Site icon Romrawin

ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด

ข้อดี-ข้อเสียของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด

ข้อดี-ข้อเสียของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด

ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง? รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด

เมื่อพูดถึงหัตถการเติมเต็มผิว พร้อมยกกระชับปรับรูปหน้า คงหนีไม่พ้น “การฉีดฟิลเลอร์” ซึ่งเป็นหัตถการความงามที่ได้ความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ มีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้า และเพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยสามารถนำมาฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ขมับ คาง ใต้ตา และริมฝีปาก แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และดูเป็นธรรมชาติ รวมถึง ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย แต่การฉีดฟิลเลอร์นั้น ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดเช่นกัน

 

บทความนี้ รมย์รวินท์คลินิกจะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการฉีดฟิลเลอร์ ตั้งแต่ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ ไปจนถึงข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ที่ควรระวัง เพื่อให้ได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนก่อนตัดสินใจทำการฉีดฟิลเลอร์ค่ะ

 

การฉีดฟิลเลอร์ มีข้อดีอะไร?

 

เจาะลึกข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม? อัปเดต 2025

การฉีดฟิลเลอร์ มีข้อดีอะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ นอกจากจะช่วยในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และยกกระชับปรับรูปหน้าแล้ว ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้การฉีดการฉีดฟิลเลอร์ ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

หนึ่งในข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ที่มีความโดดเด่น คือ สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้หลังฉีด โดยสาร Hyaluronic Acid (HA) จะเข้าไปเติมเต็ม เพิ่มปริมาตรให้ผิว และยกกระชับปรับรูปหน้าหลังฉีดเสร็จ ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า ผิวหน้ามีความอิ่มฟู ริ้วรอย ร่องลึกดูตื้นขึ้น รวมถึง ใบหน้าดูเข้ารูป มีสัดส่วนที่สมดุล

การฉีดฟิลเลอร์ โดยปกติแล้ว จะใช้เวลาในการฉีดไม่นาน ประมาณ 15 – 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ มีขั้นตอนในการฉีดที่ไม่ซับซ้อน และไม่ต้องผสมตัวยาก่อนฉีด จึงมีความสะดวกสบายในการใช้งาน ทำให้ใช้ระยะเวลาในการฉีดไม่นาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็ม หรือยกกระชับปรับรูปหน้า แต่มีเวลาจำกัด

เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ไม่เสี่ยงอันตราย เมื่อฉีดไปแล้ว สามารถย่อยสลายได้เองตามกระบวนการของร่างกาย โดยส่วนใหญ่ จะคงอยู่ได้นาน ประมาณ 6 – 18 เดือนหลังฉีด ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด ซึ่งจะไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในชั้นผิว จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง หรือปัญหาผิวอื่น ๆ ในอนาคต

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน หลังฉีดเสร็จสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งแตกต่างจากการผ่าตัดศัลยกรรมที่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นหลายวัน ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนานหลังฉีด

การฉีดฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) สามารถแก้ไขได้ง่าย หากยังไม่พอใจในผลลัพธ์ที่ได้ เช่น ต้องการฉีดเพิ่มเมื่อผลลัพธ์เริ่มลดลง หรือต้องการฉีดสลายออกก็สามารถทำได้ โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ ซึ่งการฉีดสลายการฉีดฟิลเลอร์นั้น จะใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ในการเข้าไปทำปฏิกิริยากับสาร HA ในฟิลเลอร์ โดยจะทำลายการยึดเกาะ และลดการอุ้มน้ำ จึงทำให้ฟิลเลอร์ค่อย ๆ สลายตัวไป จนผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถปรับแต่ง หรือฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ขมับ หน้าแก้ม ร่องแก้ม ใต้ตา คาง หรือริมฝีปาก ซึ่งการฉีดในแต่ละบริเวณจะใช้ปริมาณการฉีดฟิลเลอร์ และเทคนิคในการฉีดที่แตกต่างกันออกไป จึงสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้า หรือเพิ่มปริมาตรให้ผิวเฉพาะจุด

 

การฉีดฟิลเลอร์ มีข้อเสียอะไร?

