Category Archives: ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ริ้วรอย รวมทุกเรื่องควรรู้ก่อนทำ

ฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ริ้วรอย ปรับโหงวเฮ้งควรรู้อะไรบ้าง? รวมทุกเรื่องต้องรู้ก่อนทำ

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพื่อแก้ไขหรือเติมเต็มให้ใบหน้ามีความสมส่วนมากขึ้น เช่น ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งหัตถการที่หลายคนเลือกทำเพื่อเสริมความมั่นใจคือ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย รอยย่นบนหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หน้าผากยุบ ช่วยเพิ่มความโหนกนูน แก้ปัญหาหน้าผากแบน ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและมีความสมดุลมากขึ้น

ในบทความนี้รมย์รวินท์คลินิกจึงได้รวบรวมทุกข้อมูลที่ควรรู้ก่อนฉีดว่า ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคืออะไร? ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยอะไร? ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับใคร และรวมเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาริ้วรอย เพิ่มความโหนกนูน เจาะลึกเรื่องต้องรู้ก่อนทำ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าไปที่บริเวณหน้าผาก เพื่อช่วยเติมเต็ม แก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หน้าผากแบน อีกทั้งยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มความโหนกนูน ของหน้าผาก เพื่อโหงวเฮ้งที่ดีได้อีกด้วย

ยังทำให้หน้าผากดูเต่งตึงและผิวชุ่มชื้นมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ และยังมีความปลอดภัยเนื่องจากสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

 

ปัญหาหน้าผาก เกิดจากอะไรบ้าง

  • ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกบริเวณหน้าผาก : สาเหตุของปัญหาริ้วรอยร่องลึกบริเวณหน้าผากส่วนมากเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้โครงสร้างของผิวและการทำงานของเซลล์ผิวเริ่มเสื่อมลงตามวัย
  • ปัญหาหน้าผากยุบ : เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระดูกทรุดลง ไขมันบริเวณใบหน้าเริ่มยุบตัวลงกลายเป็นแอ่งเหนือคิ้ว ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย
  • ปัญหาหน้าผากแบน : เกิดจากการที่โครงสร้างกระดูกทรุดตัวลง และเนื้อเยื่อที่ค่อย ๆ ลดหายไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น

 

ฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน บริเวณไหนได้บ้าง

บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยบบริเวณหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม ซึ่งบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บริเวณร่องเหนือคิ้ว : เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันทำให้ร่องหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วเกิดการยุบตัวเป็นร่อง การฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องเหนือคิ้วจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการความเรียบเนียน ละมุนบนหน้าผาก
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บริเวณกลางหน้าผาก : การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าผากให้มีความโหนกนูน เต่งตึง แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม รวมไปถึงหน้าผากไม่เนียน เพื่อความเรียบเนียน นูนสวย และไม่เป็นคลื่น

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ช่วยอะไรบ้าง

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากด้วยสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าไปที่บริเวณหน้าผากเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังต่อไปนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากบุ๋ม หน้าผากบุ๋ม
    ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ช่วยเติมเต็มให้หน้าผากสวยได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยที่หน้าผากให้เรียบเนียนขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ช่วยปรับรูปทรงหน้าผากให้สวยงามได้รูป ตรงตามโหงวเฮ้ง

 

ทรงหน้าผากที่บ่งบอกว่าเป็นคนมีวาสนาดีตามโหงวเฮ้งเป็นแบบไหน 

โหงวเฮ้งหน้าผากตามฉบับตำราจีนจะมีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ และหน้าที่การงานโดยตรง โดยมีลักษณะเด่นและลักษณะด้อย ดังนี้

ลักษณะเด่น : หน้าผากโหนกนูนแบบพอดี หน้าผากไม่ยุบ และหน้าผากใส เกลี้ยงเกลา ไร้ริ้วรอย บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ดีงามตามลักษณะของหน้าผากที่สวย
ลักษณะด้อย : หน้าผากมีลักษณะเป็นร่องบุ๋ม ไม่เรียบเนียน มีกระดูกโปน บ่งบอกถึงจะเจอแต่อุบัติเหตุหรือภัยร้ายต่าง ๆ หน้าที่การงานไม่เจริญก้าวหน้า ขาดคนอุปถัมภ์ค้ำชู

ซึ่งลักษณะของหน้าผากที่มีโหงวเฮ้งดีสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและการฉีดโบร่วม

ฟิลเลอร์หน้าผากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เหมาะกับใคร

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากแบนหรือหน้าผากแคบ
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เหมาะกับผู้ที่มีหน้าผากเป็นแอ่งยุบลงไปเหนือคิ้ว
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เหมาะกับผู้ที่มีหน้าผากเป็นคลื่น ไม่เรียบเนียน มีริ้วรอยหน้าผาก
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการพักฟื้นนาน

ฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน มีข้อดีและข้อควรระวังอะไรบ้าง

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน มีดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถเพิ่มความโหนกนูนตามที่ต้องการได้
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าผาก
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน 1-2 สัปดาห์
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แท้ อยู่ได้นาน 1 ปี และสลายเองได้ตามธรรมชาติ
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เมื่อฟิลเลอร์สลายหมดลง สามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หากต้องการแก้ไขปรับทรง สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ ไม่มีผลข้างเคียงอันตราย

 

ข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน มีดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่ควรฉีดเกิน 5 CC ในการฉีด 1 ครั้ง
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องฉีดกับแพทย์ผู้มีความรู้ความสามารถเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก vs การผ่าตัดเสริมหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน : ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คางคือเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดเสริมคาง สามารถปรับเพิ่ม-ลดความโหนกนูนได้ตามที่ต้องการ ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า ไม่เกิน 7-14 วัน
  • การผ่าตัดเสริมหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน : ข้อดีของการผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคนคือผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร แต่ไม่ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เนื่องจากมีความบวมช้ำค่อนข้างมาก ต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน มีรอยแผลบริเวณด้านในไรผมที่ค่อนข้างยาวตามขนาดของซิลิโคน ไม่สามารถปรับเพิ่ม-ลดความโหนกนูนได้ ต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขปรับแต่งเท่านั้น

     

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก vs การผ่าตัดเสริมหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน : ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคือเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดเสริมหน้าผาก สามารถปรับเพิ่ม-ลดความโหนกนูนได้ตามที่ต้องการ ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า ไม่เกิน 7-14 วัน 
  • การผ่าตัดเสริมหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน : ข้อดีของการผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนคือผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร แต่ไม่ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เนื่องจากมีความบวมช้ำค่อนข้างมาก ต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน มีรอยแผลบริเวณด้านในไรผมที่ค่อนข้างยาวตามขนาดของซิลิโคน ไม่สามารถปรับเพิ่มหรือลดความโหนกนูนได้ ต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขปรับแต่งเท่านั้น

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก vs การเติมไขมันหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน : เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีความปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 3 สัปดาห์ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และฟิลเลอร์จะย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
  • การเติมไขมันหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน : เป็นวิธีการใช้ไขมันที่ดูดจากบริเวณอื่นของร่างกายมาเติมหน้าผาก มีข้อดีคือลดความเสี่ยงในการแพ้ เนื่องจากใช้ไขมันของตัวเอง แต่การผ่าตัดเสริมหน้าผากมีกระบวนการดูดไขมันและต้องนำมาปั่นแยกของเหลว และมีแผลจากตำแหน่งที่ดูดไขมันมาใช้ มักไม่ได้ผลในการฉีดครั้งแรก ต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกันได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากตอบโจทย์การแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋ม หน้าผากบุบด้วยสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีความปลอดภัยสูง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ โดยฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ สามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ยี่ห้อไหนดี

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ควรเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่มีความคงตัว เนื้อละเอียด ซึ่งยี่ห้อและรุ่นที่แนะนำ มีดังนี้

ฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ยี่ห้อ Juvederm

  • ฟิลเลอร์สัญชาติสหรัฐอเมริกา มีเทคโนโลยีการผลิตที่เฉพาะ เน้นความเป็นธรรมชาติ คือ Hylacross Technology และ Vycross Technology ออกแบบมาหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์กับการแก้ปัญหาบนใบหน้า รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ
    ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อ Juvederm Volbella ฟิลเลอร์เทคโนโลยี Vycross Technology เป็นเนื้อฟิลเลอร์ที่มีโลเลกุลขนาดเล็กคล้ายกับเจลนิ่ม มีความเนียนละเอียด กลืนเข้ากับผิวได้ดี เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มบริเวณหน้าผาก หรือ ริมฝีปาก เพื่อให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ยี่ห้อ Restylane

  • ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่พัฒนาจากประเทศสวีเดน ที่แพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างกว้างขวาง มีเทคโนโลยี NASHA Technology และ OBT Technology ที่โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่น เนื้อฟิลเลอร์มีความคงที่ ปรับทรงได้หลากหลาย รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อ Restylane Vital เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ช่วยในเรื่องของการปรับความชุ่มชื้น ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนได้เป็นอย่างเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องตื้นและร่องลึก เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก ใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์หน้าผาก

ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เตรียมตัวอย่างไร

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก งดรับประทานกลุ่มยาแอสไพรินและยาต้านการอักเสบ 2 สัปดาห์
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก งดวิตามินที่ต้านการรแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา เป็นต้น
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก งดยาทาผิวชนิดผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่ต้องการฉีด
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กรณีมีโรคประจำตัว หรือยาที่ประทานประจำ ควรเตรียมข้อมูลเพื่อแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรงดแต่งหน้าในวันที่มารับบริการ เนื่องจากอาจมีเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกตกค้างบริเวณใบหน้า แต่ถ้าหากจำเป็นต้องแต่งหน้าก่อนมารับบริการ ทางคลินิกจะทำความสะอาดผิวหน้าบริเวณที่ทำ
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ก่อนเข้ารับบริการ
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะด้านเท่านั้น

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน มีขั้นตอนอย่างไร

  • ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก โดยแพทย์จะประเมินบริเวณหน้าผากของผู้ที่เข้ารับบริการก่อนทำ
  • แพทย์จะช่วยแนะนำยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากให้เหมาะสมกับความต้องการ
  • เริ่มทำความสะอาดบริเวณหน้าผากก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อความสะอาดและความปลอดภัย
  • แปะยาชาและประคบน้ำแข็งก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
  • แพทย์เริ่มฉีดฟิลเลอร์ลงบนบริเวณหน้าผาก ใช้ระยะเวลาในการฉีดประมาณ 30-45 นาที
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ฟิลเลอร์หน้าผาก

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ดูแลตัวเองอย่างไร

การดูแลตัวเองตามหลักปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จะช่วยทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเข้าที่ได้เร็วขึ้น ช่วยลดการอักเสบและการบวมช้ำจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก โดยการดูแลตัวเองมีขั้นตอน ดังนี้

  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแก้ปัญหาหน้าผากแบนได้ ทันที
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรรับประทานยาฆ่าเชื้อทันที
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาบรรเทาอาการปวด ลดอาการบวม หรือยาฆ่าเชื้อ ควรรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
    หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ห้ามเกา นวด คลึง ตรงบริเวณหน้าผาก เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์หน้าผากเสียรูปทรงได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ห้ามเอามือก่ายหน้าผาก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน 24 ชั่วโมง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาจมีอาการบวมเข็มเพิ่มมากขึ้น ทำให้บิรเวณหน้าผากมีความฟูขึ้นกว่าเดิม อาการจะค่อย ๆ หายไป ภายใน 1 สัปดาห์ และยุบลงในภายหลัง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแก้ปัญหาหน้าผากแบน 7-14 วัน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดอาการบวม รอยแดง และการอักเสบ ส่งผลให้หน้าผากหายช้าลง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรอยู่ในที่อากาศเย็นและหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากมีสารในบุหรี่หลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ทำให้หน้าผากหายช้า
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก งดเลเซอร์ร้อนลงบนชั้นผิว เวลา 1 เดือน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก งดอาหารรสจัดอาจทำให้เกิดการแสบร้อนและหน้าแดงได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก งดอาหารหารหมักดอง อาจเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวยและอยู่ได้นานขึ้น

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ใช้กี่ CC

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากโดยปกติเป็นบริเวณที่ต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าบริเวณอื่น ๆ โดยขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการในแต่ละบุคคล ดังนี้

  • กรณีปัญหาทั่วไปที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อแก้ไขปัญหาร่องตื้นหน้าผาก บริเวณเหนือคิ้วที่ยุบตัว เพื่อให้หน้าผากเรียบเนียนเข้ารูป และไม่ได้ต้องการความโหนกนูน ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ 1-2 CC
  • กรณีที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อเพิ่มความโหนกนูนเพื่อปรับโหงวเฮ้ง แก้ไขปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน หน้าผากบุ๋มมาก ๆ อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ถึง 3-10 CC แต่แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ครั้งละไม่เกิน 5 CC เท่านั้น เพื่อลดโอกาสเกิดการกดทับเนื้อเยื่อและอาการบวม

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน เจ็บไหม?

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอาจมีความรู้สึกในระหว่างทำเล็กน้อย จะมีการแปะยาชาก่อนเริ่มฉีด และประคบน้ำแข็งระหว่างฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทำให้ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการบวมและรอยช้ำได้

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน กี่วันเห็นผล?

  • หลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที โดยหลังจากนั้นอาจมีอาการบวมเข็มจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการยุบและการเข้าที่ของฟิลเลอร์ประมาณ 7-14 วัน

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน มีผลข้างเคียงไหม

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่อาจพบได้ มีดังนี้

  • อาจมีอาการบวม และหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งสามารถรับประทานยาบรรเทาอาการปวดและลดบวมได้
  • อาจมีผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอาจเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์หรือเกิดการอักเสบ โดยมีลักษณะเป็นก้อนบวมนูน ผิวแดง และรู้สึกปวดมาก หากมีอาการดังกล่าวจะต้องรีบไปแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นคลื่น เป็นก้อน ผิวไม่เรียบ เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิวหนังหรือฉีดตื้นเกินไป สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน อยู่ได้นานแค่ไหน

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอยู่ได้นานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ซึ่งปกติผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานถึง 1 ปี

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน อันตรายไหม

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากไม่อันตราย หากฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาดและปลอดภัย เพราะบริเวณหน้าผากเป็นจุดที่อันตรายมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่เชื่อมไปถึงลูกตา ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญเท่านั้น การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องใช้ปริมาณของฟิลเลอร์ที่ค่อนข้างมากกว่าบริเวณอื่น ๆ จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อความปลอดภัย

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน บวมกี่วัน

  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะมีอาการบวมเป็นปกติ และจะหายไปเอง ภายใน 1 สัปดาห์ โดยสามารถทานยาแก้ปวด เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดให้เบาลงได้

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากนูนเกินไป แก้ปัญหาหน้าผากแบน สามารถแก้ได้หรือไม่

  • กรณีที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากด้วยฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีดสลายได้ด้วยตัวยาสลายฟิลเลอร์ Hyaluronidase ซึ่งจะเข้าไปเพื่อลดการกักเก็บน้ำและไขมัน ทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ทำให้ผิวกลับมาเรียบเสมอกันอีกครั้ง

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน สลายได้ไหม

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร หลังฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) จะสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ตกค้างในร่างกาย ซึ่งระยะเวลาของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หากต้องการผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแบบต่อเนื่อง ควรฉีดซ้ำเรื่อย ๆ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่นานขึ้น

 

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อน เป็นคลื่นไม่เรียบเนียน ไหลย้อย เกิดจากอะไร

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จำเป็นต้องใช้เทคนิคการฉีดและประสบการณ์ของแพทย์ เพราะถ้าหากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากหากฉีดไม่ดีหรือฉีดตื้นเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน เป็นคลื่น และเกิดการไหลย้อยได้ เนื่องจากถูกกล้ามเนื้อดึงมารวมกันไว้ ในด้านของเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แพทย์ต้องฉีดเนื้อฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณชั้นเยื่อหุ้มกระดูก เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์พยุงแผ่นเยื่อหุ้มกระดูกขึ้นมา ทำให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดูมีความเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นคลื่น ฟิลเลอร์ไม่ไหลหรือไม่เคลื่อนย้ายไปตำแหน่งอื่น

 

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม รวมไปถึงแก้ปัญหารอ้วรอยบนหน้าผาก เสริมปรับให้หน้าผากมีความโหนกนูนขึ้น ช่วยปรับให้หน้าผากมีความเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าให้ดูมีมิติและสมส่วนอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น หลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากแบน ที่สะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐาน ต้องเลือกรมย์รวินท์คลินิกดูแลทุกปัญหาความงามของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายทุกคน พร้อมมอบการดูแลตัวเองสุดพิเศษในฉบับที่เป็นคุณที่ดีกว่าเดิมอีกด้วย

ฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร? ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี? รวมเรื่องน่ารู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นปัญหาที่เด่นชัดบนใบหน้าที่ใครหลายคนกังวล คือ ปัญหาริ้วรอยร่องแก้มลึก ซึ่งปัญหานี้ทำให้ดูแก่กว่าวัยได้อีกด้วย ส่งผลทำให้ใครหลายคนที่กำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้สูญเสียความมั่นใจ ในปัจจุบันสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องแก้มลึกได้ด้วยวิธีการ “การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม” เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ยุบตัวลง

วันนี้รมย์รวินท์คลินิกรวบรวมข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มว่า ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร ฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี และฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องใช้กี่ CC และข้อควรรู้ของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ว่าก่อนฉีดและหลังฉีดต้องปฏิบัติตัวเองอย่างไร หาคำตอบได้แล้วในบทความนี้

ฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าไปในบริเวณร่องแก้มที่ยุบตัวลงไปได้อย่างเห็นผลลัพธ์และตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เพื่อแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ร่องแก้มชัด ที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มร่องแก้มให้ผิวหน้าดูเต็ม และร่องแก้มตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอกว่าเดิม และใบหน้าดูเด็กลง

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เกิดจากสาเหตุอะไร?

ปัญหาร่องแก้มลึกเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยจะเกิดขึ้นเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ซึ่งสาเหตุร่องแก้มลึกมี 4 ปัจจัยหลัก ดังนี้

เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกร่องแก้มโดยตรง

มักพบได้ตั้งแต่คนที่อายุ 20-30 ปี ซึ่งบริเวณร่องแก้มยังไม่ลึกมาก และกระดูกช่วงบริเวณใต้ตายังทรุดตัวไม่มาก สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์แก้ม โดยฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ และฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย

เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา

การทรุดตัวของกระดูกบริเวณใต้ตามักพบได้ในคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป โดยกระดูกบริเวณใต้ตามีการทรุดตัวที่ค่อนข้างมาก ทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนคล้อยลงมาบริเวณเหนือร่องแก้ม จึงทำให้บริเวณร่องแก้มดูลึก สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยฉีดเพื่อยกผิวในชั้นกระดูกเพื่อดึงโครงสร้างผิวโดยรวมทั้งหมดขึ้นไปด้านบน จะช่วยทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เกิดจากการยิ้มบ่อย ๆ

การยิ้มบ่อยเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคนิคการฉีดโบในปริมาณที่น้อยมาก ๆ ลงในชั้นผิวหนัง เพื่อให้เส้นใยของกล้ามเนื้อที่มาเกาะผิวหนังชั้นบนคลายตัว โดยไม่ทำให้กล้ามเนื้อชั้นล่างคลายไปด้วย แต่ไม่ควรแก้ด้วยการฉีดโบ 100% เพราะจะทำให้การยิ้มดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ ควรแก้ด้วยฉีดโบ 50% และแก้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หนุนหรือฉีดกดกล้ามเนื้อ เพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบางส่วน ให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ

การสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงและมีความยืดหยุ่น โดยไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (subcutaneous fat) จะลดลงด้วย โดยไขมันชั้นนี้มีความสำคัญในการให้ความเติมเต็มของใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม เมื่อไขมันใต้ผิวหนังลดลงจึงส่งผลให้ผิวหนังยุบตัวลงตาม จนเกิดร่องลึกบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูผอมลง โครงหน้าชัดขึ้น

เกิดจากผิวแห้ง หรือ เกิดจากการตากแดดบ่อย

ลักษณะผิวจะเกิดเป็นริ้วตื้นบริเวณร่องแก้ม ทำให้ชั้นผิวบางลงและเกิดรอยพับง่าย สามารถใช้ฟิลเลอร์ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวหนังได้โดยตรง โดยเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่อให้เรียบเนียนไม่เป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยอะไรบ้าง?

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึก ทำให้ผิวบริเวณร่องแก้มดูตื้นขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลและมีสัดส่วนที่ดีขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มแก้มตอบ หรือ แก้มส้ม ทำให้ใบหน้าดูเต็ม อิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยยกกระชับใบหน้า เพิ่มมิติให้ใบหน้า และทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าแลดูฉ่ำวาว ผิวแลดูสุขภาพดี

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับใคร?

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มลึกชัดเจน
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่แก้มหย่อนคล้อย หรือเนื้อแก้มเยอะจนเกิดรอยพับ
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มลึกชัดเจน จากกล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มทำงานมากเกินไป
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่มีกระดูกใต้ตาและร่องแก้มลดลง จนเกิดเป็นร่องแก้มลึก
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง มักจะเกิดริ้วรอยและร่องแก้มง่าย

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ดีอย่างไร?

การมีร่องแก้มทำให้ใบหน้าดูมีอายุ การแก้ปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยทำให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นจางลง
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้เด็กลง
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยในการกักเก็บน้ำ ให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณร่องแก้มให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เห็นผลลัพธ์ทันที และผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นใน 7-14 วัน
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลเป็น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยแก้ปัญหาโหนกแก้มใหญ่จากผิวที่หย่อนคล้อย ให้หน้าเล็กลงกระชับขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยแก้ไขใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน ให้สมดุลรับกับใบหน้ามากขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถสลายเองได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแท้ มีความปลอดภัย ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี?

การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ร่องแก้ม แพทย์จะเป็นผู้เลือกตามปัญหาร่องลึกของผู้เข้ารับบริการ โดยแพทย์จะเลือกตามลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ที่ต้องใช้เป็นหลัก การเลือกลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญมากในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพราะหากเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ผิดประเภท อาจทำให้ปัญหาร่องแก้มไม่หาย หรือร่องแก้มชัดกว่าเดิม นอกจากนี้ฟิลเลอร์อาจเป็นก้อนได้

ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นวิธีที่ช่วยเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ทำให้ริ้วรอยร่องแก้มลดน้อยลงและริ้วรอยดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย เพราะฉะนั้นควรเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับบริเวณร่องแก้ม โดยฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณร่องแก้มมักจะใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่นแข็งและเนื้อนิ่ม ฟิลเลอร์เนื้อแข็งจะคงรูปได้ดีเหมาะกับการฉีดในผิวหนังใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ส่วนฟิลเลอร์เนื้อนิ่มจะเหมาะกับการฉีดผิวหนังชั้นตื้น ยี่ห้อที่เหมาะสำหรับปัญหาร่องแก้มลึก มีดังนี้

ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อ Juvederm

ยี่ห้อฟิลเลอร์แบรนด์ดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตด้วยเทคโนโลยี VYCROSS Technology และ HYLACROSS Technolygy ได้รับการรับรองความปลอดภัย และคุณภาพจาก US FDA และ อย.ไทย รุ่นที่เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ

  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟู เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาร่องลึก เช่น ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Juvederm Volift ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลแข็งปานกลาง เนื้อฟู มีความละเอียด กลืนกับผิวได้ง่าย เรียบเนียนไปกับผิว เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาร่องแก้มลึกทุกระดับ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Juvederm Voluma ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็ง ฟูปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม คาง และขมับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง คงรูปทรงได้ดี เหมาะสำหรับการฉีดใต้ตา คาง ขมับ และร่องแก้มลึก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 24 เดือน

ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อ Restylane

แบรนด์ฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกจากประเทศสวีเดน ผลิตโดยบริษัท Galderma ประกอบด้วย 2 เทคโนโลยี คือ NASHA Technology และ OBT Technology ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถใช้ได้หลากหลายบริเวณ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาไทย อเมริกา และเกาหลี รุ่นที่เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ

  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Restylane Refyne ฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่น เหมาะกับการแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เหมาะสำหรับการฉีดร่องแก้ม มุมปาก และปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Restylane classic ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลแข็งปานกลาง เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ขมับ แก้มตอบ แก้มส้ม และริ้วรอยตื้นบนผิว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Restylane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง คงรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณ ใต้ตา คาง หน้าแก้ม ร่องแก้ม แก้มตอบ และขมับ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Restylane Volyme ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม สำหรับการเติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มส่วนที่โหลลึกหรือตอบลง เช่น ร่องแก้ม, แก้มตอบ, ปาก และ มุมปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อ Definisse

ฟิลเลอร์นำเข้าจากประเทศอิตาลี ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Relife Company เป็นบริษัทในเครือของ A.Menarini ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ

  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความเนียนละเอียด กลืนกับผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเติมริ้วรอยตื้น บริเวณร่องแก้ม ใต้ตา ร่องมุมปาก และปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Definisse Restore ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความหนาแน่นปานกลาง เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยร่องแก้ม และร่องมุมปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อ Belotero

ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทย รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Belotero Intense ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง แก้ปัญหาร่องลึกจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง เช่น เติมแก้มตอบ ร่องแก้มลึก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

ฟิลเลอร์ร่องแก้มแท้ วิธีเช็คให้ปลอดภัยก่อนฉีด ในแต่ละยี่ห้อ

วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Juvederm

  • มีเลข Lot วันเดือนปีที่ผลิตฟิลเลอร์ และวันหมดอายุของฟิลเลอร์ ระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจะระบุไว้ทั้งหมด 4 จุด ในแต่ละจุดต้องมีข้อมูลที่ตรงกัน ดังนี้
  1. เลข Lot ที่กล่องฟิลเลอร์
  2. เลข Lot ที่ถาดฟิลเลอร์
  3. เลข Lot ที่สติกเกอร์
  4. เลข Lot ที่หลอดฟิลเลอร์
  • จะมีฉลากกำกับเป็นภาษาไทย และเลขที่ อย.ไทย รับรองอยู่บนกล่องฟิลเลอร์
  • ภายในกล่องจะมีเลขทะเบียน อย.ไทย และเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลของฟิลเลอร์เป็นภาษาไทย
  • สามารถติดต่อเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมโดยตรงกับบริษัท Allergan Thailiand หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02-640-4999 ต่อ 1

วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Restylane

  • จะมีสติกเกอร์โมโนแกรม (Monogram) คำว่า “VOID” ติดไว้
  • จะมี QR Code ให้สแกนข้างกล่อง โดยใช้แอปพลิเคชัน eZTracker Safety เพื่อเช็คว่าฟิลเลอร์เป็นของแท้ ซึ่งจะขึ้นหน้าจอเป็นสีเขียวแสดงวันหมดอายุ พร้อมทั้งมีข้อความระบุว่า ‘ผลิตภัณฑ์ได้ถูกนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด’ แต่ในกรณีที่ขึ้นเป็นหน้าจอสีส้ม ให้กดรายงานในแอปพลิเคชันทันที เพื่อให้บริษัทตรวจสอบได้ เนื่องจากฟิลเลอร์อาจเป็นของปลอม
  • จะมีเลข Lot วันเดือนปี ที่หมดอายุตรงกัน 2 จุด คือ บนกล่อง และที่หลอดของฟิลเลอร์
  • ภายในกล่องจะมีเอกสารเกี่ยวกับฟิลเลอร์เป็นภาษาไทย และมีเลข อย.ไทย กำกับอยู่
  • สามารถโทรเพื่อตรวจสอบหรือสอบถามเลข Lot ได้ที่ 02-023-1800 ต่อ 402

วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Definisse

  • จะมีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
  • เลข lot. ต้องตรงกัน 3 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  2. เลข lot. ที่กล่องฟิลเลอร์
  3. เลข lot. ที่หลอดฟิลเลอร์
  • สติกเกอร์สามารถลอกออกได้ เพื่อนำไปติด OPD Card 
  • รอยประด้านข้างกล่องต้องปิดสนิท 
  • สามารถโทรตรวจสอบเลข lot. และคลินิกได้ ที่บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 696 8500 ต่อ 3

วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ ยี่ห้อ Belotero

  • จะมีเลข Lot วันเดือนปีหมดอายุของฟิลเลอร์ ที่ตรงกันทั้งหมด 3 จุด คือ
  1. เลข lot. ที่สติกเกอร์
  2. เลข lot. ที่กล่องฟิลเลอร์
  3. เลข lot. ที่หลอดฟิลเลอร์
  • แถบสีบนหลอดของฟิลเลอร์ ต้องเป็นสีเดียวกับสีที่อยู่บนกล่อง
  • ภายในกล่องมีเอกสารเกี่ยวกับฟิลเลอร์เป็นภาษาไทย และมีเลขทะเบียน อย. ไทย
  • สามารถโทรเพื่อตรวจสอบเลข Lot และคลินิกที่นำฟิลเลอร์มาใช้ ได้ที่บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Merz Aesthetic) โทร 092-254-2662

การเตรียมตัวก่อนฉีด-หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การดูแลตัวเองก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต เช่น วิตามินซี
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิวทุกชนิด 3 วัน
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม งดสูบบุหรี่และงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การคาร์ดิโอ ปั่นจักรยาน วิ่ง 24 ชั่วโมง

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญเพื่อให้แพทย์ทำการประเมินใบหน้าเบื้องต้น เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด
  • แพทย์จะแนะนำว่าควรใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหน และรุ่นไหนให้เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการฉีด
  • ทำความสะอาดใบหน้าบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อความสะอาดและความปลอดภัย
  • แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ดูต่อหน้า เพื่อความมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ก่อนฉีด
  • แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ลงบริเวณที่ร่องแก้ม
  • ระหว่างแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม
  • ซึ่งเนื้อฟิลเลอร์ส่วนใหญ่มียาชาเป็นส่วนประกอบอยู่ในเนื้อฟิลเลอร์
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเสร็จเรียบร้อย แพทย์จะทำการแนะนำวิธีดูแลตนเองเพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา นวด และคลึง รวมไปถึงอย่าขยับใบหน้าเยอะ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ห้ามนอนราบ 3-4 ชั่วโมง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การซาวน่า การออกกำลังกายหนัก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม งดเลเซอร์ลงผิวชั้นลึก อย่างน้อย 1 เดือน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หากมีอาการปวด สามารถกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดให้เบาลงได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม vs ร้อยไหมดึงร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม กับ การร้อยไหมดึงร่องแก้ม เป็นหัตถการเพื่อใบหน้าอ่อนเยาว์ทั้ง 2 หัตถการ โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึก และช่วยเติมเต็มส่วนที่มีการทรุดตัวของกระดูก มีเทคนิคฉีดไล่ตั้งแต่เส้นร่องแก้มบริเวณปากไล่ขึ้นมา ช่วยทำให้มุมปากยกขึ้นได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้โดยตรง ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเห็นผลลัพธ์ทันทีอย่างเป็นธรรมชาติ

ร้อยไหมดึงร่องแก้ม

การร้อยไหมดึงร่องแก้ม จะเป็นการร้อยไหมเรียบในผิวชั้นตื้นเพื่อช่วยในการเสริมร่องแก้มให้ตื้นขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น เพราะถ้าร้อยไหมซ้อนกันหลายเส้นมากเกินไปในจุดเดียว จะมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอีลาสตินทับซ้อนกันจนเป็นพังผืดแข็งได้ หรือกรณีที่ร้อยไหมก้างปลาดึงแก้มโดยตรง จะทำให้เนื้อขึ้นไปกองรวมกันอยู่ตรงโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูบวมและไม่เป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม vs ฉีดโบ vs เครื่องยกกระชับ แบบไหนแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้ดี?

ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดโบ และเครื่องยกกระชับ แบบไหนถึงจะเหมาะสมกับปัญหาร่องแก้มที่สุด โดยปัญหาร่องแก้มแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้

  • ร่องแก้มเป็นร่องตื้น ไม่ลึกมาก เป็นปัญหาที่เกิดจากการพับของผิวหน้าเมื่อแสดงสีหน้า สามารถแก้ไขได้ด้วยเครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera SPT, Ultraformer MPT 4D Lift, Oligio, Emface, morpheuse8 หรือ Thermage FLX ช่วยให้ใบหน้ามีความตึงกระชับและช่วยลดการขยับของผิว ทำให้ร่องแก้มไม่ลึกไปมากกว่าเดิม
  • ร่องแก้มเป็นร่องลึก แม้ยังไม่แสดงสีหน้า ส่วนมากจะพบได้ในคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป หรือคนที่มีเนื้อเยื่อยุบลง ทำให้แก้มหย่อนคล้อย เมื่อทำการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มลึกจะดูตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียน ริ้วรอยลดลง สามารถทำคู่กับเครื่องยกกระชับผิวได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
  • ร่องแก้มลึกมาก เป็นรอยพับถาวร ปัญหานี้พบได้ในคนสูงอายุที่ร่างกายหยุดผลิตคอลลาเจน มักมีปัญหากระดูกทรุดตัว ผิวหย่อนคล้อยมาก การร้อยไหมยกกระชับหรือการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า จะสามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึกมากได้ดี และสามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือเครื่องยกกระชับอื่น ๆ ได้อีกด้วย

คำถามพบบ่อยของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้กี่ CC?

โดยปกติการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ใช้ฟิลเลอร์ 1-2 CC เท่านั้น แต่ในบางกรณีคนที่มีอายุเยอะ อาจจำเป็นสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 3-4 CC และอาจจะต้องทำการร้อยไหมหรือเครื่องยกกระชับร่วมด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้นกว่าเดิม

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม กี่วันเห็นผลลัพธ์?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีตั้งแต่ครั้งแรก และไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน โดยในช่วงแรกอาจมีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่เมื่ออาการบวมลดลง ใบหน้าจะดูยกกระชับขึ้น และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังทำ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หากใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์สูง และฉีดกับคลินิกที่ได้รับมาตรฐานที่สะอาดและปลอดเชื้อ จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์ปลอม อันตรายอย่างไร?

การฉีดฟิลเลอร์ปลอม มาจากการที่ฉีดกับคลินิกที่ไม่มีมาตรฐานการรองรับจากกระทรวงสาธารณสุข การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีการรับรองจาก อย. ไทย หรือการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญในด้านการฉีดฟิลเลอร์ โดยอาการของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มปลอมทำให้เกิดความผิดปกติ เช่น อาการบวม รอยแดง การอักเสบติดเชื้อที่รุนแรง รวมไปถึงการไหลย้อยของฟิลเลอร์ด้วย ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาออกเท่านั้น เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถย่อยสลายเองได้

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เจ็บไหม?

ปกติการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะมีความเจ็บในระดับที่อดทนได้ ซึ่งก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะมีการทายาชาให้ ในฟิลเลอร์บางยี่ห้อจะมียาชาเป็นส่วนประกอบอยู่ในเนื้อฟิลเลอร์ด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน?

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะมีอาการบวมจากเข็มได้ โดยอาการบวมจะเริ่มค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน โดยควรหลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกา หรือกดนวดในบริเวณนั้น

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อนเกิดจากอะไร?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้

แพทย์ไม่มีความชำนาญในด้านการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • เกิดจากการที่แพทย์ไม่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ :โดยปกติแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีความรู้เรื่องการของวิเคราะห์ใบหน้าเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ หรือหมอกระเป๋า อาจจะเกิดการฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิวหนังแล้วเกิดเป็นก้อนได้
  • เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมการเลือกยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์: นับเป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากฟิลเลอร์ในแต่ละยี่ห้อนั้นมีขนาดของโมเลกุลและความหนาแน่นที่แตกต่างกันออกไป หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ผิดก็อาจจะทำให้ก้อนแข็งขึ้นมาได้
  • เลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่ตรงกับปัญหาการเลือกใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : หากฉีดในชั้นผิวที่ไม่ลึกมากพอ ฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงจุด เนื่องจากไม่ทราบต้นเหตุที่แท้จริง จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ลงบริเวณข้างร่องแก้ม เป็นการเน้นให้ร่องแก้มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
  • เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานการ : ใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้ เมื่อเวลาผ่านไปจะจับตัวกันเป็นก้อน หรืออาจเกิดการไหลย้อยไม่เป็นทรงได้

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นการแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างตรงจุด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก สามารถทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงได้ ซึ่งผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และผลลัพธ์อยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ร่องแก้มที่เลือกใช้ และควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับแพทย์ผู้ชำนาญการที่เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/RomrawinClinic

ฟิลเลอร์คางคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? อันตรายไหม? รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์คาง

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ




    เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ฟิลเลอร์คางคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? อันตรายไหม? รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

    ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ และมองข้ามการแก้ปัญหานี้ไป ซึ่งคางเป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรให้ความสนใจมากที่สุด เพราะปัญหาของคางสั้น คางตัด คางบุ๋มแล้ว ยังสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยสมส่วน รับเข้ากับใบหน้ามากขึ้น

    แต่การจะฉีดฟิลเลอร์คางครั้งแรกต้องศึกษาข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ว่า การฟิลเลอร์คาง คืออะไร ฟิลเลอร์คางช่วยอะไรบ้าง ฟิลเลอร์คางอันตรายไหม หาคำตอบทุกเรื่องเกี่ยวกับฟิลเลอร์คาง เพื่อเตรียมความพร้อมได้แล้วกับบทความนี้

    ฟิลเลอร์คางคืออะไร? อันตรายไหม? เจาะลึกเรื่องของการฉีดฟิลเลอร์คางที่ต้องรู้ก่อนฉีด

    ฟิลเลอร์คาง
    ฟิลเลอร์คางคืออะไร

    ฉีดฟิลเลอร์คางคืออะไร?

    ฟิลเลอร์คาง คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าไปสู่บริเวณใต้คาง เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน หน้าเรียวเล็กมากขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที และเนื้อฟิลเลอร์สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีอาการบวมช้ำเหมือนกับการผ่าตัดเสริมคาง ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

    การฉีดฟิลเลอร์คางจะเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เมื่อฉีดเข้าไปฟิลเลอร์คางจะคงตัวได้ดี สามารถยกผิวในชั้นกระดูกเพื่อปรับรูปหน้า ในการฉีดฟิลเลอร์คางจำเป็นต้องทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญการเท่านั้น

    ฟิลเลอร์คาง
    ลักษณะโหงวเฮ้งที่ดีเป็นอย่างไร

    ฉีดฟิลเลอร์คางกับโหงวเฮ้งที่ดี ลักษณะคางที่ดี เป็นอย่างไร?

    โหงวเฮ้งคาง (ตี่เก๊าะ) ที่ดี คือศาสตร์การปรับรูปหน้าของจีน การดูโหงวเฮ้งคางสามารถบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย ความรู้และความสามารถได้อีกด้วย โดยโหงวเฮ้งคางจะมีลักษณะเด่นและลักษณะด้อยของคาง ดังนี้

    ลักษณะคางเด่น

    คางกลมมน : จะมีรูปทรงคางที่สวยงาม แบบถูกหลักโหงวเฮ้ง โดยลักษณะนี้จะเป็นบุคลิกที่มีความโอบอ้อมใจดี สมถะ ถ่อมตน
    คางนูน : บ่งบอกถึงความเป็นคนมีวาสนามั่งมีทรัพย์ สติปัญญาสูง มักเป็นที่รักใคร่แก่คนทั่วไป และเป็นที่สนใจต่อเพศตรงข้าม

    ลักษณะคางด้อย

    คางแหลม : เป็นบุคลิกลักษณะไม่ประนีประนอม
    คางสองชั้น : ลักษณะบุคลิกนี้อาจจะดูเป็นคนเกียจคร้าน นิยมวัตถุ และเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้นน้อย
    คางสั้น คางหลบ : เป็นลักษณะของคนไม่ค่อยเข้าสังคม มีลับลมคมใน ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ มักจะขี้กังวล ขาดความอดทนและขี้เกรงใจ

    ฟิลเลอร์คาง
    ฟิลเลอร์คางช่วยอะไร

    ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยอะไร?

    ฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้ง แก้ปัญหาคางไม่สมส่วน หรือแก้ปัญหาคางต่าง ๆ ดังนี้

    • ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาคางตัด คางสั้น คางบุ๋ม เพื่อแก้ปัญหาให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
    • ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาหน้ากลม ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวมากขึ้น
    • ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาคางเบี้ยว ไม่เท่ากัน
    • ฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อเสริมโหงวเฮ้งให้มีความมั่นใจมากขึ้น
    • ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยเสริมคางให้ยาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    ฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร?

    ฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นหัตถการที่เหมาะกับคนที่อยากเสริมคาง แต่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมีแผล และไม่อยากพักฟื้น เหมาะกับคนที่มีฐานคางเดิมที่ต้องการปรับรูปทรงให้ดูเรียวยาว มีมิติสวยขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม เสริมความมั่นใจให้กับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

    ฉีดฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับใคร?

    • การฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางสั้นหรือคางถอยมาก ๆ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และอาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อน คางไม่สวย หรือคางผิดรูปได้ นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางจะสลายไปเองตามธรรมชาติ

    ฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อจำกัดอะไรบ้าง?

    การฉีดฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับคนที่มีข้อจำกัด ดังนี้

    • ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการแพ้ฟิลเลอร์หรือแพ้สารไฮยารูลอนิก แอซิด
    • ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดเลือดยาก หรือมีแผลฟกช้ำง่าย
    • ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับคนที่กำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
    • ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับคนที่เป็นเริมหรืองูสวัด
    • ฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์
    ฟิลเลอร์คาง
    ฟิลเลอร์คางดีอย่างไร

    ฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อดีอย่างไร?

    • ฉีดฟิลเลอร์คางไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที เหมาะกับคนที่ต้องการรูปหน้าที่เรียวขึ้น
    • ฉีดฟิลเลอร์คางสามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่มีตกค้างในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง
    • ฉีดฟิลเลอร์คางช่วยปรับรูปคางให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ
    • ฉีดฟิลเลอร์คางหากไม่ชอบผลลัพธ์หลังทำสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้

    ฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อเสียอย่างไร?

