เสียงกรนดังระหว่างหลับ นอกจากจะสร้างความรำคาญให้คู่สมรสหรือคนที่นอนร่วมห้องกันด้วยแล้ว เสียงกรนยังเป็นสัญญาณอันตรายที่อาจบ่งบอกว่าคุณกําลังมีปัญหาสุขภาพ ควรรักษานอนกรน โดยเฉพาะการนอนกรนแบบมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษานอนกรนอย่างถูกต้อง จะมีผลกระทบกับสุขภาพร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คุณจำเป็นต้องสังเกตตัวเอง หรือให้คนที่นอนร่วมห้องช่วยสังเกตอาการกรน ว่ามีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่
- นอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางคืนบ่อย ไอกรรโชก
- บ่อยครั้งตื่นโดยไม่รู้สึกตัว คนนอนด้วยจะเป็นคนสังเกตเห็นอาการเหล่านี้
- คอแห้ง เจ็บคอ เมื่อตื่นนอน เนื่องจากร่างกายมักช่วยการหายใจเพิ่มด้วยการอ้าปากหายใจ
- หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ
ซึ่งอาการเหล่านี้ หากไม่ได้รับการรักษานอนกรน จะส่งผลกระทบระยะสั้น คือ จะมีอาการปวดหัว ไม่สดชื่นตอนตื่นนอน ง่วงนอนในช่วงกลางวันทำให้ขาดสมาธิในการเรียนหรือทำงาน หากต้องขับรถอาจหลับในและทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้นะคะ นอกจากนั้นแล้ว ผลกระทบในระยะยาวอาจทำให้มีอัตราเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคอื่นๆ ดังนั้น การรักษานอนกรนจึงมีความจำเป็นอย่างมากค่ะ
ชนิดความผิดปกติในการนอนกรน
การนอนกรนสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ตามความรุนแรงหรือผลเสียต่อสุขภาพผลเสียต่อสุขภาพ
นอนกรนธรรมดา คือการกรนที่ทำให้เกิดเสียงกรนธรรมดาจัดว่าเป็นชนิดไม่อันตรายค่ะ ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพเพียงแต่หากไม่รักษานอนกรน ก็ส่งผลให้เกิดความรำคาญกับผู้ที่อยู่ใกล้ กลุ่มนี้มักมีการอุดกั้นทางเดินหายใจเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเวลาเรานอนหลับสนิทจะเป็นเวลาที่กล้ามเนื้อต่างๆ คลายตัว รวมทั้งกล้ามเนื้อบริเวณช่องคอด้วย ทำให้ลิ้นและลิ้นไก่ตกไปทางด้านหลังโดยเฉพาะในท่านอนหงายทำให้ทางเดินหายใจส่วนนี้ตีบแคบลง เวลาหายใจเข้าผ่านตำแหน่งที่แคบจะทำให้มีการสั่นสะเทือนของลิ้นไก่ และเพดานอ่อน หรือโคนลิ้น ทำให้เกิดเป็นเสียงกรนขึ้นได้ค่ะ กรณีนี้ หากต้องการรักษานอนกรนให้หายเพื่อตัดความรำคาญใจก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อตัวคุณและคนรอบข้างค่ะ
นอนกรนที่มีการหยุดหายใจร่วมด้วย คือการกรนที่ทำให้เกิดเสียงรบกวน และมีผลเสียต่อสุขภาพด้วย ซึ่งจัดเป็นชนิดอันตรายค่ะ ควรเร่งรักษานอนกรน สาเหตุเกิดจากการที่มีทางเดินหายใจแคบมากเวลาหลับ อาจเนื่องจากการที่มีช่องคอแคบมาก เช่น มีเนื้อเยื่อเพดานอ่อน ลิ้นไก่ หรือโคนลิ้นขนาดใหญ่และหย่อนยาน หรือเกิดจากต่อมทอมซินที่โตมากจนอุดกั้นช่องคอ กรณีนี้ควรเข้ารับการรักษานอนกรนเพื่อป้องกันการหยุดหายใจและสุขภาพของคุณเองค่ะ
หรือบางรายที่ต้องรักษานอนกรน คือรายที่มีกระดูกใบหน้าหรือกรามเล็กทำให้ช่องทางเดินหายใจด้านหลังแคบกว่าปกติ หรือคนที่มีคางสั้นทำให้ลิ้นตกไปทางด้านหลังมากกว่าคนปกติ สำหรับกลุ่มนี้จะมีเสียงกรนที่ไม่สม่ำเสมอ โดยจะมีช่วงที่กรนเสียงดังและค่อยสลับกันเป็นช่วงๆและกรนดังขึ้นเรื่อยๆ และจะมีช่วงหยุดกรนไปชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการหยุดหายใจทำให้เกิดอันตรายได้ควรรับการรักษานอนกรนอย่างเร่งด่วนเนื่องจากระดับออกซิเจนในเลือดแดงจะลดต่ำลง ทำให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด หัวใจ และสมอง เป็นต้น เมื่อมีอาการกรนชนิดนี้จำเป็นต้องรักษานอนกรนเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพคุณเองค่ะ
โรคร้ายที่แฝงมากับการนอนกรน
ปวดศีรษะ หากไม่รักษานอนกรน โดยจะมีอาการที่ปวดศีรษะหลังการตื่นนอนหรือจะมีการปวดศีรษะประจำนั่นเอง เพราะเนื่องจากการนอนกรนที่ทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท จึงทำให้มีการปวดศีรษะนั่นเองค่ะ
ภาวะหัวใจเสียจังหวะ ผลเสียหากไม่รักษานอนกรน งานวิจัยจาก Sleep Center แห่ง Thomas Jefferson University และ Hospitals Philadelphia พบว่า ภาวะหยุดหายใจเป็นพักๆ ขณะนอนหลับของผู้ที่มีอาการนอนกรน เพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจเสียจังหวะมากกว่าคนนอนไม่กรน โดยเฉพาะหากนอนกรนต่อเนื่องเป็นเวลานานมาแล้ว และไม่ยอมรักษานอนกรนให้หายขาดจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัวค่ะ
โรคหัวใจ ผลกระทบจากการไม่รักษานอนกรน นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเซมเมลไวส์ ประเทศฮังการี พบว่า ผู้ที่นอนกรนเสียงดังและมีลักษณะหยุดหายใจเป็นพัก ๆ จะมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นประมาณ 34% รวมทั้งยังมีความเสี่ยงโรคหลอดเส้นเลือดในสมองแตก 67% เมื่อเทียบกับคนที่นอนไม่กรน เนื่องจากการนอนกรนจะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย ส่งผลให้มีคาร์บอนไดออกไซด์คั่งค้าง จนร่างกายตอบสนองด้วยการหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาสะสมและส่งผลเสียไปยังระบบต่างๆ ของร่างกาย ควรเข้ารับการรักษานอนกรนอย่างเร่งด่วน แต่ทั้งนี้ก็ยังนับปัจจัยเสี่ยงด้านอื่นๆ เช่น อายุ เพศ ดัชนีมวลกาย พฤติกรรมสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายร่วมด้วยค่ะ
อัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งจะเกิดจากการที่ภาวะคาร์บอนไดออกไซด์นั้นคั่ง โดยจะมีคาร์บอนไดออกไซด์นั้นมาอุดกั้นทางเดินหายใจในคนนอนกรน และจะทำให้มีการเกิดคราบพลัคซึ่งจะมาในรูปแบบของไขมัน ดังนั้น หากไม่รักษานอนกรนจะมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากต่อโรคที่มีการเกี่ยวข้องกับหลอดเลือดโดยตรงอย่างอัมพฤกษ์ อัมพาต นั่นเองค่ะ
ระบบประสาทและสมอง สำหรับคนที่นอนกรนเรื้อรัง ไม่รักษานอนกรนอาจส่งผลถึงระบบประสาทและสมองได้เช่นกัน เพราะเมื่อนอนกรนจะมีการหายใจที่ติดขัด ส่งผลให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองและระบบประสาทมีการทำงานที่ผิดปกติ และอาจจะมีผลทำให้ปอดและหัวใจทำงานหนักมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น อย่าลังเลที่จะเข้ารับรักษานอนกรนให้หายนะคะ
โรคสมองเสื่อม โดยมีสาเหตุสืบเนื่องเดียวกันกับหลายๆ โรคที่กล่าวไป จากการที่สมองนั้นขาดออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองเป็นระยะเวลาสะสมต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ทุกวัน ซึ่งอาจส่งผลให้คนนอนกรนเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมได้มากกว่าคนนอนไม่กรน ดังนั้นควรเข้ารับการรักษานอนกรนเพื่อสุขภาพของคุณค่ะ
กรดไหลย้อน สาเหตุเกิดจากภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นในช่วงนอนหลับ เนื่องจากความดันที่ไม่สม่ำเสมออาจทำให้หลอดอาหารทำงานผิดปกติ เป็นเหตุให้คนนอนกรนต่อเนื่องมาอย่างยาวนานเสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อนมากขึ้น และถ้าหากว่าคุณไม่ได้รับการรักษานอนกรนจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้นั่นเอง
ภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูง ผลเสียจากการนอนกรนและไม่รักษานอนกรน ที่ทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยกว่าปกติ ระดับออกซิเจนที่อยู่ในเลือดก็จะลดลง ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปยังปอดไม่สะดวก หรือเรียกว่าภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูงนั่นเองค่ะ และแน่นอนว่าหากไม่รีบรักษานอนกรนย่อมมีการส่งผลไปถึงการใช้ชีวิตที่ยุ่งยากนั่นเอง
โรคมะเร็ง เป็นผลกระทบที่ร้ายแรงหากไม่รักษานอนกรน ผลการวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศสเปนพบว่า ภาวะหลอดเลือดติดขัดจากการที่ร่างกายขาดออกซิเจนเพราะนอนกรนนั้น มีผลกระตุ้นให้เนื้องอกเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และหากว่ามีเลือดไปคั่งตามจุดต่างๆ ที่มีเนื้องอกอยู่นั้น จะทำให้เซลล์ขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นมะเร็งในที่สุดค่ะ ดังนั้น อย่าวางใจกับการนอนกรน ควรเร่งรักษานอนกรนอย่างเร่งด่วน
จะเห็นได้ว่าอันตรายที่แฝงมากับอาการนอนกรนและไม่รักษานอนกรนนั้นน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะค่ะ ทางที่ดีหากรู้ตัวเองว่ามีอาการนอนกรนก็ไม่ควรนิ่งเฉยนะคะ ควรรักษานอนกรนให้หาย เพราะนอกจากจะช่วยเซฟสุขภาพของคุณให้ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นผลดีตัวคุณเองและคนที่นอนข้างกายให้หลับได้สนิทอย่างไร้เสียงรบกวนตลอดคืนด้วยค่ะ