ThermiVA กระชับช่องคลอด ไม่ต้องผ่าตัด คืออะไร 2024

ThermiVA กระชับช่องคลอด

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ








    ThermiVA คืออะไร กระชับช่องคลอด ไม่ต้องผ่าตัด คืออะไร ดียังไง

    เมื่ออายุมากขึ้น สาว ๆ หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมช่องคลอดถึงหย่อนคล้อย ปัสสาวะเล็ดหลังจากคลอดลูก และอีกสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นหลังผู้หญิงอายุมากขึ้น ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงลดความมั่นใจลงอีกด้วย แต่ความกังวลใจนี้จะหมดไป เพราะในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย อย่าง ThermiVA เทคโนโลยีใหม่ กระชับช่องคลอด ไม่ต้องผ่าตัด ที่กำลังมาแรงในตอนนี้

    ปัญหาที่ผู้หญิงที่มักพบ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น?

    ผู้หญิงเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่ผู้หญิงหลายคนต่างพบเจอ และมักจะกังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก

    • ช่องคลอดไม่กระชับ ที่อาจเกิดได้จากการคลอดบุตรหลายครั้ง อายุที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือการออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเพศ และความมั่นใจลดลง
    • ผนังช่องคลอดแห้งบาง ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การใช้ยาบางชนิด หรือการขาดสารหล่อลื่นตามธรรมชาติ อาจทำให้รู้สึกเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
    • ปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ เกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง ซึ่งอาจเกิดจากการคลอดบุตร การไอเรื้อรัง หรือการอ้วน อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประจำวัน และความมั่นใจ
    • มดลูกหย่อน เกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง ทำให้มดลูกเคลื่อนตัวลงมา อาจจะมีอาการปวดหลัง ปัสสาวะลำบาก และมีก้อนเนื้อยื่นออกมาทางช่องคลอด ซึ่งทำให้ลำบากต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
    • ไม่ถึงจุดสุดยอด มีหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงไม่ถึงจุดสุดยอด เช่น ความเครียด ปัญหาสุขภาพ หรือความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ได้

    ThermiVA ช่องคลอดไม่กระชับเกิดจากอะไร

    ช่องคลอดไม่กระชับ หย่อนคล้อย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

    • การคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ : สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงนั้นมีช่องคลอดที่ไม่กระชับ อาจจะเกิดจากการคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ เพราะกล้ามเนื้อส่วนช่องคลอดนั้นจะมีการขยายตัว เพื่อทำให้ทารกนั้นคลอด โดยหลังคลอดกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะไม่สามารถกลับมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เลยทำให้เกิดช่องคลอดหย่อนคล้อย
    • อายุที่มากขึ้น : ยิ่งอายุมากขึ้นร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกายนั้นสูญเสียความยืดหยุ่น รวมถึงบริเวณช่องคลอดด้วย
    • น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น : การมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น อาจจะส่งผลต่อแรงกดทับบริเวณอุ้งเชิงกรานได้ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแอลง ช่องคลอดจึงเกิดการหย่อนคล้อย
    • โรคประจำตัว : เป็นโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ โรคข้ออักเสบ โรคหอบหืด อาจส่งผลต่อแรงกดทับในช่องท้อง กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอได้

    นอกจากสาเหตุที่กล่าวมาทั้งหมด ยังมีอีกหลายสาเหตุที่อาจส่งผลให้ช่องคลอดหย่อนคล้อยได้ เช่น อาการท้องผูกเรื้อรัง ทำให้ต้องออกแรงเบ่งอุจจาระมากขึ้น การยกของหนักเป็นประจำ ซึ่งปัจจุบันปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ ด้วยทั้งการผ่าตัด หรือเทคโนโลยีที่จะช่วยกระชับช่องคลอด แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดได้ เช่น ThermiVA โปรแกรมกระชับช่องคลอด ที่ไม่ต้องผ่าตัด

    ช่องคลอดหย่อนคล้อย จะมีอาการและรู้สึกอย่างไร

    หน่วงๆในช่องคลอด

    • รู้สึกหน่วง ๆ หลวม ๆ ในช่องคลอด เป็นอาการที่บ่งบอกว่าอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก หรือกระเพาะปัสสาวะ เริ่มหย่อนตัวลงมา จึงทำให้รู้สึกว่ามีอะไรกดทับ และช่องคลอดรู้สึกหลวมนั่นเอง

    มีลมทางช่องคลอด

    • มีลมออกทางช่องคลอด ซึ่งอาการนี้อาจจะเกิดจากผนังช่องคลอดนั้นมีการหย่อนตัวลงมา ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผนังช่องคลอดกับอวัยวะอื่น ๆ จึงทำให้อากาศนั้นเข้าไปในช่องคลอดได้

    ช่องคลอดไม่แน่นกระชับ

    • มีปัญหาเวลามีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดหย่อนคล้อย จะทำให้ความกระชับนั้นลดลง ซึ่งทำให้การทำกิจกรรมนั้นไม่ราบรื่น และอาจเกิดปัญหาได้ทั้ง 2 ฝ่าย

    ปัสสาวะเล็ด

    • ปัสสาวะเล็ด เมื่อบริเวณผนังช่องคลอดหรือมดลูกมีการหย่อนมากขึ้น ส่วนนี้จะไปกดทับกับท่อปัสสาวะ ทำให้กล้ามเนื้อที่คอยควบคุมการทำงานปัสสาวะทำงานได้ไม่ดี จึงทำให้เมื่อไอ จาม หรือหัวเราะ อาจจะมีปัสสาวะเล็ดออกมาได้

    ThermiVA คืออะไร

    ThermiVA คืออะไร?

    ปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ ปัญหาปัสสาวะเล็ด ล้วนเป็นปัญหาที่สาว ๆ อาจพบเจอได้ และมักจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของหลายคน ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่สามารถดูแลได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องพักฟื้น อย่าง ThermiVA คือ เทคโนโลยีเพื่อฟื้นฟูและช่วยกระชับจุดซ่อนเร้น โดยจะใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินภายในช่องคลอด ซึ่งจะช่วยทำให้ช่องคลอดมีความกระชับ ชุ่มชื้น และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นได้ ThermiVA สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้บริการ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เจ็บ และใช้เวลาไม่นาน หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

    ThermiVA มีหลักการทำงานอย่างไร?

    การออกแบบ ThermiVA กระชับช่องคลอด ถือเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาสำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ปัสสาวะเล็ด ที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยการออกแบบ ThermiVA เป็นการยกกระชับช่องคลอดที่ไม่ต้องผ่าตัด สามารถช่วยกระชับทั้งภายนอก และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นภายในช่องคลอดได้อีกด้วย ThermiVA จะทำงานโดยการยิงคลื่นวิทยุที่มีความอ่อนโยนสำหรับผิวบอบบางบริเวณช่องคลอดไปที่ชั้นผิว และเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวบริเวณช่องคลอด เข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดที่เคยหย่อนคล้อยแคบลง และช่วยให้ช่องคลอดกระชับขึ้น ป้องกันปัญหาปัสสาวะเล็ดได้

    ThermiVA ช่วยกระชับช่องคลอดได้จริงไหม?

    ThermiVA เป็นเครื่องที่จะช่วยกระชับช่องคลอดได้แบบไม่ต้องผ่าตัด หลายคนจึงสงสัยว่า จะสามารถกระชับช่องคลอดได้จริงไหม ? ซึ่งการใช้เครื่อง ThermiVA สามารถยกกระชับช่องคลอดได้จริง โดยไม่ต้องเข้าผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทั้งนี้ผลลัพธ์หลังทำ ThermiVA จะนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนครั้งในการทำ การดูแลตัวเองหลังทำ และสุขภาพของผู้รับบริการ

    ThermiVA ช่วยอะไร

    ThermiVA ช่วยอะไรบ้าง?

    • ThermiVA ช่วยกระชับช่องคลอดที่หย่อนคล้อย
    • ThermiVA ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในช่องคลอด แก้ปัญหาช่องคลอดแห้ง
    • ThermiVA ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อช่องคลอดให้มีความแข็งแรง และกระชับขึ้น
    • ThermiVA ช่วยลดอาการปัสสาวะเล็ด อั้นปัสสาวะไม่ได้ เมื่อไอ จาม หรือหัวเราะ
    • ThermiVA ช่วยกระตุ้นช่องคลอดให้ไวความรู้สึกมากขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเพศดีขึ้น
    • ThermiVA ช่วยกระชับผิวบริเวณช่องคลอดทั้งภายใน และภายนอก

    ThermiVA ช่วยแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดได้อย่างไร?

    สำหรับสาว ๆ ที่เริ่มมีอายุที่มากขึ้น หรือผ่านการคลอดบุตรมาก่อนนั้น อาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับผนังช่องคลอดหย่อนคล้อย ทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ดได้ และอาจจะมีข้อสงสัยว่า ThermiVA กระชับช่องคลอด นั้นจะช่วยแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดได้อย่างไร ?
    อาการปัสสาวะเล็ด คือ อาการที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของแผ่นเอ็นเส้นใยกล้ามเนื้อภายในผนังอุ้งเชิงกราน ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การคลอดบุตร การออกกำลังกายหนัก การยืนนาน การท้องผูกแล้วทำให้เบ่งอุจจาระแรง หรือการที่ต้องยกของหนักบ่อย ๆ
    โดยปกติแล้วนั้น แผ่นเอ็นเส้นใยกล้ามเนื้อภายในผนังอุ้งเชิงกราน จะคล้ายกับสายแถบรัดที่มีความยืดหยุ่น ที่จะคอยบีบรัดปัสสาวะเอาไว้ไม่ให้ไหลเล็ดออกมา หากแผ่นนี้เกิดการหย่อนนั้น ทำให้เวลาที่ความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น เช่น การไอ การจาม การหัวเราะ อาจจะทำให้เกิดการเล็ดของปัสสาวะออกมาได้ ซึ่ง ThermiVA จะช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น

    หลักการทำงานของ ThermiVA ที่ช่วยลดอาการปัสสาวะเล็ด

    • ThermiVA จะช่วยกระชับแผ่นเอ็นของเส้นใยกล้ามเนื้อในผนังอุ้งเชิงกราน ให้ไม่หย่อนคล้อย
    • ThermiVA จะทำให้กล้ามเนื้อของท่อปัสสาวะนั้นเรียงชิดติดกัน และทำให้บีบรัดตัวได้ดีขึ้น
    • ThermiVA จะช่วยกระตุ้นการรับรู้ของเส้นประสาทรับความรู้สึกที่มาเลี้ยงท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ลดอาการปัสสาวะเล็ดได้

    ก่อนทำ ThermiVA ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

    การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ ThermiVA กระชับช่องคลอด หากต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพตามต้องการนั้น ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนทำ ดังนี้

    • ก่อนเข้ารับบริการ ThermiVA หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อวางแผนการรักษา
    • ก่อนเข้ารับบริการ ThermiVA แนะนำให้ตรวจภายใน เพื่อตรวจหาสิ่งผิดปกติในร่างกาย เช่น เนื้องอก หรือมะเร็งปากมดลูก
    • การเข้ารับบริการ ThermiVA ควรทำก่อนหรือหลังมีประจำเดือนประมาณ 7 วัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจเกิดได้
    • ก่อนเข้ารับบริการ ThermiVA ควรกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น เพื่อให้ตัวเครื่อง ThermiVA สามารถใช้คลื่นวิทยุส่งพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ก่อนเข้ารับบริการ ThermiVA ควรดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมร่างกายให้แข็งแรง
    • ก่อนเข้ารับบริการ ThermiVA งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และงดการดื่มคาเฟอีน ก่อนทำ 24 ชั่วโมง

    ThermiVA กระชับช่องคลอด มีขั้นตอนอะไรบ้าง?