    • ฉีดฟิลเลอร์คางผลลัพธ์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร โดยการฉีดฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด ทำให้ต้องฉีดซ้ำต่อเนื่องหลังจากฟิลเลอร์สลายตัว
    • ฉีดฟิลเลอร์คางหากใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
    • หากฉีดฟิลเลอร์คางกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญอาจทำให้คางผิดรูป หรือทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลง
    ฟิลเลอร์คาง
    ฟิลเลอร์คาง กับผ่าตัดศัลยกรรมคาง ต่างกันอย่างไร

    ฉีดฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดศัลยกรรมคาง แตกต่างกันอย่างไร?

    • การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการเสริมคางด้วยเนื้อฟิลเลอร์ ไม่ต้องผ่าตัดไม่ต้องพักฟื้น โดยการฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการเสริมคางจากเดิมไม่เกิน 1 เซนติเมตร เห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีหลังทำ หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
    • ส่วนการเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นการผ่าตัดโดยนำซิลิโคนเข้าไปภายในใต้เนื้อเยื่อกระดูกบริเวณคาง เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมคางยาวมากกว่า 1 เซนติเมตร หลังผ่าตัดเสริมคางต้องดูแลแผลอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงแผลอักเสบและติดเชื้อ การผ่าตัดเสริมคางจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 1-3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์ของการผ่าตัดเสริมคางนั้นอยู่ได้ถาวร หากอยากแก้ไขต้องผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคนคางใหม่เท่านั้น
    ฟิลเลอร์คาง
    ฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี

    ฉีดฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี?

    ยี่ห้อฟิลเลอร์คางที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์คาง เนื้อฟิลเลอร์ต้องมีความคงตัว เนื้อแน่น อิ่มฟู เพื่อให้ปั้นทรงคางที่สวยได้รูป โดยฟิลเลอร์คางมีทั้งหมด 4 ยี่ห้อด้วยกัน ดังนี้

    ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Difinisse

    • ฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี ผลิตโดยบริษัท Relife Company บริษัทในเครือ A.Menarini อิตาลี มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท A.Menarini Thailand โดยรุ่นที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์คางคือ Difinisse Core โดยฟิลเลอร์มีลักษณะเนื้อแข็ง เหมาะสำหรับการเสริมกระดูก เติมคาง ปรับรูปหน้าได้ดี ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

    ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Restylane

    • ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด โดยรุ่นที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์คางคือ Restylane Perlane Lyft โดยเนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีดคางสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

    ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Belotero Intense

    ฟิลเลอร์แท้จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Merz Aesthetic) ผลิตโดยเทคโนโลยีเฉพาะ Cohesive Polydensified Matrix (CPM)  โดยรุ่นที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์คาง มีดังนี้

    • Belotero Intense เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะคงตัวสูง มีความยืดหยุ่น ขึ้นรูปได้สวย สามารถแก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
    • Belotero Volume เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะมีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับเพิ่มมิติและเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน

    ฟิลเลอร์คางยี่ห้อ Juvederm

    ฟิลเลอร์แท้จากประเทศอเมริกา นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand โดยรุ่นที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์คางคือ

    • Juvederm Voluma เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเติมคางเพื่อความเป็นธรรมชาติ ปั้นทรงคางให้สวยรับกับใบหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
    • Juvederm Volux เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปทรงคางง่าย ปั้นรูปทรงคางอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน
    ฟิลเลอร์คาง
    ฟิลเลอร์คางเตรียมตัวอย่างไร

    ก่อนฉีดฟิลเลอร์คางเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ควรงดวิตามิน อาหารเสริม รวมไปถึงยาแก้ปวด ยาละลายลิ่มเลือด 7 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง หากเป็นยารักษาโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อน
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง งดแอลกอฮอล์หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง 
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง งดทายาชนิดผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ 
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง งดทำหน้าหรือเลเซอร์ผิวหน้าก่อนอย่างน้อย 3 วัน
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ควรแจ้งโรคประจำตัวกับแพทย์ก่อนทำหัตถการ
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ควรแต่งหน้ามาฉีดฟิลเลอร์คาง เพราะอาจมีสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางตกค้างบริเวณคาง แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องแต่งหน้ามาฉีดฟิลเลอร์คางนั้นสามารถทำได้ โดยทางคลินิกจะมีการทำความสะอาดบริเวณที่ทำก่อนฉีดฟิลเลอร์
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ควรหาข้อมูลคลินิกที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์ผู้ชำนาญการในด้านการฉีดฟิลเลอร์ก่อนเข้ารับบริการ
    • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอมก่อนเข้ารับบริการ

    ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์คาง

    • ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง โดยแพทย์จะประเมินทรงคาง เพื่อเลือกทรงคางที่เหมาะสมกับใบหน้าให้ได้สัดกส่วนมากที่สุด
    • แพทย์จะช่วยแนะนำยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมของฟิลเลอร์คางให้เหมาะสมกับความต้องการ
    • เริ่มทำความสะอาดบริเวณใบหน้า เพื่อความสะอาดและปลอดภัย
    • แปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อบรรเทาลดความเจ็บปวด
    • แพทย์เริ่มฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่บริเวณคางและปั้นทรงคาง โดยใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที
    • เมื่อฉีดเสร็จแล้วแพทย์จะให้นั่งพักสั่งครู่ เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์เซตตัว
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ

    ฟิลเลอร์คาง

    การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

    หลังฉีดฟิลเลอร์คางดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?

    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรรีบทานยาฆ่าเชื้อทันที
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ห้ามแกะ เกา และนวดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์คาง ห้ามปั้นทรงคางด้วยตัวเอง
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง อาการบวมจะค่อย ๆ หายไปเองใน 7-14 วัน
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง งดการทำเลเซอร์ อย่างน้อย 1 เดือน
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น ซาวน่า หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู เป็นต้น
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ห้ามเท้าคาง นอนคว่ำ หรือ หลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณคาง เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์คางเกิดการเคลื่อนที่
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรรับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้า ผลการรักษาระยะเวลาอยู่ได้สั้นน้อยลง และอาจทำให้เกิดการอักเสบได้
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
    • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง อย่าขยับใบหน้าเยอะบริเวณที่ฉีดในช่วง 3 วันแรก ไม่ล้างหน้าหรือถูหน้าแรง ๆ

    อาการหลังฉีดฟิลเลอร์คาง 24 ชั่วโมง

    • หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที โดยรูปทรงคางจะยาวสวยขึ้น แต่อาจจะมีอาการบวมมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้บริเวณคางฟูมากขึ้น แต่เมื่อผ่านไป 7-14 วัน อาการบวมเข็มจะค่อย ๆ ยุบลง ฟิลเลอร์คางเข้าที่มากขึ้น และผลลัพธ์เข้าที่หลังฉีดฟิลเลอร์ 2 สัปดาห์
      ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อนเกิดจากอะไร?

    ฉีดฟิลเลอร์คางไม่ตรงกับตำแหน่งที่ฉีด

    • การฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงกับตำแหน่งที่มีปัญหา เช่น ฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยเยอะเกินไป หรือ ฉีดฟิลเลอร์เติมร่องลึกที่ตื้นเกินไป รวมไปถึงการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนและอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้

    เลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการฉีด

    • หากใช้ฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลหนาแน่นสูงสำหรับฉีดลงบนผิวชั้นลึก ฉีดลงไปในผิวชั้นตื้น จะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก่อนบวมได้ เพราะฉะนั้นควรเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการฉีด จะได้ไม่เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็งได้

    ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

    • การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ ราคาถูก ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหลย้อยไม่เป็นทรง หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นฟิลเลอร์เน่าได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ปลอมเด็ดขาด เพราะไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ ต้องขูดออกหรือศัลยกรรมผ่าตัดเท่านั้น

    แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่มีประสบการณ์ทางด้านการฉีดฟิลเลอร์คาง

    • แพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์คางจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ในแต่ละชนิด รวมถึงโครงสร้างของสรีรวิทยาของร่างกายของมนุษย์ และมีความรู้ด้านการปรับรูปหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด แพทย์ที่ขาดความรู้และประสบการณ์จะให้เกิดความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมได้

    คำถามพบบ่อยของการฉีดฟิลเลอร์คาง

    ฉีดฟิลเลอร์คางใช้กี่ CC?

    • ในการฉีดฟิลเลอร์คางสำหรับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางตัด โดยปกติจะเติมคางให้ยาวลงมาได้ไม่เกิน 1 เซนติเมตร ดังนั้นสำหรับคนที่มีปัญหาและต้องการปรับแก้ไขรูปทรงคางให้ยาวขึ้น จะใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC เท่านั้่น สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนได้

    ฟิลเลอร์คางหายบวมในกี่วัน?

    • หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะหายบวมได้เองประมาณ 4-5 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากการฉีดฟิลเลอร์อาจมีผลข้างเคียง เช่น ผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม ที่สามารถหายเองได้ ส่วนอาการบวมหลังฉีดนับเป็นเรื่องปกติ หากมีอาการปวดบริเวณที่ฉีด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดได้

    ฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานไหม?

    • การฉีดฟิลเลอร์คางจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ที่มีความคงตัวสูง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้ประมาณ 12-24 เดือน ตามอายุของยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ นอกจากนี้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์อยู่ได้นานหรือไม่ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองในแต่ละบุคคล

    ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วผ่าตัดเสริมคางได้ไหม?

    • หากฉีดฟิลเลอร์คางแล้ว สามารถผ่าตัดเสริมคางได้ในภายหลัง แต่ต้องรอให้ฟิลเลอร์คางสลายหมดก่อน เนื่องจากจะส่งผลต่อการยึดเกาะของซิลิโคนที่ฉีดฟิลเลอร์มา ดังนั้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์คางควรศึกษาข้อมูลและวางแผนให้ดีก่อนว่ามีแผนต้องการเสริมซิลิโคนคางในอนาคตหรือไม่ และการฉีดฟิลเลอร์คางหรือการผ่าตัดเสริมคางเหมาะสมกับตัวเองมากน้อยแค่ไหน

    ฉีดฟิลเลอร์คางสลายได้ไหม?

    • หากฉีดฟิลเลอร์คางแท้ หลังฉีดฟิลเลอร์คาง เนื้อฟิลเลอร์จะสลายเองตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ แต่กรณีที่ไม่ชอบรูปทรงคางและอยากแก้ไขสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวยา Hyaluronidase ช่วยสลายฟิลเลอร์ออกไปจนหมด

    ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม?

    • ในระหว่างฉีดฟิลเลอร์คางอาจจะมีความรู้สึกเจ็บในขณะฉีด ฟิลเลอร์บางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาชา ช่วยลดความรู้สึกเจ็บในขณะฉีดได้ เช่น ยี่ห้อ Restylane หรือ ยี่ห้อ Juvederm เป็นต้น

    ฉีดฟิลเลอร์ที่คางอันตรายไหม?

    • การฉีดฟิลเลอร์ที่คางอย่างปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย ควรฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการในด้านการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน สลายเองได้เองตามธรรมชาติ และไม่มีการตกค้างภายในร่างกาย

    เป็นสิวที่คางฉีดฟิลเลอร์คางได้ไหม?

    • ในกรณีเป็นสิวที่คางแบบรุนแรง เช่น สิวอักเสบ สิวหัวช้าง หรือ สิวฮอร์โมน ควรพักการฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อทำการรักษาสิวให้หายก่อน เพราะอาจเกิดการอักเสบมากขึ้นกว่าเดิมและอาจทำให้เกิดการบวมหรือแดงจากรอยเข็มได้

    ฉีดฟิลเลอร์คางนอนตะแคงได้ไหม?

    • คนที่ฉีดฟิลเลอร์คางให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ นอนตะแคง เพื่อป้องกันการกดทับของคางเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้ ควรดูแลรูปทรงคางหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เพื่อรักษาผลลัพธ์ของทรงคางสวยรับกับใบหน้าที่สุด

    ฉีดฟิลเลอร์คางห้ามทานอะไร?

    อาหารบางชนิดส่งผลต่อการอักเสบหรือการยุบบวมของผิวจากการฉีดฟิลเลอร์คาง แต่หลังจากฟิลเลอร์เข้าที่ในช่วง 2 สัปดาห์ สามารถรับประทานได้ตามปกติ โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วง 2 สัปดาห์แรก มีดังนี้

    • งดอาหารรสจัด เนื่องจากอาหารรสจัดมักดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าและลำตัวเกิดภาวะบวมน้ำ
    • หลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารหมักดอง เพราะจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
    • งดดื่มแอลกอฮอล์และงดบุหรี่ เพราะจะทำให้เกิดการยุบตัวช้า และผลลัพธ์ฟิลเลอร์จะอยู่ได้สั้นลง

    หลังฉีดฟิลเลอร์คางทำหัตถการอื่นได้ไหม?

    • หลังจากการฉีดฟิลเลอร์คางสามารถทำหัตถการอื่นร่วมกันได้ เช่น การฉีดโบ การร้อยไหม การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณอื่น รวมไปถึงการทำยกกระชับ Ulthera SPT หรือ Ultraformer MPT 4D Lift โดยก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อวางแผนลำดับการทำก่อน-หลัง และแนะนำระยะเวลาที่เหมาะสมกับการทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์คางได้

    สรุปเรื่องฟิลเลอร์คาง

    การฉีดฟิลเลอร์คางนับเป็นหัตถการช่วยปรับใบหน้าให้มีความเรียว ดูสมมาตร ได้สัดส่วนและมีมิติมากขึ้น โดยฟิลเลอร์คางจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของคางบุ๋ม คางสั้น คางตัด ช่วยให้ใบหน้าเรียวยาวมากขึ้น หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางจะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที และสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีตกค้างในร่างกาย ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์คางนั้นสามารถอยู่ได้นานกว่า 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตนเองในแต่ละบุคคล เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องควรทำปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด และที่สำคัญควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และแพทย์มีความชำนาญเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุด

    สอบถามติดต่อ :https://bit.ly/RomrawinLINE

     

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ




      เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

      ฟิลเลอร์ปากอวบอิ่ม อยู่ได้กี่เดือน ทรงปากแบบไหนเหมาะกับใคร

      ฟิลเลอร์ปาก

      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




        วันที่สะดวกในการติดต่อ




        เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

         
        ฟิลเลอร์ปาก
        รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

        ฟิลเลอร์ปากอวบอิ่ม แก้ปัญหารูปทรงปาก ฉีดครั้งแรกต้องรู้อะไรบ้าง?

