออกกำลังกาย

            การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่เราทุกคนล้วนแล้วแต่ทราบกันดีว่าสามารถใช้ในการลดความอ้วนหรือลดสัดส่วนได้แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้ เนื่องจากในบางคนไม่มีเวลาที่มากพอ หรือบางคนไม่มีพื้นที่ในการออกกำลังกายเฉพาะสัดส่วนที่ต้องการเป็นต้น

            โดยการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่สามารถทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายได้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ หรือหากใครที่ไม่สะดวกที่จะออกกำลังกาย เนื่องจากไม่มีเวลาการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เนื่องจากใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งเพียงแค่ 35 นาที เหมาะแก่ผู้ที่ไม่มีเวลาว่าหรือสามารถทำงานในโทรศัพท์มือถือควบคู่กันไปได้ด้วย นับเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับผู้ที่ไม่มีเวลาว่างอีกด้วย

            รมย์รวินท์คลินิกผู้นำด้านความงามอย่างครบวงจรมีประสบการณ์มากมายในการดูแลรูปร่างและสลายไขมัน มีแพทย์ในการดูแลและควบคุมในทุกขั้นตอน ทั้งยังมี Specialist ในการดูแลรูปร่างโดยเฉพาะจึงทำให้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านมีความเชื่อถือได้ว่าทุกการให้บริการเป็นการบริการที่ได้มาตรฐาน โดยผู้ที่มีความรู้และได้รับการอบรมในตัวโปรแกรมมาอย่างถูกต้องตามหลักการและปฏิบัติทั้งยังมีสาขาไว้รองรับทั่วทั้งประเทศไทย พร้อมให้ความสะดวกสบายแก่ผู้เข้ารับบริการทุกท่าน

            ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




              วันที่สะดวกในการติดต่อ




              เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

              10 เคล็ดลับเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้สาวๆ เร่งสลายไขมัน

              134

              การที่จู่ๆ คนเราจะลุกขึ้นมาตั้งใจทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้น  ย่อมจะต้องมี Inspiration หรือแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้  โดยเฉพาะหนึ่งในเป้าหมายที่คุณสาวๆ อยากพิชิตมันให้ได้ นั่นก็คือ เรื่องของการลดน้ำหนัก สลายไขมันกวนใจให้หายสิ้นซาก แต่จนแล้วจนรอดสาวๆ ทั้งหลายก็ยังคว้าน้ำเหลวไปไม่ถึงฝันสักที นั่นก็เป็นเพราะว่าไม่มีสิ่งกระตุ้นเตือนให้รู้สึกอยากลดน้ำหนัก หรือจะเพราะความขี้เกียจก็แล้วแต่ เอาเป็นว่า เรามาลองเริ่มต้นหาแรงบันดาลในใจการลดน้ำหนัก สลายไขมันใหม่กันอีกซักตั้ง กับ 10 เคล็ดลับเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้สาวๆ อึดอีกเฮือก เพื่อลดหุ่น สลายไขมันได้ถึงฝั่งฝันแบบที่ต้องการค่ะ

              1. สร้างจินตนาการเกี่ยวกับรูปร่างของคุณ ให้คุณสาวๆ ลองส่องกระจกเพื่อสำรวจรูปร่างของตนเองค่ะ ดูซิว่ามีไขมันส่วนเกินบริเวณไหนบ้างที่เราอยากกำจัดสลายไขมันออกไป หากยังนึกไม่ออกให้ลองวิธีนี้ค่ะ  ถ้าพุงใหญ่ให้เขม่วท้องแบบสุดๆ  ถ้าบริเวณปีกสะโพกหนาให้ใช้สองมือบังบริเวณปีกสะโพก  หรือถ้าต้นแขนใหญ่ให้กางแขนออกแล้วใช้มือบังบริเวณส่วนที่ห้อยย้อยของท่อนแขนบน แล้วลองจินตนาการว่า หากสลายไขมันส่วนนี้ออกไปรูปร่างของคุณจะเป๊ะปังขนาดไหน แนะนำว่าให้คุณส่องกระจำแล้วทำแบบนี้ทุกสัปดาห์นะคะ สิ่งเหล่านี้จะแสดงผลในเชิงบวกและจะกระตุ้นต่อสมองของคุณ ให้มีความพยายามอยากลดน้ำหนัก สลายไขมันมากขึ้นได้ค่ะ