    การเข้ารับการรักษายกกระชับช่องคลอด ปัสสาวะเล็ดโดยเครื่อง ThermiVA นั้น เป็นเทคโนโลยีที่ประหยัดเวลา เห็นผลลัพธ์ไว และยังไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วย ขั้นตอนในการเข้ารับบริการ ThermiVA ยกกระชับช่องคลอดนั้น มีดังนี้

    • ก่อนเริ่มเข้ารับบริการ ThermiVA กระชับช่องคลอด ผู้รับบริการจะต้องทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้เรียบร้อย
    • หลังจากนั้น แพทย์จะทำการทายาชาบริเวณที่จะทำหัตถการ
    • เมื่อยาชาเริ่มออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มทำการรักษาด้วยเครื่อง ThermiVA โดยจะทำการสอดเข้าไปในช่องคลอด และส่งคลื่นวิทยุ ผ่านหัว Applicators เพื่อเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอด ทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้นโดยการรักษาด้วยเครื่อง ThermiVA ยกกระชับช่องคลอด จะใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
    • หลังจากทำการรักษาเสร็จ แพทย์ให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง และการดูแลหลังทำ ThermiVA ต่อไป ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

    หลังทำ ThermiVA ต้องดูแลอย่างไร?

    • หลังทำ ThermiVA ดูแลความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น โดยใช้น้ำและสบู่อ่อน ๆ ล้างให้สะอาด หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีน้ำหอม หรือมีสารเคมีรุนแรง
    • หลังทำ ThermiVA งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 6 ชม. เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
    • หลังทำ ThermiVA ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
    • หลังทำ ThermiVA หลีกเลี่ยงดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
    • หลังทำ ThermiVA ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

    ThermiVA เหมาะกับใคร

    ThermiVA กระชับช่องคลอด เหมาะกับใครบ้าง?

    • ผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ : ปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อยหลังจากการคลอดบุตร หรืออายุที่มากขึ้น ThermiVA จะช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
    • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวบริเวณช่องคลอด : ผิวรอบนอกช่องคลอดที่มีรอยยับ หรือขาดความตึง ทำให้เกิดความไม่สวยงาม ThermiVA สามารถช่วยกระชับช่องคลอดทั้งภายนอกและภายใน
    • ผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดแห้ง : โดยจะมีอาการแสบหรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากช่องคลอดแห้งเกินไป ThermiVA จะเข้าไปกระตุ้นให้ช่องคลอดชุ่มชื้นขึ้น
    • ผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด : อั้นปัสสาวะไม่ได้ หรือมีอาการปัสสาวะเล็ด เมื่อไอ จาม หัวเราะ ทำให้มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน ThermiVA จะช่วยทำให้ผนังช่องคลอดแข็งแรงขึ้น
    • ผู้ที่มีปัญหาความรู้สึกทางเพศ: ผู้ที่มีปัญหาในการถึงจุดสุดยอดยาก หรือไม่ถึงจุดสุดยอดขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้มีปัญหากับความสัมพันธ์ ThermiVA จะช่วยเพิ่มความรู้สึกได้มากขึ้น
    • ผู้ที่เป็นวัยหมดประจำเดือน : ผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน และมีปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดไม่กระชับ เหมาะกับการทำ ThermiVA
    • ผู้ที่มีปัญหาอาการอักเสบของช่องคลอด : ผู้ที่มีการอักเสบบริเวณช่องคลอดบ่อย หรือมีอาการเจ็บช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจจะเกิดจากช่องคลอดแห้ง หรือเกิดการอักเสบ การทำ ThermiVA จะช่วยแก้ปัญหาได้

    ต้องทำ ThermiVA กระชับช่องคลอด กี่ครั้งถึงเห็นผล?

    การรักษายกกระชับช่องคลอดด้วย ThermiVA นั้น จะช่วยทำให้ปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อย ปัสสาวะเล็ดลดลง โดยจำนวนครั้งในการทำจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ โดยแพทย์จะคำนึงถึงปัญหาของผู้เข้ารับบริการเป็นหลัก ปกติแล้วนั้นการทำ ThermiVA กระชับช่องคลอด จะรักษาประมาณ 2-3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเว้นระยะห่างประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

    ThermiVA กระชับช่องคลอด ไม่เหมาะกับใคร?

    การทำ ThermiVA ยกกระชับช่องคลอด และแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด ผู้หญิงที่มีปัญหาสามารถเข้ารับการรักษาด้วยเครื่องนี้ได้ แต่การรักษาด้วยเครื่อง ThermiVA ยกกระชับช่องคลอด อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อคนในบางกลุ่ม ดังนี้

    • ผู้ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ หรือโรคอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาด้วย ThermiVA
    • ผู้ที่กำลังมีประจำเดือน ไม่ควรทำ ThermiVA ควรทำก่อนเป็นประจำเดือน
    • ผู้ที่มีบาดแผล หรืออยู่ในระยะการอักเสบ ชาบริเวณช่องคลอด
    • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งช่องคลอด การทำ ThermiVA อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้

    ThermiVA กระชับช่องคลอด ดีกว่าการทำรีแพร์ไหม?

    ThermiVA กระชับช่องคลอด เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสำหรับคุณผู้หญิงได้อย่างตรงจุด และยังครอบคลุมได้มากกว่าการทำศัลยกรรมรีแพร์ เนื่องจาก ThermiVA นั้นจะใช้คลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินภายในช่องคลอดให้ทำงานดีขึ้น ThermiVA ช่วยกระชับช่องคลอด แก้ปัสสาวะเล็ดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีแผล การศัลยกรรมรีแพร์นั้นจะต้องเข้ารับการผ่าตัด และต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ทั้งยังให้ผลลัพธ์แค่เพียงบริเวณปากช่องคลอดเท่านั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาภายในเหมือนกับเครื่อง ThermiVA จึงทำให้ ThermiVA เป็นเครื่องกระชับช่องคลอดที่ได้รับความนิยมสูง

    เลือกทำ ThermiVA กระชับช่องคลอด ที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไร?

    การเลือกคลินิกหรือสถานพยานที่เข้ารับการรักษาด้วย ThermiVA กระชับช่องคลอดนั้น ควรคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัย เนื่องจากเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยอย่างมาก ควรเลือกทำ ThermiVA ที่ไหนดี? สังเกตได้ ดังนี้

    • เลือกสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
    • เลือกสถานพยาบาลที่นำเข้า ThermiVA กระชับช่องคลอด และเลือกใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล และอย.ไทย เพื่อความปลอดภัยของการรักษา และเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด
    • หลังการเข้ารับบริการ ThermiVA มีการติดตามผลหลังทำ ThermiVA พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเอง มีแพทย์ให้คำปรึกษาอย่างละเอียด

    มัดรวมข้อดีของการทำ ThermiVA กระชับช่องคลอด

    • ThermiVA กระชับช่องคลอด ใช้เวลาทำการรักษาไม่นาน เพียง 3-5 นาทีต่อพื้นที่แต่ละบริเวณ และการรักษา ThermiVA โดยรวมประมาณ 30-45 นาทีต่อครั้ง เลือกใช้อุณหภูมิที่ปลอดภัย มีการใช้ความร้อนในช่วง 40-47 °C จะช่วยทำให้การรักษาด้วย ThermiVA มีประสิทธิภาพในการกระชับดีที่สุด
    • ThermiVA กระชับช่องคลอด ที่ได้ประสิทธิภาพสูง ควรทำ 3 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
    • ThermiVA ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ไม่มีรอยแผล จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดแผลหลังการรักษา
    • หลังทำ ThermiVA ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที
    • ThermiVA กระชับช่องคลอด สามารถรักษาได้ทุกช่วงอายุ เหมาะสำหรับผู้หญิงในทุกวัย
    • ThermiVA ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานสามารถอยู่ได้ประมาณ 1 ปีหลังทำ

    สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ThermiVA กระชับช่องคลอด

    • การรักษา ThermiVA กระชับช่องคลอด ทำเพียงเดือนละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 ครั้ง จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
    • การรักษา ThermiVA กระชับช่องคลอด ใช้เวลารักษาเพียง 30-45 นาทีต่อครั้ง
    • การรักษา ThermiVA กระชับช่องคลอด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังรับการรักษา 6 ชม.
    • การรักษา ThermiVA กระชับช่องคลอด ก่อนทำควรตรวจสุขภาพภายใน และควรทำหลังประจำเดือนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์

    ThermiVA ต่างกับ Emsella

    ไขข้อสงสัย Emsella vs ThermiVA กระชับช่องคลอด แตกต่างกันไหม?

    Emsella คืออะไร?

    • Emsella เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อกระชับช่องคลอด ช่วยรักษาภาวะปัสสาวะเล็ด โดย Emsella จะใช้เทคโนโลยีแม่เหล็กไฟฟ้าโฟกัสความเข้มสูง (HIFEM) เข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ช่วยควบคุมระบบประสาท และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการหดเกร็ง คล้ายการขมิบ
      โดยการรักษาผู้เข้ารับบริการจะต้องนั่งบนเก้าอี้ Emsella เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นเครื่องจะใช้คลื่นแม่เหล็กเข้าไปกระตุ้นการทำงานกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน คล้ายกับการขมิบมากกว่า 11,200 ครั้ง โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เมื่อรักษาเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

    ThermiVA คืออะไร?

    • ThermiVA เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาภาวะปัสสาวะเล็ด และกระชับช่องคลอดที่หย่อนคล้อย โดยเครื่อง ThermiVA จะใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินภายในช่องคลอด กระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้มีความแข็งแรงมากขึ้น โดยผ่านอุปกรณ์ขนาดเล็ก การรักษาด้วยเครื่อง ThermiVA จะไม่ทำให้เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น

    ระยะเวลาในการรักษาระหว่างเครื่องกระชับช่องคลอด Emsella และ ThermiVA ต่างกันไหม?

    • Emsella : โดยปกติแล้วนั้นจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการรักษา
    • ThermiVA : โดยปกติแล้วนั้นใช้เวลาประมาณ 60 นาที ในการรักษา

    ทั้งนี้ระยะเวลาในการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล

    ความถี่ในการรักษา

    • แม้ว่าการใช้เครื่องกระชับช่องคลอด ทั้ง Emsella และ ThermiVA จะสามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ซึ่งผลลัพธ์ระยะยาวนั้นจะขึ้นอยู่กับความถี่ในการรักษาด้วย
      โดยปกติแล้ว Emsella จะทำการรักษา 6 ครั้ง ห่างกัน 2-3 วัน ในขณะที่ ThermiVA จะทำการรักษา 3 ครั้ง โดยจะต้องห่างกัน 4-6 สัปดาห์ หรือครั้งละ 1 เดือน ทั้งนี้ความถี่ในการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล และดุลยพินิจของแพทย์ด้วยว่าควรทำประมาณกี่ครั้ง

    ความแตกต่างในการทำงาน

    •  Emsella : เน้นการกระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยตรงด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวบ่อยครั้งและรวดเร็ว เหมือนกับการขมิบโดยไม่ต้องออกแรงเอง
    • ThermiVA : ใช้คลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ThermiVA จะช่วยให้เนื้อเยื่อในช่องคลอดกระชับขึ้น และมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ไม่มีความเจ็บปวด

    เหมาะสำหรับใคร

    •  Emsella : เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อย หรือต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยรวม ผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด ไม่ว่าจะ ผู้หญิง หรือผู้ชายก็สามารถทำได้
    • ThermiVA : เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดแห้ง ช่องคลอดหย่อนคล้อย หรือต้องการเพิ่มความรู้สึกในการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงผู้ที่มีปัสสาวะเล็ด ThermiVA สามารถช่วยได้

    ผลข้างเคียง

    Emsella และ ThermiVA เป็นการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นความถี่วิทยุ ที่มีความปลอดภัยสูงต่อร่างกาย อย่างไรก็ตามระหว่างการรักษา และหลังการรักษาก็อาจจะมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้เล็กน้อย และไม่เกิดอันตราย ดังนี้

    • Emsella : ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาด้วยเครื่อง Emsella อาจมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว หรืออาการปวด และรอยแดงชั่วคราวในบริเวณที่ทำการรักษาได้
    • ThermiVA : ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาด้วยเครื่อง ThermiVA อาจมีความรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย รอยแดง และอาการบวมในบริเวณที่ทำการรักษา โดยผลข้างเคียงที่กล่าวมาเหล่านี้นั้นไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสามารถหายได้เอง

