บอกลาหุ่นย้วยด้วย Oligio Body จบปัญหาผิวหย่อนคล้อย พร้อมลดไขมัน

Oligio Body

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ








    บอกลาหุ่นย้วยด้วย Oligio Body จบปัญหาผิวหย่อนคล้อย พร้อมลดไขมัน

    ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ ไขมันสะสมเยอะ อาจจะทำให้หลาย ๆ คนนั้นรู้สึกไม่มั่นใจได้ ซึ่งในปัจจุบัน การยกกระชับผิวกาย และการลดไขมันสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงการใช้ตัวช่วย ในการกระชับผิวกายอย่าง เครื่อง Oligio Body ที่สามารถยกกระชับผิวกาย ลดไขมัน และสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด  ที่สำคัญยังไม่เป็นอันตรายอีกด้วย

    Oligio Body

    ทำความรู้จักกับ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย

    หลายคนอาจจะมีความสงสัยว่าเครื่อง Oligio Body คืออะไร ช่วยยกกระชับผิวกาย ลดไขมันได้หรือไม่ ? ซึ่ง Oligio เป็นโปรแกรมยกกระชับที่โด่งดังเรื่องการยกกระชับรูปหน้า และสร้างคุณภาพผิว แต่ความจริงแล้ว Oligio ไม่ใช่ทำได้แค่ใบหน้าเพียงเท่านั้น ยังสามารถทำที่บริเวณร่างกายได้ด้วย Oligio เป็นเครื่องยกกระชับผิวกายที่ผลิตจากบริษัท Wontech ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF ยิงเข้าสู่ชั้นผิวหนัง 4.3 มิลลิเมตร โดยพลังงานสามารถลงได้ลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis)  และยังถูกพัฒนาให้สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง และมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก โดย Oligio Body จะสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที ถึง 20-30% หลังจากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลได้ชัดเจนหลังทำ 3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคลที่ทำด้วย

    เนื่องจากตัวเครื่อง Oligio Body นั้นจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวที่มีความหย่อนคล้อยกลับมากระชับ รูขุมขนดูเล็กลง ลดริ้วรอยร่องลึก และริ้วรอยเล็ก ๆ พร้อมช่วยคืนความแข็งแรงให้ผิวดูเด้ง อิ่มฟู สุขภาพดี นอกจากนี้ Oligio Body ยังช่วยในเรื่องยกกระชับผิวกาย ลดสัดส่วนเฉพาะจุด ลดไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิว กระชับสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น บริเวณกรอบหน้า เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือบริเวณร่างกายอีกด้วย โดยการทำ Oligio Body 1 ครั้ง อยู่ได้นานถึง 1 ปี สามารถทำครั้งต่อไปได้ตั้งแต่เดือนที่ 4-6 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

    การทำงานของ Oligio Body

    Oligio Body ยกกระชับผิวกาย เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่สูง 6.78 MHz ที่สามารถปรับได้ 3 โหมด คือ โหมดเดี่ยว โหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ ยิงลงลึกสู่ชั้นผิว 3 mm. โดยคลื่นจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Fat) ทำให้ผิวดูกระชับมากขึ้น ทั้งยังเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังให้มากขึ้น ให้คอลลาเจนที่สร้างใหม่นั้นมีระเบียบ Oligio Body นั้นจะใช้ความร้อนจากหัว Tips ที่มีลักษณะเป็นหัวเข็ม ส่งพลังงานเข้าไปยังชั้นผิวหนัง ทำให้คลื่นมีความสม่ำเสมอและแม่นยำ ทำให้ผิวหลังทำนั้นมีความยืดหยุ่น หนาแน่น กระชับ ทั้งยังช่วยลดไขมัน ทำให้ชั้นไขมันบางลง สัดส่วนดูชัดเจนขึ้น

    Oligio Body ยกกระชับผิวกาย มีเทคโนโลยีที่จะช่วยตรวจสอบอุณหภูมิผิว มีระบบทำความเย็นอัจฉริยะ และมีระบบตรวจจับแรงกดที่มีความแม่นยำ ที่ช่วยปล่อยลมเย็นออกมาในระหว่างทำอย่างอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมค่าพลังงานความร้อนใต้ผิวที่มากเกินไป ทั้งยังทำให้ช่วยลดโอกาสผิวถูกเผาไหม้อีกด้วย 

    ทคนิค Fast Moving Technique เฉพาะ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย

    ความพิเศษของ Oligo คือการมีเทคนิค Fast Moving Technique เป็นเทคนิคเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อทำการยกกระชับด้วย Oligio เท่านั้น เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากพลังงานที่ลงสู่ชั้นผิวโดยเครื่อง Oligio Body นั้นจะลงสู่ชั้นผิวที่เท่ากันอย่างแม่นยำ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม

    เทคนิค Fast Moving Technique เป็นเทคนิคเฉพาะที่ใช้กับ Oligio Body เพื่อยกกระชับผิวกายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ดังนี้

    1. Pain Relief : Oligio Body มาพร้อมกับระบบสั่นสะเทือนที่ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา และยังมีระบบปล่อยพลังงานความเย็นที่ช่วยปกป้องผิวชั้นนอก ทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกสบายมากขึ้น และไม่ต้องพักฟื้นหลังการทำ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
    2. Faster Treatment : ฟังก์ชั่น Auto ของ Oligio Body ช่วยประหยัดเวลาในการทำยกกระชับผิวกาย โดยจำนวน 600 shots ใช้เวลาเพียง 20-30 นาที และ 300 shots ใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น
    3. Safe Treatment : Oligio Body มีระบบวัดอุณหภูมิผิวแบบ Real Time หากอุณหภูมิสูงกว่า 43 องศาเซลเซียส เครื่องจะหยุดทำงานทันที เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการไหม้ (Burn) รวมถึงมีระบบตรวจสอบแรงกด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจากหัวทิปไม่แนบผิว
    4. Convenience : เครื่อง Oligio Body มีการทำงานทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ ระบบ Single, ระบบ Double, และระบบ Auto ซึ่งช่วยให้แพทย์นั้นสามารถใช้รักษาได้อย่างแม่นยำ และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดขึ้น 

