ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว ส่งผลให้เกิดรอยดำหรือรอยคล้ำบนใบหน้า ซึ่งนอกจากปัจจัยภายในแล้วปัจจัยภายนอกที่พบในชีวิตประจำวันก็มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้เช่นเดียวกัน บทความนี้จึงจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า พฤติกรรมหรือกิจวัตรที่คุณอาจทำโดยไม่รู้ตัวในแต่ละวันนั้น ส่งผลต่อการเกิดฝ้าอย่างไร พร้อมแนะนำแนวทางการปรับพฤติกรรมเพื่อช่วยชะลอและลดลดโอกาสของการเกิดฝ้าได้ ฝ้าคืออะไร ? ฝ้า (Melasma) คือภาวะที่ผิวหนังเกิดรอยคล้ำหรือแผ่นสีเข้มผิดปกติ ซึ่งฝ้าส่วนใหญ่มักมีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลเข้ม หรือในบางครั้งอาจมีสีเทา โดยการเกิดฝ้าเกิดขึ้นจากการที่เม็ดสีเมลานินถูกผลิตออกมามากเกินความจำเป็น ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยกระตุ้น ซึ่งฝ้านั้นสามารถพบได้ให้หลายบริเวณทั่วใบหน้าและร่างกาย ชีวิตประจำวันส่งผลต่อการเกิดฝ้าอย่างไร ? ชีวิตประจำวันส่งผลต่อการเกิดฝ้า เนื่องจากกิจวัตรที่เราทำซ้ำในแต่ละวันสามารถกระตุ้นหรือเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังได้ โดยปัจจัยพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดฝ้า มีดังนี้ การสัมผัสแสงแดดโดยไม่ป้องกัน ทำให้เกิดการกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้าได้ ความเครียด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้เนื่องจากความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ การนอนหลับไม่เพียงพอ เพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบและทำให้การเกิดฝ้าได้ เนื่องจากการนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลให้ร่างกายฟื้นฟูผิวได้ไม่เต็มที่ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง หรือการดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้เกิดฝ้าได้ เนื่องจากอาหารเหล่านี้ส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนและกระบวนการอักเสบในร่างกาย การดูแลผิวไม่เหมาะสม หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง การล้างหน้ารุนแรง อาจทำให้ผิวไวต่อแสง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดฝ้ามากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ในช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน จะส่งผลโดยตรงต่อการเกิดฝ้าได้ พฤติกรรมในชีวิตประจำวันมีผลต่อการเกิดฝ้าทั้งทางตรงและทางอ้อม การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยลดโอกาสในการเกิดฝ้าได้ ฝ้ามีกี่แบบ ? ฝ้าสามารถแบ่งได้หลายชนิด แบ่งตามระดับความลึกของเม็ดสีที่สะสมอยู่ในชั้นผิว ซึ่งฝ้าแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันออกไป […]
VOLNEWMER เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่น Mono-Polar RF (Radiofrequency) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการยกกระชับผิวและผิวในระดับลึกสามารถทำได้ทั้งใบหน้าและเรือนร่างในบริเวณที่ไม่กระชับ หรือหย่อนคล้อย โดยคลื่น Mono-Polar RF (Radiofrequency) จะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความแน่นกระชับ เรียบเนียน ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด VOLNEWMER คืออะไร พลังงาน RF จะส่งจากหัวทิปเคลือบทองคำ (Gold RF Tip) นำพลังงานได้ดีกว่าวัสดุทั่วไปถึง 4 เท่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งผ่านพลังงานลงลึกสู่ชั้นผิว Papillary Dermis และ Reticular Dermis ได้อย่างมีความแม่นยำและสม่ำเสมอ พลังงานดังกล่าวจะกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Collagen Type I และ Type III ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่อยู่ในร่างกายที่สำคัญต่อความยืดหยุ่นและความแน่นของผิว โดย VOLNEWMER จะทำการส่งพลังงานความร้อนลงสู่ผิว พร้อมปล่อยระบบความเย็นภายในตัว หรือ HydroCooling System ระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิขณะปล่อยพลังงาน RF ลงสู่ผิวเพื่อให้ผิวเย็นสบาย ลดการระคายเคือง ป้องกันผลข้างเคียงของการรักษา ทำให้การรักษาด้วย […]
