ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ดับร้อนผิวด้วย COLOR ICE
แม้จะผ่านพ้นหน้าร้อนไปหมาด ๆ ประเทศไทยก็ยังคงความเป็นประเทศเขตร้อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยฝนที่ตกมานับครั้งได้ ! แต่อากาศเนี่ยร้อนทุกวี่ทุกวันกะไม่ให้ผิวสวย ๆ ได้พักเล้ยย เรียกได้ว่าหน้าฝนที่ประเทศไทยก็เป็นเพียงหน้าร้อนที่มีฝนตกพอเป็นพิธี นอกนั้นก็เจอแต่กับแดดและไอความร้อนตลอด แถมอุณหภูมิยังพุ่งไปเหยียบ 37 °C เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ด้วยเหตุนี้เองปัญหาผิวจึงกลับมาก่อกวนเราอีกครั้ง
จากช่วงเวลา 7 วันที่ผ่านมาประเทศไทยยังคงท็อปฟอร์มเรื่องอุณหภูมิโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 34-37 °C ช่วงกลางวัน และ 27-30 °C ช่วงเวลากลางคืน และแน่นอนว่าไอความร้อนจากอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้ส่งผลกระทบกับผิวของเราพอ ๆ กับแสงแดดเลย แปลว่าแม้จะหลบภายในห้องก็ยังไม่วายต้องเผชิญกับปัญหาผิวเสียจากอากาศที่ร้อนจัดพอผนวกกับแสงแดดที่สาดส่องลงมาไม่พักเวลาออกไปข้างนอกบอกเลยงานนี้มีแต่พังกับพัง !
หากอยากรักษาผิวสวย ๆ ให้รอดพ้นจากอากาศร้อนก็ต้องมีเคล็ดลับวิธีรับมือกับปัญหาผิวต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นช่วงที่อากาศร้อน ถึงจะบอกว่าเป็นแผนรับมือสำหรับช่วงอากาศร้อนแต่โชคชะตาช่างเล่นตลกอยู่เสมอ ประเทศไทยดันมีแต่ช่วงที่อากาศร้อน ร้อนมาก ร้อนสุด ๆ เรียกได้ว่าถ้าอยากเอาตัวรอดจากอากาศร้อนที่ประเทศไทยก็ต้องมีการเตรียมตัวกันเยอะหน่อย
ซึ่งไอความร้อนที่เจอทุกวันนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากกิจวัตรประจำวันของคนปกติทั่วไปทั้งวัยเรียนและวัยทำงานล้วนมีช่วงที่ต้องออกมาเผชิญหน้ากับแสงแดดและไอความร้อนอยู่เสมอ และช่วงเวลาที่สัมผัสกับไอร้อนเพียงนิดเดียว ผิวก็สามารถเกิดการแห้งเสียและมีปัญหาผิวอื่น ๆ มาตามราวี ไม่ว่าจะเป็นสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ สารพัดปัญหา วันนี้รมย์รวินท์คลินิกจึงอยากมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับอากาศร้อนและเคล็ดลับเอาตัวรอดจากอากาศร้อนกับ COLOR ICE นวัตกรรมแสง LED ที่ช่วยจัดการกับผิวเสีย
ถึงแม้ว่า COLOR ICE จะไม่ได้มาเป็นตัวช่วยเรื่องอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน แต่ COLOR ICE ยังคงมีประสิทธิภาพด้านการบำรุงผิวด้วยการเติมวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิว และช่วยจัดการ กับปัญหาผิวที่มักพบเจอได้บ่อย ๆ ในช่วงหน้าร้อน ทำให้ COLOR ICE เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมทั้งด้านผลลัพธ์ที่ออกมาแล้วตอบโจทย์ด้านฟื้นฟูผิวเสีย ทั้งด้านการทำงานของโปรแกรมที่เป็นนวัตกรรมแสง LED รวมเข้ากับความเย็นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับวิตามิน โดยปัญหาสุขภาพผิวที่มักพบเจอช่วงที่อากาศร้อน ก็จะมีดังนี้
จริงมั้ย ? อากาศร้อนทำร้ายผิวไม่แพ้แดดเลย ?