    Oligio Body

    ทำความเข้าใจผิวหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร

    ผิวหย่อนคล้อย คือ สภาพผิวที่เกิดการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้ผิวดูไม่เรียบเนียน ไม่กระชับมีความหย่อนยาน และทำให้เกิดริ้วรอยขึ้น ทั้งบริเวณใบหน้า และทั่วร่างกาย ส่งผลให้ผิวดูไม่สุขภาพดี ดูแก่กว่าวัย ซึ่งผิวหย่อนคล้อยนั้นเกิดจากคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวนั้นมีการผลิตลดลง ทำให้เซลล์สูญเสียความกระชับ ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

    1. อายุที่เพิ่มขึ้น

    ยิ่งอายุมากขึ้นร่างกายของเราจะยิ่งมีการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ทำให้ผิวเริ่มเสื่อมสภาพลง จึงทำให้ผิวมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และเกิดริ้วรอยได้ชัดเจน

    1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน 

    ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เป็นฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน ดูสุขภาพดี ซึ่งร่างกายนั้นจะผลิตในช่วงวัยรุ่น เมื่ออายุมากขึ้นจึงเริ่มผลิตลดลง

    1. รังสียูวีในแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ

    รังสียูวีในแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ จะเข้าไปทำลายเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินภายในผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดความหย่อนคล้อย และริ้วรอยตามมา ทั้งยังกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกายอีกด้วย

    1. ความเครียด

    เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว และลดการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ  ส่งผลให้ผิวดูหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอย และผิวดูโทรม

    1. การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ

    หากนอนหลับไม่เพียงพอร่างกายจะทำการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาได้น้อย ทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น และระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ดี จึงอาจส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำ แห้งกร้าน รวมถึงอ้วนขึ้นได้

    การยกกระชับผิวกาย และการลดไขมันสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการใช้ตัวช่วย อย่าง Oligio Body ยกกระชับผิวกาย ลดไขมัน ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด  ทั้งยังไม่เป็นอันตรายอีกด้วย

    Oligio Body ทำส่วนไหนได้บ้าง

    Oligio Body ยกกระชับผิวกาย สามารถทำได้หลายส่วนด้วยกัน เพราะนอกจากจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้เป็นระเบียบแล้วนั้น ยังช่วยยกกระชับผิวกาย ลดไขมันสะสมในร่างกาย กระชับสัดส่วน และยังไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนี้

    •  หน้าผาก Oligio Body จะช่วยลดริ้วรอยร่องเล็ก ๆ บนหน้าผาก
    • รอบดวงตาและหางตา บริเวณที่มีริ้วรอย ตีนกา ถุงใต้ตา และปัญหาหางตาตก ทำให้ยกกระชับผิวกายให้เต่งตึงขึ้นได้
    • แก้มและโหนกแก้ม Oligio Body จะช่วยยกกระชับผิว บริเวณแก้มให้กระชับ ทำให้หน้าเป็นมิติมากขึ้น
    • กรอบหน้า ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน การยกกระชับผิวกายด้วย Oligio Body จะช่วยทำให้กรอบหน้าชัด มีมิติมากขึ้น
    • เหนียง บริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน ทำให้ใบหน้าดูกลมมน 
    • คอ ที่มีความหย่อนคล้อย หรือมีเส้นบริเวณคอที่ชัดเจน Oligio Body ช่วยยกกระชับผิวกายให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
    • ต้นแขน ต้นขา ที่มีไขมันส่วนเกิน มีความหย่อนคล้อย Oligio Body จะช่วยลดไขมัน พร้อมยกกระชับผิวกายที่หย่อนคล้อยให้ได้สัดส่วนขึ้น
    • หน้าท้อง ที่มีไขมันสะสมเยอะ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ

    Oligio Body

    Oligio Body เหมาะกับใครบ้าง ? 

    หลาย ๆ คนที่กำลังประสบปัญหาไม่มั่นใจในร่างกาย รูปร่างของตัวเอง เนื่องจากผิวที่หย่อนคล้อย ไขมันที่สะสมเยอะนั้น การทำ Oligio Body จะช่วยยกกระชับผิวกาย และลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง ให้ผิวกระชับมีสัดส่วนที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่ง Oligio Body เหมาะกับใคร มาดูกันเลย

    1. Oligio Body เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวกาย  สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือสูญเสียความยืดหยุ่น เนื่องจากอายุหรือการลดน้ำหนัก
    2. Oligio Body เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันในชั้นผิว โดยเฉพาะในบริเวณใบหน้าและลำคอ
    3. Oligio Body เหมาะกับผู้ที่มองหาวิธีการรักษายกกระชับผิวกายลดไขมัน ที่ไม่ต้องพักฟื้น Oligio Body มีการรักษาที่ไม่ทำให้ผิวบอบช้ำ และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
    4. Oligio Body เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในผิว ยกกระชับผิวกายเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี
    5. Oligio Body เหมาะกับผู้ที่เคยมีปัญหาผิวไหม้หรือแพ้ง่าย เนื่องจาก Oligio มีระบบป้องกันที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความร้อนและการเกิดปัญหาผิว
    6. Oligio Body เหมาะกับผู้ที่ต้องการชะลอการเกิดปัญหาหย่อนคล้อยตามวัย การทำ Oligio Body จะช่วยป้องกันผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย ไม่ว่าจะเป็น ผิวหน้า หรือผิวกาย

    ข้อดีและข้อจำกัดของการทำ Oligio Body

    ใครที่กำลังสนใจในการทำ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย แต่ยังตัดสินใจไม่ได้นั้น สามารถดูข้อดี และข้อจำกัดของ การทำ Oligio Body เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ ดังนี้

