ว่ากันว่า ผู้หญิงจะสวยหรือไม่สวยก็ดูกันที่คิ้วนี่แหละค่ะ มีสาวๆ จำนวนมากยอมลงทุนสักคิ้วถาวร 6 มิติ 7 มิติ เพราะอยากให้หน้าตัวเองดูเป๊ะปังตลอดเวลาไม่ว่าจะนอนหลับหรือเพิ่งตื่นนอนก็ต้องสวยไว้ก่อนเสมอ ซึ่งร้านที่ให้บริการสักคิ้วในปัจจุบันมีเยอะมากจนเราเองก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะไปทำที่ร้านไหนดี เพราะดูจากรีวิวแล้วก็แทบจะเหมือนกันหมด งานนี้ต้องวัดกันที่ฝีมือช่างแล้วล่ะค่ะ ถ้างานออกมาดี อันนี้ขอปรบมือรัวๆ แต่ถ้าทำออกมาแล้วไม่สวย คิ้วหนาเกินจนกลายเป็นหนูน้อยชินจัง คิ้วสูงเกินไป คิ้วตกเกินไป คราวนี้ล่ะ กลายเป็นปัญหาใหญ่ให้สาวๆ ต้องปวดกันไปถึงตับกันเลย สาวๆหลายคนต้องหาวิธีลบรอยสัก… เพราะรอยสักคิ้วมันจะอยู่กับคุณตลอดไป แต่… อย่าเพิ่งโวยวายไปค่ะ เพราะเรามีข้อมูลดีๆ มาแชร์เกี่ยวกับการลบรอยสักคิ้วแบบไม่ทิ้งรอยแผลซ้ำเติมบนใบหน้ามาฝากค่ะ
1. เขียนคิ้วลบรอยสัก
เป็นวิธีการลบรอยสักคิ้วแบบเอาตัวรอดชั่วครั้งชั่วคราว สำหรับสาวๆ ที่ต้องการปกปิดความผิดพลาดของรอยสัก ลองนำวิธีการเขียนคิ้วเพื่อลบรอยสักนี้ไปใช้ได้นะคะ
- ลงคอนซีลเลอร์ทับรอยสัก จะเลือกใช้แบบครีมหรือแบบน้ำก็ได้ค่ะ เพื่อกลบทับรอยสักคิ้วเดิมที่เราไม่ชอบให้หายไป แต่สาวๆ ที่ใช้วิธีลบรอยสักคิ้วแบบนี้ต้องพึงระวังมากที่สุดก็คือ จะต้องเลือกสีที่ใกล้เคียงกับใบหน้าของเราและเกลี่ยให้เนียนมากที่สุดนะคะ ไม่งั้นจะเห็นรอยด่างชัดเจนมากค่ะ
- เริ่มลากหางคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วแบบแท่ง ให้ออกมาเป็นทรงแบบที่เราต้องการก่อน แต่สาวๆ ที่สักคิ้วต้องจำไว้อย่างนึงว่า การที่เราสักคิ้วมาแล้วนั้น มันจะทำให้คิ้วของเราเข้มประมาณนึงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเขียนคิ้วจะต้องระวังและเบามือมากๆ ไม่งั้นจะเหมือนมีปลิงเกาะอยู่ที่คิ้วได้นะ
- ใช้ดินสอเขียนคิ้วแบบฝุ่น คู่กับแปรงเขียนคิ้ว ค่อยๆ ลากไปตามเส้นขนคิ้ว ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และเขียนอย่างอ่อนๆ เบามือๆ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ใช้แปรงปัดคิ้ว ขึ้นมาปัดเพื่อเก็บรายละเอียดอีกรอบนึง เพียงเท่านี้ คิ้วของคุณก็ดูเป๊ะขึ้นได้แล้วค่ะ
2. สักสีเนื้อกลบรอยสักคิ้ว
โดยการสักสีเนื้อลงไปทับบริเวณสีคิ้วที่เกินออกมา หากสีเดิมไม่เข้มมากก็อาจลบรอยสักเพียงครั้งเดียว แต่หากสีเดิมเข้มมากก็ต้องสักกลบหลายครั้ง และแต่ละครั้งต้องทิ้งระยะห่างประมาณ 1 เดือนขึ้นไปค่ะ เพื่อรอผิวให้มีความแข็งแรงขึ้น แต่สีเดิมที่คุณทำมามันไม่ได้หายไปไหนแต่มันโดนสีเนื้อปกปิดเอาไว้เท่านั้นเองค่ะ วิธีการลบรอยสักนี้เหมาะสำหรับใช้กับลบรอยสักเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนะคะ ไม่เหมาะที่จะใช้ลบรอยสักออกทั้งหมดเพราะจะเห็นเป็นรอยด่างชัดเจนมาก ซึ่งวิธีนี้จะช่วยกลบโครงคิ้วให้ดูสวยเป็นธรรมชาติขึ้นได้ และที่สำคัญที่สุดต้องเลือกช่างสักที่มีความชำนาญสูงเท่านั้นนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะกลายเป็นไม่สวย และทำให้มีปัญหาหนักขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ
3. ลบรอยสักคิ้วยด้วยเซรั่มหรือน้ำยาลบรอยสัก
เป็นวิธีลบรอยสักที่ค่อนข้างนิยมกันมากในการแก้ปัญหารอยสักคิ้วพลาดๆ หรือสักออกมาแล้วไม่สวยดั่งใจ โดยการใช้น้ำยาหรือเซรั่มเข้าไปเร่งการผลัดเซลล์ผิวบริเวณรอยสักให้หลุดลอกออกมา ทำให้รอยสักจางลง แต่ข้อเสียของวิธีการนี้คือ เห็นผลค่อนข้างช้า และต้องทำหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีคิ้วของแต่ละคน แต่ว่าเป็นวิธีลบรอยสักคิ้วที่ปลอดภัย และไม่ทำให้คิ้วเป็นแผล หรือเกิดรอยแผลเป็นตามมา
4. ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์
นวัตกรรมเลเซอร์ลบรอยสักคิ้ว NU-PICO un-tattoo ที่รมย์รวินท์คลินิก ได้รับการรับรองจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา และ อย.ประเทศไทย ถือเป็นมิติใหม่แห่งวงการนวัตกรรมลบรอยสักคิ้วเลเซอร์ที่ไม่ทิ้งร่องรอยแผลเป็นบนใบหน้าให้ปวดใจอีกต่อไปค่ะ แถมยังมีขั้นตอนการรักษาที่ไม่ยุ่งยากอีกด้วย
โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงที่รมย์รวินท์คลินิก จะทำการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ด้วยการใช้แสงเลเซอร์เข้าไปแตกตัวเม็ดสีที่มีอยู่ใต้ผิวหนังให้มีขนาดเล็กลง โดยไม่เกิดรอยแผลเป็นในบริเวณที่ลบรอยสักออกไป สามารถลบรอยสักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจุดเด่นที่สำคัญของ NU-PICO un-tattoo คือ เจ็บน้อย เห็นผลการรักษาตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำจึงช่วยลดจำนวนครั้งในการรักษาให้น้อยลงกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิมๆ ได้ค่ะ
ข้อดีของการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ NU-PICO un-tattoo ที่รมย์รวินท์คลินิก
- ลบรอยสักอย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดจำนวนครั้งในการรักษา
- ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
- ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย
- ทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
ดูแลคิ้วหลังลบรอยสักอย่างถูกวิธี
- ถ้ามีอาการบวมให้ประคบด้วยความเย็น (โดยใช้เจลประคบเย็น) อาการบวมจะหายไปเองใน 2-3 วัน
- ไม่ควรให้บริเวณที่ทำโดนน้ำอย่างน้อย 1-2 วัน หรือจนกว่าแผลจะแห้ง
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดบริเวณที่ยิงเลเซอร์ และทาครีมกันแดดทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงเป็นรอยดำจากการทำเลเซอร์
- ควรทาครีมที่แผลจนสะเก็ดหลุดหรือแผลหาย