Site icon Romrawin

Biostimulator สารกระตุ้นคอลลาเจน ทางลัดสู่ความอ่อนเยาว์ขั้นสุด

กระตุ้นคอลลาเจน

Biostimulator ทางลัดสู่ความอ่อนเยาว์ กระตุ้นคอลลาเจนขั้นสุด

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายของเราเริ่มเสื่อมสภาพลง ผิวพรรณเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง คอลลาเจนที่เคยมีอยู่ค่อย ๆ สูญเสียไปตามอายุ โดยเฉพาะเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจนถึง 1.5% ต่อปี จากนั้นเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนลดลง เหลือเพียง 20 – 30% เมื่อคอลลาเจนในชั้นผิวลดลงแล้ว ผิวหนังก็จะขาดการพยุงและขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโครงสร้างสำคัญ ที่ช่วยพยุงชั้นผิวให้มีความแข็งแรงและเรียบเนียน จึงทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาสารพัด ไม่ว่าจะเป็นผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก ขาดความชุ่มชื้น ดูหมองคล้ำ รวมถึงผิวหน้าดูแก่กว่าวัยอีกด้วย 

นอกจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนน้อยลงแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลต่อคอลลาเจนในร่างกายเช่นกัน ได้แก่ การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย เจอแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ล้วนเป็นผลกระทบให้คอลลาเจนในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็วได้ทั้งสิ้น

ปัจจุบัน เทรนด์ความงามยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการคิดค้นสารกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator ที่มีความสำคัญต่อผิวของเราขึ้นมา ซึ่ง Biostimulator เป็นทางเลือกใหม่ในการฟื้นฟูผิว ทำให้ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวแน่น กระชับ และเรียบเนียน จึงถือเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์สำหรับใครหลาย ๆ คนอย่างมาก แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า Biostimulator คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไร? แล้วหัตถการอะไรบ้าง? บทความนี้รวบรวมทุกคำตอบของ Biostimulator มาให้แล้ว

 

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร? มีหัตถการอะไรบ้าง?

 

ทำไมคอลลาเจนถึงจำเป็นต่อผิว?

คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีมากที่สุดในร่างกาย สามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ เปรียบเสมือนโครงสร้างหลัก ที่ทำให้ผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และอวัยวะต่าง ๆ สามารถประสานและเชื่อมโยงเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คอลลาเจน ถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่มีบทบาททำให้ผิวหนัง มีโครงสร้างที่แข็งแรงและกระชับ โดยเป็นโครงสร้างหลักของผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) หรือ ชั้นผิวที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังบนสุด (Epidermis) ทำหน้าที่เป็นเหมือนเส้นใยตาข่าย ที่ช่วยให้ผิวหนังมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน ไม่ดูแก่ก่อนวัย ซึ่งนอกจาก จะช่วยรักษาโครงสร้างผิวให้แข็งแรงแล้ว คอลลาเจนยังมีส่วนช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย โดยคอลลาเจนจะทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิวหนัง ทำให้ผิวดูฉ่ำวาว อิ่มน้ำ และมีความชุ่มชื้น ดังนั้น การเติมคอลลาเจนให้กับผิว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว และคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิวของเราได้ดียิ่งขึ้น

 

คอลลาเจนที่จำเป็นต่อผิว มีกี่ประเภท?

คอลลาเจนในร่างกายของเรามีอยู่หลายประเภท แต่คอลลาเจนที่จำเป็นต่อผิวของเราและพบได้บ่อยที่สุด มีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

คอลลาเจน ชนิดที่ 1 ถือเป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุดในร่างกาย คิดเป็นประมาณ 90% ของคอลลาเจนทั้งหมด มีบทบาทสำคัญในการสร้างโครงสร้างของผิวหนัง เส้นเอ็น กระดูก และผนังหลอดเลือด ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกฉีกขาด ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ส่งผลให้ผิวหนังมีความเต่งตึง ลดเลือนริ้วรอย และดูอ่อนเยาว์

คอลลาเจน ชนิดที่ 3 เป็นอีกหนึ่งคอลลาเจนที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนัง มักจะทำงานร่วมกับคอลลาเจน ชนิดที่ 1 พบได้ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และผนังหลอดเลือด ช่วยให้ผิวหนังมีความกระชับ ยืดหยุ่น และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน

สัญญาณเตือน! บ่งบอกว่า ผิวของเรากำลังขาดคอลลาเจน

ปัญหาริ้วรอยและร่องลึก เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่ออายุมากขึ้น หรืออาจเกิดขึ้นก่อนวัย สามารถเห็นได้ชัดเจนในบริเวณที่มีการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น หางตา ระหว่างคิ้ว หรือหน้าผาก สาเหตุหลักมาจากการที่ผิวหนังสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เมื่อปริมาณของคอลลาเจนลดลง ผิวจึงขาดความกระชับและเกิดเป็นริ้วรอยขึ้นมา

ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น ลอกเป็นขุย เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เนื่องจากคอลลาเจนที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวหนังเริ่มผลิตได้น้อยลง เมื่อคอลลาเจนลดลง ผิวหนังยิ่งสูญเสียน้ำ ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ และไม่สดใสได้

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล โดยเฉพาะเมื่อมีอายุที่มากขึ้น คอลลาเจนที่คอยพยุงผิวของเราก็ค่อย ๆ น้อยลงตามไปด้วย ส่งให้ผิวที่เคยมีความยืดหยุ่น แน่น กระชับ กลายเป็นผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย และดูแก่กว่าวัยอีกด้วย

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เกิดจากคอลลาเจนในร่างกายลดลง โครงสร้างผิวจึงถูกทำลายได้ง่าย ส่งผลให้ผิวบอบบางและไวต่อแสงแดดมากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำได้เช่นกัน

ปัญหารูขุมขนกว้าง เกิดจากผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นผลมาจากคอลลาเจนที่ลดลง รูขุมขนจึงขยายกว้างขึ้นได้ง่าย ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน

 

คอลลาเจน สามารถนำไปใช้ในรูปแบบใดได้บ้าง?

ปัจจุบัน คอลลาเจน สามารถนำไปใช้ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบกิน แบบทา และแบบฉีดเข้าสู่ผิวหน้าโดยตรง ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างกัน ดังนี้

คอลลาเจนแบบกิน เป็นรูปแบบที่นิยมมากที่สุด พบได้ในอาหารเสริม เช่น แคปซูล ผง หรือชงดื่ม โดยคอลลาเจนชนิดนี้ มีความสะดวกในการรับประทาน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าจะเห็นผล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวจากภายใน ต้องการเห็นผลในระยะยาว

คอลลาเจนแบบทา พบได้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน เช่น ครีม โลชั่น หรือเซรั่ม ซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้ มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เมื่อทาลงไปบนผิวแล้ว อาจดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ยาก เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นหลัก เหมาะสำหรับการบำรุงผิวชั้นนอกมากกว่า

คอลลาเจนแบบฉีด เป็นการฉีดคอลลาเจน หรือสารกระตุ้นคอลลาเจนเข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อฟื้นฟู ปรับปรุง และบำรุงผิวแบบเร่งด่วน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่าวิธีอื่น ๆ พบได้ในหัตถการต่าง ๆ เช่น หัตถการกลุ่มกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator อย่าง Radiesse, Sculptra หรือ Gouri เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต้องการแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุด

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร

Biostimulator คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายของเรา ผลิตคอลลาเจนขึ้นมาเองตามธรรมชาติ เมื่อฉีด Biostimulator เข้าสู่ผิวหนังแล้ว Biostimulator จะทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างผิวขึ้นมาใหม่ จึงทำให้ผิวหนังเกิดการฟื้นฟูตัวเองจากภายใน ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับ เต่งตึง และมีความแข็งแรง โดยในปัจจุบันมี Biostimulator ให้เลือกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น CaHA, PDO หรือ PLLA 

 

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน มีกลไกการทำงานอย่างไร?

กลไกการทำงานของ Biostimulator หรือ สารกระตุ้นคอลลาเจน จะทำงานโดยตรงที่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่ง Biostimulator จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) เซลล์ต้นกำเนิดในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง เมื่อเซลล์ไฟโบรบลาสต์ได้รับการกระตุ้น ก็จะเริ่มผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ตามกระบวนการธรรมชาติ ทดแทนส่วนที่เสื่อมสภาพไป ซึ่งคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้นจากการฉีด Biostimulator จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่างใต้ชั้นผิว พร้อมเสริมสร้างโครงสร้างผิวหนัง ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง มีความเรียบเนียน ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน มีทั้งหมดกี่ประเภท?

ปัจจุบัน Biostimulator หรือสารกระตุ้นคอลลาเจน มีหลากหลายประเภท โดย Biostimulator แต่ละประเภท ก็จะมีคุณสมบัติและเหมาะสมกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ได้แก่

 

PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่สกัดมาจากธรรมชาติตัวแรกของโลก เป็นวัสดุประเภทพอลิเมอร์ ที่มาในรูปแบบผง โดย PLLA ได้รับการรับรองว่า ปลอดภัยต่อร่างกายของเรา และถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์อย่างกว้างขวาง มีลักษณะเป็นอนุภาคขนาดเล็ก เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวจะค่อย ๆ กระจายตัว และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 เป็นหลัก ฟื้นฟูโครงสร้างผิวเดิม ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรงและเรียบเนียนมากขึ้น ซึ่ง PLLA สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย

CaHA (Calcium Hydroxylapatite) เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่ผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ พบได้ในร่างกายของเรา โดยเฉพาะกระดูกและฟัน จึงสามารถเข้ากันได้ดีกับผิวหนัง มีลักษณะเป็นอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ผลิตคอลลาเจน ชนิดที่ 1 และ คอลลาเจน ชนิดที่ 3 ขึ้นมาใหม่ โดยผ่านกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย ไม่ได้ผ่านกระบวนการอักเสบใด ๆ ช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ให้ผิวดูอิ่มฟู และปรับรูปหน้าให้คมชัด โดยไม่เกิดการระคายเคืองผิว เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

PDO (Polydioxanone) เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ซึ่งเป็นวัสดุประเภทพอลิเมอร์ที่สังเคราะห์ขึ้นมา ในรูปแบบผลึก ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น โดยพัฒนาต่อยอดมาจากไหม PDO แบบเส้นดั้งเดิม ที่ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์อย่างแพร่หลาย ผ่านการกระบวนการ Nano Technology ทำให้ PDO มีโมเลกุลเป็นทรงกลม และมีขนาดเล็กระดับนาโน หรือที่เรียกว่า PDO Microsphere ซึ่งมีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ เมื่อฉีด PDO เข้าสู่ผิว สามารถกระจายตัวได้อย่างทั่วถึง ทำหน้าที่ในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ชนิดที่ 1 และ คอลลาเจน ชนิดที่ 3 โดยไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและไม่เกิดการบวมหลังฉีด

PCL (Polycaprolactone) เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ในรูปแบบของเหลว (Fully Liquid) ซึ่งพัฒนามาจากเส้นไหมละลายที่ใช้ในทางการแพทย์ เป็นวัสดุประเภทพอลิเมอร์กึ่งผลึกที่สังเคราะห์ขึ้นมา มีความบริสุทธิ์สูง สามารถย่อยสลายได้ตามกระบวนการ Hydrolysis เมื่อฉีดสาร PCL เข้าสู่ผิว อนุภาค PCL สามารถกระจายตัวได้ดี และสม่ำเสมอทั่วใบหน้า ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทดแทนส่วนที่เสื่อมโทรมไป ทำให้ผิวแน่นกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง ตัวยาไม่ต้องละลายก่อนใช้ ทำให้ปลอดภัยต่อร่างกาย ลดโอกาสในการเกิดการปนเปื้อนได้เป็นอย่างดี

PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่มีโมเลกุลแบบเดียวกับ Poly Lactic Acid (PLA) แต่มีลักษณะพื้นผิวที่แตกต่างกัน โดย PDLLA เป็นไบโอพอลิเมอร์ชีวภาพ มีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายฟองสบู่ เมื่อฉีด PDLLA เข้าสู่ผิวหนัง อนุภาคเล็ก ๆ ของ PDLLA จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ทำงานอย่างแข็งขัน ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ชนิดที่ 1 ขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี โดยไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย ไม่เกิดเป็นก้อนได้ง่าย และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรชาติ

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน มีหัตถการอะไรบ้าง?

Sculptra 

Radiesse 

Gouri

Ultracol 

Juvelook

 

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน สามารถฉีดบริเวณใดได้บ้าง?

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน สามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณ ทั้งใบหน้า ลำคอ และหลังมือ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ แต่ละหัตถการก็เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีดแตกต่างกัน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ ก่อนตัดสินใจฉีด Biostimulator โดยตำแหน่งที่ฉีดกระตุ้นคอลลาเจน มีดังนี้

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

 

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน เหมาะกับใคร?

 

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ไม่เหมาะกับใคร?

 

ก่อนฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ควรเตรียมตัวอย่างไร?

 

หลังฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

รวมคำถามยอดฮิต เกี่ยวกับการฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน

ผลข้างเคียงหลังฉีด Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน

 

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ปลอดภัยไหม?

 

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร?

 

ดังนั้น การฉีด Biostimulator หรือ สารกระตุ้นคอลลาเจน จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากสามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนขึ้นมาเองตามธรรมชาติ ฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย หรือขาดความชุ่มชื้น ซึ่งการฉีด Biostimulator มีให้เลือกหลากหลายหัตถการที่ได้รับความนิยมทั่วโลก อย่าง Sculptra, Radiesse หรือ Utracol โดยแต่ละหัตถการก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันอยู่ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนตัดสินใจฉีด Biostimulator ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก ทุกสาขา เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์และประเมินปัญหาผิวหน้าอย่างละเอียด พร้อมเลือกหัตถการที่เหมาะสมที่สุด ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง 

Exit mobile version