    ทำไมต้องเลือกทำ ThermiVA กับรมย์รวินท์คลินิก

    ThermiVA ตัวช่วยฟื้นฟูความสาวให้กลับมาอีกครั้ง กระชับช่องคลอด พร้อมช่วยลดปัญหาปัสสาวะเล็ด ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ทวงคืนความสาวเรียกคืนความมั่นใจให้สาว ๆ ได้เพิ่มขึ้น ทาง รมย์รวินท์คลินิก พร้อมให้บริการ ThermiVA กระชับช่องคลอด ที่ดูแลโดยแพทย์ประจำคลินิกที่มีประสบการณ์
    เหตุผลที่ควรเลือกทำ ThermiVA กับรมย์รวินท์คลินิก

    • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ : รมย์รวินท์คลินิก มีประสบการณ์ในการดูแลผิวพรรณและความงามมายาวนาน มีแพทย์เฉพาะทางคอยให้คำปรึกษาและดูแลการรักษา ThermiVA ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัยและผลลัพธ์
    • เทคโนโลยีที่ทันสมัย : คลินิกเลือกใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล รวมถึงเครื่อง ThermiVA ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย ทำให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
    • การดูแลที่เป็นส่วนตัว : รมย์รวินท์คลินิกให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าแบบรายบุคคล แพทย์จะทำการประเมินปัญหา วางแผนการรักษาด้วย ThermiVA และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละคน
    • มาตรฐานความสะอาด : คลินิกมีมาตรฐานความสะอาดสูง เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ เพิ่มความมั่นใจในการเข้ารับบริการ ThermiVA
    • ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ : ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่ให้ผลตอบรับที่ดี เกี่ยวกับผลลัพธ์ของการทำ ThermiVA กับ รมย์รวินท์ในเชิงบวก ช่องคลอดกระชับขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น และเพิ่มความมั่นใจในตนเอง ทำให้ ThermiVA เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูง

    ThermiVA ถือเป็นเทคโนโลยีกระชับช่องคลอด แก้ปัญหาช่องคลอดแห้ง ปัสสาวะเล็ด และอารมณ์ทางเพศได้อย่างตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผล อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาที่รวดเร็ว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สาว ๆ ต่างไว้วางใจ สำหรับใครที่อยากจะเข้ารับการรักษาด้วย ThermiVA สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก ทุกสาขา

    Emsella เก้าอี้กระชับช่องคลอด ช่วยเรื่องอะไร ดีจริงไหม

    Emsella

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ








       

      ต้องบอกเลยว่า การไม่มีโรค ถือเป็นลาภอันประเสริฐ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะสาว ๆ ที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับจุดซ่อนเร้นได้ ใครที่กำลังมีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ ปัสสาวะเล็ด หรือปัญหาของคุณแม่หลังคลอดนั้น วันนี้เราจะพามา ทำความรู้จัก Emsella เก้าอี้สุขภาพกระชับช่องคลอด ช่วยเรื่องอะไร ดีจริงไหม? นวัตกรรมดูแลสุขภาพมาแรงที่ทำง่าย ประหยัดเวลา ไม่ต้องพักฟื้น มารู้จักกับเก้าอี้ Emsella ได้ในบทความนี้

      Emsella

      ปัญหาสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น

      ยิ่งอายุมากขึ้นปัญหาก็ยิ่งเยอะ โดยเฉพาะกับสาว ๆ ที่จำเป็นต้องดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ซึ่งปัญหาที่อาจพบได้บ่อย ๆ สำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น หรือผู้ที่เคยคลอดบุตรมาก่อน มีดังนี้

      • ภาวะปัสสาวะเล็ด (Urinary Incontinence)

      ภาวะปัสสาวะเล็ด ถือเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกเพศ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้ คือ ความอ่อนแอของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน โดยเป็นปัญหาที่มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น การตั้งครรภ์ การคลอดบุตร และอายุที่มากขึ้น หรือเกิดจากอาการเจ็บป่วย เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ, ความผิดปกติของระบบประสาท, เนื้องอก และโรคเบาหวาน เป็นต้น รวมไปถึงการรับประทานยาบางชนิดก็อาจจะเป็นสาเหตุของอาการได้

      การสังเกตอาการปัสสาวะเล็ด สามารถทำได้โดยดูจากอาการ ดังนี้

      • ปัสสาวะเล็ดจากการไอ จาม หรือหัวเราะ : อาการนี้มักเกิดขึ้นเมื่อมีการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง ทำให้ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ หรือมีปัสสาวะกระปิดกระปรอย ไหลออกมาเมื่อ หัวเราะ ไอ หรือจาม
      • ปวดปัสสาวะรุนแรง : รู้สึกปวดปัสสาวะรุนแรงในทันทีที่เริ่มปวด ไม่ใช่ค่อยๆปวดเหมือนคนปกติ จนไม่สามารถควบคุมการไปห้องน้ำได้ ส่งผลให้เกิดปัสสาวะเล็ด หรือปัสสาวะไหลออกมา
      • ไม่สามารถ อั้น หรือ กลั้นปัสสาวะได้ : มีอาการปัสสาวะราดออกมาทันทีเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ หรือไม่สามารถรอจนถึงห้องน้ำได้
      • ภาวะช่องคลอดหลวม (Vaginal laxity)

      ภาวะช่องคลอดหลวม (Vaginal laxity) หรือที่รู้จักและเรียกกันว่า “ช่องคลอดไม่กระชับ” เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อน หรือมีอายุที่มากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การใช้ชีวิต และความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง จะทำให้เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อช่องคลอดสูญเสียความยืดหยุ่น หรือคนที่เคยตั้งครรภ์และคลอดบุตรมานั้น จะทำให้ช่องคลอดขยายตัวกว้างขึ้น รวมทั้งยังทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเกิดการอ่อนแรงมากขึ้น

      ภาวะช่องคลอดไม่กระชับจะส่งผลกระทบในเรื่องใดบ้าง

      • ความสุขทางเพศ : อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว หรือไม่มีความสุขในการมีเพศสัมพันธ์ ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคู่รัก และอาจก่อให้เกิดปัญหาชีวิตคู่
      • ผลกระทบทางอารมณ์ : ผู้ที่มีภาวะนี้อาจรู้สึกไม่มั่นใจในตนเอง มีอาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้า เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจกับร่างกายของตน
      • อาการทางกาย : หากเกิดอาการไอ จาม จนปัสสาวะเล็ด อาจทำให้ชีวิตประจำวันมีความลำบากมากขึ้น
      • ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม : หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น เช่น การติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
      • ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน (Pelvic organ prolapse)

      กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนยาน (Pelvic Organ Prolapse) คือ การที่ประสิทธิภาพของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานลดลง จึงส่งผลให้อวัยวะภายในมีปัญหา เช่น มดลูก, กระเพาะปัสสาวะ, หรือลำไส้ใหญ่ นั้นได้เคลื่อนลงจากตำแหน่งเดิม โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น อายุที่เพิ่มมากขึ้น, การตั้งครรภ์, อาการไอเรื้อรัง, การยกของหนัก รวมถึงน้ำหนักตัวที่สูง ปัญหานี้มักจะพบได้กับเพศหญิงที่มีอายุมาก

      วิธีสังเกตอาการภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน มีอะไรบ้าง?

      ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน เป็นภาวะที่อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิต หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอุ้งเชิงกราน

      • ปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่สุด : รู้สึกว่าไม่สามารถปัสสาวะได้ตามปกติ อาจมีปัสสาวะรั่ว เล็ด หรือไหลกระปิดกระปอย หรือปัสสาวะเท่าไรก็ไม่หมดสักที
      • ไม่สบายตัวเวลามีเพศสัมพันธ์ : อาจมีอาการเจ็บหรือไม่สบายบริเวณช่องคลอด
      • รู้สึกเหมือนนั่งทับลูกบอล : รู้สึกถึงแรงกดดันหรือมีบางอย่างอยู่ในอุ้งเชิงกราน ตลอดเวลา
      • มีเนื้อเยื่อยื่นออกมาจากช่องคลอด : เป็นอาการที่ชัดเจนของภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน
      • มีเลือดออกจากช่องคลอด : มีเลือดไหลจากช่องคลอด โดยไม่ได้มีประจำเดือน ควรพบแพทย์และเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาจมีสาเหตุอื่นที่ต้องตรวจดู

      ซึ่งปัจจุบันอาการดังกล่าวสามารถรักษาได้ด้วยหลายวิธี รวมถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ อย่าง เก้าอี้ Emsella ที่กำลังได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ที่สะดวกสบาย ประหยัดเวลา และช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Emsella สามารถดูได้จากบทความนี้

      Emsella

      Emsella คืออะไร

      • Emsella คือ นวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนามา เพื่อรักษากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน โดยมีรูปแบบเป็นเก้าอี้ ที่จะช่วยกระชับอุ้งเชิงกราน และเสริมสมรรถภาพทางเพศได้มากขึ้น โดย เก้าอี้ Emsella จะทำการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า HIFEM (High-Intensity Focused Electromagnetic) ไปยังบริเวณอุ้งเชิงกราน เพื่อช่วยควบคุมระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการหดเกร็ง ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ก็เปรียบเสมือนการออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน หรือการขมิบมากกว่า 11,200 ครั้ง
        เก้าอี้ Emsella เป็นเครื่องที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) และสหภาพยุโรป (EU) ว่าปลอดภัย Emsella จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาว ๆ ที่อยากกระชับช่องคลอด และมีปัญหาปัสสาวะเล็ด

      เก้าอี้ Emsella มีการทำงานแบบไหน

      เก้าอี้ Emsella เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า High-Intensity Focused Electromagnetic (HIFEM) เป็นการรักษาปัญหากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และกระเพาะปัสสาวะที่อ่อนแอ ที่สะดวกสบาย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น การทำ Emsella เปรียบเสมือนการออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแบบเข้มข้น แต่ไม่ต้องออกแรงเอง เพียงแค่ผ่อนคลายนั่งบนเก้าอี้ Emsella ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ มีดังนี้

      1. Emsella ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการกระตุ้นกล้ามเนื้อ

      ผู้ใช้บริการจะต้องนั่งที่เก้าอี้ EmSella โดยจะนั่งบริเวณกึ่งกลางของเก้าอี้ จากนั้นเก้าอี้ Emsella จะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูง ที่สามารถแทรกซึมผ่านเนื้อเยื่อไปยังกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้ โดยจะเข้าไปกระตุ้นระบบประสาทในบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว

      2. Emsella ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน

      การหดตัวของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานจากการใช้ Emsella นั้น เป็นการหดตัวที้เกิดจากการกระตุ้น หรือเรียกว่า supramaximal คือ เป็นการให้กระแสไฟฟ้าหรือแรงกระตุ้นในปริมาณที่มากพอ ที่จะกระตุ้นเซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อทั้งหมดในบริเวณนั้นให้ทำงานได้เต็มที่ เก้าอี้ Emsella จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงมากขึ้น

      3. การเพิ่มประสิทธิภาพกล้ามเนื้อจากเก้าอี้ Emsella

      ในการรักษาด้วยเก้าอี้ Emsella จะเกิดการหดตัวแบบ Supramaximal จะช่วยทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ และฟื้นฟูปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อย กระชับช่องคลอดได้ดี

      4. Emsella มีความปลอดภัย และความสะดวก

      การรักษาด้วยเก้าอี้ Emsella เป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด เพียงแค่นั่งผ่อนคลายบนเก้าอี้ ทำให้ไม่มีความเจ็บปวด จึงทำให้มีความสะดวกมาก หลังทำสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ตัวเครื่อง EMSella ยังได้รับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) และสหภาพยุโรป (EU) ทำให้มั่นใจได้เลยว่ามีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือสะดวกที่จะรักษาด้วยการผ่าตัด

      เก้าอี้เอ็มเซลล่า (Emsella) ใช้แบบไหน?