เมื่อพูดถึงปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนกังวลใจ ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยมักเป็นอันดับต้น ๆ ที่อยากหาทางแก้ไข โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โครงสร้างผิวและกล้ามเนื้อที่เคยแข็งแรงกลับค่อย ๆ สูญเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สดใสเหมือนเดิม ปัจจัยอย่างแสงแดด มลภาวะ ความเครียด รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ล้วนเร่งให้การเสื่อมสภาพของผิวเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีด้านความงามและเวชศาสตร์ผิวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีทางเลือกมากขึ้นในการยกกระชับใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแบบไม่ผ่าตัด เช่น Ultherapy Prime, Ultraformer 4D Lift, Super HIFU หรือแม้กระทั่งการศัลยกรรมดึงหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกพูดถึงบ่อยครั้งคือ ชั้น SMAS หรือ Superficial Musculoaponeurotic System ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการยกกระชับผิวอย่างแท้จริง เพราะการทำงานที่ลึกถึงระดับนี้จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างแม่นยำ หลายคนอาจสงสัยว่า ชั้น SMAS คืออะไร อยู่ตรงไหนของผิว และทำไมการยกกระชับชั้น SMAS จึงถูกยกให้เป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับโครงสร้างผิวชั้นลึก ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคงความอ่อนวัยของใบหน้า พร้อมอธิบายว่าทำไมแพทย์และเทคโนโลยีความงามสมัยใหม่จึงเน้นการทำงานกับชั้น SMAS มากเป็นพิเศษ ชั้น SMAS คืออะไร? หากพูดถึงโครงสร้างผิวที่เกี่ยวข้องกับความกระชับของใบหน้า […]
ธี่ยกกลับมาอีกครั้ง กับปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับเสียงเพรียกแห่งความอ่อนวัย ที่จะคอยปลุกผิวให้ยกกระชับ และคืนความเต่งตึงอีกครั้ง บอกลาผิวหย่อนคล้อย และริ้วรอยที่กัดกินความมั่นใจ ตามหลอกหลอนไปทุกที่ไม่มีสิ้นสุด ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า และแก่กว่าวัยอย่างชัดเจน ถึงเวลาแล้วที่จะฟื้นคืนผิวหน้าให้ยกกระชับอย่างมั่นใจที่ รมย์รวินท์คลินิก สาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย สาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้ อายุมากขึ้น เมื่อมีอายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินของผิวจะค่อย ๆ ลดลงตามธรรมชาติ ทำให้โครงสร้างผิวเริ่มอ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น และไม่กระชับ จนเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เมื่อฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน จะทำให้โครงสร้างผิวค่อย ๆ อ่อนแอ และบางลง จนเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย รังสี UV จากแสงแดด เมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเผชิญกับรังสี UV เป็นเวลานาน คอลลาเจน และอีลาสตินในผิวก็จะเกิดการเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ และขาดความยืดหยุ่น จนเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ง่าย มลภาวะ เมื่อเผชิญกับมลภาวะสะสม ร่างกายจะเกิดการสร้างอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น ซึ่งจะไปทำลายเกราะป้องกันผิว รวมถึงคอลลาเจน และอีลาสตินในผิว ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ และขาดความยืดหยุ่น […]
เคยสังเกตไหมว่าผิวในบางจุดดูไม่เรียบเนียน มีรอยบุ๋ม หรือผิวขรุขระคล้ายเปลือกส้ม โดยเฉพาะบริเวณต้นขา สะโพก หรือหน้าท้อง สิ่งนั้นเรียกว่าเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่อาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับร่างกาย ทำความรู้จัก ผิวเปลือกส้ม เกิดจากอะไร? เจาะลึกสาเหตุของปัญหาผิว พร้อมตัวช่วยผิวให้เรียบเนียนและกระชับขึ้น ผิวเปลือกส้ม คืออะไร? ปัญหาผิวเปลือกส้ม หรือ เซลลูไลท์ (Cellulite) เป็นปัญหาผิวที่มักจะเกิดจากการสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวร่วมกับเส้นใยพังผืดที่ดึงรั้งผิว จึงส่งผลให้ผิวมีลักษณะเป็นร่อง หรือผิวเป็นคลื่นที่ไม่เรียบเนียน ดูคล้ายผิวของผลส้ม สามารถพบได้บ่อยบริเวณต้นขา สะโพก หน้าท้อง และก้น แม้ว่าปัญหาผิวเปลือกส้มจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ก็อาจจะสร้างความไม่มั่นใจได้ หลาย ๆ คนจึงมองหาวิธีที่จะช่วยลดเลือนผิวเปลือกส้ม ผิวเปลือกส้ม เกิดจากสาเหตุอะไร? หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ผิวเปลือกส้ม หรือเซลลูไลท์เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ซึ่งผิวเปลือกส้มเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างของร่างกาย หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสะสมของไขมันใต้ผิวหนัง ผิวเปลือกส้มมักเกิดในชั้นไขมันใต้ผิว ซึ่งจะเกิดจากที่มีการสะสมของไขมันจำนวนมากจนจับตัวกันเป็นก้อน และถูกดันตัวขึ้นมาข้างบน แต่ถูกเส้นใยพังผืดในชั้นหนังแท้ดึงรั้งไว้ ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้น ๆ เกิดเป็นร่อง […]