    ข้อดีของการทำ Oligio Body

    • Oligio Body ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์หลากหลายปัญหา ไม่ว่าจะเป็น การยกกระชับผิวกาย หรือลดไขมัน มาพร้อมระบบทำความเย็นอัจฉริยะและระบบสั่น ทำให้ไม่แสบร้อนระหว่างทำ ทั้งยังมีความปลอดภัยต่อผิวอีกด้วย เนื่องจากได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากหลายประเทศ 
    • ไม่ต้องเตรียมตัวก่อนทำเหมือนหัตถการอื่น ๆ เนื่องจากการทำ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร หรือเตรียมตัวยาก
    • หลังทำ Oligio Body ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทาครีมกันแดด หรือครีมบำรุงได้ตามปกติ โดยที่ผิวไม่เกิดการระคายเคือง
    • Oligio Body ใช้เวลาในการทำหัตถการเพียง 20–30 นาที ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการทำหัตถการอื่น ทำเสร็จสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
    • หลังทำ Oligio Body สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประมาณ 20% 
    • Oligio Body ไม่ทำให้เจ็บ ทำให้ไม่ต้องแปะยาชา จึงไม่เกิดปัญหาผิวแห้งตามมา 

    ข้อจำกัดในการทำ Oligio Body

    • หากต้องการผลลัพธ์การยกกระชับผิวกาย ลดไขมัน ที่ต่อเนื่อง ควรทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง เนื่องจาก Oligio Body นั้นให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณ 6 เดือน – 1ปี 
    • Oligio Body ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่ให้นมบุตร หรือผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ และในโรคประจำตัวบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

     จุดเด่นของ Oligio Body ?

    • Oligio Body ยกกระชับผิวกาย นั้นไม่ต้องจำกัดเวลาในการใช้จำนวน Shots ทำให้แพทย์นั้นสามารถเก็บรายละเอียด และมีความแม่นยำในการทำ
    • Oligio Body มีหัวยิงมีขนาดใหญ่ ทำให้สามารถกระจายพลังงานได้ดี มีความแม่นยำขึ้น จึงทำให้มีความรวดเร็วในการทำ
    • เจ็บน้อย ไม่ต้องแปะยาชา เนื่องจากเครื่อง Oligio Body นั้นมีนวัตกรรมที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด และทำให้ผิวนั้นไม่แห้งจากยาชา

    ใครที่ไม่เหมาะกับเครื่องยกกระชับผิวกาย Oligio Body ?

    • Oligio Body ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเครื่องมือแพทย์ฝังในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า ICD หรือมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในร่างกาย
    • Oligio Body ไม่เหมาะกับผู้ที่มีรากฟันเทียมแบบ Bio absorbable 
    • Oligio Body ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังบางชนิด หรือมีการติดเชื้อบริเวณที่จะรักษา เช่น เริม ผิวอักเสบ หรือติดเชื้อ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษา ควรรักษาให้หายดีก่อนแล้วค่อยทำ
    • Oligio Body ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด อาจทำให้เกิดอันตรายระหว่างการทำหัตถการได้  เช่น โรคเบาหวาน โรคลมชัก โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ผู้ที่มีภาวะความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด                   
    • Oligio Body ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
    • หากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือมียาที่ต้องรับประทานตลอดนั้น ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการรักษา Oligio Body เพื่อวางแผนการรักษา
    • หลีกเลี่ยงการสักในบริเวณที่จะทำการรักษา Oligio Body เนื่องจากหากเป็นรอยสักใหม่ ที่ยังไม่หายดี อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ 

    หลังทำ Oligio Body สามารถคงผลลัพธ์ได้นานเท่าไหร่?

    การทำ Oligio Body อยู่ได้นานไหม? อยู่ได้นานแค่ไหน?  โดยปกติแล้วนั้นการทำ Oligio Body จะสามารถคงผลลัพธ์ยกกระชับผิวกายได้นานถึง 6 เดือน – 1ปี เนื่องจากการทำงานของ Oligio Body นั้นจะค่อย ๆ เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผลลัพธ์ในการทำ Oligio Body 1 ครั้งนั้นอยู่ได้นาน ทั้งนี้ระยะเวลาที่ผลลัพธ์ยกกระชับผิวกายจะอยู่ได้นานไหมนั้น จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปัญหาผิว การดูแลตัวเองหลังทำด้วย

    Oligio Body

    ทำไมต้องเลือกทำเครื่องยกกระชับผิวกาย Oligio Body 

    • Oligio Body เห็นผลทันที : หลังจากการทำ Oligio Body สามารถเห็นผลลัพธ์การยกกระชับผิวกาย และการเปลี่ยนแปลงได้เลยทันที ประมาณ 20-30% และจากนั้นจะเริ่มเห็นผลขึ้นเต็มที่
    • การสร้างคอลลาเจน : หลังทำ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย ผิวจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากพลังงานที่ยิงเข้าไปจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้สร้างเพิ่มขึ้นใหม่ โดยจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 3-6 เดือน
    • ผลลัพธ์ระยะยาว : ยกกระชับผิวกาย ลดไขมัน ด้วย Oligio Body สามารถอยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี หากต้องการผลลัพธ์ที่มีความต่อเนื่อง แนะนำให้ทำต่อเนื่องปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด
    • Oligio Body แก้ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม : หลังทำ Oligio Body นั้นจะช่วยยกผิวกายให้กระชับขึ้น ผิวมีความแน่น ไม่หย่อนคล้อย ทั้งยังช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้าและร่างกาย กระชับสัดส่วน ชะลอความหย่อนคล้อยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง 
    • ปลอดภัยและไม่มีอาการข้างเคียง : Oligio Body ถือเป็นนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยต่อผิว ทำให้หลังทำแล้วนั้นไม่มีอาการบวม ปวด แสบ หรือไม่ทิ้งร่องรอยไว้ จึงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น

    ทำ Oligio Body ร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่

    การทำ Oligio Body นั้นสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ? น่าจะเป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนสงสัยอย่างมาก โดย Oligio Body ยกกระชับผิวกาย นั้นสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่ควรจะมีระยะเวลาที่ห่างกัน เพื่อให้ Oligio Body นั้นได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  โดยปกติแล้วหากต้องการทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ นั้น แพทย์จะแนะนำให้ทำ Oligio Body ก่อนที่จะไปทำหัตถการฉีดตัวยาอื่น ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพราะตัวยาแต่ละตัวนั้นก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน แพทย์จะได้วางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด 

    ก่อนทำ Oligio Body ต้องเตรียมตัวไหม อย่างไร ? 

