ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มร่องใต้ตา แก้ปัญหาตาคล้ำ รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดใต้ตา
ปัญหารอบดวงตาคล้ำ ขอบตาดำ เปรียบเหมือนหมีแพนด้า เป็นปัญหาที่ทำใครหลายคนหมดความมั่นใจ ซึ่งนอกจากปัญหาขอบตาดำคล้ำ ยังมีปัญหาอีกมากมาย เช่น ตาลึก ตาโบ๋ ริ้วรอยใต้ตา รวมไปถึงถุงใต้ตาเยอะ ปัญหาของบริเวณใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส และดูแก่ก่อนวัยอันควร
ในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้หลากหลายวิธี ซึ่งวิธีแก้ปัญหาแบบธรรมชาติที่สุด ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยให้บริเวณรอบดวงตาอิ่มฟู ริ้วรอยรอบดวงตาลดลง ใบหน้าดูสดใสขึ้น สำหรับใครที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และอยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่สงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไรบ้าง ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี บทความนี้มีคำตอบ
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) เข้าไปตรงบริเวณใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณใต้ตา เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น กระดูกจะเริ่มทรุดตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาดำคล้ำ ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ช่วยให้ใบหน้ากลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง
ปัญหาใต้ตามีอะไรบ้าง? เกิดจากสาเหตุอะไร
สาเหตุของปัญหาใต้ตาลึก ตาโบ๋ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และริ้วรอยร่องใต้ตา ปัญหาเหล่านี้มีเทคนิคในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ปัญหาถุงใต้ตา : เกิดจากถุงไขมันที่อยู่บริเวณใต้ดวงตา ลักษณะเป็นถุงนูนออกมาบริเวณขอบตาล่าง หรือมีอาการบวมปูดที่รอบดวงตาล่าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดได้กับทุกคน โดยในกรณีคนที่มีอายุน้อยมีถุงนูนออกมานอกบริเวณใต้ตา จะทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า และแก่กว่าวัย นอกจากนี้ปัญหาถุงใต้ตายังพบได้ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อีกด้วย
- ปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก : มีลักษณะเป็นร่องลึกรอบดวงตา กระดูกเบ้าตาใต้คิ้วลึกเป็นขอบชัดเจน ผิวหนังรอบดวงตาบุ๋ม ตาโบ๋ มีรอยดำคล้ำ เบ้าตาลึก ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ โทรม ไม่สดใส ซึ่งปัญหาเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม โรคภูมิแพ้ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ความเครียด พักผ่อนน้อย ฯลฯ เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียบุคลิกภาพ และหมดความมั่นใจได้
- ปัญหาริ้วรอยใต้ตา : ปัญหานี้เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือบริเวณใต้ตามีไขมันน้อย ทำให้ผิวแห้งจนเกิดริ้วรอยใต้ตา รวมไปทั้งพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ทำให้มีริ้วรอยเกิดขึ้นบริเวณรอบใต้ตา
- ปัญหาร่องใต้ตา : เกิดจากการที่บริเวณเปลือกตาด้านล่างลึกลงไป ทำให้เกิดร่องใต้ตา ซึ่งสาเหตุของปัญหานี้เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ขยี้ตาบ่อย กระดูกทรุดตัว กรรมพันธุ์ คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง มลภาวะและอากาศ รวมไปถึงไขมันบริเวณใต้ตาน้อย
- ปัญหาใต้ตาคล้ำ : เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ การไหลเวียนเลือดจะลดลง ไขมันใต้ผิวหนังสะสมน้อยลง หนังตาเริ่มมีความหย่อนคล้อย และผิวบางลง จนสามารถสังเกตเห็นภาวะไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ตา จึงเห็นขอบตาดำมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตำแหน่งไหนบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ผิวหนังชั้นตื้น สำหรับแก้ปัญหาใต้ตาที่ดำคล้ำ เพื่อให้กลับมากระจ่างใส และทำให้ผิวใต้ตาเต่งตึงขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผิวชั้นลึก สำหรับแก้ไขมันเบ้าตาเคลื่อนที่ เติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบริเวณร่องน้ำตาและเหนือดวงตา สำหรับแก้ปัญหาตาโหลบริเวณร่องน้ำตาและเหนือดวงตา เป็นการฉีดเสริมกระดูกเบ้าตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาร่องน้ำตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล ที่เกิดจากการสลายตัวของเนื้อเยื่อ และการทรุดตัวของกระดูกใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาลดขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำบริเวณใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรมและอ่อนล้า
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา รอยตีนกาที่เหี่ยวย่นบริเวณรอบดวงตาและใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาถุงไขมันใต้ตา ที่ทำให้มีปัญหาริ้วรอยและร่องใต้ตาที่ชัดเจนขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา บริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย ขอบตาดำคล้ำ ตาลึก ตาโหล