เคยสงสัยกันบ้างมั้ย ? เวลาออกไปเดินข้างนอกแดดร้อน ๆ แต่กางร่มแล้วผิวก็ยังคงไม่วายมีรอยแดง รอยดำ เกิดฝ้าขึ้นมาอีก นั่นก็เป็นเพราะว่าอากาศร้อนส่งผลกระทบต่อต่อมเหงื่อ ทำให้เกิดการขับน้ำออกมาตามต่อมเหงื่อพร้อมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ผิวแห้งและอักเสบได้ง่าย รูขุมขนเกิดการขยายออกกว้างเพื่อขับความร้อนออกมาส่งผลให้ผิวเสีย รูขุมขนกว้าง ผิวแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำไม่แพ้การตากแดดเลย
ยังไม่พอบางคนกางร่มก็อาจจะพอช่วยกันแดดได้บ้าง แต่สำหรับคนที่ทำงานกลางแจ้งหรือต้องออกเดินกลางแดดและความร้อน บอกเลยว่าผิวพังยิ่งกว่าเดิม เพราะได้รับทั้งรังสี UV และ ถูกไอความร้อนกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ ผิวยิ่งแสบและอักเสบยิ่งกว่าเดิม
และบอกเลยว่ากิจกรรมของคนวัยเรียนและวัยทำงานหลาย ๆ ท่านก็ยากที่หลีกเลี่ยงไอความร้อน ยกตัวอย่างที่เห็นแบบชัด ๆ เลย คือ การเข้าแถวหน้าเสาธง เด็กนักเรียนมักจะได้ยืนตากแดดและรับไอร้อนอย่างเต็มที่ นับว่าเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดผิวแห้งเสีย แต่จะหลีกเลี่ยงการเข้าแถวกลางแจ้งก็ไม่สามารถทำได้ เช่นเดียวกับวัยทำงานที่มีรูปแบบงานกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการขายของ งานกลางแจ้ง หรือ งานที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ก็จะต้องเจอกับแดดและความร้อนเป็นประจำ
หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เผชิญกับไอความร้อนและแสงแดดได้ อย่างน้อยถ้ามีวิธีการรับมือก็จะช่วยบรรเทาปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากไอความร้อนและแสงแดดได้ ทางรมย์รวินท์คลินิกจึงอยากแนะนำเคล็ดลับดูแลตัวเองให้ผิวรอดจากอากาศประเทศไทย เพราะร้อนนี้ผิวไม่สุกด้วย COLOR ICE
เผยเคล็ดลับเอาตัวรอดจากอากาศไทยแลนด์แดนมอดไหม้ !