    การยกกระชับผิวกาย ลดไขมันด้วยเครื่อง Oligio Body นั้นไม่ได้มีข้อจำกัดที่เยอะ ทำให้การเตรียมตัวก่อนทำนั้น สามารถเตรียมตัวได้เหมือนก่อนทำหัตถการทั่วไปได้ ดังนี้

    • ก่อนทำ Oligio Body ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือทำให้ผิวบางลงบริเวณที่จะทำ
    • ก่อนทำ Oligio Body ควรงดการทำหัตถการต่าง ๆ เช่น การฉีดโบ ฟิลเลอร์ หรือการทำเลเซอร์ อย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ 
    • ก่อนทำ Oligio Body หากมีโรคประจำตัว หรือมีโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังนั้น ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเริ่มทำหัตถการทุกครั้ง เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมิน และวางแผนการรักษาในลำดับต่อไป
    • ก่อนทำ Oligio Body หากมีบาดแผลที่แผลยังปิดไม่สนิท ควรรักษาให้หายก่อนดีก่อน

    ขั้นตอนการทำ Oligio Body มีอะไรบ้าง? 

    • ก่อนเริ่มทำ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำ Oligio Body ก่อนเพื่อเตรียมพร้อมผิวก่อนทำ
    • หลังจากทำความสะอาดผิวเสร็จแล้ว แพทย์จะทำการทาเจลเย็นลงบนผิวก่อนทำหัตถการ ซึ่ง Oligio Body นั้นไม่ต้องแปะยาชา เพราะตัวเครื่องนั้นจะมีนวัตกรรมระบบความเย็น เพื่อช่วยบรรเทาความร้อนที่ผิว
    • เมื่อพร้อมทำ Oligio Body แพทย์จะทำการเปิดเครื่องมือ เซตค่าพลังงาน จากนั้นจะทำการทำหัตถการบนผิว
    • ในระหว่างทำหัตถการ Oligio Body อาจจะมีความรู้สึกอุ่น ๆ ที่ผิว เพราะพลังงานที่ถูกปล่อยออกไปได้ แต่อาจจะไม่ถึงขั้นเจ็บปวด หรือแสบร้อน เพราะหากใต้ผิวมีความร้อนสะสมอยู่เกินค่าที่กำหนดไว้ เครื่อง  Oligio Body จะทำการปล่อยความเย็นออกมาเพื่อลดอุณหภูมิบนผิวลง 
    • โดยปกติแล้วการทำหัตถการ Oligio Body จะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เมื่อยิงค่าพลังงานครบจำนวน Shot ที่ตั้งไว้แล้ว แพทย์จะทำการทำความสะอาดผิวอีกครั้ง ถือเป็นการเสร็จสิ้นการรักษา
    • หลังทำ Oligio Body อาจจะมีอาการแดงบริเวณผิวที่ทำเล็กน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่มีอันตราย และจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง 

    การดูแตัวเองหลังยกกระชับผิวกาย ลดไขมันด้วยเครื่อง Oligio Body 

    หลังจากทำหัตถการยกกระชับผิวกาย Oligio Body เสร็จเรียบร้อย ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจ โดยมีวิธีการดูแลเบื้องต้น ดังนี้

    • หลีกเลี่ยงความร้อน : หลังทำ Oligio Body งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนที่ผิว เช่น ออกกำลังกาย หรืออยู่ในที่ร้อนจัด เช่น ซาวน่า เป็นเวลา 1 สัปดาห์
    • หลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ บริเวณผิวที่เคยทำยกกระชับผิวกาย Oligio Body ควรเว้นระยะในการทำประมาณ 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เช่น ฉีดโบ ฟิลเลอร์ หรือเครื่องเลเซอร์อื่น ๆ 
    • ทาครีมกันแดด : หลังทำหัตถการ Oligio Body ควรหมั่นทาครีมกันแดดทุกวัน และควรหลีกเลี่ยงการโดดแดดตรง ๆ เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด 
    • การดูแลผิวหลังทำ : หลังทำ Oligio Body หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์หรือหัตถการใด ๆ บนผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ รวมถึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว เพื่อให้ผิวนั้นฟื้นฟูได้เต็มที่
    • ดูแลสุขภาพ : หลังทำ Oligio Body ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ Oligio Body นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คำถามที่พบบ่อยของ Oligio Body

    ความรู้สึกระหว่างทำ Oligio Body ?

    • ระหว่างการทำ Oligio Body นั้นจะรู้สึกอุ่น ๆ ที่บริเวณผิวที่ทำ เนื่องจากตัวเครื่องนั้นจะยิงพลังงานไปที่ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน และยกกระชับผิวกาย ทำให้มีการสะสมพลังงานความร้อนใต้ชั้นผิว ที่อุณหภูมิสูงถึง 43 องศา ซึ่งอาจทำให้หลังทำผิวอาจจะมีสีแดงอ่อน ๆ หรือมีความชมพูขึ้นได้

    Oligio Body ทำนานไหม?

    • การทำ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย นั้นเป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน ทำให้สะดวก ประหยัดเวลา โดยปกติแล้วจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 30-60 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหา และจำนวน Shots ที่ต้องยิง

    หลังทำ Oligio Body เป็นอย่างไร?

    • หลังการทำ Oligio Body ยกกระชับผิวกาย นั้นสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เลยทันทีหลังทำ เนื่องจากคอลลาเจนนั้นจะมีการหดตัวลง 20-30% จึงทำให้ผิวดูกระชับขึ้น จากนั้นผิวจะค่อย ๆ สร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์ที่เต็มที่ได้หลังทำ 3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว และวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ Oligio Body ด้วย 

    Oligio Body อยู่ได้นานไหม?