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับการแก้ปัญหาใต้ตา จากการทรุดตัวของกระดูกและเนื้อ
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้น
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตามาจากพันธุกรรม
ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับใคร
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้ยา สมุนไพร หรือวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินอี กระเทียม ขิง เป็นต้น
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ซึ่งจะทำให้เลือดหยุดยากและเกิดรอยช้ำง่าย
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะตาแห้งรุนแรง จำเป็นต้องหยอดน้ำตาเทียมก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากทำให้ระคายเคืองมากกว่าปกติและเสี่ยงเกิดการอักเสบได้
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่ผิวหนังบริเวณดวงตาอักเสบหรือติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเริมและงูสวัด
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา หรือแพ้กรดไฮยารูลอนิก
- ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่เกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ง่าย
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ไขเรื่องริ้วรอย และความหย่อนคล้อยใต้ตาได้อย่างเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มรอบดวงตาให้กลับมาอิ่มฟู สดใส ไม่หมองคล้ำ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำจากโรคภูมิแพ้ และจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่มีแผล เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีอาการบวม และมีรอยเข็มในจุดที่ฉีด โดยรอยเข็มจะสามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน
- ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่สามารถอยู่ถาวรได้ เนื้อของฟิลเลอร์จะสลายเองตามธรรมชาติ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจำเป็นต้องฉีดซ้ำอยู่เสมอ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี?
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Volifil Classic
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Volifil สัญชาติเกาหลี ผลิตโดยเทคโนโลยี HCCL™ TECHNOLOGY (Highly Completed Cross-Linking) เนื้อฟิลเลอร์เป็นชนิดโมเลกุลเดียว (Monophasic) มีลักษณะเนื้อเจลคงที่ ปั้นทรงง่าย มีความเนียนละมุน เกลี่ยง่าย ฟิลเลอร์รุ่นนี้เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยตื้นบริเวณดวงตาและรอยตีนกา อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Definisse Touch
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse Touch สัญชาติอิตาลี ผลิตโดยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณใต้ตาอย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Belotero Soft
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ผลิตโดยเทคโนโลยีพิเศษ CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ฟิลเลอร์มีลักษณะเนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็ก และมีความละเอียด กลืนกับผิวได้ง่าย มีส่วนผสมของยาชา เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยร่องตื้น ๆ รอบบริเวณดวงตา อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm สัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลก เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง ออกแบบมาให้มีส่วนผสมของยาชา มีเทคโนโลยีในการผลิต คือ Hylacross Technology และ Vycross Technology เน้นความเป็นธรรมชาติ
ซึ่งฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นที่ใช้คือ Juvederm Volbella ใช้เทคโนโลยี Vycross Technology เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดริ้วรอยชั้นตื้นบริเวณใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane สัญชาติสวีเดน เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่ใช้อย่างแพร่หลายมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดดเด่นเรื่องของเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะทั้ง 2 เทคโนโลยี คือ NASHA Techology และ OBT Technology โดยฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามี 3 รุ่นด้วยกัน Restylane Vital Light, Restylane Classic และ Restylane Lyft โดยทั้งหมดนี้ใช้เทคโนโลยี NASHA Techology โดยแตกต่างกัน ดังนี้
- Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเบา เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตา ผิวชั้นตื้น อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Restylane Classic ฟิลเลอร์เนื้อเจล เนื้อแน่น เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยปานกลางถึงมาก ช่วยเก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึก เช่น ใต้ตา อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง สามารถคงรูปได้ดีที่สุด เพราะสำหรับการฉีดเติมเต็มใต้ตา อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานการรับรอง เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ และประสบการณ์เรื่องของการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรศึกษาข้อมูลเรื่องของฟิลเลอร์โดยละเอียด และเลือกดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการ 24 ชั่วโมง
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดการรับประทานยา วิตามิน และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกาย คาร์ดิโอ ปั่นจักรยาน
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- แพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์ และประเมินโครงสร้างของใบหน้า และเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาใต้ตา เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เริ่มทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณรอบดวงตา และแปะยาชา
- แพทย์เริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและบริเวณรอบดวงตา โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 20-30 นาที
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุงผิว และโดนน้ำ บริเวณที่ทำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อและอาการบวมช้ำ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดออกกำลังกายหนักในช่วง 3 วันแรก
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การซาวน่า เลเซอร์ ตากแดด เป็นต้น
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อาการบวมรอบบริเวณดวงตาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ ควรประคบน้ำแข็งบ่อย ๆ เพื่อให้อาการบวมหายเร็วขึ้น
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีความรู้สึกตึงบริเวณดวงตา โดยจะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง
- บริเวณใต้ตาช้ำ เนื่องจากอาจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถูกเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังแตกจนเกิดรอยช้ำ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Romrawin ดีอย่างไร?
ปัจจัยสำคัญของการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งการพิจารณาเพื่อเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย พิจารณาได้ ดังนี้
- คลินิกได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความสะอาดและบริการดี มีเลขของใบอนุญาตชัดเจน
- แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ ใช้เทคนิคเฉพาะทางเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
- รมย์รวินท์คลินิกเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ FDA จากอเมริกา
- ปรึกษาฟรีทุกเคส ดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการแบบ 1:1 สามารถนัดหมายคิวหรือไปที่หน้าสาขา เพื่อเข้ารับการปรึกษาได้ตลอดระยะเวลาทำการ
- มีรีวิวจริงจากผู้ใช้บริการมากมายที่เชื่อถือได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับการปรึกษา หรือก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- มีช่องทางการติดต่อเพื่อปรึกษา หรือถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัตถการต่าง ๆ
- มีการนัดหมายและติดตามผลหลังการรักษาทุกเคส เพื่อแสดงถึงความใส่ใจ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับบริการ
เทียบฟิลเลอร์ใต้ตา กับ การแก้ไขด้วยหัตถการอื่น ๆ
ฟิลเลอร์ใต้ตา vs ฉีดโบ
ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือการฉีดโบริ้วรอยใต้ตา ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาที่เกิดขึ้น กรณีที่พบปัญหาเรื่องริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากไขมันลดลง กระดูกใต้ตาน้อยลง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเข้าไปเพื่อเติมเต็มผิวบริเวณนั้นให้เรียบเนียนอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีริ้วรอยจากการขยับของกล้ามเนื้อใบหน้าที่มากเกินไป จนเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบบริเวณดวงตาและริ้วรอยร่องลึก ควรรักษาด้วยการฉีดโบ เพราะการฉีดโบจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท ช่วยให้กล้ามเนื้อตรงบริเวณที่ฉีดใช้งานได้ลดน้อยลง ดังนั้นหากมีปัญหามาจากทั้ง 2 สาเหตุนี้ แนะนำว่าสามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาร่วมกับการฉีดโบได้ โดยต้องปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์ใต้ตา vs ฉีดไขมันใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการฉีดไขมันใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการที่เนื้อเยื่อและกระดูกทรุดตัว โดยทั้ง 2 หัตถการมีความแตกต่างกัน ดังนี้