- การดื่มน้ำเป็นเรื่องสำคัญ ! ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน – เมื่อร่างกายเจอกับอากาศร้อนและมีการขับเหงื่อออกมาจะเป็นช่วงที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ การดื่มน้ำเพื่อไปทดแทนส่วนที่เสียไปย่อมเป็นผลดีของร่างกาย โดยทำให้ผิวไม่แห้งกร้านมีความชุ่มชื้น
- เลือกสวมเสื้อผ้าสีอ่อน ผ้าเนื้อบาง ปิดมิดชิดทั้งร่างกาย – การเลือกเสื้อผ้าสีอ่อนและบางจะช่วยให้ตัวผ้าไม่ดูดซับความร้อนและระบายอากาศได้เป็นอย่างดี รวมถึงการสวมเสื้อผ้าแบบแขนขายาวจะช่วยป้องกันรังสี UV ได้ด้วย นับว่าเป็นวิธีป้องกันผิวเสียรวมถึงลดความเสี่ยงต่อการเป็นฮีทสโตรก
- ทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV – เวลาออกไปข้างนอกเจอแดดเปรี้ยงมาคู่กับไอความร้อนระอุตามท้องถนน อย่างน้อย ๆ ก็ควรเซฟผิวด้วยการทาครีมกันแดดพร้อมด้วยครีมบำรุงต่าง ๆ เพื่อป้องกันผิวแห้งเสียจากความร้อน
- ประคบตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วยความเย็น – เป็นวิธีการช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย ลดการเสียเหงื่อเพื่อป้องกันผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น โดยอาจประคบตามซอกตัว เช่น ลำคอ แขน ขาหนีบ หรือ ศีรษะ เป็นต้น
- ทานผลไม้ช่วยคลายร้อน – มีผลไม้หลากหลายชนิดที่ช่วยเติมน้ำให้กับร่างกายได้เหมือนกัน เช่น แตงโม ส้ม แคนตาลูป เป็นต้น โดยผลไม้เหล่านี้นอกจากจะทดแทนน้ำที่เสียไปแล้วยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณและร่างกาย จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ชอบรับประทานผลไม้อยู่เป็นประจำ
หรือสำหรับใครที่ทนตากแดดร้อน ๆ ดูแลตัวเองไปวัน ๆ ไม่ไหวแล้ว ต้องลองมาที่รมย์รวินท์คลินิกกับ COLOR ICE ที่เป็นทรีตเมน์ฟื้นฟูสภาพผิวโดยการผสมผสาน 3 เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพด้านการบำรุงและฟื้นฟูผิว ได้แก่ Electroporesis ที่เป็นการนำเอาหลักการ Electroporesis มาใช้ในการเติมวิตามินเข้าสู่ผิว และเพิ่มคุณภาพของผลลัพธ์ด้วยเทคโนโลยี Cryotherapy ความเย็นที่ช่วยปลอบประโลมผิวและส่งผลให้วิตามินมีประสิทธิภาพคงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยี LED Phototherapy การนำแสง LED มาช่วยในการบำบัดและแก้ปัญหาผิว โดยแสง LED ที่นำมาใช้จะมีทั้งหมด 3 รูปแบบ ตามข้อมูลด้านล่างนี้
RED LIGHT : แสงสีแดงจะช่วยปรับสภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจน เมื่อนำมาผสมผสานกับ COLOR ICE แล้วจะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากแสงแดด อากาศร้อน และมลภาวะต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยเรื่องลดเรือนริ้วรอย ผิวเรียบเนียนนุ่มน่าสัมผัส
BLUE LIGHT : ลดอาการอักเสบและแก้ปัญหาสิวที่มีสาเหตุมาจากมลภาวะ โดยแสงสีน้ำเงินจะช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและช่วยทำให้สิวที่มีอยู่หายเร็วขึ้น
YELLOW LIGHT : ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำและรอยคล้ำออกจากผิว ช่วยทำให้ผิวไบร์ท และ ไม่เกิดอาการระคายเคือง
COLOR ICE ถึงจะไม่ได้ช่วยลดความร้อนของสภาพอากาศ แต่ก็ตอบโจทย์ด้านการบำรุงผิวที่เกิดการแห้งเสียอันเป็นผลกระทบมาจากมลภาวะที่คนเราต้องเผชิญในแต่ละวัน แต่นอกจาก COLOR ICE แล้วทางรมย์รวินท์คลินิกยังมีโปรแกรมดูแลและจัดการกับปัญหาผิว รวมถึงปรับโครงหน้ายกกระชับ สร้างกรอบหน้าดูดีมีมิติ ด้วยประสบการณ์การทำงานมากกว่า 20 ปี พร้อมพิสูจน์ผลลัพธ์ความสวยที่แม้แต่แสงแดดและความร้อนยังต้องสยบที่รมย์รวินท์คลินิกทั้ง 28 สาขา