    • หลังจากการรักษา 1 ครั้ง Oligio Body สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6-12 เดือน โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล  ทั้งนี้แนะนำว่าควรทำ Oligio Body ปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ช่วยฟื้นฟูผิวให้สร้างคอลลาเจนได้เอง ยกกระชับผิวกายที่หย่อนคล้อย ทั้งยังช่วยลดไขมันได้อย่างดี

    Oligio Body ยกกระชับผิวกาย ลดไขมันควรทำกี่ Shots ?

    • Oligio Body 300-450 Shots : เหมาะสำหรับผู้ที่อายุน้อยหรือมีปัญหาผิวไม่มาก สามารถเน้นทำยกกระชับผิวกายเฉพาะจุดได้
    • Oligio Body 600-900 Shots : เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวปานกลางถึงมาก สามารถทำได้ทั่วหน้า รวมถึงบริเวณเหนียง
    • Oligio Body 1,200 Shots : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวกาย พร้อมลดไขมันได้อย่างครอบคลุม

    ทั้งนี้ก่อนทำ Oligio Body แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อที่แพทย์นั้นจะได้วางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด รวมถึงเลือกจำนวน Shots ได้อย่างเหมาะสม

    การทำ Oligio Body นั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น ผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ มีริ้วรอย ผิวไม่แน่น หรือมีไขมันสะสมเยอะ การยกกระชับผิวกาย ลดไขมัน ด้วยเครื่อง Oligio Body ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง ทั้งยังทำให้ช่วยประหยัดเวลา ใช้เวลาน้อย ไม่ต้องพักฟื้น ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการรักษาปัญหาแบบเร่งด่วน สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาก่อนได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก ทุกสาขา 

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ








      CoolSculpting สลายไขมันคืออะไร ?

      COOLSCULPTING

      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




        วันที่สะดวกในการติดต่อ








        BEFORE & AFTER

        Coolsculpting
        Coolsculpting

        ฆ่าเซลล์ไขมัน พร้อม สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting

        ด้วยวิถีชีวิตสมัยใหม่ในยุคที่การดูแลตัวเองทำได้ยากมากขึ้นเนื่องจากเวลาที่บีบกระชั้นชิดในแต่ละวันทั้งรถติดทั้งงานที่สามารถทำได้ทุกที ทุกเวลา อาหารอร่อยที่เพียงแต่เดินออกมาหน้าบ้านก็เรียงรายกันเยอะแยะมากมายทำให้การดูแลรูปร่างเป็นสิ่งที่ยากมากขึ้น

        ในทางกลับกันทุกสื่อโซเชียล ทุกคนกลับถ่ายรูปอวดหุ่นสวย ไม่ว่าจะเป็นใส่บิกินีในช่วงซัมเมอร์ใส่เสื้อผ้าตัวเล็กตามแฟชั่น ไม่ใช่แค่ดารานักแสดงเท่านั้น แต่เพื่อนในโซเชียลก็อวดหุ่นกันเหมือนกับว่าการดูแลรูปร่างในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องง่ายเสียอย่างนั้น ไม่ว่าจะแต่งรูปก็แล้ว รีทัชรูปก็แล้วแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำได้เนียนจนคนรอบข้างจับโป๊ะไม่ได้

        จะดีกว่าไหมหากเราสละเวลาเพียง 35 นาทีต่อครั้งก็สามารถมีรูปร่างที่ดีได้ จนคนอื่นอิจฉา แถมยังเป็นรูปร่างดีที่ไม่ทำร้ายร่างกายและไม่ทำลายสุขภาพเนื่องจากมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการดูแลทุกๆขั้นตอนอย่างการทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ CoolSculpting ที่รมย์รวินท์คลินิกนั่นเอง

        Coolsculpting กับ สลายไขมัน ด้วยความเย็น คืออะไร?

        Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบและคิดค้นมาเป็นอย่างดีโดยการใช้หลักการฆ่าไขมัน และสลายไขมันด้วยการใช้ความเย็นในการแทรกซึมสู่ชั้นผิวไปแทนที่ความร้อนที่ร่างกาย เพื่อให้เกิดการแปรเปลี่ยนสภาพของเซลล์ไขมันที่แทรกสะสมอยู่ในชั้นผิวให้เปลี่ยนสภาพเป็นผลึกน้ำแข็งจากการใช้ความเย็นเพื่อฟรีซไขมัน จากนั้นไขมันที่ถูกฟรีซก็จะค่อยๆสลายออกตามระบบกลไกของร่างกาย และเมื่อไขมันดังกล่าวสลายออกไปแล้ว ร่างกายก็จะมีการสั่งงานให้มีการจัดเรียงเซลล์ขึ้นใหม่ หรือเรียกอีกอย่างว่ากระบวนการนี้คือกระบวนการฆ่าไขมันนั่นเอง

        การสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสลายและฆ่าไขมันในร่างกายแต่ไม่มีเวลาหรือทำมาหลายวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่ลดเนื่องจากเป็นวิธีที่ทันสมัยและเป็นวิธีที่ร่างกายไม่ดื้อถึงแม้จะทำนานหรือบ่อยแค่ไหนก็ตาม ด้วยการใช้ Applicator ในการรักษาพร้อมกันถึง 2 จุดเพื่อเพิ่มพลังการฆ่าเซลล์ไขมันด้วยความเย็นแบบคูณ 2 ทั้งประหยัดเวลา และยังช่วยในการสลายไขมันได้อย่างรวดเร็วกว่าโปรแกรมสลายไขมันประเภทอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นโปรแกรมที่มีความปลอดภัย มีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.มีการทำการวิจัยระดับโลกเพื่อเก็บตัวอย่างการรักษาของการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting  มากกว่า 20 ฉบับ

        CoolSculpting

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting มีหลักการทำงานอย่างไร ?

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ทำงานกับไขมันโดยวิธีการส่งความเย็นที่อยู่ในระดับขั้นสูงถึงจุดเยือกแข็ง เป็นความเย็นตั้งแต่อุณหภูมิ -11 ไปจนถึงอุณหภูมิ -13 °C (องศาเซลเซียส) ผ่านชั้นผิวหนัง เพื่อเข้าไปช่วยในการฟรีซไขมันซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการฆ่าและสลายไขมัน ที่สะสมอยู่ทั่วทั้งเรือนร่าง โดยหลักการที่ว่าคือปกติของเซลล์ไขมันจะเป็นเซลล์ที่มีความอ่อนไหวสูง อีกทั้งเซลล์ไขมันยังเป็นสิ่งที่ไม่ทนต่อระดับความเย็นในระดับที่สูงมากๆ เมื่อเซลล์ไขมันถูกความเย็นในระดับที่มีอุณหภูมิติดลบทำการแทรกตัวเข้าไปภายในเซลล์ไขมันในระดับที่มีความสูงถึง -11 ถึง -13 °C (องศาเซลเซียส) เซลล์ไขมันดังกล่าวกลายเป็นเหมือนเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า Apoptosis หรือจัดเป็นภาวะการตายของเซลล์จากการถูกแช่แข็ง ที่เรียกกันว่าการฟรีซนั่นเอง ลักษณะนี้เป็นเหมือนการถูกฆ่าเซลล์ไขมัน โดยเซลล์ที่โดนความเย็นนั้นจะค่อยๆตายและสลายตัวไปเรื่อยๆ ซึ่งการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting จะทำการสลายหรือฆ่าเพียงแค่เซลล์ไขมันเท่านั้น จะไม่ทำลายเซลล์หรือเนื้อเยื่ออื่นๆที่อยู่ในบริเวณเดียวกันและบริเวณข้างเคียง

        กลไกการขับไขมันของการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ?

        เมื่อการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ CoolSculpting ได้ทำการฆ่าไขมัน และสลายไขมันแล้ว ร่างกายจะมีกระบวนการกำจัดไขมันตามกลไกธรรมชาติ และขับออกมาในรูปแบบของเสียในร่างกายอาทิปัสสาวะ อุจจาระ โดยไม่ส่งผลให้ระบบขับถ่ายมีความปกติและไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย

        ระดับความเย็นของการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อส่วนอื่นๆในร่างกายหรือไม่?

        ระดับความเย็นจากการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting  เป็นระดับความเย็นที่ผ่านการวิจัยมาเป็นอย่างดีแล้วว่าทำการฆ่าไขมัน และสลายไขมันได้ แต่ไม่ทำอันตรายต่อผิวหนัง โดยไม่ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำและบริเวณโดยรอบตาย  จึงสามารถมั่นใจได้ว่าในการรักษาปลอดภัยอย่างแน่นอน

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ต่างจาก เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นตัวอื่นอย่างไร ?

          • Coolsculpting ได้การรับรองมาตรฐานจาก US FDA ได้เครื่องเดียว
          • Coolsculpting มีงานวิจัยรับรองผลการรักษาและวิธีการรักษา
          • Coolsculpting สามารถสลายเซลล์ไขมัน ได้มากกว่า
          • Coolsculpting มีความเสถียรเป็นอย่างมากทั้งตัวเครื่องและ Applicator
        CoolSculpting

        ข้อดีของการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting คืออะไร?

        การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting นั้นสามารถเห็นผลลัพธ์ในการรักษาได้ทันทีหลังทำ และยังสามารถลดลงได้เรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเข้ารับบริการจนครบครอส

        โดยในการทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ครั้งแรกนั้นจะเห็นผลถึง 27-31% โดยประมาณ

        ผลข้างเคียงการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting คืออะไร ?

        การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่ไม่มีผลข้างเคียงและไม่มีอันตราย จะมีเพียงอาการเหล่านี้เท่านั้น

        • อาจมีผิวบวม ช้ำ และแดง หลังจากทำ
        • อาจจะยังรู้สึกเสียวแปลบที่ผิวหลังจากทำ
        • อาจมีอาการผิวซีดชั่วขณะในระหว่างที่ทำ
        • อาจมีผิวที่มีก้อนแข็งจากการดูดของหัว Applicator
        • อาจมีอาการกดเจ็บที่ผิวหนัง หลังจากตอนทำ
        • อาจเกิดอาการเป็นตะคริวหลังทำ
        • อาจรู้สึกคันหรือแสบผิว
        • อาจมีรู้สึกตึงผิว

        โดยอาการเหล่านี้เป็นอาการเพียงชั่วคราวหลังทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เท่านั้น โดยอาการดังกล่าวสามารถหายได้เองและไม่ก่อให้เกิดอันตรายตามมา

        CoolSculpting

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting สามารถทำส่วนใดได้บ้าง?

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “Bra Fat ด้านหลัง”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ต้นแขน”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “นมน้อยหรือหน้าอกผู้ชาย”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ใต้แขน”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “หน้าท้อง”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “เอว”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ห่วงยางรอบเอว”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ต้นขาด้านใน”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ต้นขาด้านนอก”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “เหนือหัวเข่า”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “แก้มก้น”

        Coolsculpting สามารถทำบริเวณ “ไขมันใต้ก้น หรือ Banana roll”

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เหมาะกับใครบ้าง ?

        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างที่ดีอยู่แล้วแต่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุด 
        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายแล้วยังมีไขมันที่สะสมตามอวัยวะต่าง 
        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ลดไขมันยาก 
        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างที่ได้สัดส่วน 
        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการความลีน 
        • Coolsculpting เหมาะกับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการกลับไปรูปร่างเท่าตอนก่อนท้อง 
        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการสลายไขมันอย่างยั่งยืน 
        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย 
        • Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง 

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ไม่เหมาะกับใคร ?

        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคแพ้ความเย็น อาทิผู้ที่เป็นลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมีอาการเลือดแข็งตัวผิดปกติ
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงอยู่ในช่วงระหว่างเป็นประจำเดือน
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับการผ่าตัดในระยะไม่ เกิน 6 เดือน
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการไส้เลื่อน
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับเป็นผู้ป่วยที่พึ่งทำการผ่าตัดในบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน
        • Coolsculpting ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ติดอุปกรณ์การแพทย์ในร่างกาย อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ เป็นต้น

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ใช้ระยะเวลาในการทำต่อครั้ง นานเท่าไร ?

        การสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ต่อ 1 บริเวณที่ทำการสลายไขมัน นั้น จะมีหน่วยคำนวณเป็นไซเคิล (Cycle) สามารถกำจัดไขมันได้ครั้งละประมาณ 60-70 % ในการทำ และใช้เวลาในการทำต่อครั้งและต่อ Cycle เพียง 35 นาที เท่านั้นหากใช้ทั้ง 2 Applicator ก็จะเป็นการฆ่าไขมันและ สลายไขมัน ได้แบบคูณ 2 ซึ่ง เพียงพอต่อการฆ่าไขมันแล้วทั้งยังมีเอกสารงานวิจัยรองรับว่าระยะเวลา 35 นาทีที่กำหนดนี้เป็นระยะเวลาที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการฆ่าไขมันให้ตายและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย

        สลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

        สลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ในแต่ละครั้ง จะสังเกตเห็นได้ว่า รูปร่างและสัดส่วนของผู้เข้ารับบริการจะลดลงได้ภายใน 3 – 4 สัปดาห์ และจะเริ่มเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 3 เดือน ทั้งนี้หากเข้ารับบริการไปแล้ว ควรกลับมาทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ในการรักษา ขั้นต่ำ 4 ครั้งต่อ 1 หลังจากนั้นสามารถกลับมา ทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ได้ในระยะเวลาที่ห่างขึ้นคือ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในผลลัพธ์การรักษา

        Coolsculpting

        การเตรียมตัวก่อนทำการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting มีอะไรบ้าง?

        การทำ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่สบายๆ สามารถเข้ามาทำการรักษาได้เลยโดยไม่ต้องเตรียมตัวอะไรก่อน

        Coolsculpting กับขั้นตอนในการสลายไขมัน ด้วยความเย็นมีอะไรบ้าง ?

        1. ปรึกษาแพทย์ในบริเวณสัดส่วนที่ต้องการจะลดและแจ้งความกังวลเกี่ยวกับสัดส่วน เพื่อให้แพทย์พิจารณาและวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง
        2. ผู้ช่วยแพทย์จะทำการชั่งน้ำหนัก และวัดสัดส่วน เพื่อเก็บข้อมูลก่อนทำ
        3. ผู้เข้ารับบริการจะต้องเปลี่ยนชุด รวมทั้งถ่ายภาพสัดส่วนที่ทำการรักษาก่อนเข้ารับบริการ
        4. ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดผิวเพื่อความสะอาด
        5. ทำเครื่องหมายเพื่อความแม่นยำในการติด Applicator
        6. ติด Applicator  อย่างแม่นยำ
        7. จากนั้นทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting

        ผู้เข้ารับบริการสามารถเลือกท่าทาง ที่ผ่อนคลายที่สุดในระหว่างที่ทำ เนื่องจากต้องใช้เวลาถึง 35 นาที อาจให้พนักงานแนะนำท่าที่เหมาะสมได้ ในระหว่างที่ทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting อยู่นั้นสามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ตามปกติ

        Coolsculpting

        ความรู้สึกขณะทำการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting

        ความรู้สึกขณะทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting จะมีความรู้สึกเย็นบนผิวแต่เป็นความเย็นที่สามารถทนได้ ผู้เข้ารับการรักษาสามารถแจ้งความต้องการและความกังวลต่อแพทย์ในขณะที่ทำการติด Applicator ได้ นอกจากความเย็นแล้วจะรู้สึกเหมือนผิวหนังถูกดูดบริเวณที่ติด  Applicator ด้วยแต่เป็นการถูกดูดที่ไม่เจ็บ ในทางกลับกันยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

        สำหรับความเย็นที่ออกมาจาก Coolsculpting  ลงผ่านผิวหนังนั้นเป็นพลังงานความเย็นที่ ผ่านการควบคุมเป็นอย่างดี และค่อยส่งผ่านผิวหนังลงไปสู่ไขมัน บริเวณต่างๆในร่างกายเพื่อให้ไขมันแข็งตัว

        Coolsculpting

        เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับ โปรแกรมสลายไขมัน

        โปรแกรมสลายไขมันเป็นการฉีดตัวยาบางชนิดที่มีประสิทธิภาพในการสลายไขมัน โดยอาจเป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติหรือเป็นสารสังเคราะห์ โดยการฉีดลงสู่ชั้นไขมันเพื่อให้ตัวยาดังกล่าวเข้าไปทำหน้าที่สลายไขมัน ผลลัพธ์ในการทำก็คือบริเวณที่ทำการสลายไขมันโดยบางตัวยาจะช่วยทั้งลดขนาดและกระชับผิวหนังไปในตัว แต่บางตัวยาจะช่วยเพียงลดไขมันอย่างเดียว ไม่ช่วยในการกระชับผิว อีกทั้งในท่านคนที่ทำไปอาจมีอาการเขียวช้ำ หลังทำอันเนื่องมาจากเข็มอีกด้วย ทั้งนี้ก่อนทำจะต้องหาข้อมูลให้ดีเพื่อไม่ให้บริเวณที่ทำการสลายไขมันไปเกิดการหย่อนคล้อยหลังจากทำ

        โปรแกรม สลายไขมัน สามารถทำได้แทบจะครบทุกบริเวณในร่างกายที่มีไขมันสะสม อาทิเหนียงใต้คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้องเอว สะโพก หรือบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินอื่นๆ แต่บริเวณที่เป็นที่นิยมมากที่สุดจะเป็นบริเวณใบหน้าอย่างเหนียง แก้ม นั่นเอง

        ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรมสลายไขมันจะเห็นผลอย่างชัดเจนหลังจากทำไปประมาณ 1สัปดาห์ สามารถเห็นผลอย่างชัดเจนประมาณ 1 เดือน และสามารถคงสภาพผลลัพธ์หลังการทำได้ 5-6 เดือนโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารของผู้เข้ารับบริการด้วยว่ารับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือไม่ รับประทานของหวานมากหรือไม่ หากรับประทานของมัน ของทอดก็จะทำให้เกิดไขมันสะสมกลับมาได้เร็วมากขึ้น และทำให้ต้องกลับมาทำการสลายไขมันในระยะเวลาที่เร็วขึ้น