        ในปัจจุบันเรื่องของเทรนด์ความสวยความงาม เป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนเริ่มหันมาให้ความสนใจ และใส่ใจดูแลตัวเองอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยม คือ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงรูปทรงปากแบบสาวเกาหลี หรือสาวสายฝอได้ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของฟื้นฟูริมฝีปากให้กลับมาชุ่มชื้น เรียบเนียนขึ้น แก้ปัญหาริมฝีปากตกร่อง และริมฝีปากแห้ง ให้กลับมาฉ่ำวาวสุขภาพดีอีกครั้ง ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากนับว่าเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์มาก บทความนี้รมย์รวินท์คลินิกขอรวบรวมทุกเรื่องของฟิลเลอร์ปาก ให้สาว ๆ ทุกคนได้เตรียมตัวและเตรียมข้อมูลให้พร้อม ก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อความปลอดภัย และเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่ดี

        เทรนด์ฮิตฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรกต้องรู้อะไรบ้าง

        ฟิลเลอร์ปาก

        ฟิลเลอร์ปากคืออะไร?

        การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ที่มีคุณสมบัติในด้านของการอุ้มน้ำ โดยการฉีดสารเติมเต็มหรือการฉีดฟิลเลอร์จะเป็นการฉีดเข้าไปบริเวณริมฝีปาก เพื่อเพิ่มขนาดของริมฝีปากและปรับโครงสร้างของริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากมีความอวบอิ่มมากขึ้น แก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง ลอกเป็นขุย อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากบนและล่างไม่เท่ากัน

        นอกจากฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อความอวบอิ่ม ฟิลเลอร์ปากยังสามารถแก้ปัญหาปากคว่ำให้กลับมายิ้มแย้มสดใสขึ้น ด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก และสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยรอบบริเวณมุมปากให้กลับมาเต่งตึงขึ้น เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที

        สัดส่วนปากทองคำ (Golden Ratio)

        หลักการเลือกรูปทรงปากให้เข้ากับใบหน้า ต้องพิจารณาดูความเหมาะสมของสัดส่วนใบหน้า โดยหลักเกณฑ์การพิจารณามี ดังนี้

        • ขนาดของริมฝีปากบน : ล่าง มีความเหมาะสมตามสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) 1:1.618
        • ขอบริมฝีปากต้องมีสัดส่วนที่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง
        • มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ไม่ทิ่มคว่ำลง
        • ร่องริมฝีปากบนมีขอบหยักที่ชัดเจน คมชัด และดูมีมิติ
        • เนื้อริมฝีปากล่างไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินขอบเขตของริมฝีปากบน
        • เนื้อริมฝีปากอวบอิ่ม เรียบเนียน และไม่มีริ้วรอยย่นบนริมฝีปาก

        ฟิลเลอร์ปาก

        ฟิลเลอร์ปากช่วยอะไร?

        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตก ลอกเป็นขุย ให้กลับมามีความชุ่มชื้นอีกครั้ง
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยปรับรูปทรงตามที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นทรงเกาหลี ปากสายฝอ และปากกระจับ
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยปรับขนาดของโครงสร้างให้มีสัดส่วนที่สมดุลกันอย่างสวยงาม
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยเพิ่มเติมเนื้อบริเวณริมฝีปาก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปากบางจนเกินไป
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยทำให้ขอบปากมีขอบเขตที่ชัดเจนสวยงามขึ้น
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดบริเวณริมฝีปาก
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปากขึ้น ช่วยแก้ปัญหามุมปากคว่ำตกจนทำให้ใบหน้าดูบึ้งตึง

        ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร?

        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่อยากปรับทรงริมฝีปากให้สวยขึ้น
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ไม่เท่ากัน
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากแห้งและตกร่อง
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับผู้ที่อยากเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า

        ฉีดฟิลเลอร์ปากไม่เหมาะกับใคร?

        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับผู้ที่ผ่าตัดปากมา และมีพังผืดจากแผลรั้งริมฝีปากมากเกินไป
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้ยาหรือเป็นโรคที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเริม
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับผู้ที่ผิวหนังบริเวณริมฝีปาก หรือบริเวณใกล้เคียงเกิดการอักเสบอยู่ ควรรักษาให้หายก่อนทำ
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์ง่าย
        • ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้กรดไฮยาลูรอน

        ฟิลเลอร์ปาก

        3 ทรงฟิลเลอร์ปากยอดนิยม

        ทรงของการฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับสาวไทย จะมีทั้งหมด 3 ทรง คือ ทรงปากกระจับ ทรงปากเกาหลี และทรงปากสายฝอ ซึ่งทรงปากแต่ละรูปแบบมีความแตกต่างกัน ดังนี้

        ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงกระจับ

        • ลักษณะทรงปากกระจับ จะเป็นรูปทรงปากโค้งเรียวสวยคล้ายกับผลกระจับ โดยริมฝีปากส่วนบนและส่วนล่างได้รูปทรงที่สวยรับกับใบหน้า หรือบางคนเรียกรูปทรงปากทรงนี้ว่าปากปีกนก เพราะมีลักษณะมุมปากกระจับเรียวและยกขึ้นคล้ายกับปีกนก รูปทรงปากกระจับ เป็นทรงที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

        ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงเกาหลี

        • ลักษณะทรงปากเกาหลี (Cherry Lips) จะเป็นรูปทรงที่คล้ายกับลูกเชอร์รี่ โดยช่วงกลางของริมฝีปากบนและล่างจะมีความอิ่มฟูมากกว่าด้านข้างริมฝีปาก ช่วยปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม แน่นฟู อีกทั้งยังช่วยทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอีกด้วย

        ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงสายฝอ

        • โดยปกติลักษณะทรงปากสายฝอมี 2 รูปแบบ คือ ทรงปากอวบอิ่ม เซ็กซี่ ที่ริมฝีปากจะเต็มแน่นเฉพาะริมฝีปากล่าง ส่วนริมฝีปากบนจะมีความเจ่อเล็กน้อย ส่วนแบบปากอวบหนา จะมีรูปทรงปากที่เต็มแน่นทั้งริมฝีปากบนและริมฝีปากล่าง

        ฟิลเลอร์ปาก

        ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี?

        สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ ที่ใช้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ได้รับความนิยม และได้รับการรับรองจาก อย.ไทย มีทั้งหมด 3 ยี่ห้อด้วยกัน ดังนี้

        ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane

        เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกที่พัฒนาขึ้นจากประเทศสวีเดน นำเข้าโดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด รุ่นฟิลเลอร์ที่แนะนำเพื่อการฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ Restylane KYSSE เป็นรุ่นที่ผลิตขึ้นมาเพื่อฉีดบริเวณริมฝีปากโดยเฉพาะ เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียดและคงตัว ช่วยให้ทรงปากได้รูปอย่างธรรมชาติ  รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับฉีดฟิลเลอร์ปากคือ 

        • ฟิลเลอร์ปาก Restylane Classic ลักษณะเนื้อนิ่ม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ปากดูเป็นทรงสวยธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
        • ฟิลเลอร์ปาก Restylane Kysse ฟิลเลอร์ลักษณะเนื้อละเอียด มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับการสร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน ช่วยมอบความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ถูกออกแบบมา ลเพื่อใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน

        ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm

        ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยและคุณภาพจาก US FDA และ อย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูง รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมสำหรับฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ 

        • ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Vobella ฟิลเลอร์จะมีโมเลกุลคล้ายเนื้อเจลนิ่ม มีความเนียนละเอียด กลืนกับผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
        • ฟิลเลอร์ปาก Juvederm Volift เนื้อค่อนข้างฟู นิ่มปานกลาง เรียบเนียน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ริมฝีปากอิ่มฟูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 เดือน

        ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Belotero

        ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์ แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ใช้เทคโนโลยี Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษในการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปากคือ Belotero lips ฟิลเลอร์สำหรับฉีดปากโดยเฉพาะ ใน 1 เซตจะมาด้วยกัน 2 รุ่น คือ

        • ฟิลเลอร์ปาก Belotero lips shape สำหรับเพิ่มวอลลุ่ม เติมความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก
          ฟิลเลอร์ปาก Belotero lips contour สำหรับปรับรูปทรงปากตามที่ต้องการ เพิ่มความคมชัดของขอบปาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน
        • ฟิลเลอร์ปาก Belotero Intense ฟิลเลอร์กล่องชมพูที่ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่มและเรียบเนียนขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 9-12 เดือน

        ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

        • ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ช่วยปรับทรงปากให้สวยเข้ารูป
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากแก้ปัญหาปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุยได้
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร แต่สามารถฉีดเพิ่มได้
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถฉีดสลายได้
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากมีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตราย ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ

        ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากเตรียมตัวอย่างไร?

        • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดรับประทานกลุ่มยาแอสไพริน 1 สัปดาห์ก่อนทำ
        • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดยาหรืออาหารเสริมต่าง ๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์ก่อนทำ และควรปรึกษาแพทย์เจ้าของคนไข้ก่อนหยุดยา
        • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดทายาชนิดผลัดเซลล์ผิวทุกชนิด เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
        • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
        • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก งดแว็กซ์บริเวณรอบริมฝีปากก่อนทำ 1 สัปดาห์
        • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ งดกิจกรรมการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ

        ฉีดฟิลเลอร์ปากมีขั้นตอนอย่างไร?

        • ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยแพทย์จะประเมินลักษณะของริมฝีปากของผู้ที่เข้ารับบริการ เพื่อเลือกทรงปากที่เหมาะสมกับใบหน้าที่สุด
        • แพทย์จะช่วยแนะนำยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสมของฟิลเลอร์ปาก ให้เหมาะสมกับความต้องการ
        • เริ่มทำความสะอาดบริเวณริมฝีปาก เพื่อความสะอาดและปลอดภัย
        • แปะยาชาและประคบน้ำแข็งก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อช่วยลดบรรเทาความเจ็บ
        • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากควรตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ โดยแพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อความมั่นใจในฟิลเลอร์แท้
        • แพทย์เริ่มฉีดฟิลเลอร์ลงบนริมฝีปาก
        • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่นานขึ้น

        ฟิลเลอร์ปาก

        หลังฉีดฟิลเลอร์ปากดูแลตัวเองอย่างไร?

        หากอยากรักษาผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ปากให้อยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งวิธีดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

        • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดทาลิปสติกหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
        • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดรับประทานอาหารรสจัดเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
        • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับฟิลเลอร์ปาก ยังช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น และอยู่ได้นานขึ้น
        • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
        • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ควรดึง หรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวริมฝีปากกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นได้น้อยลง
        • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส การถู การบีบนวด บริเวณริมฝีปาก เพราะจะทำให้รูปทรงริมฝีปากเสียรูปได้
        ฟิลเลอร์ปาก
        ผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์ปาก

        ฉีดฟิลเลอร์ปากมีผลข้างเคียงอย่างไร?

        ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ปากที่สามารถพบได้ในบางกรณี ดังนี้

        • ฉีดฟิลเลอร์ปากอาจเกิดอาการผื่น หรือจุดแดงขึ้นบริเวณริมฝีปาก
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากอาจเกิดอาการปวดหลังฉีดฟิลเลอร์ โดยสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวด
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมแดงหลังทำ เป็นอาการปกติทั่วไปที่เกิดจากการที่ฟิลเลอร์มีการกักเก็บน้ำใต้ผิว จนทำให้ริมฝีปากผิวอิ่มฟูกว่าปกติ และจะหายเองได้ใน 1 สัปดาห์
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป  หรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณริมฝีปาก รวมไปถึงการฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
        • ฉีดฟิลเลอร์ปากในบางกรณีมีอาการแพ้ฟิลเลอร์หรือเกิดการอักเสบ โดยมีลักษณะเป็นก้อนบวมนูน ผิวแดง และรู้สึกเจ็บปวด หากพบอาการดังกล่าวต้องรีบเข้ารับการรักษากับแพทย์ทันที

        ฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนเกิดจากอะไร?

        • ประสบการณ์และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากของแพทย์

        การฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับฟิลเลอร์ มีความรู้ในเรื่องของร่างกายมนุษย์ รวมไปถึงศิลปะในด้านของการปรับรูปหน้า ซึ่งถ้าแพทย์ไม่มีความชำนาญและขาดประสบการณ์ความรู้ มีโอกาสเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อนจากการฉีดผิดชั้นผิวหรือผิดตำแหน่ง

        • ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีอย.

        ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. เป็นฟิลเลอร์ราคาถูก ไม่มีประสิทธิภาพ ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ การฉีดฟิลเลอร์ปลอมจะทำให้เนื้อฟิลเลอร์ปลอมจับตัวกันเป็นก้อน ไหลย้อยไม่เป็นทรง ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี

        • ฉีดฟิลเลอร์ปากในปริมาณที่มากเกิน

        การฉีดฟิลเลอร์ปากต้องเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณของฟิลเลอร์ และตำแหน่งที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก หากใช้ปริมาณที่เกินจำเป็นอาจทำให้ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนได้

        • ชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณริมฝีปาก

        การฉีดฟิลเลอร์ที่มีขนาดของโมเลกุลความหนาแน่นสูง ที่ควรฉีดลงผิวชั้นลึก หากนำมาฉีดในผิวชั้นตื้นจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ เพราะฉะนั้นควรเลือกบริเวณที่ต้องการฉีดให้เหมาะสมกับชนิดของฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ

        • อาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก

        หลังการฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วันหลังทำ ซึ่งในบางกรณีที่มีปัญหาผิวบางและบวมง่าย อาจจะมีอาการบวม 5-7 วัน ซึ่งปกติฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่อยู่ประมาณ 7-14 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์ควรรอให้ปากยุบบวมก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นอาการบวม หรือเป็นการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

        คำถามพบบ่อยของฟิลเลอร์ปาก

        ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่ CC ?

        • ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่ CC นั้นขึ้นอยู่กับทรงปากเดิมของแต่ละบุคคล โดยปกติการฉีดฟิลเลอร์ปากเริ่มต้นที่ 1-2 CC แต่สำหรับคนที่อยากได้ทรงปากสายฝอ ริมฝีปากหนาอิ่มฟูสามารถฉีดมากกว่านี้ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมินก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

        ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม?

        • การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่อันตราย ถ้าฉีดฟิลเลอร์แท้โดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น เพราะสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนมีความปลอดภัยสูง ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในด้านของเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เนื่องจากต้องใช้ความระมัดระวังในการฉีดฟิลเลอร์ เพราะริมฝีปากประกอบไปด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เกิดฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด การฉีดฟิลเลอร์ปากแบบปลอดภัยจึงจำเป็นต้องเลือกฉีดกับแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น

        ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน? กี่วันเห็นผลลัพธ์?

        • ระยะเวลาของอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ปากจะหายได้เองหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 4-5 วัน โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง และเริ่มเห็นทรงปากที่ชัดเจนขึ้น และเห็นผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ปากอวบอิ่ม เป็นทรงสวยธรรมชาติ ประมาณ 1-2 สัปดาห์

        ฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ไหม?

        • ฉีดสลายฟิลเลอร์เหมาะกับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์มาแล้วไม่ชอบรูปทรงปาก อยากแก้รูปทรงปาก หรือแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน การฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยไฮยาโลรูนิเดส (Hyaluronidase) เข้าไปสู่บริเวณที่ต้องการสลายฟิลเลอร์ เพื่อลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ช่วยปรับให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์กลับมาเรียบเนียนเสมอกันเหมือนเดิม ซึ่งการฉีดสลายฟิลเลอร์นั้นใช้ได้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แท้ ส่วนกรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอมต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดเท่านั้น

        ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม?

        • ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ปากจะรู้สึกเจ็บในระดับที่สามารถอดทนได้ เนื่องจากบริเวณริมฝีปากเป็นจุดที่อ่อนและบาง จึงมีความไวต่อความรู้สึก การแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากจึงช่วยทำให้ลดความเจ็บลงได้

        ผ่าตัดปากมาแต่ปากบาง ฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม?

        • ในกรณีที่ผ่าตัดริมฝีปากแต่ริมฝีปากบางเกินไป สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากแก้ไขให้รูปทรงปากดีขึ้นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพังผืดที่เกิดจากการผ่าตัดริมฝีปาก ซึ่งถ้าพังผืดดึงรั้งมากเกินไปจะทำให้ฉีดฟิลเลอร์ได้น้อย ดังนั้นการผ่าตัดริมฝีปากต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะถ้าหากผ่าตัดริมฝีปากแล้วมีเนื้อปากที่บางจนเกินไปจะไม่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากได้

        ฟิลเลอร์ปากฉีดได้บ่อยแค่ไหน?

        • ถ้าฟิลเลอร์ปากเริ่มสลายแล้ว สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากเติมใหม่ได้ แต่ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว แต่ต้องการจะฉีดฟิลเลอร์เพิ่มอีก จะต้องเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 สัปดาห์ต่อการฉีดบริเวณตำแหน่งเดิม

        ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานกี่เดือน?

        • การฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ และรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และรวมไปถึงการดูแลริมฝีปาก เพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนานในแต่ละบุคคล

        การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากมีความยืดหยุ่น และแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าการผ่าตัด ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยกว่าเพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ รมย์รวินท์คลินิกจึงเป็นคลินิกทางเลือกที่ดีที่สุด ที่พร้อมจะแก้ไขทุกปัญหาของใบหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มากประสบการณ์ และมีการชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ

         

        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




          วันที่สะดวกในการติดต่อ




          เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

          ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ช่วยอะไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

          ฟิลเลอร์ใต้ตา

          ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ





            วันที่สะดวกในการติดต่อ




            เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

            ฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มร่องใต้ตา แก้ปัญหาตาคล้ำ รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดใต้ตา

            ปัญหารอบดวงตาคล้ำ ขอบตาดำ เปรียบเหมือนหมีแพนด้า เป็นปัญหาที่ทำใครหลายคนหมดความมั่นใจ ซึ่งนอกจากปัญหาขอบตาดำคล้ำ ยังมีปัญหาอีกมากมาย เช่น ตาลึก ตาโบ๋ ริ้วรอยใต้ตา รวมไปถึงถุงใต้ตาเยอะ ปัญหาของบริเวณใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส และดูแก่ก่อนวัยอันควร

            ในปัจจุบันปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้หลากหลายวิธี ซึ่งวิธีแก้ปัญหาแบบธรรมชาติที่สุด ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยให้บริเวณรอบดวงตาอิ่มฟู ริ้วรอยรอบดวงตาลดลง ใบหน้าดูสดใสขึ้น สำหรับใครที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และอยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่สงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไรบ้าง ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี บทความนี้มีคำตอบ

            ฟิลเลอร์ใต้ตา
            ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไร ?

            ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร

            การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) เข้าไปตรงบริเวณใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณใต้ตา เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น กระดูกจะเริ่มทรุดตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาดำคล้ำ ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ช่วยให้ใบหน้ากลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง

            ฟิลเลอร์ใต้ตา
            ปัญญหาใต้ตามีอะไรบ้าง?

            ปัญหาใต้ตามีอะไรบ้าง? เกิดจากสาเหตุอะไร

            สาเหตุของปัญหาใต้ตาลึก ตาโบ๋ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และริ้วรอยร่องใต้ตา ปัญหาเหล่านี้มีเทคนิคในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

            • ปัญหาถุงใต้ตา : เกิดจากถุงไขมันที่อยู่บริเวณใต้ดวงตา ลักษณะเป็นถุงนูนออกมาบริเวณขอบตาล่าง หรือมีอาการบวมปูดที่รอบดวงตาล่าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดได้กับทุกคน โดยในกรณีคนที่มีอายุน้อยมีถุงนูนออกมานอกบริเวณใต้ตา จะทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า และแก่กว่าวัย นอกจากนี้ปัญหาถุงใต้ตายังพบได้ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อีกด้วย
            • ปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก : มีลักษณะเป็นร่องลึกรอบดวงตา กระดูกเบ้าตาใต้คิ้วลึกเป็นขอบชัดเจน ผิวหนังรอบดวงตาบุ๋ม ตาโบ๋ มีรอยดำคล้ำ เบ้าตาลึก ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ โทรม ไม่สดใส ซึ่งปัญหาเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม โรคภูมิแพ้ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ความเครียด พักผ่อนน้อย ฯลฯ เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียบุคลิกภาพ และหมดความมั่นใจได้
            • ปัญหาริ้วรอยใต้ตา : ปัญหานี้เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือบริเวณใต้ตามีไขมันน้อย ทำให้ผิวแห้งจนเกิดริ้วรอยใต้ตา รวมไปทั้งพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ทำให้มีริ้วรอยเกิดขึ้นบริเวณรอบใต้ตา
            • ปัญหาร่องใต้ตา : เกิดจากการที่บริเวณเปลือกตาด้านล่างลึกลงไป ทำให้เกิดร่องใต้ตา ซึ่งสาเหตุของปัญหานี้เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ขยี้ตาบ่อย กระดูกทรุดตัว กรรมพันธุ์ คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง มลภาวะและอากาศ รวมไปถึงไขมันบริเวณใต้ตาน้อย 
            • ปัญหาใต้ตาคล้ำ : เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ การไหลเวียนเลือดจะลดลง ไขมันใต้ผิวหนังสะสมน้อยลง หนังตาเริ่มมีความหย่อนคล้อย และผิวบางลง จนสามารถสังเกตเห็นภาวะไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ตา จึงเห็นขอบตาดำมากขึ้น

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตำแหน่งไหนบ้าง

            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ผิวหนังชั้นตื้น สำหรับแก้ปัญหาใต้ตาที่ดำคล้ำ เพื่อให้กลับมากระจ่างใส และทำให้ผิวใต้ตาเต่งตึงขึ้น
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผิวชั้นลึก สำหรับแก้ไขมันเบ้าตาเคลื่อนที่ เติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบริเวณร่องน้ำตาและเหนือดวงตา สำหรับแก้ปัญหาตาโหลบริเวณร่องน้ำตาและเหนือดวงตา เป็นการฉีดเสริมกระดูกเบ้าตา

            ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

            • ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาร่องน้ำตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล ที่เกิดจากการสลายตัวของเนื้อเยื่อ และการทรุดตัวของกระดูกใต้ตา 
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาลดขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำบริเวณใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรมและอ่อนล้า
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา รอยตีนกาที่เหี่ยวย่นบริเวณรอบดวงตาและใต้ตา 
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาถุงไขมันใต้ตา ที่ทำให้มีปัญหาริ้วรอยและร่องใต้ตาที่ชัดเจนขึ้น

            ฟิลเลอร์ใต้ตา
            ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร ?

            ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร

            • ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา บริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย ขอบตาดำคล้ำ ตาลึก ตาโหล 
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับการแก้ปัญหาใต้ตา จากการทรุดตัวของกระดูกและเนื้อ
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้น
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตามาจากพันธุกรรม

            ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับใคร

            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้ยา สมุนไพร หรือวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินอี กระเทียม ขิง เป็นต้น
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ซึ่งจะทำให้เลือดหยุดยากและเกิดรอยช้ำง่าย
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะตาแห้งรุนแรง จำเป็นต้องหยอดน้ำตาเทียมก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากทำให้ระคายเคืองมากกว่าปกติและเสี่ยงเกิดการอักเสบได้
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่ผิวหนังบริเวณดวงตาอักเสบหรือติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเริมและงูสวัด
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา หรือแพ้กรดไฮยารูลอนิก
            • ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เหมาะกับผู้ที่เกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ง่าย

            ฟิลเลอร์ใต้ตา
            ข้อดีและข้อจำกัดของฟิลเลอร์ใต้ตา

            ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ไขเรื่องริ้วรอย และความหย่อนคล้อยใต้ตาได้อย่างเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มรอบดวงตาให้กลับมาอิ่มฟู สดใส ไม่หมองคล้ำ
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำจากโรคภูมิแพ้ และจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่มีแผล เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที

            ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีอาการบวม และมีรอยเข็มในจุดที่ฉีด โดยรอยเข็มจะสามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน
            • ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่สามารถอยู่ถาวรได้ เนื้อของฟิลเลอร์จะสลายเองตามธรรมชาติ
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจำเป็นต้องฉีดซ้ำอยู่เสมอ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน

            ฟิลเลอร์ใต้ตา
            ฟิลเลอร์ใต้ตาที่รมย์รวินท์ต้องยี่ห้อไหน

            ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี?

            ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Volifil Classic

            ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Volifil สัญชาติเกาหลี ผลิตโดยเทคโนโลยี HCCL™ TECHNOLOGY (Highly Completed Cross-Linking) เนื้อฟิลเลอร์เป็นชนิดโมเลกุลเดียว (Monophasic) มีลักษณะเนื้อเจลคงที่ ปั้นทรงง่าย มีความเนียนละมุน เกลี่ยง่าย ฟิลเลอร์รุ่นนี้เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยตื้นบริเวณดวงตาและรอยตีนกา อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

            ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Definisse Touch

            ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse Touch สัญชาติอิตาลี ผลิตโดยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณใต้ตาอย่างเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

            ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Belotero Soft

            ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ผลิตโดยเทคโนโลยีพิเศษ CPM  (Cohesive Polydensified Matrix) ฟิลเลอร์มีลักษณะเนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็ก และมีความละเอียด กลืนกับผิวได้ง่าย มีส่วนผสมของยาชา เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยร่องตื้น ๆ รอบบริเวณดวงตา อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

            ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm

            ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm สัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลก เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง ออกแบบมาให้มีส่วนผสมของยาชา มีเทคโนโลยีในการผลิต คือ Hylacross Technology และ Vycross Technology เน้นความเป็นธรรมชาติ 

            ซึ่งฟิลเลอร์ใต้ตารุ่นที่ใช้คือ Juvederm Volbella ใช้เทคโนโลยี Vycross Technology เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดริ้วรอยชั้นตื้นบริเวณใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

            ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane

            ฟิลเลอร์ Restylane สัญชาติสวีเดน เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่ใช้อย่างแพร่หลายมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดดเด่นเรื่องของเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะทั้ง 2 เทคโนโลยี คือ NASHA Techology และ OBT Technology โดยฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามี 3 รุ่นด้วยกัน Restylane Vital Light, Restylane Classic และ Restylane Lyft โดยทั้งหมดนี้ใช้เทคโนโลยี NASHA Techology โดยแตกต่างกัน ดังนี้

            • Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเบา เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตา ผิวชั้นตื้น อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
            • Restylane Classic ฟิลเลอร์เนื้อเจล เนื้อแน่น เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยปานกลางถึงมาก ช่วยเก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึก เช่น ใต้ตา อยู่ได้นาน 12 เดือน
            • Restylane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง สามารถคงรูปได้ดีที่สุด เพราะสำหรับการฉีดเติมเต็มใต้ตา อยู่ได้นาน 12-18 เดือน

            ฟิลเลอร์ใต้ตา
            การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            1. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานการรับรอง เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ และประสบการณ์เรื่องของการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
            2. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรศึกษาข้อมูลเรื่องของฟิลเลอร์โดยละเอียด และเลือกดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
            3. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการ 24 ชั่วโมง
            4. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดการรับประทานยา วิตามิน และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว
            5. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกาย คาร์ดิโอ ปั่นจักรยาน

            ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            1. แพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์ และประเมินโครงสร้างของใบหน้า และเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาใต้ตา เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
            2. เริ่มทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณรอบดวงตา และแปะยาชา
            3. แพทย์เริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและบริเวณรอบดวงตา โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 20-30 นาที
            4. หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

            ฟิลเลอร์ใต้ตา
            การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุงผิว และโดนน้ำ บริเวณที่ทำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
            • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
            • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อและอาการบวมช้ำ
            • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา งดออกกำลังกายหนักในช่วง 3 วันแรก
            • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การซาวน่า เลเซอร์ ตากแดด เป็นต้น
            • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

            ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

            • อาการบวมรอบบริเวณดวงตาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ ควรประคบน้ำแข็งบ่อย ๆ เพื่อให้อาการบวมหายเร็วขึ้น
            • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีความรู้สึกตึงบริเวณดวงตา โดยจะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง
            • บริเวณใต้ตาช้ำ เนื่องจากอาจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถูกเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังแตกจนเกิดรอยช้ำ

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Romrawin ดีอย่างไร?

            ปัจจัยสำคัญของการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งการพิจารณาเพื่อเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย พิจารณาได้ ดังนี้

            • คลินิกได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความสะอาดและบริการดี มีเลขของใบอนุญาตชัดเจน
            • แพทย์มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ ใช้เทคนิคเฉพาะทางเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
            • รมย์รวินท์คลินิกเลือกใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ FDA จากอเมริกา
            • ปรึกษาฟรีทุกเคส ดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการแบบ 1:1 สามารถนัดหมายคิวหรือไปที่หน้าสาขา เพื่อเข้ารับการปรึกษาได้ตลอดระยะเวลาทำการ
            • มีรีวิวจริงจากผู้ใช้บริการมากมายที่เชื่อถือได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับการปรึกษา หรือก่อนเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
            • มีช่องทางการติดต่อเพื่อปรึกษา หรือถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัตถการต่าง ๆ
            • มีการนัดหมายและติดตามผลหลังการรักษาทุกเคส เพื่อแสดงถึงความใส่ใจ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับบริการ 

            เทียบฟิลเลอร์ใต้ตา กับ การแก้ไขด้วยหัตถการอื่น ๆ  

            ฟิลเลอร์ใต้ตา vs ฉีดโบ

            ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือการฉีดโบริ้วรอยใต้ตา ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาที่เกิดขึ้น กรณีที่พบปัญหาเรื่องริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากไขมันลดลง กระดูกใต้ตาน้อยลง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเข้าไปเพื่อเติมเต็มผิวบริเวณนั้นให้เรียบเนียนอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีริ้วรอยจากการขยับของกล้ามเนื้อใบหน้าที่มากเกินไป จนเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบบริเวณดวงตาและริ้วรอยร่องลึก ควรรักษาด้วยการฉีดโบ เพราะการฉีดโบจะออกฤทธิ์กับระบบประสาท ช่วยให้กล้ามเนื้อตรงบริเวณที่ฉีดใช้งานได้ลดน้อยลง ดังนั้นหากมีปัญหามาจากทั้ง 2 สาเหตุนี้ แนะนำว่าสามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาร่วมกับการฉีดโบได้ โดยต้องปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล

            ฟิลเลอร์ใต้ตา vs ฉีดไขมันใต้ตา

            การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการฉีดไขมันใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการที่เนื้อเยื่อและกระดูกทรุดตัว โดยทั้ง 2 หัตถการมีความแตกต่างกัน ดังนี้

            ฟิลเลอร์ใต้ตา : ฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก แอซิด (HA) มีความปลอดภัยสูง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน เจ็บน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น โดยสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดใน 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์ไม่ถาวร ระยะเวลาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์

            ฉีดไขมันใต้ตา : เป็นการใช้ไขมันตัวเอง โดยดูดไขมันออกมาจากบริเวณร่างกายเพื่อนำมาเติมเต็มใต้ตา ลดความเสี่ยงของการแพ้ แต่ข้อเสีย คือ คนไข้จะมีแผลในตำแหน่งที่ดูดไขมันเพื่อมาฉีดใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นานแต่อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง เนื่องจากส่วนมากมักจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก

            ซึ่งการแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถือว่าเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการฉีดไขมันใต้ตา เพราะการฉีดไขมันใต้ตาต้องมีความระมัดระวังในเรื่องของการฉีดเข้าหลอดเลือด การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในด้านของการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

             

            คำถามพบบ่อยของฟิลเลอร์ใต้ตา

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?

            การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระดับที่อดทนได้ โดยจะรู้สึกเจ็บในขณะที่กำลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาชา ทำให้ช่วยบรรเทาลดอาการเจ็บในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

            การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิก ซึ่งมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นสารที่พบได้ในผิว โดยฟิลเลอร์นั้นสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการฉีดในตำแหน่งที่บอบบางที่สุด  ดังนั้นแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจำเป็นต้องรู้เทคนิคการฉีด และตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยลง หรือลดความเสี่ยงที่จะตามมาในภายหลังได้

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC?

            การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะเริ่มประเมินจากโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ ก่อนจะทำการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ และเลือกปริมาณของการฉีดฟิลเลอร์ ว่าต้องใช้กี่ CC ในคนที่มีปัญหาใต้ตาทั่วไปจะใช้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาข้างละ 1-2 CC แต่ในคนที่มีปัญหากระดูกใต้ตาที่ทรุดตัวมากจนมีปัญหาใต้ตาลึก จะพิจารณาการฉีดฟิลเลอร์มาขึ้น โดยใช้ฟิลเลอร์ฉีดใต้ตาประมาณข้างละ 2-3 CC ทั้งนี้สามารถเห็นผลลัพธ์ของการรักษาที่ชัดเจน

            ฉีดฟิลเลอร์ใช้ระยะพักฟื้นนานไหม?

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ หากในกรณีบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีอาการบวมแดง แสบร้อน เจ็บปวด หลังจากพ้นช่วง 2 สัปดาห์ไปแล้ว ให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล?

            การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ โดยหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาประมาณ 4-5 วัน ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?

            การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์และรุ่นที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในแต่ละบุคคล ทั้งนี้การเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว จะทำให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานขึ้น

            ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร?

            • ใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด : จะเกิดขึ้นในกรณีที่แพทย์เลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นฉีดในผิวชั้นตื้น การเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีความบอบบางกว่าจุดอื่น ๆ เพราะฉะนั้นควรใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดสำหรับผิวชั้นตื้น เพื่อความเป็นธรรมชาติ
            • ใช้ฟิลเลอร์ปลอม : การฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจากอย. อาจทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม แพ้ และฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อนได้อีกด้วย
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณที่มากเกินไป : การฉีดฟิลเลอร์ที่มากเกินไป ประมาณไม่เหมาะสมกับใต้ตา ทำให้ฟิลเลอร์มารวมกันเป็นก้อน
            • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผิดชั้นผิว : หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดปัญหาการฉีดแก้ไขปัญหาผิดจุด เช่น แก้ปัญหากระดูกทรุดด้วยการฉีดฟิลเลอร์ในผิวชั้นตื้น เป็นต้น

            บทสรุป ฟิลเลอร์ใต้ตา

            ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา แก้ปัญหาตาลึกจากกระดูกและเนื้อทรุดตัว แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย และยังช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำให้กลับมาสดใสอีกครั้ง ซึ่งการเลือกคลินิกสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรเลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐานและมีความปลอดภัยสูง มีแพทย์ที่ชำนาญในด้านของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ เพื่อผลลัพธ์ของความสวยแบบปลอดภัยในระยะยาว สำหรับใครที่กำลังสนใจต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ ได้ที่รมย์รวินท์คลินิกทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

            ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ





              วันที่สะดวกในการติดต่อ




              เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

              ฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดสารเติมเต็ม คืออะไร?

              Filler

              ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ





                วันที่สะดวกในการติดต่อ




                เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว


                สวยครบจบหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัดด้วยฟิลเลอร์ (Filler)

                ความสวย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะใครก็ต้องการครอบครองความสวยความงามกันทั้งนั้น แต่ในยุคที่เปลี่ยนไป การตีความความงามและความสวยของในแต่ละบุคคลก็แปรเปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นไปตามบรรทัดฐานของสังคม ไม่ว่าจะเป็น เรื่องรูปร่าง ที่บางคนชอบในการเป็นคนไซส์เอ็กเอส หรือในบางคนชอบที่จะเป็นสาวมีเนื้อมีหนังไซส์แอล ในบางคนชอบที่จะมีรูปหน้าเรียวยาว หรือในบางคนชอบที่จะมีแก้มกลม เป็นสาวหน้ากลมก็ได้ทั้งนั้นในยุคสมัยนี้ เพราะความสวยไม่มีถูกไม่มีผิด ความสวยในยุคนี้ ไม่มีการตีกรอบอีกต่อไป แต่ในเมื่อเราดันไม่เกิดมาเป็นหญิงสาว ที่สวยในแบบฉบับของตัวเอง หรือมีปัญหาบางอย่างบนใบหน้าให้ต้องแก้ไขก็ต้องหาวิธีปรับ หรือแต่งให้เป็นไปตามความต้องการ หรือความสวยในแบบฉบับของตัวเราเอง การใช้ฟิลเลอร์ก็เป็นวิธีหนึ่งที่คนนิยมใช้เพื่อการปรับ หรือตกแต่งโครงหน้า รูปหน้า หรืออวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้าให้สวยตามต้องการตามแบบฉบับของตัวเอง แต่ฟิลเลอร์มีหลายชนิด หลายเนื้อสัมผัส และหลายผลลัพธ์ หากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่พอใจ ก็ควรทราบข้อมูลของฟิลเลอร์เบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยในการรักษา


                ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

                ฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มกลุ่ม Hyaluronic Acid (อ่านว่า ไฮยาลูโรนิคแอซิด) เข้าไปที่ผิวหนังชั้นต่าง ๆ เพื่อสร้างโครงสร้าง ปรับโครงสร้าง รวมทั้งเติมจุดที่มีความบกพร่องบนใบหน้า ให้เต็มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน สารเติมเต็มดังกล่าวยังช่วยปรับผิวให้มีความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น และสุขภาพดีได้อีกด้วย

                ฟิลเลอร์ (Filler) มีกี่ชนิด

                สามารถแบ่งชนิดของฟิลเลอร์ (Filler) ได้เป็น 3 กลุ่มดังนี้

                1. Permanent Filler ฟิลเลอร์ “แบบถาวร”

                ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มในกลุ่มนี้ เราจะรู้จักหรือได้ยินกันอย่างคุ้นหูว่า “ซิลิโคนเหลว” (Liquid Silicone) หรืออีกชนิดที่ได้ยินกันบ่อย ๆ คือ “พาราฟิน” (Paraffin) ซึ่งเป็นสารที่ฉีดเข้าไปที่บริเวณใต้ผิวหนัง แล้วจะจับตัวกันเป็นก้อน อาจมีรูปทรงสวยหรือไม่สวยตามแต่ผู้ที่ฉีด เมื่อเวลาผ่านไป อาจเกิดผลกระทบ เช่น การอักเสบ เป็นหนอง หรือติดเชื้อตามมา

                สารที่เป็นฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มแบบถาวร จะไม่สามารถสลายได้ หากต้องการจะเอาออกจะต้องทำการผ่าตัด และขูดออกโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เท่านั้น โดยในยุคหนึ่งฟิลเลอร์ชนิดนี้ จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีคนจำนวนมากที่จะต้องแก้ไขปัญหาที่ตามมาจากการฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร และในยุคนี้ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะสามารถพบได้จากผู้ที่ยังใช้บริการแพทย์ปลอม หรือหมอกระเป๋าอยู่ ซึ่งในที่สุดก็ต้องทำการผ่าตัดหรือขูดออกอยู่ดี

                2. Non-Permanent Filler ฟิลเลอร์ “แบบชั่วคราว”

                ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก อย.หลายประเทศตามแต่ยี่ห้อของฟิลเลอร์ โดยหลักแล้วฟิลเลอร์กลุ่มนี้จะใช้ส่วนประกอบในการผลิต คือ

                Hyaluronic Acid : สารจากธรรมชาติที่ร่างกายเราสามารถผลิตขึ้นมาได้เอง จากโมเลกุลของน้ำตาล polysaccharide ที่อยู่ภายในเนื้อเยื่อของร่างกาย จึงทำให้ร่างกายของเราสามารถสร้าง Hyaluronic Acid ขึ้นมาได้เองนั่นเอง และเมื่อสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายของเรา ก็จะสามารถสลายออกเองได้ตามธรรมชาตินั่นเอง

                ฟิลเลอร์

                ชนิดเนื้อของฟิลเลอร์ (Filler) มีหลากหลายลักษณะ ดังนี้

                ชนิดของฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) เนื้อละเอียด

                ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะมีเนื้อสัมผัสของตัวเจลที่อ่อนนุ่ม  บางเบาคล้ายน้ำ ที่มีความเหนียว ๆ โดยเนื้อเจลของฟิลเลอร์เนื้อละเอียดจะนิ่มมากที่สุด มีความเหมาะสมสำหรับใช้ในการฉีดในผิวชั้นตื้นเพื่อเก็บรายละเอียด และเหมาะกับการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ทั้งยังใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพผิวได้อีกด้วย เนื่องจากฟิลเลอร์ชนิดนี้จะช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้น ให้กับผิวหน้าที่มีความแห้งได้

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) เนื้อนิ่ม

                ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะมีเนื้อสัมผัสของตัวเจลที่อ่อนนุ่ม มีความยืดหยุ่นน้อย โดยปกติฟิลเลอร์ชนิดนี้ จะมีความเหมาะสมในการใช้แก้ปัญหา บริเวณผิวตื้น ๆ หรือบริเวณที่มีปัญหาไม่มาก ไม่เน้นใช้ความยืดหยุ่นของเนื้อเจล อีกทั้งไม่มีความคงทน เพราะเป็นฟิลเลอร์เนื้อที่สามารถสลายได้ง่าย

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) เนื้อกลาง

                ฟิลเลอร์ชนิดนี้ จะมีเนื้อสัมผัสของตัวเจลที่มีความนิ่มในระดับกลาง และจะมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นมาจากฟิลเลอร์ชนิดเนื้อนิ่ม สามารถเกาะตัว คงตัวได้ในระดับหนึ่ง โดยปกติจะใช้ในบริเวณที่ต้องการได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เช่น ใช้เพื่อเติมเต็มบริเวณหน้าผากให้ดูมีความโหนกนูนมากขึ้น ใช้ฉีดปากเพื่อให้ได้รูปมากขึ้น บริเวณขมับใช้เพื่อแก้ปัญหาขมับตอบ เติมเต็มแก้มตอบ รวมทั้งใช้เพื่อฉีดร่องแก้มเพื่อเติมเต็มเป็นต้น