      • การรักษาช่องคลอดหย่อนคล้อย และปัสสาวะเล็ด การใช้เก้าอี้ Emsella เป็นการรักษาที่ใช้เวลาไม่นาน โดยผู้รับบริการจะต้องนั่งบริเวณกึ่งกลางเก้าอี้ จากนั้นเก้าอี้ Emsella จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปบริเวณกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้มีแรงสั่นสะเทือน จนทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว และการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ คล้ายการขมิบ ซึ่งการทำ Emsella จะเทียบเท่ากับการขมิบมากกว่า 11,200 ครั้ง โดยระยะเวลาที่ใช้จะอยู่ประมาณ 20 – 30 นาที ต่อครั้ง สำหรับใครที่อยากได้ผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนและยาวนาน แนะนำให้เข้ารับการรักษาด้วยเก้าอี้ Emsella สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

      Emsella

      เก้าอี้ Emsella ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

      • แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด: ไม่ว่าจะเป็น การปัสสาวะเล็ดขณะไอ จาม หรือออกกำลังกาย Emsella ช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรงขึ้น ทำให้คุณควบคุมการปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น
      • กระชับช่องคลอด: Emsella ช่วยให้ช่องคลอดกระชับขึ้น เพิ่มความมั่นใจ และความพึงพอใจในการมีชีวิตคู่
      • เพิ่มความรู้สึกทางเพศ: การมีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่แข็งแรงขึ้น ทำให้ความรู้สึกทางเพศดีขึ้น
      • ลดอาการปวดเมื่อย: Emsella ช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณอุ้งเชิงกราน
      • ฟื้นฟูสภาพหลังคลอด : Emsella ช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหลังคลอดกลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น
      • แก้ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน : Emsella จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานให้แข็งแรงขึ้น
      • ช่วยชะลอการหลั่งเร็ว : สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศ Emsella ยังช่วยชะลอการหลั่งเร็ว และกระตุ้นให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้นอีกด้วย

      Emsella

      ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Emsella?

      การใช้เก้าอี้ Emsella สามารถทำได้ทั้งเพศหญิง และเพศชายที่มีปัญหาสุขภาพ ดังนี้

      • เก้าอี้ Emsella เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด ควบคุมกระเพาะปัสสาวะไม่ได้ เช่น การปัสสาวะเล็ดขณะไอ จาม ออกกำลังกาย หรือยกของหนัก
      • เก้าอี้ Emsella เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ มีความหย่อนคล้อย จนเกิดการระคายเคือง หรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
      • เก้าอี้ Emsella เหมาะกับผู้ที่มีช่องคลอดหลวม เกิดจากการคลอดบุตรหลายครั้ง หรือมีอายุที่มากขึ้น ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูหลังผ่าตัดคลอดลูก
      • เก้าอี้ Emsella เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเล็กน้อย ที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดรักษา
      • เก้าอี้ Emsella เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลั่งเร็ว อวัยวะเพศไม่แข็งตัว

      ข้อดีของ Emsella มีอะไรบ้าง?

      • เก้าอี้ Emsella ช่วยรักษาปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หรือมีอาการปัสสาวะเล็ดได้
      • เก้าอี้ Emsella สามารถทำได้เลย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
      • เก้าอี้ Emsella สามารถเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างได้ภายในครั้งแรก
      • เก้าอี้ Emsella ไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าระหว่างทำ
      • เก้าอี้ Emsella ไม่ต้องสอดอุปกรณ์ใด ๆ เข้าในตัว
      • เก้าอี้ Emsella จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน
      • เก้าอี้ Emsella นั้นใช้เวลาการรักษาต่อครั้งไม่นาน ทำให้ประหยัดเวลา
      • เก้าอี้ Emsella ปลอดภัยและไม่เจ็บปวด Emsella เป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้ยา และไม่เจ็บปวด ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำการรักษา
      • เก้าอี้ Emsella สะดวกและรวดเร็ว ใช้เวลารักษาเพียงครั้งละประมาณ 30 นาที และไม่ต้องพักฟื้น

      ข้อควรระวังและข้อจำกัดของเก้าอี้ Emsella

      แม้ว่าเก้าอี้ Emsella จะสามารถช่วยในการรักษาและรีแพร์ได้โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว รวมถึงยังใช้เวลาไม่นานในการทำหัตถการ Emsella แต่ก็ยังอาจมีข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ดังนี้

      • ไม่ควรใช้เก้าอี้ Emsella รีแพร์กับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ มีประจำเดือน มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการไหลเวียนของโลหิต และอื่น ๆ
      • การรักษาด้วยเก้าอี้ Emsella ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ฝังในร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา Emsella
      • อาจต้องเข้ารับบริการ Emsella หลายครั้งจึงจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
        การใช้เก้าอี้ Emsella เพื่อคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงมีราคาค่อนข้างสูง
        ทั้งนี้ การเข้ารับบริการเก้าอี้ Emsella ควรอยู่ในการดูของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะประเมินปัญหา และให้คำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้รับการรักษาด้วย Emsella อย่างถูกต้อง และผลลัพธ์ที่ดีปลอดภัย รวมถึงลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงอันตราย

      ใครบ้างที่ไม่ควรทำ Emsella

      การรักษาด้วยเก้าอี้ Emsella สามารถทำได้ทุกเพศและหลายอายุ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในบางกลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ ดังนี้

      • เก้าอี้ Emsella ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
      • เก้าอี้ Emsella ไม่เหมาะกับผู้ที่ใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในร่างกาย เช่น หัวใจเทียม ประสาทเทียม หรือเครื่องมือทางการแพทย์อื่น ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
      • เก้าอี้ Emsella ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างการให้นมบุตร
      • เก้าอี้ Emsella ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง โรคทางระบบประสาท ไม่แนะนำให้ทำ
      • เก้าอี้ Emsella ไม่เหมาะกับผู้ที่ทานยารักษาโรคประจำตัวบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบ ยาแก้ปวด ยานอนหลับ

      นอกจากนี้ระหว่างการรักษาด้วยเก้าอี้ Emsella ห้ามใส่เครื่องประดับที่เป็นโลหะบนร่างกาย และหลังทำ Emsella ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังการรักษา เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุด

      ผลข้างเคียงที่อาจพบหลังทำ Emsella

      • หลังทำ Emsella อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้ โดยส่วนมากแล้วผลข้างเคียงหลังทำ จะไม่เป็นอันตราย และสามารถหายได้ภายใน 1—2 วันหลังทำ Emsella เช่น
      • หลังทำ Emsella จะรู้สึกร้อน และชาบริเวณอุ้งเชิงกราน
      • หลังทำ Emsella อาจปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณเชิงกราน แต่อาการจะค่อย ๆ หายไป
      • หลังทำ Emsella อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือรู้สึกเวียนหัว จากการกระตุ้นของแม่เหล็กไฟฟ้าของ Emsella
      • หลังทำ Emsella อาจจะปวดปัสสาวะบ่อยครั้ง เนื่องจากการปรับสภาพของร่างกาย
        สำหรับใครที่มีผลข้างเคียงหลังทำ Emsella ที่ผิดปกติ หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการประเมินอาการ และการรักษาอย่างถูกจุด

      Emsella ราคาเท่าไหร่? แพงไหม?

      การทำ Emsella เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และกระเพาะปัสสาวะ ปัจจุบันราคาของการทำ Emsella ในประเทศไทย เริ่มต้นที่ประมาณ 1,500 – 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาของการรักษาด้วย Emsella นั้นอาจแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย ดังนี้

      • จำนวนครั้งในการรักษา : ราคาของการทำ Emsella จะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งของการรักษาด้วย โดยทั่วไปจะแนะนำให้ทำหลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
      • เทคโนโลยีของเครื่อง Emsella ที่ใช้ : ปัจจุบันเครื่อง Emsella มีหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นจะมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน โดยจะส่งผลต่อผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ รวมถึงราคาด้วย
      • คลินิกหรือโรงพยาบาลที่ให้บริการ Emsella : การเลือกคลินิกทำ Emsella นั้น แต่ละคลินิกก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยอาจจะขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง และชื่อเสียงของคลินิกได้
      • โปรโมชั่นของเก้าอี้ Emsella : โดยส่วนมากแล้วคลินิกแต่ละที่จะจัดโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องของการให้บริการ และเรื่องของราคา Emsella ในบางคลินิกอาจมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ Emsella เช่น จัดโปรลดราคา หรือแถมบริการอื่น ๆ ร่วมกับการทำ Emsella
      • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ : แพทย์ที่มีความชำนาญการ มีประสบการณ์สูง และมีชื่อเสียงนั้นก็อาจจะทำให้มีราคารักษา Emsella ที่สูงกว่าได้
        ที่ รมย์รวินท์ คลินิก เรามี โปรแกรม Super Fit by Emsella ที่จะช่วยแก้ปัญาปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดไม่กระชับ หรือปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เราดูแลโดยแพทย์มากประสบการณ์ และมียังมีโปรโมชั่นราคาพิเศษ ที่คุ้มค่ารอคุณอยู่

      คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเก้าอี้ Emsella

      นั่งเก้าอี้ Emsella เจ็บไหม?

      • การกระชับช่องคลอดด้วยเก้าอี้ Emsella นั้น จะไม่มีความเจ็บปวด ระหว่างทำ เนื่องจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยออกมากระตุ้นนั้น จะมีค่าเข้มสูงกว่าการออกกำลังกายทั่วไป แต่ขณะนั่งอาจจะรู้สึกถึงความสั่น อาการตึง หรือเสียวเล็กน้อย และหลังทำ Emsella อาจจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเล็กน้อย แต่อาการจะค่อย ๆ ทุเลาลง

      ผู้ชายใช้เก้าอี้ Emsella เอ็มเซลล่าได้ไหม ?

      • เก้าอี้ Emsella สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แม้ว่าจะได้รับความนิยมมากในผู้หญิงเพื่อรักษาปัญหากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่ แต่ผู้ชายก็สามารถใช้ Emsella ช่วยในเรื่องของสมรรถภาพทางเพศ เช่น ช่วยชะลอการหลั่งเร็ว และยังช่วยกระตุ้นให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้นอีกด้วย

      หลังทำ Emsella ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

      • หลายคนอาจจะมีคำถามว่า หลังทำ Emsella ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน? โดยส่วนมากแล้วผลลัพธ์หลังทำ Emsella จะอยู่ที่ประมาณ 3 – 6 เดือน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การดูแลสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคล หากมีการออกกำลังกาย สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อร่วมด้วย อาจจะทำให้ผลลัพธ์ที่ทำ Emsella อยู่ได้นานขึ้น

      Emsella

      ต้องทำ Emsella กี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

      การทำ Emsella กี่ครั้งถึงจะเห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเคสปกติทั่วไปนั้น แพทย์จะแนะนำให้ทำ Emsella ประมาณ 6-8 ครั้ง โดยแบ่งเป็นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ทั้งนี้แต่ละบุคคลก็จะมีจำนวนครั้งที่ทำ Emsella แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้

      • สภาพของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน : หากกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาก อาจต้องทำ Emsella มากกว่าคนที่กล้ามเนื้อแข็งแรงอยู่บ้าง
      • ปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคล : ถ้าต้องการใช้ Emsella แก้ไขปัญหาปัสสาวะเล็ดเล็กน้อย อาจใช้เวลาน้อยกว่าการแก้ไขปัญหาช่องคลอดหลวม
      • ความสม่ำเสมอในการทำ Emsella : การทำ Emsella อย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ จะช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้น

      ค่าใช้จ่ายในการทำ Emsella ประมาณเท่าไหร่?

      • อยากทำ Emsella แต่กลัวเรื่องราคาใช่ไหม? หากสงสัยเรื่องราคา Emsella ราคาเท่าไหร่? สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์เพื่อประเมินปัญหาเบื้องต้นก่อนได้ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วราคาของการทำ Emsella จะอยู่ประมาณ 1,500 – 10,000 บาทต่อครั้ง โดยราคาขึ้นอยู่กับคลินิกที่เข้ารับบริการและปัจจัยอื่นๆเป็นองค์ประกอบ

      ควรทำ Emsella ไหม?