              2. เขียนเป้าหมายตัวโตๆ ให้คุณเห็นได้ชัดเจน วิธีนี้เป็นการกระตุ้นตัวเราอยู่ตลอดเวลา ว่าต้องสลายไขมันออกไปให้ได้ โดยการเขียนเป้าหมายของคุณตัวโตๆ ลงกระดาษแล้วแปะเอาไว้บริเวณที่คุณสามารถมองเห็นได้ง่าย  เช่น โต๊ะทำงาน ข้างฝนังเตียง หรือเขียนลงบล็อคส่วนตัว เพื่อติดตามผลงานของตนเอง โดยถ่ายรูปและจดบันทึกความเปลี่ยนแปลงทั้งน้ำหนักและรูปร่างเอาไว้เสมอ สิ่งนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้คุณไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการลดน้ำหนัก สลายไขมันไปเสียก่อนค่ะ

              shutterstock 211479040

              3. ตั้งเป้าหมายการลดน้ำหนัก ค่อยๆ เริ่มที่ละน้อย สำหรับคุณสาวๆ ที่มีความอดทนไม่สูงต่อการลดน้ำหนัก สลายไขมันลองใช้วิธีนี้ดูนะคะ โดยการตั้งเป้าลดน้ำหนักแบบน้อยๆ ดูก่อน เช่น ใน 1 เดือน ควรลดให้ได้ 1-2 กิโลฯ ก็ควรพอใจแล้ว อย่าตั้งเป้าไปที่ 10-20 กิโลฯ เพราะอาจจะมากไปจนเป็นผลเสียกับร่างกายแล้ว ยังทำให้คุณรู้สึกท้อถอยและเบื่อหน่ายไม่อยากลด หรือสลายไขมันได้ค่ะ หลังจากนั้นเมื่อคุณทำได้ แล้วจึงค่อยเพิ่มเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นไปอีกนิดโดยที่คุณไม่ได้รู้สึกซีเรียสอะไร แล้วคุณจะสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ค่ะ

              4. อยู่ให้ห่างจากคนที่จะทำให้คุณหลุดเป้าหมายการลดน้ำหนัก  สาวๆ ต้องฝึกตนเองให้เป็นคนใจแข็งเข้าไว้ค่ะ เช่น ปฏิเสธเพื่อนที่ชอบพาคุณไปสังสรรค์หลังเลิกงาน หรือพยายามอยู่ให้ห่างจากเพื่อนสายโซ้ยแหลก แล้วคุณควรหากลุ่มเป้าหมายให้เหมือนกันกับคุณในเรื่องของการลดน้ำหนักสลายไขมัน หรือลองหาเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ จากกิจกรรมการออกกำลังกาย เช่น กลุ่มนักปั่นจักรยาน กลุ่มวิ่งมาราธอน หรือกลุ่มคนเล่นฟิตเนส เมื่อมีเพื่อนเราจะรู้สึกสนุกกับกิจกรรมนี้มากขึ้น และยังได้สังคมใหม่ๆ อีกด้วยนะ

              shutterstock 1112101457

              5. หา Idol สร้างแรงบันดาลใจสลายไขมัน Idol ในที่นี้ จะเป็นดารา นางแบบ นักร้อง หรือจะเป็นคนที่คุณรู้จักคุ้นเคยก็ได้ทั้งนั้นค่ะ ลองทำตัวเป็นติ่งของคนเหล่านั้นดู แล้วเข้าไปส่องใน IG หรือใน Facebook ว่าในแต่ละวัน เขาใช้ชีวิตกิน อยู่ ออกกำลังกายกันแบบไหนถึงมีรูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์มได้ขนาดนั้น จากนั้นให้คุณลองปรับวิธีการกิน อยู่ ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวของคุณ และที่สำคัญอย่าลืมถ่ายรูปหุ่นของตนเองเอาไว้เทียบกับ Idol นะคะ จะได้มีแรงฮึดในการสลายไขมัน ฟิตหุ่นให้สวยเหมือน Idol ที่คุณชอบค่ะ

              6. สลายไขมันเพื่อให้เธอหันมา สาวๆ คะ ตอนนี้กำลังแอบปิ๊งใครอยู่รึเปล่าเอ่ย ประมาณว่ารักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง … ถ้าคิดว่าน้ำหนักของคุณคืออุปสรรคของรักครั้งนี้ ลองเปลี่ยนอุปสรรคมาเป็นพลังบวกแล้วเริ่มต้นลดน้ำหนักสลายไขมันอย่างเอาจริงเอาจังดีกว่าค่ะ เพราะนอกจากรูปร่างคุณเพอร์เฟคขึ้นแล้ว ไม่แน่เขาอาจกำลังปิ๊งคุณอยู่ก็ได้นะเออ…