 

การฉีดฟิลเลอร์ มีข้อเสียอะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ แม้จะมีข้อดีให้เห็นมากมาย แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนฉีดเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่ไม่มีความรู้ในการฉีด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ โดยข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ มีดังนี้

การฉีดฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) จะให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร โดยส่วนใหญ่ จะสามารถคงผลลัพธ์ได้ ประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเอง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป สาร HA ในการฉีดฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตัวไปเอง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ค่อย ๆ ยุบตัวลง จึงต้องมีการฉีดฟิลเลอร์ซ้ำเป็นประจำ เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ให้สวยงามในระยะยาว

 

การฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยง หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ การฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง หรือเลือกเนื้อของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายต่อใบหน้าได้ เช่น ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ใบหน้าผิดรูป หรือเสี่ยงต่อการอุดตันในเส้นเลือด จนถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว

การฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยง หากใช้ฟิลเลอร์ปลอมประเภทซิลิโคนเหลว หรือพาราฟินในการนำมาฉีดเข้าสู่ผิวหน้า ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปลอมนั้น ใช้สารที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ผ่านการรับรองจาก อย. และไม่สามารถย่อยสลายได้เอง จึงเกิดการตกค้างอยู่ในชั้นผิวแบบถาวร ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด เพื่อนำฟิลเลอร์ออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือนการฉีดฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA)

 

การฉีดฟิลเลอร์ มีข้อจำกัดอะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ มีข้อจำกัดสำหรับบุคคลในบางกลุ่ม ซึ่งหากฉีดการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ โดยผู้ที่ไม่เหมาะสำหรับการฉีดการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

ทั้งนี้ ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ และแจ้งประวัติสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ตั้งแต่ประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือประวัติการรักษาก่อนเข้ารับบริการ

 

รู้จัก การฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มกลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมา เพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติเด่นในการกักเก็บความชุ่มชื้น และอุ้มน้ำไว้ในชั้นผิว โดยการฉีดฟิลเลอร์นั้น ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ความงามมาอย่างยาวนาน เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลายรูปแบบ เช่น เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ยกกระชับปรับรูปหน้า รวมถึง เพิ่มปริมาตรให้ผิวในบริเวณที่ผิวหนังเสื่อมสภาพ หรือเกิดการยุบตัวลงตามวัย เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังผิวหนังแล้ว สาร HA จะเข้าไปเติมเต็มผิวหน้า ทำให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู และอ่อนเยาว์อย่างดูเป็นธรรมชาติ

 

ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?

 

ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้หลายบริเวณของใบหน้า เพื่อช่วยในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และยกกระชับปรับรูปหน้าให้มีสัดส่วนที่สมดุล โดยบริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

 

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีข้อดีอะไรบ้าง?

 

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป โดยข้อดี หรือจุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ที่ได้รับการรับรองจาก อย. มีดังนี้

 

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

 

ข้อควรระวังหลังทำการฉีดฟิลเลอร์

 

ข้อควรระวังหลังทำการฉีดฟิลเลอร์

 

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่ไม่เป็นอันตราย และสามารถหายได้เอง โดยหลังทำการฉีดฟิลเลอร์มีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ดังนี้

 

Q&A รวมคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

Q&A รวมคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเข้าที่?

 

หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรรับประทานอะไร?

หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรงด หรือหลีกเลี่ยงอาหารในบางประเภท เพื่อป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ หรือบวมช้ำหลังฉีด โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้

 

การฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม?

 

หลังทำการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร?

หลังทำการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากการฉีดฟิลเลอร์แท้ และการฉีดฟิลเลอร์ปลอม รวมถึง เทคนิคในการฉีดของแพทย์ที่ไม่ถูกต้อง โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย มีดังนี้

 

หลังทำการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน แก้ไขได้อย่างไร?

 

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลาย ๆ คนต่างให้ความสนใจ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และยกกระชับปรับรูปหน้า โดยที่ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องผ่าตัดหลังฉีด โดยข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์นอกจากจะเห็นผลลัพธ์หลังทำแล้ว ยังไม่เสี่ยงอันตราย ฉีดได้เกือบทุกบริเวณ และสามารถย่อยสลายได้ตามกระบวนการของร่างกาย รวมถึง แก้ไขได้ง่ายหากไม่พอใจ ดังนั้น สำหรับใครที่สนใจเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และยกกระชับปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้ศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ หรือสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่รมย์รวินท์คลินิก

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

Exit mobile version