      • ทำความรู้จัก Emsella เก้าอี้สุขภาพกระชับช่องคลอด ช่วยเรื่องอะไร ดีจริงไหม? เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาทางสุขภาพเกี่ยวกับช่องคลอด ไม่ว่าจะเป็น ปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดไม่กระชับ หรืออุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อย หรือหนุ่ม ๆ ที่มีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลถึงสุขภาพกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงชีวิตคู่ การทำ Emsella จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่สนใจเก้าอี้ Emsella สามารถเข้ามารับคำปรึกษาได้ที่รมย์รวินท์คลินิก หรือสามารถปรึกษาไทยทุกช่องทางออนไลน์

      เรื่องของผู้หญิง “รีแพร์” ความจริงที่ผู้หญิงอยากรู้!!

      241

      เรื่องที่ไม่ควรละเลยสำหรับคุณผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนหรือคนที่มีครอบครัว มีลูกแล้วแล้ว ซึ่งถ้ามีปัญหาของช่องคลอดหลวม อยากกระชับน้องสาว เมื่อช่องคลอดไม่กระชับจะแก้ไขอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า การรีแพร์เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ การรีแพร์ สามารถทำได้ 2 วิธี

      กระชับช่องคลอดแบบผ่าตัด

      เป็นการรีแพร์ หรือ ผ่าตัดแก้ปัญหาและเย็บน้องสาวให้กระชับขึ้น โดยจะมีบาดแผลเกิดขึ้นในช่องคลอด ซึ่งหลังจากรีแพร์คนไข้จะต้องหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หรือสิ่งที่เป็นสาเหตุอาจทำให้แผลที่บริเวณช่องคลอด เกิดการฉีกขาดหรือมีแผลเพิ่มขึ้นจากเดิม หลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกประเภท ที่จะเกิดการกระทบแผลจากการผ่าตัด แม้กระทั้งการไอ หรือจาม แรง ๆ ก็อาจส่งผลได้

      กระชับช่องคลอดแบบไม่ผ่าตัด

      วิธีการกระชับช่องคลอดแบบไม่ต้องผ่าตัด เป็นการรักษาด้วยตัวเอง ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่เริ่มรู้สึกว่าน้องสาวเริ่มไม่กระชับ คือการขมิบหรือออกกำลังกายให้กับช่องคลอดฟิตกระชับขึ้น โดยสามารถกระทำได้ทุกวันและทำซ้ำได้ตามความต้องการ วิธีทำก็คือการขมิบค้างไว้ประมาณ 10 นาทีและปล่อยคลายตัวออก โดยทำให้ได้ประมาณ 150 ครั้งต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้น้องสาวกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

      รีแพร์ (Repair)คือ การซ่อมแซม เป็นการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิม โดยเป็นการผ่าตัดตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดให้ได้รูปกระชับขึ้นด้วย

      242

      ในบางครั้งผู้หญิงรู้ตัวเองดีว่ามีปัญหาช่องคลอดหลวมแต่ด้วยความอายจึงไม่กล้าเปิดเผย และไม่กล้าปรึกษาใครทำให้ต้องใช้ชีวิตที่ขาดความมั่นใจ หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตคู่ ในบางครั้งผู้ชายอาจไม่กล้าพูดเพราะกลัวผู้หญิงเสียใจ กลัวทำให้ผู้หญิงหมดความมั่นใจ หากปล่อยทิ้งไว้ ไม่เข้ารับการรีแพร์เรื่องก็อาจบานปลายกลายเป็นปัญหาครอบครัวขึ้นมาได้ ดังนั้นผู้หญิงยุคใหม่ No สน No แคร์ จึงให้ความสนใจกับการทำรีแพร์ เพราะเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้มีความสุขในเรื่องเพศมากขึ้น เรื่องชีวิตคู่ก็กลับมาสุขสม อารมณ์หมายกันอีกครั้ง..

      กระชับน้องสาว “รีแพร์” สิ่งที่ผู้หญิงไม่ควรละเลย

      239

      ผู้หญิงสมัยใหม่หันมาสนใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น เรื่องที่เป็นที่นิยมและสนใจมากเกี่ยงกับกระชับช่องคลอดก็คือ การทำรีแพร์ หลายคนอาจจะสงสัยว่า รีแพร์ คืออะไร รีแพร์ ความหมายก็คือการซ่อมแซม การซ่อมแซมในที่นี้หมายถึงบริเวณช่องคลอดผู้หญิงที่ต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยผ่านการมีบุตรหรือผู้หญิงที่คิดว่าส่วนนั้นของตัวเองไม่ค่อยฟิตเหมือนตอนสาว ๆ  และผู้หญิงบางคนถึงขนาดขาดความมั่นใจไปเลยก็มี หรือบางรายเริ่มจะมีปัญหากับคู่ชีวิต จึงอยากจะหาวิธีแก้ปัญหาในส่วนนี้ให้ได้ แต่ครั้งจะถามใคร ๆ หรือเข้าไปหาหมอสูติเพื่อปรึกษาก็รู้สึกเขินอาย

      ปัจจุบันเรื่องของผู้หญิง ไม่ใช่ความลับไม่ใช่เรื่อน่าอายอีกต่อไป เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเรื่องของอวัยวะเพศ เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ถือได้ว่าเป็นเรื่องชี้ชะตาชีวิตของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ ดังนั้น ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค ได้มองเห็นปัญหานี้ ของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ และ คืนความสาวให้กลับคืนมา การทำรีแพร์เป็นวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป

      โปรแกรม Love Lift เพื่อช่วยผู้หญิงแก้ปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ

      240

      โปรแกรม Love Lift

      • ผู้ที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไอจามปัสสาวะเล็ด
      • ผู้ที่ช่องคลอดไม่กระชับหลวมมีลมออกขณะมีเพศสัมพันธ์
      • ผู้ที่มีภาวะช่องคลอดแห้ง เจ็บ
      • ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอหย่อนคล้อยเนื่องมาจาก น้ำหนักตัว อายุที่มากขึ้น โรคภูมิแพ้
      • ผู้หญิงที่ผ่านการคลอดโดยธรรมชาติ

      โปรแกรม Love Lift

      การทำงานของโปรแกรม Love Lift   เป็นการใช้เทคโลยีพลังงานคลื่นวิทยุไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรงกระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัดที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น

      การเตรียมตัวก่อนทำ โปรแกรม Love Lift

      • ไม่อยู่ในช่วงภาวะมีประจำเดือน
      • เคยตรวจภายในและผลเป็นปกติในระยะเวลา 2 ปี
      • ไม่อยู่ในภาวะอักเสบติดเชื้อ-
      • ไม่มีโรคประจำตัว ร้ายแรง
      • หลังคลอดปกติ เว้น 3-6 เดือน ผ่าคลอด เว้น 1 เดือน หรือตามคำแนะนำแพทย์

      การดูแลหลังทำ

      หลังทำการรีแพร์ โดยโปรแกรม Love Lift สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ  โดยที่ไม่มีอาการหรือความรู้สึกใดๆ แต่เว้นการมีเพศสัมพันธ์ 6 ชั่วโมงหลังจากการทำ

      การทำรีแพร์เพื่อให้ช่องคลอดกระชับขึ้นนี้ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาความบกพร่องของร่างกายที่ผิดปกติ โดยเฉพาะ เพิ่มความรู้สึกพึงพอใจทางเพศได้ แต่การทำรีแพร์ ไม่ใช่ซะทีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ได้ เพราะสาเหตุของของความไม่สุขสมทางเพศนั้น ไม่ได้เกิดจากเรื่องทางร่างกายอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคู่รัก อารมณ์ความรู้สึกที่ดีของการใช้ชีวิตร่วมกันช่วงนั้นต่งหาก แต่การทำ รีแพร์ เป็นเพียงแค่ขั้นตอนหนึ่งที่เพิ่มความมั่นใจ ทวงคืนความสุขให้กับคุณผู้หญิง ไม่ต้องกังวล กับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์มารบกวนจิตใจกันอีกยาว ว่ามั๊ยค่ะสาว ๆ

      ซ่อมแซมใหม่ ให้คืนความสาว “รีแพร์” ไม่ใช่เรื่องน่าอาย..

      236

      สาวรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ วัยไหนๆก็ทำ “รีแพร์” ได้ การทำรีแพร์เป็นการผ่าตัดตกแต่งเพื่อกระชับช่องคลอดที่หย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันได้รับความสนใจจากสาว ๆ เป็นจำนวนมาก  ผู้หญิงที่มีปัญหาช่องคลอดหลวมไม่กระชับ ส่วนใหญ่ผ่านการแต่งงานรวมไปถึงมีบุตรมาแล้ว ทำให้ขาดความมั่นใจ จึงเข้ารับการรักษาด้วยการทำรีแพร์ เพื่อความสวยงาม เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น การทำรีแพร์สามารถคืนความสาวและเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งสาว ๆ ที่กำลังประสบปัญหาจนทำให้หมดความมั่นใจและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

      ผู้หญิงความสุขและความมั่นใจของผู้หญิง ไม่ได้เกิดจากการมีรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณที่ดี และจะไม่มีปัญหาชีวิต เรื่องของจุดซ่อนเร้นหรืออวัยวะเพศหญิง อีกเรื่องที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้หญิงต้องไม่ละเลย และต้องหาวิธีการรักษา อาทิ การทำรีแพร์ ซึ่งจุดซ่อนเร้น ในที่นี้หมายถึง หัวหน่าว แคมเล็ก แคมใหญ่ ซึ่งนอกจากจะมีหน้าที่หลักคือเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของเพศหญิงแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อร่างกายและจิตใจในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณ ย่อมกลายเป็นปัญหา บั่นทอนความสุข และอาจกลายเป็นปัญหาสั่นคลอนภายในครอบครัว ขาดความมั่นใจในการดำเนินชีวิตคู่ได้ การทำรีแพร์จึงช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

      237

      เรื่องอวัยวะเพศของผู้หญิง เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนมีคำถามข้อนี้อยู่ในใจ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอวัยวะเพศของเรามีความผิดปกติ เพราะผู้หญิงหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักจุดซ่อนเร้นของตนเองดีพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ดังนั้น การเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงธรรมชาติของ หัวหน่าว แคมเล็ก และ แคมใหญ่ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้หญิงจะทำความเข้าใจ เพื่อให้เราสามารถสังเกตและมองเห็นถึงความผิดปกติของอวัยวะเพศ เพื่อจะได้ทำการรักษาและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และ ตรงใจกัน

      238

      การผ่าตัดตกแต่ง หัวหน่าว แคมเล็ก และ แคมใหญ่ โดยส่วนใหญ่มักทำร่วมกับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง รีแพร์  ตกแต่งกระชับช่องคลอด รักษาปัสสาวะเล็ด  ในปัจจุบันการรักษากระชับช่องคลอด การรีแพร์นั้นทำได้สะดวกมากขึ้น ด้วยมีการผ่าตัด ตกแต่งจุดซ่อนเร้นด้วยเลเซอร์ เทคโนโลยีพลังงานคลื่นวิทยุ เข้าไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรง กระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น

      การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ทำให้ผลการผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งช่วยลดการสูญเสียเลือดและการบอบช้ำของเนื้อเยื่อลง ปัญหาความผิดปกติของหัวหน่าว แคมเล็ก และแคมใหญ่ การทำรีแพร์สามารถคืนความสาวและเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งสาว ๆ ทั้งหลายที่ประสบปัญหาจนทำให้หมดความมั่นใจและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้การรีแพร์จะได้ผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงในการขาดความรู้สึกในการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้คุณผู้หญิงกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง และมีความสุขทางเพศสัมพันธ์กับคนรักมากขึ้นควรเข้ารับการปรึกษาและรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำรีแพร์โดยเฉพาะ อย่างรมย์รวินท์ คลินิค ศูนย์บริการความงามที่ครบครัวทุกบริการเรื่องความงาม อย่างผู้รู้จริง…

      ปลุกชีวิตให้คืนสาว “รีแพร์” เรื่องของผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องใหม่..