ฟิลเลอร์ใต้ตา : ฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก แอซิด (HA) มีความปลอดภัยสูง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน เจ็บน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น โดยสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดใน 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์ไม่ถาวร ระยะเวลาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์
ฉีดไขมันใต้ตา : เป็นการใช้ไขมันตัวเอง โดยดูดไขมันออกมาจากบริเวณร่างกายเพื่อนำมาเติมเต็มใต้ตา ลดความเสี่ยงของการแพ้ แต่ข้อเสีย คือ คนไข้จะมีแผลในตำแหน่งที่ดูดไขมันเพื่อมาฉีดใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นานแต่อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง เนื่องจากส่วนมากมักจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
ซึ่งการแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถือว่าเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการฉีดไขมันใต้ตา เพราะการฉีดไขมันใต้ตาต้องมีความระมัดระวังในเรื่องของการฉีดเข้าหลอดเลือด การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในด้านของการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
คำถามพบบ่อยของฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระดับที่อดทนได้ โดยจะรู้สึกเจ็บในขณะที่กำลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาชา ทำให้ช่วยบรรเทาลดอาการเจ็บในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก ซึ่งมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นสารที่พบได้ในผิว โดยฟิลเลอร์นั้นสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการฉีดในตำแหน่งที่บอบบางที่สุด ดังนั้นแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจำเป็นต้องรู้เทคนิคการฉีด และตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยลง หรือลดความเสี่ยงที่จะตามมาในภายหลังได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะเริ่มประเมินจากโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ ก่อนจะทำการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ และเลือกปริมาณของการฉีดฟิลเลอร์ ว่าต้องใช้กี่ CC ในคนที่มีปัญหาใต้ตาทั่วไปจะใช้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาข้างละ 1-2 CC แต่ในคนที่มีปัญหากระดูกใต้ตาที่ทรุดตัวมากจนมีปัญหาใต้ตาลึก จะพิจารณาการฉีดฟิลเลอร์มาขึ้น โดยใช้ฟิลเลอร์ฉีดใต้ตาประมาณข้างละ 2-3 CC ทั้งนี้สามารถเห็นผลลัพธ์ของการรักษาที่ชัดเจน
ฉีดฟิลเลอร์ใช้ระยะพักฟื้นนานไหม?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ หากในกรณีบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีอาการบวมแดง แสบร้อน เจ็บปวด หลังจากพ้นช่วง 2 สัปดาห์ไปแล้ว ให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ โดยหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาประมาณ 4-5 วัน ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์และรุ่นที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในแต่ละบุคคล ทั้งนี้การเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว จะทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร?
- ใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด : จะเกิดขึ้นในกรณีที่แพทย์เลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นฉีดในผิวชั้นตื้น การเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีความบอบบางกว่าจุดอื่น ๆ เพราะฉะนั้นควรใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดสำหรับผิวชั้นตื้น เพื่อความเป็นธรรมชาติ
- ใช้ฟิลเลอร์ปลอม : การฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจากอย. อาจทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม แพ้ และฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อนได้อีกด้วย
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณที่มากเกินไป : การฉีดฟิลเลอร์ที่มากเกินไป ประมาณไม่เหมาะสมกับใต้ตา ทำให้ฟิลเลอร์มารวมกันเป็นก้อน
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผิดชั้นผิว : หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดปัญหาการฉีดแก้ไขปัญหาผิดจุด เช่น แก้ปัญหากระดูกทรุดด้วยการฉีดฟิลเลอร์ในผิวชั้นตื้น เป็นต้น
บทสรุป ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา แก้ปัญหาตาลึกจากกระดูกและเนื้อทรุดตัว แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย และยังช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำให้กลับมาสดใสอีกครั้ง ซึ่งการเลือกคลินิกสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรเลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐานและมีความปลอดภัยสูง มีแพทย์ที่ชำนาญในด้านของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ เพื่อผลลัพธ์ของความสวยแบบปลอดภัยในระยะยาว สำหรับใครที่กำลังสนใจต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ ได้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขาใกล้บ้านคุณ