              7. ติดพนันบ้าง แต่เกี่ยวกับเรื่องลดน้ำหนักเท่านั้นนะ การพนันในที่นี้ หมายถึงพนันเพื่อแข่งกันลดน้ำหนักสลายไขมันเท่านั้นนะคะ!  จะแข่งกันแค่ 2 คน หรือชักชวนแข่งกันเป็นกลุ่มก็ตามแต่ อาจมีติดปลายนวมเล็กน้อยเพื่อเพิ่มดีกรีความสนุก คนแพ้จะเลี้ยงน้ำเลี้ยงขนมก็ว่ากันไป วิธีสลายไขมันนี้ค่อนข้างได้ผลดีนะคะ เพราะมีแรงจูงใจให้คุณรู้สึกต้องเอาจริงเอาจังในการลดน้ำหนัก แหม… ก็แน่ล่ะ ของฟรีใครๆ ก็ชอบจริงไหมคะ…

              8. ซื้อชุดที่คุณอยากใส่แต่ใส่ไม่ได้ เช่น คุณเคยเล็งชุดนี้เอาไว้นานแล้ว แต่ไม่สามารถใส่ได้เพราะติดที่รูปร่าง ต่อไปนี้อย่าได้แคร์ค่ะ ซื้อเลยค่ะสาวๆ เจ้าเนื้อทั้งหลาย แล้วตั้งปณิธานเอาไว้ว่าเราจะต้องใส่ชุดนี้ให้ได้ เป็นวิธีการสลายไขมันที่มีเป้าหมายชัดเจน จะช่วยกระตุ้นความรู้สึกให้คุณอยากลดน้ำหนักสลายไขมันลงได้เป็นอย่างดีเชียวค่ะ

              9. ลองย้อนกลับไปดูรูปตนเองสมัยเอ๊ะๆ สิ อายุที่มากขึ้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญ สลายไขมันของร่างกายที่ลดน้อยลง และยิ่งแย่ไปกันใหญ่ถ้าคุณไม่ยอมออกกำลังกาย เพราะไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมันจะยิ่งพอกพูนน้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งั้นให้ลองวิธีนี้ดูค่ะ ให้คุณไปรื้ออัลบัมรูปภาพเก่าๆ สมัยคุณยังสาวๆ เอ๊ะๆ หรือเข้าไปในเพจส่วนตัวแล้วย้อนไปดูภาพของตนเองที่เคยโพสต์ไว้เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว เห็นไหมคะ ว่าคุณเคยมีเอวคอด แขนขาเรียวเล็ก รูปร่างสวยสมส่วนขนาดไหน จ้องรูปนั้นเอาไว้ลองสะกดจิตตนเองว่า เราต้องกลับไปหุ่นเป๊ะแบบเดิมให้ได้ เริ่มจากจดสถิติรอบเอวของคุณ แล้วเริ่มต้นลดน้ำหนักสลายไขมันอย่างจริงๆ จังๆ ไม่นานคุณจะกลับไปมีรูปร่างเหมือนตอน 14 อีกครั้งแน่นอนค่ะ

              shutterstock 1089858602

              10. ตระหนักถึงอันตรายของความอ้วนอยู่เสมอ ในปัจจุบัน เราจะพบเห็นได้บ่อยว่าสื่อต่างๆ พยายามรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการลดน้ำหนักสลายไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เนื่องจาก ความเสี่ยงของคนที่น้ำหนักตัวมากนั้น มีสูงกว่าคนน้ำหนักตัวปกติหลายเท่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ความเสี่ยงเรื่องโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง สำหรับสาวๆ ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งรังไข่ หรือโรคมะเร็งเต้านมขึ้นได้ เพราะฉะนั้น หากคุณสาวๆ ไม่อยากเกิดความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บที่กล่าวมาข้างต้น จึงควรตระหนักถึงความสำคัญของการลดน้ำหนักและสลายไขมันอยู่เสมอ เพื่อให้ห่างไกลจากโรคร้าย และมีรูปร่างสวยอยู่กับเราไปตลอดค่ะ

              อยากให้คุณสาวๆ ที่ปราถนาหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มลองเอาเคล็ดลับการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อเร่งสลายไขมันนี้ไปเลือกใช้กันดูนะคะ  ขอให้คุณมีความเชื่อมั่นว่าคุณทำได้ คุณทำได้ เมื่อคุณมีความเชื่อและมีแรงบันดาลใจที่ดีแล้ว ยอมได้ผลลัพธ์คือรูปร่างสวย และสุขภาพที่ดีตามมาค่ะ…