      234

      ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยหลายคนต่อปีที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดมดลูก และหนึ่งในสาเหตุนั้นคือ ‘มดลูกหย่อนหรือต่ำ’ เนื่องจากช่องคลอดไม่กระชับ ปัญหาปัสสาวะเล็ด สาเหตุหลักๆ ของการหย่อนยานของผนังมดลูกคือ การคลอดลูก เนื่องจากการคลอดตามธรรมชาติแต่ละครั้ง ช่องคลอดจะขยายใหญ่ขึ้น ตอนคลอดมีช่วงเวลาที่ต้องเบ่งคลอด เลยทำให้ผนังช่องคลอดเกร็งแล้วหย่อนลงมา และยิ่งคุณแม่คนใดที่คลอดลูกหลายคนก็มีโอกาสที่ผนังมดลูกจะหย่อนยานมากขึ้น

      ผู้หญิงที่เคยผ่านการมีบุตรหรือผู้หญิงที่คิดว่าส่วนนั้นของตัวเองไม่ค่อยฟิตเหมือนเดิม ส่งผลให้ผู้หญิงบางคนถึงกับขาดความมั่นใจไปก็มี หรือบางรายเริ่มจะมีปัญหากับสามีจึงอยากจะแก้ปัญหาในส่วนนี้ให้หายขาดให้ได้
      ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค เข้าใจปัญหานี้ดี จึงได้มี โปรแกรม Love Lift ในการทำรีแพร์ เพื่อช่วยผู้หญิงแก้ปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ 
      โปรแกรม Love Lift แก้ปัญหา

      • ผู้ที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไอจามปัสสาวะเล็ด
      • ผู้ที่ช่องคลอดไม่กระชับหลวมมีลมออกขณะมีเพศสัมพันธ์
      • ผู้ที่มีภาวะช่องคลอดแห้ง เจ็บ
      • ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอหย่อนคล้อยเนื่องมาจาก น้ำหนักตัว อายุที่มากขึ้น โรคภูมิแพ้
      • ผู้หญิงที่ผ่านการคลอดโดยธรรมชาติ

      โปรแกรม Love Lift

      การทำรีแพร์ด้วยโปรแกรม Love Lift เป็นการใช้เทคโลยีพลังงานคลื่นวิทยุ ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรง กระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น

      235

      การเตรียมตัวก่อนทำ โปรแกรม Love Lift

      • ไม่อยู่ในช่วงภาวะมีประจำเดือน
      • เคยตรวจภายในและผลเป็นปกติในระยะเวลา 2 ปี
      • ไม่อยู่ในภาวะอักเสบติดเชื้อ
      • ไม่มีโรคประจำตัว ร้ายแรง
      • หลังคลอดปกติ เว้น 3-6 เดือน ผ่าคลอด เว้น 1 เดือน หรือตามคำแนะนำแพทย์

      การทำรีแพร์เป็นการตกแต่งเพื่อกระชับช่องคลอดที่หย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันได้รับความสนใจจากสาว ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละวัยอาจจะเข้ารับการรักษาเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกัน ด้วยอายุที่มากขึ้นและผ่านการคลอดบุตร อาจทำให้ช่องคลอดทั้งภายในและภายนอกมีความกว้างมากขึ้น เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน หรือ ภาวะ กระบังลมหย่อน การทำรีแพร์สามารถคืนความสาวและเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งสาว ๆ ทั้งหลายที่ประสบปัญหาจนทำให้หมดความมั่นใจและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย ควรเข้ารับการปรึกษาและรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรีแพร์โดยเฉพาะ รวมไปถึงเลือกผ่าตัดในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือนะค่ะ..

      เรื่องใกล้ตัว กับการ “รีแพร์” ที่ผู้หญิงควรรู้อย่างลึกซึ้ง

      232

      จะเห็นได้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ให้ความสนใจเข้ารับการผ่าตัดทำรีแพร์จะเป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงาน และผ่านการคลอดบุตรมาแล้ว อายุประมาณ 30-50 ปี โดยจะเป็นการผ่าตัดในแง่ของการศัลยกรรมตกแต่งเพื่อความสวยงามและสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมา แต่สำหรับผู้หญิงอายุ 60 ปีขึ้นไปหรือวัยทอง จะเป็นการผ่าตัดในแง่ของการรักษาภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนที่เป็นเป็นหาเรื่องสุขภาพ ดังนั้นความจำเป็นในการทำ “รีแพร์” จึงต่างวัตถุประสงค์กัน

      รีแพร์ (Repair)คือ การซ่อมแซม เป็นการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิม โดยเป็นการผ่าตัดตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอด

      รีแพร์แก้ปัญหา ช่องคลอดไม่กระชับ

      ในยุคปัจจุบันมีการนำเลเซอร์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการกระชับช่องคลอด โดยทางศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค ได้นำเทคโนโลยีรีแพร์ใหม่ ในการใช้เลเซอร์รักษาปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ ช่องคลอดมีปัญหาต่าง ๆ อย่างได้ผล ด้วยโปรแกรม Love Lift  มาใช้แทนการผ่าตัด Love Lift เป็นการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด ใช้เวลาในการประมาณ 1 ชั่วโมง การเลเซอร์ช่วยลดการสูญเสียเลือดและลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อลงได้มาก เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่าการผ่าตัดรีแพร์ทั่วไป

      233

      โปรแกรม Love Lift  เป็นการใช้เลเซอร์รีแพร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด โดยการนำหัวเลเซอร์สอดเข้าไปในช่องคลอด แล้วปล่อยพลังงานเลเซอร์ออกมาในคลื่นความยาวที่เหมาะสม ตลอดแนวความลึกของช่องคลอด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้กล้ามเนื้อช่องคลอดมีความตึงตัวขึ้น ผนังช่องคลอดหดเล็กลง มีความแข็งแรงและกระชับขึ้น เป็นการรักษารีแพร์โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีการสูญเสียเลือดและไม่มีอาการปวดใดๆ โดยมีการวัดความตึงตัวของช่องคลอดทั้งก่อนและหลังทำ จึงสามารถเห็นถึงผลของการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดได้ โปรแกรม Love Lift  เป็นอีกหนึ่งทางช่วยแก้ไขปัญหาของผู้หญิงโดยเฉพาะ

      โปรแกรม Love Lift

      เป็นเทคโลยีในการทำรีแพร์ที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสตินขึ้นมาใหม่ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดแข็งแรง กระชับตึงขึ้น ทั้งบริเวณภายนอกและภายในช่องคลอด โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญไม่เจ็บปลอดภัย ไม่ต้องพักฝื้น ส่งผลให้ช่องคลอด บริเวณภายในจุดซ่อนเร้น – ผนังช่องคลอดหดกระชับ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบเส้นประสาท และเพิ่มการไหลเวียนของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงภายในช่องคลอดให้ทำงานสมบูรณ์ขึ้น ส่งผลให้ระบบการทำงานของต่อมต่างๆ ทำงานดีขึ้น สร้างสารคัดหลั่งให้มาหล่อเลี้ยง เพิ่มความชุ่มชื้น และทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคต่างๆ ตามระบบธรรมชาติ รวมถึงช่วยแก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดในรายที่มีปัญหา อีกทั้งยังช่วยให้บริเวณภายนอกจุดซ่อนเร้น – กระชับผิว ลดริ้วรอย บริเวณรอบๆ ผิวปากช่องคลอดให้เรียบเนียนกระชับขึ้น

      การทำรีแพร์ควรทำในช่วงที่ประจำเดือนหมดไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการอักเสบของแผลและการปนเปื้อนของเลือดในระหว่างการรักษา หลังทำ รีแพร์ ต้องงดการมีเพศสัมพันธ์สัก 2 เดือน งดออกกำลังกาย 1 เดือน ไม่ยกของหนัก พยายามเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด เดินให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการอักเสบ พักผ่อนให้มาก งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังการรักษา..

      เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำรีแพร์

      35

      เมื่อเวลาล่วงเลยอะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ทั้งหน้าตา ผิวพรรณ และสัดส่วนของสาวๆ ที่เปลี่ยนแปลงล้วนแล้วแต่สร้างความไม่มั่นใจให้เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น รวมไปถึงจุดซ่อนเร้นของผู้หญิง เมื่อเกิดอาการหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนเดิมย่อมทำให้เกิดความไม่สบายใจ และความกังวลในการใช้ชีวิตคู่อีกทั้งอาจตามมาด้วยปัญหาสุขภาพ นั่นจึงเป็นเหตุให้ ต้องมีนนวัตกรรมการศัลยกรรมที่เรียกว่า “รีแพร์” เกิดขึ้นเพื่อคืนความมั่นใจให้กับสาวๆ

      อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า “รีแพร์”(Repair) หมายถึงการซ่อมแซม ในที่นี้เรา หมายถึง การผ่าตัดรีแพร์ซ่อมแซมแก้ไขช่องคลอด ที่มักเกิดการหย่อนยาน หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้นเพื่อให้ขนาดของช่องคลอดเล็กลง เกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิมโดยเป็นการผ่าตัดช่องคลอด ตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดด้วย

      shutterstock 1070850704

      น้องสาวไม่ฟิต เพราะอะไร?

      ช่องคลอดหลวม ไม่ฟิต เกิดจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน ภาวะกระบังลมหย่อนมีด้วยกัน 3 แบบ คือ

      1. การหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหน้า ซึ่งจะมีกระเพาะปัสสาวะหย่อนตาม หรือ กระเพาะปัสสาวะหย่อน ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกราน หรือมีก้อนจุกที่ปากช่องคลอด ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดส่วนหน้า (Anterior Vaginal Repair)
      2. การหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหลัง ซึ่งจะมีลำไส้ส่วนทวารหนักหย่อนตาม หรือ ลำไส้หย่อน  ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกราน หรือมีก้อนจุกที่ปากช่องคลอด รวมถึงท้องผูก เพราะผนังที่ยื่นเป็นถุงเข้าไปทางช่องคลอดจะทำให้การขับถ่ายผิดปกติ ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดส่วนหลัง (Posterior Vaginal Repair)
      3. มีการหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ในกรณีนี้ แพทย์จะทำการแก้ไขด้วยการผ่าตัดรีแพร์ผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง (A-P Repair หรือ Anterior-Posterior Vaginal Repair)

      ภาวะช่องคลอดหลวมดังกล่าว มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก

      • การมีเพศสัมพันธ์มาเป็นเวลานาน
      • การคลอดบุตรทางช่องคลอด คลอดบุตรหลายคน หรือบุตรมีตัวโต
      • อายุมากขึ้น ภาวะอ้วนหรือผอมเกินไป รววมถึงผู้ที่เข้าสู่วัยทอง
      • ผู้ที่ต้องออกแรงเกร็งช่องท้องเป็นประจำ เช่น ยกของหนัก
      • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง มีก้อนในช่องท้อง ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง
      shutterstock 395783929

       “รีแพร์” ทำอย่างไร?

      วิธีการทำรีแพร์ ทำได้ 2 วิธีคือ

      1. วิธีการผ่าตัดรีแพร์
        วิธีการผ่าตัดรีแพร์แบบดั้งเดิม คือ การเย็บติดเพื่อรวบเนื้อเยื่อที่นูนเข้าด้วยกัน ซึ่งการรีแพร์แบบนี้ไม่นิยมในปัจจุบัน เพราะมีอัตราการล้มเหลวสูง  จึงได้มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ คือ การนำแผ่นพยุงตาข่ายพิเศษ (Mesh) แปะหรือฝังในผนังช่องคลอด ทำให้การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาช่องคลอดหย่อนยานได้ถึง 95% ซึ่งทั้งสองวิธีนี้เป็นการผ่าตัดรีแพร์เพื่อแก้ไขกระเพาะปัสสาวะหย่อนและลำไส้หย่อน กรณีที่ผู้ป่วยมีการหย่อนยานของผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังแพทย์จะทำการผ่าตัดรักษา กระบังลมหย่อนโดยเป็นการผ่าตัดนำผนังช่องคลอดทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังและเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ยื่นเข้าไปในช่องคลอดออกไปรวมทั้งตกแต่งกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ส่วนปลายที่หย่อนคล้อยกรณีที่ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนอย่างรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาใช้ Mesh ร่วมด้วย
      2. การใช้เลเซอร์รีแพร์
        ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ในการรีแพร์กระชับช่องคลอดทั้งนำมาใช้แทนการผ่าตัดทั่วไป และการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัดรีแพร์ สำหรับการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ แพทย์จะทำการผ่าตัดบริเวณผนังช่องคลอดด้านหลัง โดยตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของผนังช่องคลอดออกเพื่อให้ช่องคลอดมีขนาดเล็กลง ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมงการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ช่วยลดการสูญเสียเลือดและลดความบอบช้ำของเนื้อเยื่อลงได้มากเจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่า

      สำหรับคุณผู้หญิงที่ประสบปัญหาช่องคลอดหลวมและหย่อนคล้อย จนอาจ ต้องการทำรีแพร์ ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อน ดังนั้นจึงควรพูดคุยทำความเข้าใจกับคนรัก ก่อนตัดสินใจทำรีแพร์ และเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในการทำรีแพร์ เพื่อผลลัพท์ที่ดีหลังการผ่าตัด

      ดูแลตัวเองอย่างไร…หลังทำรีแพร์

      34

      การทำรีแพร์เพื่อกระชับช่องคลอด จะแตกต่างจากการผ่าตัดวิธีอื่นคือ แผลที่ทำรีแพร์จะเป็นแผลที่แช่อยู่ในน้ำตลอดเวลา เนื่องจากโดยปกติแล้วจะมีน้ำคัดหลั่งจากช่องคลอด จึงทำให้มีเชื้อแบคทีเรียเฉพาะของส่วนนั้นอยู่แล้ว รวมไปถึง อุจจาระ ปัสสาวะอีก หรือในบางคนที่มีตกขาวมาก อาจมีเชื้อราหรือแบคทีเรียบางตัวซ่อนเร้นอยู่ เป็นเหตุให้การผ่าตัดรีแพร์ต้องมีการดูแลค่อนข้างจะพิเศษ ซึ่งแผลรีแพร์จำเป็นต้องโดนน้ำ ยิ่งต้องทำความสะอาด พราะว่าถ้าไม่ทำความสะอาดไม่เช่นนั้นก็จะยิ่งทำให้แผลมีโอกาสที่จะเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่ายยิ่งขึ้นอีก ต่างจากการผ่าตัดวิธีอื่น คือการผ่าตัดอื่น ๆ จะไม่ให้แผลโดนน้ำ และหมอจะแนะนำคนไข้ให้รีบขยับลุกเดินเพื่อไม่ให้เกิดพังผืดขึ้น แต่การรีแพร์ต้องพยายามนอนให้นิ่งที่สุดเพราะการขยับอาจจะก่อให้เกิดการห้อเลือดได้ แต่ถ้า 2-3 วันแรก ขยับตัวให้น้อยที่สุดนอนให้นิ่งที่สุดโอกาสที่แผลจะหายเร็วจะมีมากกว่า

      shutterstock 1017151465

      การดูแลหลังผ่าตัดรีแพร์

      1. หลังการผ่าตัดรีแพร์ ต้องนอนพักรักษาตัวภายใต้การดูแลของแพทย์ หลังจากนั้น พยายามนอนนิ่งๆ 3-5 วัน เพื่อลดการปวด ลดการเสียดสีเพราะเสี่ยงต่อเลือดออก2
      2. ระหว่างนี้ ควรรับประทานอาหารเหลวหรืออาหารอ่อน ๆ จนกว่าร่างกายจะฟื้นตัวจึงจะสามารถรับประทานอาหารตามปกติได้
      3. ควรใช้วิธีประคบเย็นเพื่อหยุดเลือด ไม่ต้องแช่น้ำอุ่นเพราะอาจจะทำให้เลือดไหลได้
      4. หากการผ่าตัดรีแพร์มีผลกระทบต่อกระเพาะปัสสาวะ ผู้ป่วยอาจต้องใส่สายสวนปัสสาวะมาจากกระเพาะปัสสาวะ เพื่อระบายปัสสาวะเป็นเวลา 1-2 วัน
      5. ต้องรับประทานยาที่แพทย์กำหนดตามปริมาณและวิธีการที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยแพทย์อาจจ่ายยาเพื่อรักษาควบคุมอาการ ดังนี้
        • ยาปฏิชีวนะ ใช้เพื่อรักษาหรือป้องกันภาวะติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยต้องรับประทานยาอย่างถูกต้องต่อเนื่อง และไม่หยุดใช้ยาอย่างกะทันหันโดยปราศจากคำสั่งแพทย์
        • ยาแก้ปวด ลดอาการเจ็บปวดจากแผลผ่าตัด แพทย์จะจ่ายยาที่เหมาะสมต่อสภาพร่างกาย ประวัติทางการแพทย์ และประวัติการแพ้ยาของผู้ป่วยด้วย โดยผู้ป่วยต้องศึกษาวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้อง เช่น ปริมาณยาที่ควรรับประทานต่อครั้ง ระยะเวลาที่ควรเว้นช่วงการใช้ยา ทั้งนี้ ผู้ป่วยไม่ควรรอให้มีอาการปวดอย่างรุนแรงก่อนจึงใช้ยา และหากใช้ยาไปแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์
      6. สามารถปัสสาวะได้ปกติ ในช่วงแรกที่ทำรีแพร์มา อาจจะมีอาการแสบบ้าง ใช้น้ำเปล่าล้างก็หาย
      7. สามารถอาบน้ำได้แต่ห้ามใช้สบู่ฟอกบริเวณแผลที่ทำรีแพร์ ควรล้างด้วยน้ำสะอาดเป็นเวลา 1 เดือน
      8. งดอาหารแสลง อาทิ ของหมักดอง อาหารทะเล บุหรี่ แอลกอฮอล์
      9. ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หลังจากทำรีแพร์ประมาณ 45 วัน
      10. หากต้องการมีบุตร แนะนำเป็นหลัง 6 เดือน หลังจากทำรีแพร์
      shutterstock 570204226

      หลังทำรีแพร์จะคงความกระชับได้นานแค่ไหน

      ลงทุนเจ็บตัวไปทำรีแพร์มาทั้งที คุณผู้หญิงก็คงอยากให้ความกระชับคงอยู่ไปนานๆ แต่ก็มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้ผนังช่องคลอดกลับมาหย่อนคล้อยได้อีก บางคนแค่ 1 -2 ปีก็หย่อนคล้อยอีก บางคนอาจนาน 4-5 ปี แต่ก็มีบางคนคงอยู่ถึง 7-8 ปีเลยก็มี ซึ่งการที่ผนังช่องคลอดจะกลับมาหย่อนคล้อยซ้ำเร็วหรือช้าขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้

      • ถ้าหลังผ่าตัดรีแพร์มีพฤติกรรมเหล่านี้เป็นประจำ เช่น ท้องผูก, ไอจาม (จากภูมิแพ้), ยกของหนัก (จากอาชีพ) เป็นต้น ก็จะทำให้ผนังช่องคลอดกลับมาหย่อนคล้อยซ้ำเร็วขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวจะไปเพิ่มความดันภายในช่องท้อง และแรงที่มากระทบกับผนังช่องคลอด
      • ถ้ารังไข่ยังคงผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นปกติ ระดับของฮอร์โมนตัวนี้ในร่างกายยังสูง ก็อุ่นใจได้ว่า ผนังช่องคลอดจะมีความหนานุ่ม ชุ่มชื้น และมีความยืดหยุ่นดี แต่ถ้าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง ผนังช่องคลอดจะบาง แห้ง ไม่ยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อยขึ้น ซึ่งตรงเป็นเรื่องที่ระบุไม่ได้ว่า หลังการทำรีแพร์ไปแล้ว รังไข่ของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร หรือกี่ปีระดับฮอร์โมนจึงจะเริ่มลดลง แต่โดยปกติระดับฮอร์โมนเพศจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
      • ถ้าในกระบวนการหายของแผลที่ช่องคลอดจากการทำรีแพร์มีการสร้างคอลลาเจนมาก ผนังช่องคลอดก็จะมีความยืดหยุ่น ความกระชับอยู่ได้นาน แต่ถ้าสร้างคอลลาเจนได้น้อย ความตึง ความกระชับของช่องคลอดก็จะน้อยตามไปด้วย  ซึ่งความแตกต่างตรงนี้ก็จะทำให้ความหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดเกิดช้าเร็วไม่เท่ากันนั่นเอง

      ไขข้อข้องใจ… ทำไมต้องรีแพร์

      33

      การรีแพร์ หรือการซ่อมแซมจุดเร้นลับให้กระชับ  อาจเป็นเรื่องที่สาวๆ หลายคนยังสงสัยว่า ทำไมต้องทำ และทำไปทำไม  ซึ่งในขณะที่บางคนกำลังประสบปัญหา แต่เกิดความเขินอาย และกลัว จนไม่กล้าไปทำ วันนี้เราจึงอยากจะพามาไขข้อข้องใจกันก่อนว่า การทำรีแพร์ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร และมีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องทำ

      รีแพร์แก้ปัญหาอะไร

      ก่อนอื่นต้องยอมรับกันก่อนว่า การมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ และมีความสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตคู่ อย่างปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้น หากมีสิ่งใดที่ก่อให้เกิดปัญหาแล้วไม่ได้รับการแก้ไข อาจจะส่งผลให้ชีวิตคู่ไม่มีความสุข  และผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดหย่อนยานอย่างรุนแรง ไม่เพียงมีผลต่อเรื่องเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่มักเกิดร่วมกับอาการปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะซึม หรือมดลูกเคลื่อนย้อยลงมาในช่องคลอดด้วย  ซึ่งอาการปัสสาวะเล็ด และซึมนี้มักจะเกิดขึ้นในขณะไอ หรือจาม เวลายกของหนัก หรือแม้กระทั่งเวลาเดิน เป็นเหตุให้การใช้ชีวิตประจำวันประสบปัญหา

      รีแพร์ ( Repair) คือ การศัลยกรรมกระชับช่องคลอด ด้วยการการผ่าตัดช่องคลอด เพื่อแก้ไขรักษาปัญหาช่องคลอดหลวมหรือหย่อนคล้อยก่อนถึงวัยอันควร ซึ่งอาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะเคลื่อนตัวลงมาที่ช่องคลอด และอาจเกิดความผิดปกติ หรือความเสียหายภายในผนังช่องคลอด จนทำให้เนื้อบริเวณช่องคลอดหย่อนคล้อยไม่กระชับตัว รีแพร์ช่วยให้คุณบอกลาปัญหา หย่อนยาน หย่อนคล้อย ซึ่งส่งผลดีต่อการมีเพศสัมพันธ์ และการขับถ่ายอีกด้วย

      shutterstock 148654151

      ทำไม? ช่องคลอดหย่อนคล้อยก่อนวัย               

      สาเหตุส่วนใหญ่ที่อาจทำให้ผู้หญิงมีช่องคลอดหลวมหรือหย่อนคล้อยก่อนถึงวัยอันควรจนต้องไปทำรีแพร์นั้น  ได้แก่ การตั้งครรภ์ การคลอดบุตรตามธรรมชาติ มีน้ำหนักตัวมากเกินไป กล้ามเนื้อฉีกขาดจากการเคลื่อนตัวของลำไส้การยกของหนักบ่อยๆ มีอาการเจ็บป่วยที่ทำให้ไอเรื้อรังและความผิดปกติหรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นภายในช่องคลอด ทั้งหมดนี้ทำให้มีผลต่อการกลั้นปัสสาวะเพียงไอ จาม หรือหัวเราะ ก็อาจทำให้ปัสสาวะเล็ดได้ ในรายที่เป็นมากจึงต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์เพื่อศัลยกรรมตกแต่งขนาดของช่องคลอดให้เล็กลงหรือการรีแพร์ (Repair)นั่นเอง

      ทำรีแพร์ จำเป็นแค่ไหน

      • เมื่อช่องคลอดหลวม หย่อนคล้อย ไม่กระชับ ผู้หญิงบางคนอาจต้องการทำรีแพร์ เพราะอาจต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้
      • เจ็บปวดในขณะมีเพศสัมพันธ์อึดอัด ไม่สบายตัว เหมือนมีอะไรอยู่ในช่องคลอดปัสสาวะบ่อย
      • รู้สึกปวดปัสสาวะตลอดเวลา หรือไม่สามารถปัสสาวะให้หมดได้ในคราวเดียวกลั้นปัสสาวะไม่ได้ หรือมีปัสสาวะเล็ดในขณะไอ จาม การทำรีแพร์ช่วยคุณได้
      • เวลายกของหนัก จะรู้สึกหน่วงๆ หรือหนักบริเวณอุ้งเชิงกราน ปวดหลังส่วนล่าง แต่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อนอนลงสามารถมองเห็นหรือรู้สึกได้ถึงเนื้อส่วนที่นูนออกมาหรือหย่อนคล้อยลงมาที่ปากช่องคลอด
      • อาจมีอาการกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ
      shutterstock 1048505716

      อาการเหล่านี้นี่เอง ที่จะเป็นผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ และเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ใครที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าว และทำให้ชีวิตไม่มีความสุข อย่ามัวคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย และเก็บความเครียดนั้นไว้เพียงคนเดียว แต่ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชียวชาญเกี่ยวกับการทำรีแพร์ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งในปัจจุบัน มีให้เลือกหลากหลายวิธี และมีนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับการรีแพร์หลายรูปแบบ ทั้งวิธีการผ่าตัดรีแพร์ และการรีแพร์ด้วยวิธีเลเซอร์กระชับช่องคลอด อีกด้วย

      การรีแพร์ เขาทำกันอย่างไร…เลือกวิธีไหนดี

      32

      ผู้หญิงที่เคยผ่านการมีบุตรหรือคิดว่าส่วนนั้นของตัวเองไม่ค่อยฟิตเหมือนเดิมจากเหตุผลหลายๆประการ จนขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตคู่ หรือบางรายเริ่มจะมีปัญหากับสามีในการมีเพศสัมพันธ์นั่นเป็นสาเหตุให้มีความต้องการที่จะแก้ปัญหาในส่วนนี้ แต่ส่วนใหญ่ยังมีความเขินอายที่จะปรึกษาแพทย์โดยตรงซึ่งเราจึงได้นำข้อมูลขั้นตอนการทำรีแพร์มานำเสนอเพื่อให้ได้ศึกษากันก่อนในเบื้องต้น

      ในปัจจุบันมีนวัตกรรมทางการแพทย์มากมายที่จะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ ทั้งการทำรีแพร์ด้วยการผ่าตัด และทำรีแพร์ด้วยวิธีเลเซอร์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อผนังช่องคลอดตึงกระชับขึ้นคืนความมั่นใจให้สาวๆ ได้อีกครั้ง

      ขั้นตอนการผ่าตัดรีแพร์

      • เบื้องต้นแพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์ ตรวจดูบริเวณช่องคลอด หรือตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีการอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของอาการช่องคลอดหย่อนคล้อย เพื่อให้วางแผนรักษาทำรีแพร์ได้อย่างถูกต้องต่อไป
      • หลังจากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าผู้ป่วยสามารถรับการทำรีแพร์ได้ แพทย์กับผู้ป่วยจะพูดคุยปรึกษากันถึงประโยชน์ทางการรักษา ความเสี่ยง ผลข้างเคียง การเตรียมตัว และวิธีการทำรีแพร์เมื่อตัดสินใจทำรีแพร์ แพทย์จะนัดหมายวันและเวลาในการผ่าตัด โดยแพทย์อาจให้ผู้ป่วยฝึกขมิบบริหารกล้ามเนื้อช่องคลอด ทาครีมเอสโตรเจนเพื่อป้องกันภาวะช่องคลอดแห้ง หรืออาจให้ผู้ป่วยสอดอุปกรณ์เพื่อช่วยพยุงภาวะช่องคลอดหย่อนและรักษาปัญหาปัสสาวะเล็ด
      • สำหรับผู้ป่วยที่กำลังใช้ยารักษาอาการป่วยอื่น ๆ อยู่ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาชนิดต่างๆ อาจจะต้องหยุดยาบางชนิดก่อนการผ่าตัด และแพทย์อาจให้ผู้ป่วยงดอาหารเป็นเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดรีแพร์
      • ในการผ่าตัดทำรีแพร์ แพทย์จะให้ยาสลบเพื่อไม่ใช่ผู้ป่วยรู้สึกตัวและรู้สึกเจ็บปวดในขณะผ่าตัด โดยแพทย์อาจให้ผู้ป่วยดมยาสลบ ฉีดยาสลบเข้าสู่ร่างกายทางเส้นเลือด หรืออาจฉีดยาระงับความรู้สึกเข้าทางไขสันหลัง ซึ่งผู้ป่วยจะยังคงรู้สึกตัว แต่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเมื่อผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวแล้ว
      • แพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัดรีแพร์โดยเปิดแผลบริเวณผนังช่องคลอด แล้วเย็บระหว่างผนังช่องคลอดกับกระเพาะปัสสาวะ เพื่อให้ท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะเคลื่อนขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งเดิม ซึ่งจะช่วยทำให้เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อในบริเวณนั้นมีความกระชับตึงมากขึ้น
      • ในบางกรณี แพทย์อาจต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง เพื่อแก้ไขความผิดปกติหรือตำแหน่งของกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ ให้อวัยวะดังกล่าวกลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แล้วจึงทำการเย็บเนื้อเยื่อระหว่างช่องคลอดและกระเพาะปัสสาวะ หรืออาจใช้แผ่นเนื้อวางกั้นระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับผนังช่องคลอด ซึ่งอาจเป็นเนื้อผิวหนังบางส่วนของผู้ป่วย หรือใช้วัสดุชีวภาพอื่น ๆ เช่น ผิวหนังของหมูปิดทับแทน
      shutterstock 1014900256

      วิธีการรีแพร์แบบเลเซอร์                

      การทำรีแพร์ด้วยเลเซอร์เป็นการยิงเลเซอร์เพื่อกระชับช่องคลอดโดยอาศัยหลักการเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานความร้อนและความร้อนนั้นก็จะไปกระตุ้นให้ผนังช่องคลอดหดตัวลง มีความกระชับมากขึ้นทั้งยังช่วยให้มีกระสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่อีกในช่วง 1-3 เดือนหลังจากการทำช่องคลอดจึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย การทำรีแพร์ด้วยเลเซอร์ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ดีสำหรับคนที่หวาดกลัวกับการผ่าตัดและคนที่ไม่ต้องการเผชิญกับความยุ่งยากที่จะตามมาหลังการผ่าตัดขั้นตอนการทำก็เป็นเพียงการสอดอุปกรณ์เข้าทางช่องคลอดยิงเลเซอร์จนทั่วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย               

      จะเห็นได้ว่า การทำรีแพร์ ไม่ได้ยุ่งยากและเจ็บตัวมากอย่างที่คิด ส่วนใครจะเลือกใช้รีแพร์ วิธีไหนขึ้นอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละคน หรือเพื่อความแน่ใจควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ว่าเราควรจะใช้วิธีไหนดี เท่านี้ปัญหากวนใจก็จะหายไป และกลับมามั่นใจในการใช้ชีวิตคู่ได้เหมือนเดิม

      5 ขั้นตอนเตรียมความพร้อม ก่อนทำรีแพร์

      31

      การทำรีแพร์ คือ การผ่าตัดตกแต่งช่องคลอดให้กระชับขึ้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดหย่อนคล้อย หย่อนยานซึ่งคนส่วนใหญ่มักเรียกกันว่าการทำสาว แต่ในความเป็นจริงทางการแพทย์นั้น การรีแพร์ไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียวหากแต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนที่เกิดจากการคลอดบุตรหลายคนหรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาหลายๆ อย่างทั้งอาการปัสสาวะเล็ดเมื่อไอ จาม และความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตคู่ และอาจกลายเป็นปัญหาครอบครัวตามมาได้                       

      รีแพร์ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยคืนความมั่นใจให้สาวๆ ได้ ซึ่งปัจจุบันก็ทำได้ง่าย และมีหลายวิธี  แต่ก่อนที่จะคิดทำรีแพร์ ควรมีการเตรียมความพร้อมให้ดีก่อน 5ขั้นตอน ดังนี้ 

      1. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำรีแพร์
        ก่อนที่จะตัดสินใจทำรีแพร์นั้น เราควรศึกษาให้ดีก่อนว่า การทำรีแพร์นั้นทำอย่างไร และมีวิธีไหนบ้าง ค่าใช้จ่ายในการทำรีแพร์เท่าไหร่ หลังจากทำรีแพร์แล้วต้องดูแลตัวเองอย่างไร และเราเข้าข่ายที่ต้องทำรีแพร์จริงๆ หรือแค่คิดไปเอง ซึ่งรายละเอียดข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ สามารถศึกษาได้เบื้องต้นได้จากสถานพยาบาลต่างๆ ที่รับทำรีแพร์ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนก็ได้
      2. พูดคุยทำความเข้าใจกับคู่รักก่อนตัดสินใจทำรีแพร์
        ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า การตัดสินใจทำรีแพร์นั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน นอกจากผู้ที่จะทำต้องตัดสินใจเองแล้ว ก็ควรมีการพูดคุยกับคู่รักอย่างเปิดเผย เพื่อความเข้าใจซึงกันและกัน และจะได้ร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อความสุขของคนทั้งคู่
      3. เลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการทำรีแพร์
        เมื่อตัดสินใจว่าจะทำรีแพร์แน่ๆ แล้ว ควรเลือกแพทย์ที่เชียวชาญในเรื่องการทำรีแพร์ และสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ เพื่อที่ผลของการทำจะได้ออกมาดีเยี่ยม และปลอดภัย
      4. เตรียมความพร้อมร่างกายและจิตใจก่อนไปทำรีแพร์
        การทำรีแพร์ ควรเป็นช่วงที่ประจำเดือนหมดไม่นาน (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) เพื่อป้องกันแผลอักเสบและการปนเปื้อนของเลือด และควรตรวจมะเร็วปากมดลูก และตรวจภายในให้เรียบร้อย เพราะหลังจากผ่าตัดแล้วจำเป็นต้องหยุดตรวจไปสักระยะหนึ่ง เพื่อป้องกันแผลผ่าตัดถูกกระทบกระเทือน
      5. การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดรีแพร์ 
      • งดน้ำ งดอาหารก่อนเวลาผ่าตัดรีแพร์ อย่างน้อย 6 ชม.
      • ในกรณีที่มีการใช้ยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ ให้ปรึกษาแพทย์ประจำเรื่องการหยุดยาก่อนการผ่าตัด
      • งดวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินที่เป็นน้ำมัน เป็นต้น
      • อาบน้ำให้สะอาดก่อนมาผ่าตัด หากมีขนในที่ลับเยอะ ก็ควรโกนมาให้เรียบร้อย
      • เตรียมกางเกงชั้นในหลวมๆ สำหรับใส่หลังผ่าตัด
      • กรณีที่มีโรคประจำตัว ให้นำยาที่ใช้ประจำมาพบแพทย์ด้วย และถ้ามีผลเลือดตรวจสุขภาพหรือที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัว ให้นำผลเลือดมาพพร้อมกัน
      shutterstock 1024126480

      เมื่อเตรียมความพร้อมแล้วเพียงเท่านี้ ก็เดินหน้าทำรีแพร์ได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ หลังจากทำรีแพร์แล้ว คุณผู้หญิงก็จะได้ความมั่นใจกลับคืนมา พร้อมกับสภาวะร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น และ มีเพศสัมพันธ์ได้อย่างสบายใจคลายกังวล คืนความสุขให้ชีวิตคู่ได้อีกครั้ง