        เป็นโปรแกรมที่สามารถเห็นผลได้ในระยะเวลา 1 เดือนและจะลดลงเรื่อยๆหลังทำอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานโดยไม่โย่โย และไม่อันตรายทั้งนี้หลังจากทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ควรลดการรับประทานของทอดและอาหารมันเพื่อป้องกันการสะสมใหม่ของไขมัน

        เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับ Carboxy Therapy

        Carboxy Therapy เป็นการลดไขมันโดยการฉีดก๊าซ Carbon dioxide (CO2)  วิธีการคือใช้ก๊าซดังกล่าว ต่อกับเข็มฉีดยา จากนั้นทำการเจาะผิวและฉีดก๊าซลงไปที่บริเวณใต้ผิวหนังเพื่อให้เกิดกระบวนการ Oxidative Lipolysis หรือเพื่อให้เกิดกระบวนการสลายไขมันที่สะสมอยู่ภายใต้ผิว รวมทั้งลดขนาดของไขมัน ทำให้ ช่วยลดขนาดรูปร่างสัดส่วนมีความกระชับ ลดรอยแตกลายจากไขมันและลดผิวเปลือกส้ม อันเป็นสาเหตุของผิวเป็นคลื่น ขรุขระไม่เรียบเนียน ทำให้กลับมาสวยงามเรียบเนียนอีกครั้ง ระหว่างทำอาจมีความเจ็บจากการเจาะผิวและฉีดก๊าซ

        Caboxy Therapy เป็นโปรแกรมที่จะเป็นจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกๆ 1-2 สัปดาห์ และต้องทำให้ครบ 5-10 ครั้ง ถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง และเมื่อทำครบจะสามารถลดปริมาณไขมันได้ 30% โดยประมาณ  ในขณะที่การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting นั้นหลังจากเข้ารับบริการในครั้งแรกก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเห็นได้ชัด และจะยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อครบระยะเวลา 3 เดือนอีกทั้งยังสามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้นานหากทำการควบคุมอาหารควบคู่

        เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับเครื่องนวดยกกระชับสัดส่วน

        เครื่องนวดกระชับสัดส่วน ที่ดีนั้นจะต้องเป็นเครื่องที่ได้มาตรฐานและผ่านงานวิจัยและทดสอบทางการแพทย์ รวมทั้งเครื่องนวดกระชับสัดส่วนจะถูกจัดกลุ่มให้เป็นเครื่องมีแพทย์ที่มีการควบคุมเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วสถาบันที่มีการให้บริการเครื่องนวดกระชับสัดส่วนจะไม่มีเอกสารดังกล่าว ไม่มีการดูแลและกำกับการรักษาจากแพทย์ รวมทั้งยังไม่มีการจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบคลินิกเวชกรรม จึงจัดเป็นสถานบริการในการกระชับรูปร่างที่ไม่ได้มาตรฐานเนื่องจากไม่มีเครื่องมือแพทย์นั่นเอง

        สถาบันดังกล่าวจึงเป็นสถาบันที่จะใช้การนวดในลักษณะที่เป็นเพียงการนวด ร้อน-เย็น ในรูปแบบพลังงานต่ำหรือพลังงานอ่อน โดยการนวดในลักษณะนี้เป็นการนวดในลักษณะที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ในระยะยาวเนื่องจากเป็นเพียงการนวดเพื่อรีดน้ำในร่างกายที่สะสมออกจนทำให้ร่างกายบวมออกนั่นเอง โดยวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราว เพียงแค่ 3-7วันเท่านั้นไม่ได้เป็นผลลัพธ์ถาวร แม้จะทำการคุมอาหารควบคู่กันไปก็ตาม

        ในขณะที่การสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting จะทำการกำจัดไขมัน โดยการฆ่าไขมันและสลายไขมันออกไปจากร่างกายไม่ใช่เพียงแต่การรีดน้ำเท่านั้น จึงทำให้มีผลลัพธ์ในการรักษาที่ถาวร

        เปรียบเทียบการสลายไขมัน ด้วยความเย็นกับ Coolsculpting กับการออกกำลังกาย

        การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่เราทุกคนล้วนแล้วแต่ทราบกันดีว่าสามารถใช้ในการลดสัดส่วนได้แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้ เนื่องจากในบางคนไม่มีเวลาที่มากพอ หรือบางคนไม่มีพื้นที่ในการออกกำลังกายเฉพาะสัดส่วนที่ต้องการเป็นต้น

        โดยการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting เป็นโปรแกรมที่สามารถทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายได้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ หรือหากใครที่ไม่สะดวกที่จะออกกำลังกาย เนื่องจากไม่มีเวลาการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ Coolsculpting ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เนื่องจากใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งเพียงแค่ 35 นาที เหมาะแก่ผู้ที่ไม่มีเวลาว่าหรือสามารถทำงานในโทรศัพท์มือถือควบคู่กันไปได้ด้วย นับเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับผู้ที่ไม่มีเวลาว่างอีกด้วย

        รมย์รวินท์คลินิกผู้นำด้านความงามอย่างครบวงจรมีประสบการณ์มากมายในการดูแลรูปร่างและสลายไขมัน มีแพทย์ในการดูแลและควบคุมในทุกขั้นตอน ทั้งยังมี Specialist ในการดูแลรูปร่างโดยเฉพาะจึงทำให้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านมีความเชื่อถือได้ว่าทุกการให้บริการเป็นการบริการที่ได้มาตรฐาน โดยผู้ที่มีความรู้และได้รับการอบรมในตัวโปรแกรมมาอย่างถูกต้องตามหลักการและปฏิบัติทั้งยังมีสาขาไว้รองรับทั่วทั้งประเทศไทย พร้อมให้ความสะดวกสบายแก่ผู้เข้ารับบริการทุกท่าน

        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




          วันที่สะดวกในการติดต่อ