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) เนื้อแข็ง

                ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะมีเนื้อสัมผัสของตัวเจลที่มีความหนาแน่นที่สุด และเป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง คงตัวสูง เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นโครงสร้างใบหน้า อาทิ การนำไปฉีดเพื่อปรับโครงหน้า ฉีดกราม คาง โหนกแก้ม เพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้านั่นเอง

                filler

                ฟิลเลอร์ (Filler) สามารถทำได้บริเวณไหนได้บ้าง

                การฉีดฟิลเลอร์ หรือการเติมสารเติมเต็ม สามารถฉีดได้ทั่วทั้งใบหน้าและร่างกาย แต่ในที่นี้จะกล่าวเพียงใบหน้า ดังต่อไปนี้

                • หน้าผาก
                • ขมับ
                • ใต้ตา
                • แก้ม
                • ร่องแก้ม
                • ปาก
                • คาง
                • กรอบหน้า

                โดยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่ละบริเวณ เป็นการฉีดเพื่อแก้ปัญหา ดังนี้

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) หน้าผาก

                การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก เป็นการทำเพื่อแก้ปัญหาในบางคนที่มีหน้าผากแบน ไม่สมส่วน ทำให้ใบหน้าไม่มีมิติ หรือทำให้ภาพรวมใบหน้าเวลาแต่งหน้า หรือรวบผมออกมาดูไม่สวยเท่าที่ควร ในบางคนยังฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มบริเวณหน้าผากให้มีความโหนกนูน เพื่อปรับโหงวเฮ้งอีกด้วย แต่ในบริเวณนี้แพทย์ผู้ทำการรักษา จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีประสบการณ์ และมีความชำนาญ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเป็นจำนวนมากทั้งเล็กและใหญ่

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) ขมับ

                การฉีดฟิลเลอร์ที่ขมับ เนื่องจากในบางคนมีขมับที่ตอบ ยุบ ทำให้รวบผม หรือทำผมแล้วไม่สวย ทั้งยังทำให้ดูโทรม และยังทำให้ดูมีโหนกแก้มใหญ่อีกด้วย ในบางกรณีจะใช้การฉีดฟิลเลอร์ขมับ หรือการเติมสารเติมเต็มเพื่อการแก้ปัญหาของคนที่ต้องการลดโหนกแก้ม เสริมใบหน้าให้มีความละมุม ดูหวานมากขึ้นด้วย โดยบริเวณนี้จะมีเนื้อบาง จึงทำให้เจ็บในระหว่างฉีดจึง จำเป็นต้องใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา เพื่อความปลอดภัยและเพื่อบรรเทาความเจ็บ

                                   3. ฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา

                การฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตา เป็นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อใช้ในการช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ บริเวณรอบดวงตา ที่สามารถเป็นกันได้ทุกคน อาทิ ขอบตาดำ แก้ปัญหาถุงใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา แก้ปัญหาเบ้าตาลึก โดยที่ฟิลเลอร์ สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้ ทั้งที่ เกิดจากโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น ใต้ตาดำอันเป็นสาเหตุจากอาการภูมิแพ้ได้ด้วย โดยหลังฉีดฟิลเลอร์หรือเติมสารเติมเต็มนั้น จะส่งผลให้ใต้ตาดูเติมเต็ม สดใสขึ้น ดูไม่หมอง ไม่คล้ำ และยังทำให้ดูนอนเต็มอิ่มอีกด้วย

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) แก้ม

                การฉีดฟิลเลอร์ที่แก้ม เป็นฟิลเลอร์ที่ช่วยปรับให้ใบหน้าดูเด็กมากขึ้น โดยสามารถเติมที่หน้าแก้ม หรือเติมที่บริเวณแก้มส้มเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการยุบตัวของโครงสร้างกระดูก บริเวณแก้ม ที่ทำให้แก้มหย่อนคล้อย หน้าแก้มแบน ส่งผลให้ใต้ตาดูลึก ได้ด้วย

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) ร่องแก้ม

                การฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มเป็นการฉีดฟิลเลอร์ จุดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ที่จุดกึ่งกลางของใบหน้า เมื่อเป็นร่องลึกจะยิ่งเห็นเด่นชัด ทำให้ปากดูคว่ำ และยิ่งดูมีอายุ เมื่อถูกเติมเต็มก็จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูยิ้มและเป็นมิตรมากขึ้น

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) ปาก

                การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณปาก เป็นการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วได้ผลลัพธ์ที่เห็นชัด และสามารถเปลี่ยนใบหน้าไปได้เป็นอย่างมาก แก้ปัญหาริมฝีปากบาง ริมฝีปากไม่เท่ากัน ปากมีร่องลึก มีริ้วรอยหรือมีรูปทรงที่ไม่สวย นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็ม ริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม สวย ได้รูป และยังช่วยให้ปากมีความชุ่มชื้น และยังทำให้ปากมีสีที่อมชมพูขึ้นเหมาะกับการทาลิปสติกอีกด้วย

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) คาง

                การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณคาง เป็นการแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีคางสั้น คางตัด คางทู่ คางบุ๋ม และยังปรับใบหน้าให้ดูเรียวยาวสมส่วนมากยิ่งขึ้นได้ เป็นการแก้ปัญหารูปหน้าที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี และเป็นธรรมชาติมากกว่าการศัลยกรรมผ่าตัดทำคาง และสามารถเพิ่มได้ตามความต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องกลัวว่าฉีดไปแล้วหากยาวเกินไป หรือไม่เหมาะกับตัวเองจะต้องผ่าตัดเอาซิลิโคนออก

                  1. ฟิลเลอร์ (Filler) กรอบหน้า

                การฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณกรอบหน้า เป็นการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมทั้งหญิงและชาย โดยส่วนมากเพศชายจะฉีดฟิลเลอร์ที่กรอบหน้า เพื่อเน้นความชัดเจนของเส้นกรอบหน้าให้ชัด เป็นสัน ความชัดและความคมของโครงหน้า ให้ใบหน้าดูมีความเป็นผู้ชายที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ส่วนในผู้หญิงนิยมฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า เนื่องจากต้องการให้ใบหน้า มีความคม ชัด และมีมิติมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

                ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

                • การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ปัญหาได้เกือบทุกอย่างบนใบหน้า
                • การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการแก้ปัญหาที่ใช้เวลาไม่นาน
                • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องพักฟื้น
                • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องผ่าตัด
                • การฉีดฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด
                • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
                • การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย สลายได้หมด
                • การฉีดฟิลเลอร์ มีความปลอดภัยสูง
                • การฉีดฟิลเลอร์ สามารถเพิ่มปริมาณ หรือลดปริมาณได้ตามต้องการ

                ฟิลเลอร์ปลอมคืออะไร ดูยังไง ?

                • ฟิลเลอร์ปลอม จะมีการเครมว่าสามารถคงสภาพใต้ผิวได้ยาวนานกว่า 12-18 เดือน
                • ฟิลเลอร์ปลอม จะสามารถเคลื่อนตัวไปสู่จุดอื่น ๆ บนใบหน้าได้
                • ฟิลเลอร์ปลอม จะไม่สลายไป
                • ฟิลเลอร์ปลอม ฉีดไปแล้วจะเป็นก้อนแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
                • ฟิลเลอร์ปลอม จะไม่สามารถฉีดสลายได้

                สามารถขอดูกล่องและให้ทางคลินิกที่ให้บริการแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าได้ เพื่อความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์

                filler

                การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

                • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1-3 วัน
                • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดยา หรือวิตามินที่เป็นส่วนทำให้เลือดไหลยาก
                • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดยาประเภทแอสไพริน หรือยาแก้อักเสบ

                ฟิลเลอร์

                ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

                • ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อประเมินปริมาณตัวยาและประเมินปัญหา
                • ผู้ช่วยแพทย์ความสะอาดใบหน้า เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการติดเชื้อ
                • ผู้ช่วยแพทย์ทำการแปะยาชา และทิ้งไว้เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ 30-40 นาที
                • ผู้ช่วยแพทย์เช็ดหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมในการฉีดฟิลเลอร์
                • ผู้ช่วยแพทย์ทำการประคบน้ำแข็ง ในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ความเย็นช่วยลดความเจ็บจากเข็ม
                • แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ตามแผนการประเมินให้ออกมาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
                • ผู้ช่วยแพทย์ใช้สำลีห้ามเลือดจากรอยเข็ม
                • ผู้ช่วยแพทย์แปะพลาสเตอร์ ป้องกันรอยเข็มโดนสิ่งสกปรก เป็นอันเสร็จ

                ฟิลเลอร์

                การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ 1 เดือน
                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาร้า และของหมักดอง
                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส เกา ถู นวด คลึง ในบริเวณที่ทำฟิลเลอร์
                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการขยับใบหน้า หรือแสดงสีหน้ามาก ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีดทำฟิลเลอร์
                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ที่ทำไปมีความอิ่มฟูขึ้น
                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนทุกชนิด
                • หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า และออกกำลังกายหนัก ๆ

                Q&A คำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

                1. ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มสามารถคงอยู่ได้ในแต่ละบริเวณของใบหน้า

                • ฟิลเลอร์หน้าผาก

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 6-12 เดือน

                • ฟิลเลอร์ขมับ

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 18-24 เดือน

                • ฟิลเลอร์ใต้ตา

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 6-9 เดือน

                • ฟิลเลอร์แก้ม

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 12 เดือน

                • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 12 เดือน

                • ฟิลเลอร์ปาก

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 6-12 เดือน

                • ฟิลเลอร์คาง

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 8-24 เดือน

                • ฟิลเลอร์กรอบหน้า

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 8-24 เดือน

                • ฟิลเลอร์ริ้วรอยต่าง ๆ

                สามารถคงตัวอยู่ได้ 6-12 เดือน

                ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ที่มีการผลิตที่แตกต่างกันไป ทำให้การคงตัวของฟิลเลอร์มีความแตกต่างกัน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน และการดูของแต่ละบุคคลอีกด้วย

                2. การฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร

                การฉีดสลายฟิลเลอร์​ หรือ Dissolving Filler คือ การฉีดสารเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส หรือ Hyaluronidase เพื่อเข้าไปทำการสลายฟิลเลอร์ที่ได้ทำการฉีดเข้าไป รวมทั้งซึ่งตัวยาดังกล่าว จะเป็นส่วนที่ทำให้โมเลกุล ของสารเติมเต็มจับตัวเป็นน้ำลดลง และสลายตัวจนหมด

                3. ฟิลเลอร์จะเห็นผลกี่วันหลังฉีด

                หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในทันที แต่อาจมีอาการบวมจากเข็มและตัวยาอยู่บาง แต่จะเข้าที่ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ หลังฉีด

                4. ใครที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์

                • ผู้ที่มีผิวหนังติดเชื้อ หรือผิวหนังมีอาการอักเสบ
                • ผู้ที่เป็นลมพิษ
                • ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกมาก และเลือดออกง่าย
                • ผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง
                • ผู้ที่มีอาการแพ้สารประเภทคอลลาเจนต่าง ๆ
                • ผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์
                • ผู้ที่กำลังให้นมบุตร

                5. ทำไมหลังฉีดฟิลเลอร์ถึงควรดื่มน้ำมากๆ

                เนื่องจากฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่มีความอุ้มน้ำ การดื่มน้ำให้มาก ๆ จะเป็นการเข้าไปช่วยในการเติมเต็ม และเพิ่มความอิ่มฟูอุ้มน้ำอย่างเต็มที่ ให้กับฟิลเลอร์ที่ทำการฉีดเข้าไป ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และคงสภาพใต้ผิวหนังได้นานขึ้น

                6. ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม

                ก่อนฉีดฟิลเลอร์ จะมีการทายาชา และรอให้ยาชาออกฤทธิ์ก่อน แพทย์จึงค่อยลงมือฉีดฟิลเลอร์ รวมทั้งฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มในบางตัวยังมีส่วนผสมของยาชา จึงทำให้ไม่ต้องกลัวความเจ็บในขณะที่ดันตัวยาเข้าสู่ผิวหนัง

                filler

                7. ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม

                การฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม ควรทำกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้ผลลัพธ์หลังการฉีดได้ความสวย ละมุน อย่างที่ต้องการ  เนื่องจากหากใช้บริการกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์แล้ว อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง อาทิ การฉีดเข้าเส้นเลือด การฉีดผิดตำแหน่ง ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วกลายเป็นก้อน เป็นไตแข็ง เป็นต้น อีกทั้งควรเลือกเข้ารับบริการในสถานเสริมความงามที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์แท้ ได้รับการันตีจากบริษัทยา ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการฟิลเลอร์

                8. หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถนอนในท่าปกติได้หรือไม่

                หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดการนอนราบไปกับพื้น ในระยะเวลา 4 ชั่วโมงแรก และหลังจาก 4 ชั่วโมงสามารถนอนท่าปกติได้ และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

                9. ฟิลเลอร์ไหล สามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

                สามารถเกิดขึ้นได้ หากใช้บริการกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์ไม่ถูกกับปัญหาและบริเวณที่ต้องการแก้ปัญหา เนื่องจากแต่ละบริเวณบนใบหน้า ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีความคงตัว ในบริเวณที่ขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม อาจทำให้เคลื่อนตัวได้เป็นต้น

                10. ฉีดฟิลเลอร์สามารถนวดหน้าได้หรือไม่

                สามารถนวดหน้าได้ แต่ควรเว้นระยะจากการฉีดฟิลเลอร์ขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเกิดการเคลื่อนตัวไปยังบริเวณอื่น ๆ ได้

                ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง ควรศึกษาหาข้อมูลว่าปัญหาที่เราเป็นนั้น สามารถใช้หัตถการใดในการแก้ปัญหาได้บ้าง และสิ่งที่ใช้แก้ปัญหาให้แก่เรานั้นมีคุณประโยชน์ และโทษมากน้อยแค่ไหน หาสถานที่ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ ที่เราเดินเข้าไปแล้วจะสามารถมั่นใจได้ว่าไม่ถูกหลอก แพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์และความสามารถ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกการจรดเข็มลงบนใบหน้า เพื่อฉีดฟิลเลอร์จะไม่ได้รับอันตรายตามมา

                รมย์รวินท์คลินิก คลินิกที่เปิดมาอย่างยาวนาน มากไปด้วยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และความสามารถ ที่สามารถทำให้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านหมดกังวลในการทำทุกหัตถการ

                ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ





                  วันที่สะดวกในการติดต่อ




                  เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว