Category Archives: รักษาสิว

Accure Laser คืออะไร รักษาสิวอะไรได้บ้าง เหมาะกับใคร

Accure Laser

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




    วันที่สะดวกในการติดต่อ




    เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ตั้งแต่ต้นกำเนิด รักษาได้แม้สิวเรื้อรัง

    เคยไหม ? สิวขึ้นไม่หยุด ไม่ว่าจะเลยช่วงที่ก่อนประจำเดือนมา หมดประจำเดือน หรืออยู่แต่บ้าน ไม่ได้ไปไหนหน้าไม่ได้แต่ง แต่สิวที่เป็นอยู่ขึ้นมา หายไป และก็ขึ้นมาใหม่ วนไปวนมาอยู่อย่างนี้ซ้ำๆไม่จบไม่สิ้นสักที  ไปหาคุณหมอ รักษายังไงก็ยังไม่หาย ทายาก็แล้ว กินยาก็แล้ว เปลี่ยนปลอกหมอน ยาสระผม สบู่ตามที่คุณหมอบอกก็แล้ว แต่ก็ยังไม่หายอยู่ดี 

    นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่ได้แก้ปัญหาอย่างตรงจุดที่ต้นตอนั่นเอง ในบางคนทนกินยารับผลข้างเคียงมากมาย ร่างกายจะพังก่อนที่สิวจะหายด้วยซ้ำ หากแต่เราเข้าใจธรรมชาติของสิว และแก้ปัญหาจากต้นตอ ก็จะทำให้การรักษาสิวสามารถรักษาได้ง่ายมากขึ้น ไม่ก่อให้เกิดอันตรายตามมาเหมือนการกินยาอย่างแน่นอน

    แต่ปัจจุบันวงการแพทย์และเทคโนโลยี มีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมามากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่เป็นสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวเรื้อรัง สิวฮอร์โมน สิวอักเสบ หรือสิวชนิดใดๆก็สามารถรักษาให้หายสนิทได้อย่างไร้กังวลอย่างเทคโนโลยี Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว นั่นเอง

    Accure Laser

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว คืออะไร

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เป็นเทคโนโลยีที่สร้างและออกแบบมา เพื่อใช้ในการยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ไม่ว่าจะเป็นต่อมไขมันที่มีความลึกมากเท่าไร แสงเลเซอร์ของ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ก็สามารถเข้าไปยับยั้งได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย  Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ผ่านการรับรองมาตรฐาน และความปลอดภัยในระดับโลกจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. FDA  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ของประเทศไทย และยังได้รับมาตรฐานจากยุโรป หรือ CE อีกด้วย

    ไม่เพียงเท่านั้น Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ยังมีผลงานวิจัยที่เป็นการรับรองประสิทธิภาพของตัวเครื่อง และเทคโนโลยีว่าสามารถรักษาสิวอักเสบได้ โดยใช้ระยะเวลารักษา เป็นระยะเวลา 1 ปี และ 3 ปีและมีการติดตามผลลัพธ์หลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ยังมีหลักการของเครื่อง คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการเกิดสิว นั่นก็คือไขมันนั่นเอง

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ทำงานอย่างไร

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ใช้พลังงานในการรักษาสิวที่มีความยาวคลื่น 1726 Nm ที่เป็นระดับความยาวที่คำนวณมาเป็นอย่างดีแล้ว ว่ามีความแม่นยำในการยิงโดยตรงไปที่ต่อมไขมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวชนิดต่างๆบนใบหน้า จากนั้นคลื่น ความยาว  1726 Nm ดังกล่าว จะเข้าไปทำงานกับไขมัน ทำให้ต่อมไขมันฝ่อตัวลงในที่สุด โดยที่พลังงานจะทำงานเฉพาะเจาะจงที่ต่อมไขมัน โดยไม่กระทบกับผิวหนังบริเวณข้างเคียง และไม่ทำให้ผิวหนังบริเวณข้างเคียงได้รับอันตราย ร่วมด้วยอัลกอริทึม “รักษาสิวตามอุณหภูมิ” ที่เป็นตัวส่งพลังงานเข้าสู่ชั้นผิวให้อยู่ในระดับที่มีความลึกที่เหมาะสมของชั้นผิวที่ต้องการ ในการทำลายต่อมไขมันที่อยู่ภายในรูขุมขน ให้เกิดการฝ่อตัวลง เพื่อเข้าไปยับยั้งการผลิตน้ำมันที่สร้างขึ้นบนผิวมากจนเกินไป และเมื่อจับกับฝุ่น มลภาวะแล้วก่อให้เกิดเป็นสิวในที่สุด

    นอกจากนี้ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ยังมี Real-Time Modulation ที่เป็นโหมดในการปรับแต่งพลังงาน ของเลเซอร์ที่ยิงออกมาแบบเรียลไทม์ เพื่อใช้สำหรับการตรวจเช็กสภาพผิวของผู้ที่ทำการรักษา ได้อย่างมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น  ไม่เพียงรักษาสิวได้เท่านั้น Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ยังช่วยในการทำให้รูขุมขนมีความกระชับมากขึ้น ยังช่วยในการลดการอุดตัน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ชนิดต่างๆที่สะสมอยู่ที่ผิวทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน หน้าที่เคยมันก็จะมีความมันที่น้อยลง ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น ด้วย

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เป็นโปรแกรมที่ให้ความรู้สึกในการรักษาที่ต่างจากเลเซอร์ชนิดอื่นๆ คือให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เจ็บ เนื่องจากมีการปล่อยลมเย็นในระหว่างทำ ทำให้เกิดการผ่อนคลาย สบายผิวนั่นเอง

    หลังทำการรักษาบริเวณผิวที่ทำ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว จะมีสีชมพูหรือแดงระเรื่อ และจะค่อย ๆ จางหายไปเองโดยธรรมชาติ

    Accure Laser

    ข้อดีของ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว

    เมื่อพูดถึงเลเซอร์รักษาสิว ใครๆอาจจะคิดว่าก็ธรรมดาแต่ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว มีข้อดีดังนี้

    1. รักษาสิวหายขาด 
    2. รักษาสิวได้ทุกชนิด
    3. ใช้ได้ทุกสภาพผิว
    4. ไม่ต้องทำควบคู่กับการกินยา
    5. ไม่ต้องพักฟื้น
    6. มีความปลอดภัยในการรักษาสิว
    7. ทำได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย

     Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับใครบ้าง

    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวเรื้อรัง 
    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวอักเสบ
    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวทุกประเภท
    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวที่ไม่ต้องการรับประทานยา
    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับผู้ที่แพ้ยารักษาสิว
    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับผู้ที่เป็นผิวและรักษาเท่าไรก็ยังไม่หาย

     Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ไม่เหมาะกับใครบ้าง

    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
    • Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังให้นมบุตร

    Accure Laser

    การเตรียมตัวก่อนการรักษา Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว

    1. ปรึกษาแพทย์ผู้มีความชำนาญด้านผิวหนังก่อนเข้ารับการรักษา Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว โดยจำเป็นต้องแจ้งประวัติการรักษา โรคประจำตัว รวมทั้งยาที่รับประทานอยู่ให้ละเอียด เพื่อให้แพทย์ประเมินขั้นตอนในการรักษาเพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจ
    2. ก่อนการรักษา Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว จะต้องดูแลผิวให้สะอาด เพื่อให้สิ่งสกปรกต่างๆที่สะสมอยู่บนผิวจำนวนลดลง ทั้งยังเป็นการเตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับเข้ารับบริการ

          3.ผ่อนคลายความกังวล เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆและผิวหน้าที่ดีหลังทำเสร็จ ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องกลัว เพื่อให้ผิวหน้าหลังทำการรักษาฟื้นตัวได้เร็ว

    ขั้นตอนในการทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว

    1. นัดหมายแพทย์ เพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็ว ในการทำการรักษา
    2. ทำการประเมินผิวก่อนเข้ารับบริการ
    3. ถ่ายภาพเพื่อเก็บภาพก่อนทำการรักษาเผื่อดูผลลัพธ์หลังทำการรักษา
    4. ทำความสะอาดใบหน้าเพื่อเตรียมเข้ารับบริการ
    5. แพทย์ลงมือทำ
    6. เช็ดทำความสะอาดหลังทำให้เรียบร้อย
    7. ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

    รักษาสิว

    การดูแลตัวเองหลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว

    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิว
    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 PA+++ เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด เนื่องจากหน้าหลังทำยังมีความไวต่อการกระตุ้นของแสงแดด
    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว หลีกเลี่ยงการสคลับผิว ขัดผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเป็นกรด เนื่องจากจะทำให้ผิวได้รับการระคายเคืองได้
    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ควรงดการใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว  สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวได้
    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ควรงดทำกิจกรรมต่างๆที่ก่อให้เกิดเหงื่อไหล เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิว

    ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผิวฟื้นฟูอย่างดีที่สุด

    ผลข้างเคียงหลังทำการรักษาด้วยหลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว

    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว อาจจะมีการเกิดรอยแดง ที่บริเวณที่ใช้บริการ โดยรอยแดงดังกล่าวจะสามารถหายได้เองใน 1-2 วัน โดยไม่ต้องกังวล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว อาจเกิดอาการคัน หรือบวมแดงในบริเวณที่ทำการรักษา สามารถหายได้เองใน 1-2 วัน โดยไม่ต้องกังวล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
    • หลังทำการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว หากมีอาการข้างเคียงอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวมา ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา

    รักษาสิว

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว รักษาสิวรักษาสิวหายได้ในกี่ครั้ง 

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว สามารถทำให้สิวเกิดขึ้นน้อยลงเรื่อยๆในทุกๆการรักษา แต่ควรรักษาให้ครบ 4​ ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    หลังเข้ารับการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว 1 ครั้ง สิวจะลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด

    • หลังเข้ารับการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว 2 ครั้ง สิวจะลดจำนวนลง 40 %
    • หลังเข้ารับการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว 3 ครั้ง สิวจะลดจำนวนลง 50-60%
    • หลังเข้ารับการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว 4 ครั้ง สิวจะลดจำนวนลง 70 %
    • หลังเข้ารับการรักษาด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ครบ 6 เดือน สิวจะลดจำนวนลงมากกว่า 70 %

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว  อันตรายไหม

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ไม่มีอันตรายเนื่องจาก Accure Laser เลเซอร์รักษาสิวสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนบนผิวและใต้ผิว โดยสามารถทำได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังมีการตรวจจับอุณหภูมิที่ 45 องศา เมื่อพลังงานเกิด 45 องศาเครื่อง Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว จะหยุดปล่อยพลังงาน เพื่อป้องกันการเบิร์นของผิว และเมื่ออุณหภูมิลดลง เครื่องก็จะปล่อยพลังงานออกมาอัตโนมัติตามเดิมซึ่งเป็นหลักการของโหมด Treat to Peak Epidermal Temperature (PET) ของAccure Laser เลเซอร์รักษาสิว 

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เจ็บไหม

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เป็นเครื่องรักษาสิวที่ไม่ทำให้ผิวได้รับความบาดเจ็บ เนื่องจากก่อนทำ จะมีการทายาชาที่ผิวก่อน รวมทั้ง Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว ยังเป็นเครื่องที่มีการปล่อยลมเย็นลงสู่ผิวในขณะที่ทำโดยอัตโนมัติ ทำให้ในระหว่างทำเกิดความสบายกับผิว ทั้งยังสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับความลึกของผิว รวมทั้งสภาพผิวของแต่ละบุคคลและแต่ละบริเวณที่ต้องการรักษา

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิวสามารถทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไร

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว สามารถทำได้ตั้งแต่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยจัดเป็นการรักษา ไม่ใช่การเสริมความงามจึงไม่อันตราย

    ข้อมูลการรักษาสิวด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว สามารถเห็นผลได้เป็นอย่างดีหลังทำการรักษาครบ 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งเว้นระยะเวลาในการทำ 1 เดือน โดยตั้งแต่ครั้งแรก สิวจะลดลงเรื่อยๆ

    • 70% ของผู้เข้ารับบริการ มีสิวที่ลดลง ภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังทำการรักษา Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว และยังสามารถมีจำนวนสิวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ 1 ปีที่ 2 จนถึงปีที่ 3 หลังทำ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว
    • 79% – 90% ของผู้เข้ารับบริการ จะมีปริมาณสิวอักเสบที่ลดลง 50% เพียง 6 เดือน หลังทำ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว และยังคงลดปริมาณสิวอักเสบได้อย่างต่อเนื่องฃ89% ของผู้เข้ารับบริการมีสิวลดลงเพิ่มขึ้น 1 ระดับหลังทำการรักษา และยังมีคุณภาพผิวที่ดีมากขึ้น 
    • 4/10 ของผู้เข้ารับบริการ ไม่รู้สึกเจ็บ และไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผิว

    รักษาสิว

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิวเหมาะกับผิวประเภทใด

    Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว เหมาะกับทุกสภาพผิว และเหมาะกับทุกสีผิว โดยไม่ทำให้เกิดรอยด่าง รอยเบิร์น ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องกังวล

     

    ในการรักษาสิวด้วย Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว คือการรักษาสิวโดยการใช้คลื่นที่มีความยาวคลื่น 1726 Nm พร้อมกับปล่อยลมเย็นเพื่อปกป้องผิวจากแสงเลเซอร์ ทำให้ผิวไม่ได้รับอันตรายจากลำแสง โดยหลังจากการทำอาจทำให้ผิวแห้ง มีผิวแดง ตามมา และจะหายไปได้ภายใน 7 วันโดยประมาณ เนื่องจากลำแสงดังกล่าว จะทำงานโดยการยับยั้งต่อมไขมันอันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว เพื่อลดการอุดตันของสิว และไม่ก่อให้เกิดสิวประเภทต่างๆ Accure Laser เลเซอร์รักษาสิว นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมในการรักษาสิว แต่ทุกการรักษา อาจมีข้อดีข้อเสียตามมาตามแต่ปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ก่อนทำการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้มีความชำนาญ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาสิวที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลให้มากที่สุด 

    ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




      วันที่สะดวกในการติดต่อ




      เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

      AviClear รักษาสิวเครื่องเดียวจบ

      AviClear

      AviClear AviClear

      ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




        วันที่สะดวกในการติดต่อ




        เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

        AviClear จบปัญหาสิวในเครื่องเดียว

        สิว เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเคยประสบ และเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะพูดกับใครเรื่องสิวๆ ก็มักจะเป็นเรื่องที่ทุกคนมีประสบการณ์ร่วม เพียงแต่ว่าปัญหาสิวในแต่ละคนอาจเกิดขึ้นกันคนละช่วงเวลาเท่านั้นเอง  

        สำหรับสาเหตุของการเกิดสิว ปัญหาหลักก็คือ เมื่อร่างกายเกิดการผลิตน้ำมัน (sebum) ออกมาในจำนวนที่มากเกินไป น้ำมันส่วนเกินจะเกิดการผสมตัวเข้ากับเซลล์ผิวหนังที่เกิดการเสื่อมสภาพลง จากนั้นการผสมตัวดังกล่าวจะเข้าไปเกิดการอุดตันอยู่ที่รูขุมขนของคนเรา ทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในผิวหนังได้เจริญเติบโตขึ้น และส่งผลให้เข้าไปกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบขึ้น ซึ่งการอักเสบนั่นเองที่เป็นสาเหตุของอาการแดง และเกิดตุ่มหนอง

        AviClear

        AviClear เป็นโปรแกรมเครื่องเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นในระดับ 1726 นาโนเมตร ทำงานกับต่อมไขมันบริเวณรูขุมขน อยู่ใต้ผิว 0.5 – 1.5 มม. ซึ่งคลื่นดังกล่าวเป็นคลื่นที่สามารถดูดซับน้ำมัน (sebum) ได้ ผลิตโดยบริษัท Cutera Inc  โดยมีค่า +/- 3 nm ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการทำงานของ ลำแสงเลเซอร์ (spot size) พลังงาน และระยะเวลาในการระบายความร้อนของต่อมไขมัน  มีผลต่อระยะเวลาในการปล่อยพลังงานคลื่น  

         

        AviClear  ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาสิวทุกปัญหา โดย AviClear  ทำงานโดยการโดยเลือกจับที่เป้าหมายคือบริเวณต่อม ไขมัน (Sebaceous glands) เป็นหลัก  AviClear เหมาะสำหรับคนทุกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ (all acne severities : mild moderate and severe) ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวที่อยู่ในระดับที่มีความรุนแรงมาก ขนาดไหนก็สามารถทำการรักษาได้อย่างปลอดภัย ใช้ได้กับสีผิวในทุกระดับ ด้วยการใช้ความยาวและระดับคลื่นอย่างเหมาะสมในการรักษา AviClear  จึงสามารถรักษาได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก อย. ของประเทศแคนาดา (Health Canada) ว่าสามารถรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย

        AviClear

        อีกทั้ง AviClear ยังได้รับรางวัลเทคโนโลยี ที่มีความปลอดภัยต่อผิวของผู้เข้ารับการรักษาที่อยู่ในทุกระดับสีผิว (safe for all skin types and skin tones) 

        โดยปกติแล้วการรักษาสิว จะมีหลักในการรักษาอยู่ที่สาเหตุของการเกิดสิว แต่ยังไม่มีการรักษาชนิดใด ที่สามารถลดการผลิตน้ำมันบนผิวหนังได้แบบ AviClear  จึงทำให้การรักษาทั้งหมดนั้น ไม่สามารถให้ผลการรักษาที่ดีในระยะยาวได้ ในบางคนที่ทำการรักษาไม่ตรงกับปัญหาจึงส่งผล ให้เมื่อหยุดการรักษาก็จะสามารถกลับมาเป็นสิวได้อีกครั้ง แต่ AviClear มีหลักในการรักษาที่แตกต่างกัน จึงทำให้สามารถรักษาสิวได้ดีกว่าอย่างแตกต่าง

        AviClear

        ข้อดีของการรักษาด้วย AviClear

        • AviClear ไม่ต้องใช้ยาชา
        • AviClear ลดการเกิดสิวทุกชนิดได้จริง
        • AviClear ลดการเกิดสิวระยะยาวถึงสองปี
        • AviClear ทำได้แม้ผิวที่บอบบาง
        • AviClear ไม่เบิร์น ไม่ไหม้
        • AviClear ไม่ทำร้ายผิว
        • AviClear ช่วยปกป้องผิวในระหว่างทำ
        • AviClear มีระบบทำความเย็นในเครื่อง
        • AviClear ช่วยรักษารอยแผลเป็นได้ด้วย
        • AviClear ลดหน้ามันได้
        • AviClear ลดขนาดรูขุมขนได้
        • AviClear ไม่ทำลายชั้นผิวหนัง ให้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษามีความสมบูรณ์

        ข้อเสียของการรักษาด้วย AviClear

        • AviClear  ทำให้ผิวแห้งหลังทำการรักษา
        • AviClear  ทำให้ทำกิจกรรมกลางแจ้งไม่ได้ในระยะการรักษา
        • AviClear  ทำให้คันบริเวณที่ทำการรักษา
        • AviClear  ต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น

        ใครเหมาะสําหรับการรักษาด้วย AviClear

        • ผู้ที่หมาะกับ AviClear คือผู้ที่ เป็นสิวทุกประเภท
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ สิวจากทุกสาเหตุ
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ สิวทุกระดับความรุนแรง
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ เป็นสิวในทุกสีผิว
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ เป็นสิวทุกช่วงวัย
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ เคยรักษาสิวด้วยวิธีอื่นๆแล้วไม่หาย
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ ไม่ต้องการรักษาสิวด้วยการรับประทานยา
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ ต้องการรักษาสิวในระยะยาว
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ เป็นสิวที่เปลี่ยนเครื่องสำอางแล้วยังไม่หาย
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้วยังไม่หาย
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ แพ้ยารักษาสิว
        • ผู้ที่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ เป็นสิวในระยะรุนแรง

        ใครไม่เหมาะสําหรับการรักษาด้วย AviClear

        • ผู้ที่ไม่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ กำลังตั้งครรภ์ หรือเป็นสิวในระหว่างตั้งครรภ์
        • ผู้ที่ไม่เหมาะกับ AviClear คือผู้ที่ เคยมีอาการแพ้คลื่นแสงเลเซอร์

        การเตรียมก่อนเข้ารับการรักษาด้วย AviClear

        1. 2 – 3 วันก่อนเข้ารับการรักษา หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิว
        2. เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทำเลเซอร์

        การเตรียมตัวเพื่อเข้ารับการรักษาด้วย AviClear

        1. ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ AviClear
        2. หากในบริเวณที่ต้องการทำมีเส้นขน จำเป็นต้องโกนขนออกให้หมด เพื่อไม่ให้เกิดฟองอากาศใต้หัวยิง เนื่องจากจะไม่สามารถวางหัวยิง AviClear แนบผิวได้
        3. ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการทำ AviClear อีกรอบด้วยสบู่อ่อนๆ และล้างน้ำเปล่าอีกครั้ง
        4. เก็บภาพก่อนทำการรักษาเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
        5. ซับความชุ่มชื้นของผิวออก ด้วยผ้าก๊อซ แห้ง และสวมแว่นตาเพื่อป้องกันแสงเลเซอร์จากเครื่อง AviClear
        6. ซับความมันด้วยผ้าก๊อซชุบ medical/ACS grade acetone บิดให้แห้ง
        7. เตรียมผิวด้วย ผ้าก๊อซหรือ Mask ชุบน้ำโปะให้ทั่วบริเวณที่ต้องการทำ ประมาณ 3 นาทีก่อนทำการรักษา

        ขณะทําการรักษาด้วย AviClear

        ขณะทำการรักษาด้วย AviClear  ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา เนื่องจากบริเวณหัวยิงเลเซอร์จะมี สิ่งที่เรียกว่า AviClearSapphire skin coolling and sensory control หรือเครื่องทำความเย็นเพื่อปกป้องผิวบริเวณที่ทำการรักษาในระหว่างก่อน  ขณะ และหลังยิงเลเซอร์ในทุกๆ Pulse ของ AviClear จะทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกผ่อนคลายและสบายผิวระหว่างทำการรักษา โดยจะมีความรู้สึกเพียงอุ่นๆ ในบริเวณที่ทำการรักษายกเว้นบริเวณที่บอบบาง sensitive area เช่น หน้าผาก ขมับ รอบริมฝีปาก รวมทั้งบริเวณสิวอักเสบ สำหรับบริเวณดังกล่าวนี้อาจมีความรู้สึกมากกว่าในตำแหน่งอื่นๆ ทุกๆ 1-3 Pulse ให้จับผิวด้วยผ้าก๊อซชุบน้ำสะอาดบริเวณผิวที่ทำการรักษา เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น โดยการยิง แพทย์จะทำการยิงทั้งหมดจำนวน 300 shots ในแต่ละครั้งของการเข้ารับบริการ

        ข้อควรปฏิบัติหลังเข้ารับบริการ AviClear

        • ทาครีมกันแดดที่มีค่า ป้องกัน UVA/UVB SPF 30+ โดยสามารถทาได้ทันที หลังจากได้รับการรักษาด้วย AviClear  (ทาก่อนออกแดด 90 นาที)
        • ให้ล้างทำความสะอาดผิวหน้า ทาครีมบำรุงผิวสูตรอ่อนโยนทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันUVA/UVB SPF 30+ หลังทำ AviClear
        • หลีกเลี่ยงครีม หรือการรักษา หรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวใน 2 – 3 วันภายหลังการรักษาด้วย AviClear
        • สามารถใช้ครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำได้ภายใน 2 – 3 วันภายหลังการรักษา AviClear 

        การดูแลภายหลังเข้ารับการรักษาด้วย AviClear

        1. หากรู้สึกไม่สบายผิวหลังทำ AviClear สามารถประคบเย็นที่ผิวบริเวณที่ทำการรักษาเพื่อบรรเทาอาการได้
        2. ในบางผู้เข้ารับบริการ AviClear อาจทำให้เกิดอาการบวมได้ หรือผิวเป็นดวงในบริเวณที่ทำการรักษา สามารถประคบเย็นได้เพื่อบรรเทาอาการ โดยอาการบวมและดวงจะคงค้างนานที่สุดไม่เกิน 24 ชั่วโมง
        3. ในวันถัดไปหลังทำ AviClear  สามารถล้างหน้า หรือล้างในบริเวณที่ทำการรักษาด้วยสบู่อ่อนและน้ำสะอาด รวมทั้งทาผิวด้วยครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้น อ่อนโยน ไม่แพ้ ทาครีม กันแดด UVA/UVB SPF30+ หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
        4. หลังเข้ารับการรักษาด้วย AviClear  ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิวเช่น vitamin C/ascorbic acid Ita: astringents เป็นระยะเวลา 8-10 วัน
        5. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน ซาวน่า อย่างน้อย 1-2 วันหลังเข้ารับการรักษาด้วย AviClear 
        6. ห้ามออกกำลังกายที่ทำให้มีเหงื่อออกเยอะ 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับการรักษาด้วย AviClear 
        7. หลังเข้ารับการรักษา AviClear จะทำให้ผิวในบริเวณที่ทำการรักษา อาจแห้งอุดตันคงค้างในบางราย 4 สัปดาห์หลังเข้ารับการรักษาให้ทาครีมเพื่อทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ที่อ่อนโยนและไม่แพ้
        8. หลังเข้ารับบริการ AviClear ควรทาครีมกันแดด และครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขณะเข้ารับบริการผิวจะแห้งกว่าปกติ
        9. งดกำจัดขนด้วยการแว๊กซ์ หรือใช้เลเซอร์ ภายใน 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันผิวระคายเคือง
        10. ห้ามทำกิจกรรมกลางแจ้งขณะอยู่ในครอสทำการรักษาด้วย AviClear 

        ความรู้สึกภายหลังเข้ารับการรักษาด้วย AviClear 

        • ผู้เข้ารับการรักษาด้วย AviClear บางคนมีอาการบวมที่บริเวณที่ทำการรักษา โดยอาจมีหรือไม่มีหนองร่วมด้วย โดยอาการนี้จะเป็นไปตามรูปแบบของการยิง ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2 – 3 ชั่วโมง หรือในบางคนอาจดี ขึ้นภายใน 2 – 3 วัน
        • หลังทำ AviClear จะมีอาการผิวแห้งและมีอาการคันซึ่งอาการนี้พบได้นาน 2 – 3 สัปดาห์ โดยไม่ควรเกา และให้ทาครีมบำรุงผิวสูตรอ่อนโยนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวเพื่อบรรเทาอาการคันแทน

        AviClear ได้ทำการศึกษาความพึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษาได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

        • ภายใน 1 เดือนหลังจากทำการรักษาด้วย AviClear ครั้งสุดท้าย จะพบว่าผู้เข้ารับการรักษามีความพึงพอใจและเห็นผลการรักษาสูงถึง 87% 
        • นอกจากนี้ 3 เดือนภายหลังการรักษาด้วย AviClear ครั้งสุดท้าย ผู้เข้ารับการรักษามากกว่า 75% ยังคงมีความชื่นชอบในผลการรักษาและยังต้องการทำการรักษาซ้ำ

        การตอบสนองของผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่ ภายหลังการรักษา AviClear มีพบผลลัพธ์ดังนี้ 

        • ผู้เข้ารับบริการ AviClear ไม่พบผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ภายหลังการรักษา
        • ภายหลังการรักษา AviClear พบว่าผู้เข้ารับบริการจะมีอาการแดงขึ้นเล็กน้อย และรอยแดงดังกล่าวจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เองโดยไม่ต้องกังวล
        • อาการบวม แดง ที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง โดยไม่ทิ้งรอยอื่น ๆ ที่ต้องพักฟื้น
        • หลังการรักษาด้วย  AviClear  จะไม่มีรอยแผลที่ส่งผลให้เกิดรอยดำ (hyperpigmentation) ตลอดระยะเวลาที่ทำงานวิจัย

        AviClear

        ผลการตัดชิ้นเนื้อ: หลังจากการทำรักษาด้วยเครื่อง AviClear

        ผลการตัดชิ้นเนื้อหลังทำการรักษา AviClear พบว่า AviClear สามารถเข้าไปยับยั้งการผลิตน้ำมัน (sebum) ได้โดยที่ไม่รบกวนเนื้อเยื่อรอบข้างและผิวหนังชั้นนอก ส่งผลให้ผิวหนังชั้นนอกที่ได้รับการรักษายังคงสมบูรณ์ครบถ้วน และ AviClear มีการทำลายเฉพาะต่อมไขมันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวเพียงเท่านั้น

         

        การรักษาด้วย AviClear ควรทำบ่อยแค่ไหน และควรทำกี่ครั้ง

        • เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการรักษา ควรเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง ให้ครบ 3 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่าง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ในบางรายที่เป็นหนักอาจต้องทำการรักษามากกว่า 3 ครั้งหรือ 6  ครั้ง

        AviClear AviClear

        AviClear AviClear

        AviClear ใช้ระยะเวลาในการรักษาแต่ละครั้งกี่นาที

        • AviClear ใช้ระยะเวลาในการรักษาแต่ละครั้งประมาณ 30 นาที ไม่รวมทำความสะอาดใบหน้า

        AviClear รักษารอยแผลเป็นจากสิวได้ด้วยหรือไม่

        • AviClear  สามารถรักษาสิวได้ ทั้งยังได้รับการรับรองจาก อย. ของประเทศแคนาดา (Health Canada) เกี่ยวกับด้านการรักษารอยแผลเป็นจากสิวอีกด้วย

        AviClear AviClear

        AviClear AviClear

        ระบบทำความเย็นใน AviClear ที่มีชื่อว่า AviCool คืออะไร ทำงานอย่างไร

        • ช่วยปกป้องผิวชั้นนอก จากการลดอุณหภูมิของผิวในขณะทำการรักษา
        • มีระบบทำความเย็น ทั้งก่อน ขณะ และหลังการปล่อยพลังงาน
        • เครื่อง AviClear มีระบบทำความเย็นก่อนยิงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
        • จะใช้อุณหภูมิที่มีความเย็นมาก ในช่วงก่อนปล่อยพลังงานเลเซอร์ เนื่องจากจะทำให้หลังจากการปล่อยพลังงานจากเครื่อง AviClear แล้วอุณหภูมิคลื่นจะไม่สูงจนเกินไป
        • ระบบทำความเย็นหลังปล่อยพลังงาน ช่วยปกป้องผิวหนังชั้นนอก ไม่ให้ร้อนขึ้นจากการระบายความร้อนใต้ผิว

        ข้อจำกัดของ AviClear Laser มีอะไรบ้าง

        • หากเป็นโรคเริม ในขณะแสดงอาการ ไม่แนะนำให้ทำ AviClear หากคนไข้มีประวัติ การเป็นโรคเริม แนะนำให้ทานยาต้านไวรัสก่อนมาทำการรักษา 1-2 วัน และทานต่อเนื่องจนครบ 5 วันเพื่อป้องกันการลุกลามของอาการ
        • ผู้ที่เป็นมะเร็งผิวหนัง หรือมีประวัติการเป็นมะเร็งผิวหนังที่ผ่านการผ่าตัดรักษาแล้ว อยู่ในข้อควรระวังที่ต้องปรึกษาและให้แพทย์ประเมินก่อนทำ AviClear
        • ผู้ที่เป็นแผลคีย์ลอย หรือมีประวัติการเป็น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการประเมินการรักษาอย่างละเอียดก่อนทำ AviClear
        • ผู้ที่มีผิวไหมจากการโดนแดด กลุ่มนี้จะมีผิวที่เกิดการระคายเคืองง่าย แนะนำในพักผิว 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ AviClear เหมือนกันกับเครื่องเลเซอร์ ชนิดอื่นๆ
        • ในกรณีรับประทานยากลุ่ม anti coagulant (ยาต้านการแข็งตัวของเลือด) ควรปรึกษาแพทย์โดยละเอียดเพื่อวางแผนการรักษาก่อนทำ AviClear

        สิวมีกี่ทั้งหมดประเภท

        การแบ่งประเภทของสิว สามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก และสามารถแบ่งแยกย่อยลงไปอีกได้ดังนี้

        1. สิวอักเสบ

        สิวอักเสบ เป็นสิวที่เกิดขึ้นจากการอักเสบของรูขุมขนรวมทั้งต่อมไขมันบนผิวหนัง เมื่อรูขุมขนเกิดการอุดตันจากน้ำมันบวกกับเซลล์ผิวต่างๆที่ตายไปแล้วแต่ยังคงเกาะอยู่ตามผิวหนังทั้งยังมีเชื้อแบคทีเรียจากสิ่งสกปรกในชีวิตประจำวัน รวมตัวเข้าด้วยกัน จึงทำให้ผิวหนัง และรูขุมขนดังกล่าวเกิดการอักเสบขึ้น จึงส่งผลให้ผิวนั้นมีลักษณะบวมแดง เจ็บ และอาจมีหนอง ร่วมด้วย ซึ่งก็คือสิวที่เรารู้จักกันนั่นเอง โดยสิวจำนวกนี้สามารถแยกย่อยออกไปอีกได้ดังนี้

        • สิวตุ่มแดง จะเป็นสิวที่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเพียงเป็นตุ่มนูนแดง ขึ้นมาเฉยๆ โดยจะไม่มีอาการคัน หรือเจ็บร่วมด้วย
        • สิวหัวหนอง จะเป็นสิวที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้ผิวเกิดการอักเสบขึ้น มีลักษณะเป็นสิวขนาดเล็ก และที่มีหัวที่เป็นหนองอยู่ด้านใน อาจทำให้เจ็บ หรือคัน เวลาสัมผัส
        • สิวอักเสบขนาดใหญ่ จะเป็นสิวที่มีลักษณะการอักเสบรุนแรงมากกว่าสิวชนิดอื่นๆ มีรูปร่างเป็นสิวที่เป็นตุ่มนูน บวมแดงขนาดใหญ่ ในบางทีอาจมีหนองร่วมด้วย เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บ และคัน
        • สิวหัวช้าง จะเป็นสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่ สิวชนิดนี้จะฝังตัวอยู่ลึกใต้ผิวหนัง หากเป็นจะมีความเจ็บปวดร่วมด้วย ร้ายแรงยิ่งกว่าคือหากเป็นสิวชนิดนี้และมีการอักเสบจะมีความรุนแรงมากที่สุด โดยเชื้อโรคจากสิวชนิดนี้จะสามารถกระจายไปทั่วทุกบริเวณ อวัยวะที่เกิดสิว ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ลำคอ หลัง ได้ เเมื่อเป็นแล้วควรได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี

        2. สิวไม่อักเสบ

        สิวไม่อักเสบ เรียกอีกอย่างได้ว่า สิวอุดตัน (หรือ Non-inflammatory acne) เป็นสิวที่เกิดขึ้นจากการที่รูขุมขนของคนเรานั้นเกิดการอุดตันด้วยขึ้นด้วยน้ำมันส่วนเกิน บวกกับเซลล์ผิวของเราที่ตายแล้ว รวมกันอยู่ในรูขุมขนโดยยังไม่มีการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรก จึงทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดง หรืออาการเจ็บปวดเหมือนสิวประเภทแรก โดยสิวชนิดนี้สามารถจะแบ่งชนิดออกได้ดังนี้

        • สิวหัวขาว มีลักษณะเป็นสิวที่มีขนาดตุ่มเล็ก ๆ สีขาว เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนที่ลึกลงไป แต่จะไม่มีการอักเสบร่วมด้วย สิวชนิดนี้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าผื่น หรือผด แต่ข้อควรระวังคือสิวหัวขาวนั้นเป็นสิวที่สามารถติดเชื้อและอักเสบได้ในอนาคต โดยจะไม่อักเสบทันทีแต่จะเป็นการอักเสบจากกระตุ้น คือการบีบ หรือแกะสิว
        • สิวหัวดำ มีลักษณะเป็นสิวตุ่มเล็ก ๆ มีสีดำ อันเกิดจากการอุดตันที่เกิดจากรูขุมขนที่เกิดการออกซิไดซ์จากน้ำมันบนใบหน้าและเซลล์ผิว จึงเกิดเป็นสีดำเมื่อได้สัมผัสกับอากาศ เราจึงสามารถมองเห็นสิวประเภทนี้ได้ชัดเจน มักจะอยู่บริเวณรูขุมขน สามารถรักษาให้หายได้

        อะไรคือสาเหตุของการเกิดสิว

        การเกิดสิว เป็นสิ่งที่มีสาเหตุการเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย อาทิ ฮอร์โมนในร่างกาย อาหารการกิน พันธุกรรม การดูแลผิวหน้า ครีม หรือเครื่งสำอางที่ใช้ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การใช้ชีวิตประจำวัน ความเครียด ก็เป็นสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ทั้งสิ้น แต่ในบางคนดูแลผิวหน้าเป็นอย่างดีก็สามารถเกิดสิวได้ เนื่องจากสิวเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยตามที่กล่าวมาข้างต้น โดยเป็นปัจจัยที่ทั้งมองเห็น และมองไม่เห็น

        • สิวเกิดจากน้ำมันส่วนเกิน เป็นสิวที่เกิดจากต่อมน้ำมันใต้ผิว เกิดการผลิตไขมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป จนทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
        • สิวเกิดจากเซลล์ผิวตาย เป็นสิวที่เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ผิวที่ตาย เกิดการผลัดและหลุดหลุดออกไม่หมด จึงส่งผลให้เข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนร่วมกับน้ำมัน ทำให้เกิดสิว
        • สิวเกิดจากแบคทีเรีย เป็นสิวที่ได้จากแบคทีเรียชนิด P. acnes หรือชื่อใหม่ C.acnes เป็นแบคที่เรียที่อยู่ในรูขุมขน และเกิดการอักเสบขึ้น
        • สิวเกิดจากฮอร์โมน ในผู้ที่มีฮอร์โมนสูง ร่างกายจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันเกิดการผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณมากเกินไป โดยจะพบในกลุ่มวัยรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน วัยกำลังโต หรือที่เรียกกันอย่างติดปากว่าสิวสาวนั่นเอง 
        • สิวเกิดจากพันธุกรรม สิวจากพันธุกรรม มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีครอบครัว หรือประวัติคนในครอบครัวเคยมีประวัติการเป็นสิวนั้น จึงทำให้คนกลุ่มนี้ มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้ง่ายมากกว่าคนอื่นๆ เและสิวเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
        • สิวเกิดจากโรคบางชนิด โรคบางชนินนั้นมีส่วนในการทำให้ฮอร์โมนเพศสูงขึ้น เมื่ออร์โมนเพศสูงขึ้นจึงทำให้เกิดสิวได้ เช่นกัน
        • สิวเกิดจากการดูแลผิวไม่ถูกวิธี การหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ทำให้มีข้อมูลทั้นถูกและผิดที่ทำให้เกิดการเลียนแบบและทำให้ทำความสะอาดสะอาดผิวหน้าได้อย่างไม่ถูกต้อง รวมทั้งการซื้อครีม หรือซื้อเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิวของเรา
        • สิวเกิดจากอาหาร การรับประทานอาหารบางชนิดสามารถทำให้เกิดสิวได้ อาทิ อาหารที่มีความมัน อาหารทอด นม หรืออาหารหวาน แพทย์จึงให้ปรับการรับประทานอาหารเพื่อรักษาสิว
        • สิวเกิดจากความเครียด เป็นการกระตุ้นฮอร์โมน ส่งผลให้เกิดสิว
        • สิวเกิดจากการใช้ยาบางชนิด ยาบางชนิดมีส่วนผสม หรือสารที่ส่งผลให้เกิดสิวได้

        วิธีรักษาสิว มีอะไรบ้าง?

        สิว เรียกได้ว่าเป็นปัญหาผิวที่มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับเล็ก ไปจนถึงความรุนแรงที่สูง การรักษาสิวนั้นก็สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การรักษาด้วยตัวเอง และการรักษาโดยแพทย์ รวมถึงการรักษาด้วยหัตถการที่จะช่วยรักษาได้อย่างตรงจุด โดยการรักษาสิวจะมุ่งเน้นไปที่การทำให้สิวยุบตัวลง พร้อมหยุดการเกิดสิวใหม่ และป้องกันการเกิดรอยสิว รอยแผลเป็น ดังนี้

        1. การใช้ยาทาภายนอก เช่น เจลแต้มสิว ยารักษาสิว
        2. การใช้ยารับประทานยาปฏิชีวนะ เช่น ยาปรับฮอร์โมน หรือในยาบางชนิดที่ช่วยลดสิว
        3. การดูแลผิว เช่น การทำความสะอาดผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิว 
        4. การรักษาด้วยหัตถการ เช่น การกดสิว การทำเลเซอร์สิว AviClear laser

        AviClearAviClear

        AviClear AviClear

        ใครที่ผ่านการรักษาสิวมาแล้วทุกรูปแบบ แต่ก็ยังไม่หายสักที จนกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความกังวลใจ จนเป็นผลถึงการใช้ชีวิตต้องลอง AviClear เพราะทำครั้งเดียวเห็นผลในระยะยาวถึง 2 ปี โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสิวอีก ทำได้ในทุกประเภทของสิว ทุกสีผิว และทุกประเภทของสิว ปลอดภัย ได้รับ FDA รับประกัน 

        ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาสิวที่รมย์รวินท์คลินิกพร้อมทั้งให้แพทย์ประเมินการรักษาเบื้องต้น ก่อนทำการรักษา เพื่อความปลอดภัยในการรักษาหรือทักเข้ามาช่องทางออนไลน์ทุกช่องทาง เพื่อปรึกษาปัญหาต่างๆได้ทั้งช่องทางไลน์ https://bit.ly/RomrawinLINE และ Facebook หรือลงทะเบียนทางช่องลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

        ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ




          วันที่สะดวกในการติดต่อ




          เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว

          รอยสิวเก่าไป รอยสิวใหม่มา “รักษาสิว” กับ Nupico ช่วยปรับผิวให้เนียนเรียบขึ้น

          Nupico

          สำหรับคนที่เคยรักษาสิวมาแล้ว มีหลายคนไม่น้อยที่ต้องเจอปัญหาสิวอักเสบเรื้อรัง สิวดื้อยา เคยรักษาแล้วไม่หายหาดสักที ซ้ำร้ายยังฝากร่องรอยจากสิวให้ปวดใจ ไม่ว่าจะเป็นผิวหลุมโลกพระจันทร์ จุดด่างดำ เก่าไปใหม่มาไม่รู้จบ สารพัดสารเพใช้แนวทางการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราได้

          รู้ไหม รมย์รวินท์ คลินิค มีทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาสิว ด้วย NuPicoLaser เทคโนโลยีน้องใหม่ มาให้บริการด้านความงามที่ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแล ปรนนิบัติผิวโดยเฉพาะ เพราะการรักษาผิวไม่ใช่การรักษาแค่เพียงภายนอกเท่านั้น การรักษานั้นต้องเริ่มตั้งแต่ภายในมาสู่ภายนอก จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผิวจะต้องถูกฟื้นฟูสุขภาพผิวภายในควบคู่กับการฟื้นฟูบำรุงผิวภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหาผิวให้หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ

          NuPico คืออะไร

          NuPico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น  เทคโนโลยีของNupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้พลังงานคลื่อนพลังงานที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

          ข้อดี ของ NuPico Laser

          • ใช้พลังงานอันสั้น และสูงมาก ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้ละเอียด
          • ใช้เวลาในการักษาน้อย ช่วยให้ริ้วรอยของผิวจางหายได้เร็วขึ้น
          • การรักษาเจ็บน้อย
          • ไม่มีผลข้างเคียง หลังการรักษา ไม่เป็นแผล
          • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

          เรื่องของสิวๆ  ไม่ใช่เรื่องกรรม หรือ กรรมพันธุ์ ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด ต้นเหตุเกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธีต่างหาก ส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้รักษายังไงไม่หายขาดสักที  วิธีการรักษาอย่างถูกวิธี คือการทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวชุ่มชื่น ผิวระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่มีสิ่งสกปรกอุดตัน หากผิวระบายอากาศไม่ดี จะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ดังนั้นการรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดี สามารถทำให้สิวหายขาด เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน  เรื่องของผิว ให้รมย์รวินท์ คลินิค ดูแลนะค่ะ แล้วคุณจะเห็นถึงความต่าง…

          กังวลใจจากสิวอยู่ มั้ย!!!“รักษาสิว” ด้วย Nupico Laser

          Nupico Laser

          ปัญหาความไม่มั่นใจ กังวลใจจากสิว ที่ต้องเผชิญอยู่ ทำอย่างไรไม่หายสักที ปัญหาเรื่องของสิว มันไม่จิ๋วแล้วสินะ การเกิดสิวนั้นมีหลายรูปแบบ และ แตกต่างกันไปตามแต่สภาพผิวของแต่ละคน แต่ไม่ทุกคนที่จะทราบว่าแท้จริงแล้วสิวที่ตัวเองเป็นอยู่เรียกว่าสิวอะไร เรามาทำความรู้จักสิวแต่ละชนิดกันเถอะ..

          1. สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จนปรากฏออกมาเป็นสิวในลักษณะต่าง ๆ มักทำให้เกิดการเจ็บปวดหากสัมผัสโดนผิวบริเวณนั้น

          สิว อักเสบมี 4 ชนิด ด้วยกัน

          • สิวตุ่มแดง มีลักษณะเป็นตุ่มแดง เป็นก้อนนูนขึ้น และมีอาการเจ็บปวด
          • สิวหัวหนอง เกิดจากการอักเสบบริเวณต่อมเหงื่อ และ รูขุมขน ลักษณะเป็นตุ่มหนองสีขาวตรงบริเวณหัวสิว
          • สิวก้อนลึก ลักษณะตุ่มสิวทั่วไป แต่ตุ่มจะเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ลึกลงไปในชั้นผิวหนัง
          • สิวซีสต์ เป็นตุ่มสิวขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายฝี ภายในเป็นหนองอักเสบ เป็นสิวชนิดที่รุนแรงและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดมากที่สุด

          2. สิวอุดตัน  คือ สิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มอุดตันใต้ผิวหนัง เป็นสิวชนิดที่ไม่เกิดการอักเสบ เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน มักพบได้ที่บริเวณหน้าผาก และคาง

          สิวอุดตันมี 2 ชนิด ได้แก่

          • สิวหัวดำหรือสิว หัวเปิด จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำปรากฏบนผิวหนัง เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมัน แล้วโผล่พ้นขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจน ทำให้ไขมันเปลี่ยนเป็นสีดำ
          • สิวหัวขาว หรือสิวหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆสีขาวบนผิวหนัง เกิดขากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันภายในรูขุมขน ใต้ผิวจึงมองเห็นเป็นจุดสีขาวอุดตันอยู่บนผิวหนัง

          3. สิวผดผื่น คือ สิวที่มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ใส ๆ เป็นสิวที่แสดงอาการเมื่ออากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งเกิดขึ้นได้ง่าย และ มาก

          4. สิวสเตียรอยด์  คือ มีลักษณะเป็นเม็ดแดง ๆ ขึ้นกระจายทั่วทั้งใบหน้า หรือเป็นกระจุกในบริเวณใด บริเวณหนึ่ง แต่จะขึ้นมาเยอะมากบริเวณที่ทาครีม หรือยาที่มีสเตียรอยด์บริเวณนั้นเยอะ

          รู้จักสิว  เข้าใจสิว การรักษาก็ง่ายขึ้น การรักษาตั้งแต่ต้นเหตุของการเกิดสิว นั้นเป็นวิธีที่ถูกต้อง ส่วนมากคนที่รักษาไม่หายขาดสักที เกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธี โดยส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้การรักษาไม่เห็นผล สิวกลับมาใหม่ เป็นเป็นหาย ๆ เป็นวงจร ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ ได้มองเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้นำนวัตกรรมตัวใหม่ที่ทันสมัยอย่างNupico Laser มาใช้ในการช่วยฟื้นฟูรักษาผิวได้ครบอย่างครอบคลุมจบทุกปัญหาผิว

          คุณสมบัติของ Nupico Laser

          นวัตกรรมใหม่ Nupico Laser จากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถลบปานดำ ปานน้ำตาล ลบรอยสักได้หลากสี และขจัดรอยด่างดำ  ริ้วรอย กลบหลุมสิว รวมถึงปัญหาผิวที่ไม่พึงปรารถนา ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใต้ชั้นผิวได้อย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวพรรณกลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลังการรักษาอย่างเลเซอร์รุ่นเดิมๆ.

          ดังนั้นวิธีการรักษาอย่างถูกวิธี สามารถทำให้สิวหายขาดได้ เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน การทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวไม่มีสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขนช่วยลดปัญหาผิวได้  หากผิวระบายอากาศไม่ดีจะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว การรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่น  ผิวเปล่งปลั่ง เต่งตึง ไร้ซึ่งปัญหาผิว สิวไม่มาเยือนอีกต่อไป  …

          ดีต่อใจ!!! ปราบรอยสิว เติมหลุมสิว “รักษาสิว” ด้วย Nupico

          231

          ปัญหาความไม่มั่นใจจากสิวเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเจอกันมาแล้วไม่มากก็น้อย อีกทั้งเคยรักษามาหลายต่อหลายครั้ง ไม่หายหาดสักที ซ้ำร้ายยังฝากร่องรอยจากสิวให้ปวดใจ ไม่ว่าจะเป็นผิวหลุม จุดด่างดำ เก่าไปใหม่มาไม่รู้จบ

          ปัจจุบันทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาสิว ด้วย Laser อย่างNuPico เทคโนโลยีน้องใหม่มาแรง เข้า มาให้บริการด้านความงามที่ถูกออกแบบมาเพื่อการแก้ไขปัญหาผิวโดยเฉพาะ เพราะการแก้ปัญหาผิว ไม่ใช่การรักษาแค่เพียงภายนอกเท่านั้น การรักษาตั้งแต่ภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะต้องฟื้นฟูสุขภาพผิวภายในควบคู่กับการฟื้นฟูบำรุงผิวภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

          NuPico คืออะไร

          Nupico เป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศสหรัฐอเมริกา NupicoLaser สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถลบปานดำ ปานน้ำตาล รอยสักหลากหลายๆ สี และช่วยจัดการรอยด่างดำ ผิวหมองคล้ำที่ไม่พึงปรารถนาได้ดี ช่วยทำให้ผิวพรรณกลับมากระจ่างใสเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลังจากการรักษาอย่างเลเซอร์รุ่นเดิม  NiPico Laser ทำงานอย่างไร

          • NuPico Laser เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นแสงเลเซอร์คลื่นพลังานความถี่ที่สั้นที่สุด เข้าไปทำลายเม็ดสีที่รวมตัวกันให้แตกละเอียด   ซึ่งแตกต่างจากการทำงานของเครื่องเลเซอร์รุ่นเดิมๆ   จึงสามารถทำให้เม็ดสีที่เรียงตัวกันอย่างหนาแน่นเป็นกระจุก เกิดการแตกตัวจนกลายเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุด และจะถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ
          • NuPico Laser  มีความปลอดภัยสูง ด้วยกลไก Photoacoustic คลื่นความถี่พลังงานแสงถูกดูดกลืนจนเกิดเป็นแรงดันและแตกกระจายออก โดยไม่ทำให้เกิดการสะสมความร้อนในบริเวณข้างเคียง แสงเลเซอร์จะเลือกจับเฉพาะรอยดำที่กระจุกตัวให้แตกกระจายเท่านั้น จึงทำให้ผิวข้างเคียงไม่ถูกทำลายไปด้วย นอกจากนี้ พลังงานแสงที่มีความถี่สูงมาก จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนสสารเป็นแรงดันเล็กๆ ในระดับนาโนกระจายทั่วผิวหนังในระดับคอลลาเจนลึก ทำให้เกิดการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนใหม่ขึ้นจำนวนมาก ช่วยฟื้นฟูให้ผิวมีความแน่น เรียบเนียน กระจ่างใส ริ้วรอยจึงค่อย ๆ จางลดลง

          NuPico Laser รักษาอะไรได้บ้าง

          • รักษาปัญหารอยดำ เช่น กระ กระแดด จุดด่างดำ
          • ลบปานดำ ปานน้ำตาล
          • ลบรอยสักต่างๆ ได้ทุกสี
          • รักษาริ้วรอยแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น, ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ผิวหมองคล้ำ
          • ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเสื่อมสภาพ
          • รักษาแผลเป็นจากหลุมสิว
          • แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ

          การรักษาปัญหาผิวที่เกิดจากสิว ต้องได้รับการรักษาจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะด้าน สาวๆ คงรู้ๆ กันอยู่แล้วว่ามีความยากลำบากแค่ไหน และต้องใช้เวลายาวนานมากในการรักษา หากรักษาไม่ดีก็อาจได้รับผลข้างเคียง ทำให้การรักษาเกิดความยุ่งยากมากขึ้นด้วย นวัตกรรมใหม่ NuPico Laser ถือได้ว่าเข้ามาเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการความงาม ด้วยการใช้เลเซอร์รักษาผิวที่สามารถทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติจางลง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกในการรักษา อีกทั้งยังไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์รุ่นเก่าการรักษาไม่ทำให้เจ็บ ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้จากความร้อนของเลเซอร์ สามารถทำการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน อ่อนเยาว์ กระจ่างใส ได้ดังเดิม..

          เปลี่ยนหน้าสิว เป็นหน้าใส “รักษาสิว” ด้วย nupico

          nupico

          ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยที่สุดปัญหาหนึ่ง คงหนีไม่พ้นเรื่องของสิว เมื่อเกิดขึ้นกับใครแล้วคงต้องมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย แถมยังส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างมาก แล้ววิธีไหนจะเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด คงไม่ใช่การขัดผิวลอกผิว หรือการทำทรีทเม้นท์ แต่การรักษาควรรักษาที่ต้นสาเหตุของการทำให้เกิดสิว เพื่อให้เกิดผลการรักษาที่ดีที่สุด เพื่อคงสภาพของผิวในระยะยาว

          สาเหตุของการเกิดสิว

          สิวเกิดจากการอุดตันในรูขุมขนทำให้ปิดทางออกของน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว สิวสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่ส่วนมากมักจะพบได้มากในวัยรุ่น เนื่องจากในวัยรุ่นมีฮอร์โมนกระตุ้นการาสร้างน้ำมันมากกว่าวัยอื่นๆซึ่งเกิดขึ้นได้จากสาเหตุดังนี้

          1. เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ซึ่งผิวจะผลัดเซลล์ผิวออกมาตามธรรมชาติ แต่ขับออกไม่หมดทำให้ตกค้างในรูขุมขนกลายเป็นตุ่ม หรือสิวเกิดขึ้น
          2. เกิดจากสิ่งกระตุ้นซึ่งทำให้ผิวมีการผลิตน้ำมันเลี้ยงผิวมากขึ้นกว่าปกติ เช่น ฮอร์โมน ความเครียด การอดนอน อากาศร้อน หรือพฤติกรรมที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองต่อผิว เช่น การสครับผิวบ่อยเกินไป การจับ แคะ แกะเกา และการใช้เครื่องสำอางค์   ส่งผลกระตุ้นทำให้ผิวต้องผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นโดยธรรมชาติเพื่อลดอาการการระคายเคืองของผิว
          3. เกิดจากขนอ่อน โดยปกติจะหลุดออกไปเองตามธรรมชาติ เมื่อขนอ่อนขึ้นมากเกินไปและไม่หลุดออก ทำให้เกิดการรวมตัวกับน้ำมันในรูขุมขนทำให้เกิดการอุดตันในชั้นผิวหนัง จนกลายเป็นสิวขึ้น

          สภาพปัญหาผิว สาเหตุของการเกิดสิวต้องรักษาให้ตรงจุด ปัจจุบัน ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ คลินิค ได้นำนวัตกรรมน้องใหม่เข้ามาเป็นตัวช่วยในการรักษาปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี  Nupico Laser ซึ่งเน้นหลักการฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง ควบคู่กับการรักษาที่ปลอดภัยไม่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ มาให้บริการแล้ว

          NuPicoLaser คืออะไร

          Nupico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนฟื้นฟูผิวใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น  เทคโนโลยีของNupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้คลื่อนพลังงานที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการรักษาเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

          NuPico Laser รักษาอะไรได้บ้าง

          • รักษาปัญหารอยดำ เช่น กระ กระแดด จุดด่างดำ
          • ลบปานดำ ปานน้ำตาล
          • ลบรอยสักต่างๆ ได้ทุกสี
          • รักษาริ้วรอยแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น, ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ผิวหมองคล้ำ
          • ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเสื่อมสภาพ
          • รักษาแผลเป็นจากหลุมสิว
          • แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ

          ดังนั้นการรักษาสิวแบบยั่งยืน โดยไม่ใช้ยา หรือสารเคมี ที่ส่งผลทำให้หน้าบางแดง ผิวแห้งแพ้ง่าย ต้องเข้าใจถึงสภาพปัญหาผิวเป็นอย่างดี การรักษาสิวแบบยั่งยืนนั้นเราจะต้องไม่ใช้ยาหรือสารเคมีใดๆ ที่อาจส่งผลทำให้ผิวหนังบาง แห้ง แดง เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้  ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตอนนี้ กับนวัตกรรมตัวใหม่อย่าง NuPico Laser เป็นตัวเลือกอีกตัวที่น่าสนใจไม่น้อยในการรักษาปัญหาผิวกับผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยให้ผิวคงสภาพความแข็งแรง คงความอ่อนเยาว์ของผิว ได้ผิวที่เรียบเนียนกลับมาอยู่กับเราได้อย่างยาวนานขึ้น..

          กังวลใจจากสิวอยู่ มั้ย!!!“รักษาสิว” มาลบรอยสิวกระตุ้นคอลลาเจนฟื้นฟูผิวกัน..

          สิว

          ปัญหาความไม่มั่นใจ กังวลใจจากสิว ที่ต้องเผชิญอยู่ ทำอย่างไรไม่หายสักที ปัญหาเรื่องของสิว มันไม่จิ๋วแล้วสินะ การเกิดสิวนั้นมีหลายรูปแบบ และ แตกต่างกันไปตามแต่สภาพผิวของแต่ละคน แต่ไม่ทุกคนที่จะทราบว่าแท้จริงแล้วสิวที่ตัวเองเป็นอยู่เรียกว่าสิวอะไร เรามาทำความรู้จักสิวแต่ละชนิดกันเถอะ..

          1. สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จนปรากฏออกมาเป็นสิวในลักษณะต่าง ๆ มักทำให้เกิดการเจ็บปวดหากสัมผัสโดนผิวบริเวณนั้น

          สิว อักเสบมี 4 ชนิด ด้วยกัน

          • สิวตุ่มแดง มีลักษณะเป็นตุ่มแดง เป็นก้อนนูนขึ้น และมีอาการเจ็บปวด
          • สิวหัวหนอง เกิดจากการอักเสบบริเวณต่อมเหงื่อ และ รูขุมขน ลักษณะเป็นตุ่มหนองสีขาวตรงบริเวณหัวสิว
          • สิวก้อนลึก ลักษณะตุ่มสิวทั่วไป แต่ตุ่มจะเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ลึกลงไปในชั้นผิวหนัง
          • สิวซีสต์ เป็นตุ่มสิวขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายฝี ภายในเป็นหนองอักเสบ เป็นสิวชนิดที่รุนแรงและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดมากที่สุด

          2. สิวอุดตัน  คือ สิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มอุดตันใต้ผิวหนัง เป็นสิวชนิดที่ไม่เกิดการอักเสบ เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน มักพบได้ที่บริเวณหน้าผาก และคาง

          สิวอุดตันมี 2 ชนิด ได้แก่

          • สิวหัวดำหรือสิว หัวเปิด จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำปรากฏบนผิวหนัง เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมัน แล้วโผล่พ้นขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจน ทำให้ไขมันเปลี่ยนเป็นสีดำ
          • สิวหัวขาว หรือสิวหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆสีขาวบนผิวหนัง เกิดขากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันภายในรูขุมขน ใต้ผิวจึงมองเห็นเป็นจุดสีขาวอุดตันอยู่บนผิวหนัง

          3. สิวผดผื่น คือ สิวที่มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ใส ๆ เป็นสิวที่แสดงอาการเมื่ออากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งเกิดขึ้นได้ง่าย และ มาก

          4. สิวสเตียรอยด์  คือ มีลักษณะเป็นเม็ดแดง ๆ ขึ้นกระจายทั่วทั้งใบหน้า หรือเป็นกระจุกในบริเวณใด บริเวณหนึ่ง แต่จะขึ้นมาเยอะมากบริเวณที่ทาครีม หรือยาที่มีสเตียรอยด์บริเวณนั้นเยอะ

          รู้จักสิว  เข้าใจสิว การรักษาก็ง่ายขึ้น การรักษาตั้งแต่ต้นเหตุของการเกิดสิว นั้นเป็นวิธีที่ถูกต้อง ส่วนมากคนที่รักษาไม่หายขาดสักที เกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธี โดยส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้การรักษาไม่เห็นผล สิวกลับมาใหม่ เป็นเป็นหาย ๆ เป็นวงจร ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น ศูนย์บริการความงาม รมย์รวินท์ ได้มองเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้นำนวัตกรรมตัวใหม่ที่ทันสมัยอย่าง Nupico Laser มาใช้ในการช่วยฟื้นฟูรักษาผิวได้ครบอย่างครอบคลุมจบทุกปัญหาผิว

          คุณสมบัติของ Nupico Laser

          นวัตกรรมใหม่ Nupico Laser จากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดี อีกทั้งยังสามารถลบปานดำ ปานน้ำตาล ลบรอยสักได้หลากสี และขจัดรอยด่างดำ  ริ้วรอย กลบหลุมสิว รวมถึงปัญหาผิวที่ไม่พึงปรารถนา ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใต้ชั้นผิวได้อย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวพรรณกลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลังการรักษาอย่างเลเซอร์รุ่นเดิมๆ.

          ดังนั้นวิธีการรักษาอย่างถูกวิธี สามารถทำให้สิวหายขาดได้ เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน การทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวไม่มีสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขนช่วยลดปัญหาผิวได้  หากผิวระบายอากาศไม่ดีจะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว การรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่น  ผิวเปล่งปลั่ง เต่งตึง ไร้ซึ่งปัญหาผิว สิวไม่มาเยือนอีกต่อไป  …

          NuPicoLaser “รักษาสิว”รักษาสิวๆ ผิวไม่เรียบ

          NuPicoLaser

          หลายคนคงจะมีปัญหาเรื่องการแยกประเภทของสิวไม่ออก  ไม่เข้าใจว่าสิวที่ตัวเองเป็นอยู่เป็น สิวชนิดไหน นี่คือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การรักษาสิวไม่ประสบความสำเร็จ ไม่หายขาดสักที การเลือกใช้วิธีในการรักษาสิวไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี การเลือกทรีทเมนท์ หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ทีไม่ถูกกับปัญหาที่เป็นอยู่  กลับกลายเป็นการซ้ำเติมผิว มากกว่าการแก้ปัญหาผิว ในบางคนเป็นสิวหนักมากกว่าเดิม ส่งผลทำให้การรักษาสิวที่ผ่านมาไม่เห็นผลสักที และทำให้หลาย ๆคนกลายเป็นสิวเรื้อรังก่อนที่เราคิดจะหาสถานที่รักษาสิวที่ไหนดี วันนี้เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าเค้าใช้วิธีการอะไรในการช่วยรักษาสิวให้หายไปจากหน้าเราได้เสียที

          NuPicoLaser คืออะไร

          Nupico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนฟื้นฟูผิวใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น   ด้วยเทคโนโลยีของ Nupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้คลื่นพลังงานความถี่ที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการรักษาเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

          ข้อดี ของ NuPicoLaser

          • ใช้พลังงานที่สั้น และสูงมาก ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด
          • ใช้เวลาในการักษาน้อย ช่วยให้ริ้วรอยของผิวจางหายได้เร็วขึ้น
          • การรักษาทำให้เจ็บน้อย
          • ไม่มีผลข้างเคียง หลังการรักษา ไม่เป็นแผล
          • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

          NuPicoLaser รักษาอะไรได้บ้าง

          • รักษาปัญหารอยดำ เช่น กระ กระแดด จุดด่างดำ
          • ลบปานดำ ปานน้ำตาล
          • ลบรอยสักต่างๆ ได้ทุกสี
          • รักษาริ้วรอยแห่งวัยที่เพิ่มขึ้น, ฝ้าตื้น ฝ้าลึก ผิวหมองคล้ำ
          • ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเสื่อมสภาพ
          • รักษาแผลเป็นจากหลุมสิว
          • แก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ

          การรักษาผิวด้วยเทคโนโลยี นั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการรักษาปัญหาผิว และด้วยนวัตกรรมตัวใหม่อย่าง Nupico Laser  จากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ดีและที่สำคัญได้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวโดยเฉพาะ ประสิทธิภาพของพลังงาน NupicoLaser ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสภาพผิวหน้า ที่เป็นอุปสรรคของความกระจ่างใสและเรียบเนียนบนใบหน้า รวมถึงรอยสักและรอยด่างดำต่างๆ บนร่างกาย ที่ทำให้ผิวพรรณดูหม่นหมอง สีผิวไม่สม่ำเสมอให้กลับมาเรียบเนียนสวยใสได้อีกครั้ง และนี่เป็นเพียงบางส่วนที่เราแนะนำเท่านั้น รมย์รวินท์ คลินิค ยังมีการบริการด้านความงามอย่างครบครัน เรื่องปัญหาผิว รมย์รวินท์ ช่วยได้นะค่ะ…

          รอยสิวเก่าไป รอยสิวใหม่มา “รักษาสิว” กับ NuPico ช่วยปรับผิวให้เนียนเรียบขึ้น

          NuPico

          สำหรับคนที่เคยรักษาสิวมาแล้ว มีหลายคนไม่น้อยที่ต้องเจอปัญหาสิวอักเสบเรื้อรัง สิวดื้อยา เคยรักษาแล้วไม่หายหาดสักที ซ้ำร้ายยังฝากร่องรอยจากสิวให้ปวดใจ ไม่ว่าจะเป็นผิวหลุมโลกพระจันทร์ จุดด่างดำ เก่าไปใหม่มาไม่รู้จบ สารพัดสารเพใช้แนวทางการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราได้

          รู้ไหม รมย์รวินท์ คลินิค มีทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาสิว ด้วย NuPicoLaser เทคโนโลยีน้องใหม่ มาให้บริการด้านความงามที่ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแล ปรนนิบัติผิวโดยเฉพาะ เพราะการรักษาผิวไม่ใช่การรักษาแค่เพียงภายนอกเท่านั้น การรักษานั้นต้องเริ่มตั้งแต่ภายในมาสู่ภายนอก จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผิวจะต้องถูกฟื้นฟูสุขภาพผิวภายในควบคู่กับการฟื้นฟูบำรุงผิวภายนอก เพื่อแก้ไขปัญหาผิวให้หายไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ

          NuPico คืออะไร

          NuPico Laser คือ นวัตกรรมใหม่ ในการใช้เลเซอร์รักษาผิว ช่วยในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น  เทคโนโลยีของ Nupico Laser มีระบบการทำงานแบบใช้พลังงานคลื่อนพลังงานที่สูงใช้ระยะเวลาที่สั้นมากในการเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างละเอียด

          ข้อดี ของ NuPico Laser

          • ใช้พลังงานอันสั้น และสูงมาก ทำให้เม็ดสีแตกตัวได้ละเอียด
          • ใช้เวลาในการักษาน้อย ช่วยให้ริ้วรอยของผิวจางหายได้เร็วขึ้น
          • การรักษาเจ็บน้อย
          • ไม่มีผลข้างเคียง หลังการรักษา ไม่เป็นแผล
          • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

          เรื่องของสิวๆ  ไม่ใช่เรื่องกรรม หรือ กรรมพันธุ์ ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด ต้นเหตุเกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธีต่างหาก ส่วนมากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้รักษายังไงไม่หายขาดสักที  วิธีการรักษาอย่างถูกวิธี คือการทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวชุ่มชื่น ผิวระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่มีสิ่งสกปรกอุดตัน หากผิวระบายอากาศไม่ดี จะทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ดังนั้นการรักษาให้ผิวหน้าแข็งแรงสุขภาพดี สามารถทำให้สิวหายขาด เป็นการรักษาสิวที่ได้ผลอย่างยั่งยืน  เรื่องของผิว ให้รมย์รวินท์ คลินิค ดูแลนะค่ะ แล้วคุณจะเห็นถึงความต่าง…

          เปลี่ยนหน้าสิวเป็นหน้าใส ด้วยวิธีรักษารอยสิวแบบไม่ทิ้งร่องรอย

          สิว

          มหากาพย์เรื่องสิว ไม่ได้มีแค่ปัญหาเม็ดสิวที่เห่อขึ้นบนใบหน้าที่มีทั้ง สิวผด สิวหนอง สิวหัวดำ สิวหัวช้าง และอื่นๆ อีก แต่เรื่องราวของคนเป็นสิวยังคงมีภาคต่อยืดยาวมากกว่านั้น เพราะหลังจากที่รักษาสิวให้ยุบไปแล้วแต่รอยแดง รอยดำ หรือหลุมสิวจะยังคงทิ้งร่องรอยของความเจ็บช้ำใจไว้ให้เห็น ยิ่งอายุมากขึ้น รอยก็ยิ่งหายช้าลง หน้าสดก็ไม่สวย แถมยังต้องแต่งหน้าหนาๆ ปิดรอยสิวอีก ใครที่กำลังเจอปัญหาน่าหงุดหงิดแบบนี้อยู่ล่ะก็ มาดูวิธีรักษารอยสิวให้หายแบบไม่ทิ้งร่อยรอยให้กวนใจกันอีกต่อไปค่ะ

          ลบรอยสิวอย่างไรให้หายหลังรักษาสิว

          1. ลบรอยสิวด้วยวิธีธรรมชาติ

          shutterstock 208179763
          • กระเทียม เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นดั่งยาฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อราบนผิวได้เป็นอย่างดี โดยนำกระเทียมมาฝานบางๆ จากนั้นก็นำกระเทียมมาถูลงบนหัวสิว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลบรอยสิวให้ค่อยๆ จางลงและหายไปจากใบหน้าได้แล้วค่ะ
          • น้ำแข็ง วิธีลบรอยสิวนี้ทำได้ง่ายมากค่ะ เพียงแค่นำก้อนน้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูที่มีความนุ่ม จากนั้นนำมาวางบนสิว จะช่วยลดการอักเสบ ลดอาการคัน ที่สำคัญยังช่วยลบรอยสิวได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อสิวหายจากอาการคันหรือเจ็บจากอาการอักเสบ ก็จะไม่ทำให้เกิดพฤติกรรมการเกาหรือแกะสิวนั่นเองค่ะ
          • ไข่ขาว ก่อนอื่นล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นนำไข่มาแยกเอาเฉพาะไข่ขาวแล้วนำมาทาบางๆ ให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำแบบนี้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยลบรอยสิว ทำให้เริ่มจางลง พร้อมทั้งมีผิวหน้าที่กระชับมากขึ้นด้วยค่ะ
          • มะเขือเทศ โดยหั่นมะเขือเทศเป็นแว่นๆ หรือจะใช้วิธีการบดมะเขือเทศให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะช่วยลบรอยสิวและค่อยๆ จางลงค่ะ

          2. ทาครีมลบรอยสิว

          วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆ สำหรับใครที่ต้องการให้รอยสิวหายไวๆ ค่ะ โดยเลือกครีมลบรอยสิวที่มีส่วนผสมของสารสกัดที่เป็นผลไม้ เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว นั่นก็คือ รอยดำจากสิว นั่นเองค่ะ โดยควรทาเป็นประจำเช้า-เย็น แต่ทายาลบรอยสิวแล้ว อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้รอยดำ รอยแดงเข้มกว่าเดิม และหายช้ามากขึ้นไปอีกค่ะ

          image005 13

          3. มาส์กหน้าด้วยแผ่นมาส์กหน้า

          แผ่นมาส์กหน้า ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้ใบหน้านุ่มชุ่มชื่นขึ้นเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีบางตัวบางสูตรที่ช่วยในเรื่องของการลบรอยสิวได้ด้วย ซึ่งการเลือกซื้อแผ่นมาส์กหน้าก็แนะนำให้เลือกซื้อแบบที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการแพ้ค่ะ

          image007 4

          4. ทาเจลว่านหางจระเข้

          เจลว่านหางจระเข้ เป็นอีกหนึ่งไอเท็มช่วยรักษาสิวได้ดี จะสิวอักเสบ ลบรอยสิว รอยดำ รอยแดง ก็สามารถจัดการได้ ซึ่งถ้าใครไม่สามารถหาว่านหางจระเข้สดได้ ก็มีเจลว่านหางจระเข้เกือบ 100% ให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์ค่ะ สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย แนะนำว่าให้เลือกซื้อแบบที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์จะดีต่อผิวหน้าที่สุดค่ะ

          5. ทานวิตามิน

          สำหรับคนที่ไม่ชอบทาครีมหรือทายาลบรอยสิวใดๆ การการวิตามินเสริมที่ช่วยในการรักษาสิว ลบรอยสิว พร้อมช่วยในเรื่องหน้าขาวใสได้เช่นกันค่ะ แต่การทานวิตามินอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผล อย่างน้อย 1-2 เดือน และต้องทานเป็นประจำต่อเนื่อง จึงจะเห็นผลชัดที่สุด ซึ่งวิตามินที่ช่วยในการลบรอยสิวก็ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี โดยวิตามินเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปค่ะ มีหลากหลายยี่ห้อ ทั้งนี้ควรศึกษาข้อมูลการทานวิตามินที่ถูกต้องก่อนเลือกซื้อจะดีที่สุดค่ะ

          6. โปรแกรม Acne Away & Brightening

          โปรแกรมนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิว ลบรอยสิว กำจัดปัญหาความหมองคล้ำอันเกิดจากสิว รอยสิว และขจัดต้นตอของปัญหาสิวในคราวเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย เทคนิคการกด-ฉีดสิว โดยแพทย์ เพื่อลดปริมาณการอักเสบและอุดตันของสิว  เพื่อเอาไขมันใต้ผิวส่วนเกินออก ป้องกันการอุดตันและอักเสบในอนาคต

          image009 1

          ต่อมาคือ เทคโนโลยีการรักษาสิวด้วยสำแสงช่วยฆ่าเชื้อสิว ช่วยให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานน้อยลง ส่งผลให้สิวอุดตันที่เกิดการอักเสบเป็นเม็ดบวมแดงหรือเป็นหนองนั้นลดปริมาณลง โดยแพทย์จะทำการเลือกชนิดของของเทคโนโลยีสำแสงให้เข้ากับปัญหาของสิว เช่น สิวอักเสบ บวมแดง จะใช้เลเซอร์ประเภทที่สามารถทำปฏิกิริยากับเส้นเลือด เพื่อลดอาการบวมแดงได้ และสิวอุดตัน จะใช้เทคโนโลยีสำแสงประเภทที่สามารถลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ เป็นต้น

          ตามด้วย เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความขาวใส เพื่อช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นเก่า อันเกิดจากสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง ต่างๆ หลังจากนั้นแพทย์จะทำการทำทรีทเม้นท์ที่ช่วยทำลายเชื้อสิว ด้วยเทคนิคการผลักตัวยา P Anti Acne ด้วยเทคโนโลยีการผลักวิตามินบำรุงผิว เพื่อสร้างสมดุลแก่ชั้นผิว ปกป้องผิวจากสิวอย่างได้ผล เรียกว่าสวยครบใน 4 ขั้นตอนการรักษาสิวแบบไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้ดูต่างหน้าเลยล่ะค่ะ

          แก้ปัญหาสารพัดสิว ด้วยเทคนิครักษาสิวแบบสิวๆ

          96

          แม้ว่าปัญหาสิว จะเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น แต่ธรรมชาติของผิวหน้าแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันออกไป บางคนผิวหน้าแห้ง บางคนผิวหน้ามัน บางคนเป็นแบบผิวผสมกล่าวคือ บริเวณ T-zone ซึ่งได้แก่ หน้าผาก และจมูก จะมีความมันมากกว่าบริเวณอื่นๆ ส่วนบริเวณแก้มกลับเป็นผิวธรรมดาถึงแห้ง จึงทำให้บางคนเป็นสิวมาก ส่วนบางคนก็เป็นสิวน้อย

          ซึ่งสิวบนใบหน้าของเรานั้นมีสารพัดชนิดหลากหลายมากค่ะ ฉะนั้น วิธีการรักษาสิวแต่ละชนิดจึงอาจต้องใช้วิธีที่แตกต่างกันออกไปตามอาการที่เป็น สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีรักษาสิวบนใบหน้าที่กำลังเป็นอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นสิวชนิดใดกันแน่ ลองศึกษาบทความนี้ เพื่อทำความเข้าใจและรักษาสิวที่เป็นอยู่ได้อย่างถูกต้องตามอาการค่ะ

          ประเภทของสิว โดยทั่วไปเราแบ่งสิวออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

          1. สิวไม่อักเสบ (non-inflammatory acne) เป็นประเภทของสิวที่พบได้มากกว่า 70% ของปัญหาสิว มักพบในวัยรุ่น และวัยหนุ่มสาว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว (หลัง) เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมัน (Sebaceous gland) จำนวนมาก
          2. สิวอักเสบ (inflammatory acne)  เราอาจสังเกตสิวอักเสบด้วยวิธีการง่ายๆ คือ มีการบวม แดง และอาจมีอาการเจ็บได้

          เทคนิคการรักษาสิวแต่ละประเภท

          1. สิวผด

          สิวชนิดนี้ มีลักษณะเป็นผดเม็ดเล็กๆ แต่ไม่มีหัว มักขึ้นบริเวณหน้าผาก ไรผม จมูกและแก้ม และมักขึ้นตอนที่เหงื่อออกมากๆ อาจเพราะอากาศที่ร้อน รวมถึงการเช็ดถูผิวหน้าอย่างรุนแรงเกินไป

          วิธีรักษาสิวผด

          1. ลองสังเกตตัวเองว่าใช้ครีมทาหน้า/โฟมล้างหน้ายี่ห้อไหนแล้วแพ้ ควรหยุดใช้ โดยเลือกใช้ครีมหรือโฟมที่อ่อนโยน และไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป แค่วันละ 2 ครั้งพอค่ะ
          2. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านค่ะ
          3. ลองเปลี่ยนยาสระผมที่ใช้อยู่ เพราะสิวผดอาจเกิดจากการที่เราแพ้ยาสระผมก็ได้ค่ะ
          4. ถ้าปฏิบัติตามวิธีข้างต้นแล้วไม่หาย แนะนำว่าควรไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาสิวผดค่ะ

          2. สิวหัวเปิดหรือสิวหัวดำ

          มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเม็ดเล็กและมีรูเปิดจนเห็นหัวสิวได้อย่างชัดเจน มีจุดๆ อยู่ตรงกลางหัว ซึ่งจุดดำนั้น เกิดจากเซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้ว มารวมตัวกันกับไขมัน จนทำให้เกิดเป็นการอุดตันภายในรูขุมขนนั่นเอง

          image003 14

          วิธีรักษาสิวหัวดำ

          1. ผลัดเซลล์ผิว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือสารสกัดจากผลไม้ธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขน กำจัดเซลล์ผิวเก่าทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและทำให้รูขุมขนเล็กลง
          2. มาร์กหน้า การใช้โคลนหรือถ่านมาส์กหน้าจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าจากสิ่งสกปรก กำจัดเซลล์ผิวเก่าและน้ำมันที่อุดตันในรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก และซึ่งช่วยลดการเกิดสิวหัวดำได้
          3. หลีกเลี่ยงการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน แม้ว่าแผ่นลอกสิ้วเสี้ยนและมาส์กหน้าชนิดต่างๆ อาจช่วยกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ แต่ก็อาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้นและเกิดการอุดตันเป็นสิวหัวดำมากกว่าเดิมค่ะ
          4. กดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ  การใช้เครื่องมือกดสิวเพื่อกำจัดสิวหัวดำโดยขาดความชำนาญก็อาจทำให้ผิวหน้าเป็นแผลและเกิดรอยแผลเป็นตามมาได้ ดังนั้น หากต้องการกดสิว ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่มีความรู้และประสบการณ์ในการกดสิว เพื่อกำจัดสิวออกไปอย่างถูกวิธีค่ะ

          3. สิวหัวปิดหรือสิวหัวขาว

          ลักษณะของสิวชนิดนี้จะไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนเท่าสิวหัวดำ แต่สิวหัวขาวนั้นจะเป็นตุ่มนูน หากเอามือลูบไล้จะรู้สึกคล้ายกับมีไตก้อนเล็กๆ อันเกิดจากการอุดตันสะสมอยู่ภายในต่อมไขมันและรูขุมขน ถ้าปล่อยเอาไว้นาน หัวสิวก็จะปิดจนมีขนาดตุ่มที่ใหญ่ขึ้น กระทั่งกลายมาเป็นสิวอักเสบในที่สุด

          วิธีรักษาสิวหัวขาว

          1. ใช้ยาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น และช่วยลดการเติบโตของเชื้อสิว P.acne แนะนำยากลุ่ม Benzoyl peroxide ควรเลือกใช้ในระดับความเข้มข้นที่น้อยก่อนที่ 2.5% หากไม่เห็นผลจึงเพิ่มเป็น 5% ได้ในภายหลัง
          2. กดสิวร่วมในการรักษา เพื่อเปิดหัวสิวให้ออกไวขึ้น เพื่อป้องกันการอักเสบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะช่วยให้สิวหายไวขึ้นได้ แต่แนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญด้านกดสิวเพื่อการรักษาสิวอย่างเห็นผลและปลอดภัยค่ะ
          3. ใช้เลเซอร์ร่วมในการรักษาสิว เพื่อเปิดหัวสิวจะช่วยย่นระยะเวลาในการรักษาสิวหัวขาวหายได้เร็วขึ้นค่ะ
          image005 12

          4. สิวอักเสบ

          เป็นสิวที่เกิดขึ้นมาจากการอักเสบของเซลล์ผิวหนัง ลักษณะของสิวอักเสบจะเป็นเม็ดที่มีขนาดใหญ่ บวมแดงและเป็นหนอง

          วิธีรักษาสิวอักเสบ

          1. การดูแลตนเองเบื้องต้น เช่น ล้างหน้าให้สะอาด, พักผ่อนให้เพียงพอ, การทำความสะอาดเครื่องนอน, ไม่รับประทานอาหารประเภทของทอดมันๆ รวมถึงทำจิตใจให้ผ่อนคลายไม่เครียดด้วยค่ะ
          2. รักษาสิวอักเสบด้วยวิธีธรรมชาติโดยใช้สมุนไพร เช่น การใช้โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง หรือใช้น้ำมันมะกอกและมะนาว นำมาทำเป็นสูตรพอกหน้าแบบต่างๆ เพื่อรักษาสิวอักเสบค่ะ
          3. การรักษาด้วยการกินยา ยากินที่ใช้รักษาสิวคือ Isotretinoin หรือที่เรารู้จักกันในนาม Acnotin  ยากลุ่มนี้เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวมาก ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน จึงทำให้การเกิดสิวลดลง แต่ก็มีผลข้างเคียงมากมาย ซึ่งต้องใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
          4. ใช้นวัตกรรมรักษาสิว โดยจะประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การกดและฉีดสิว เพื่อลดปริมาณการอักเสบและอุดตันของสิว  พร้อมเอาไขมันใต้ผิวเป็นการป้องกันไม่ให้อุดตันและอักเสบขึ้นในอนาคต จากนั้นจึงเลเซอร์เพื่อฆ่าเชื้อสิว ช่วยให้ต่อมไขมันใต้ผิวทำงานน้อยลง ส่งผลให้สิวอุดตันที่เกิดการอักเสบลดปริมาณลง สุดท้าย คือการทำทรีทเม้นท์ เพื่อกำจัดหัวสิวด้วยการผลักตัวยา P Anti Acne เข้าผิวไปสร้างสมดุลและป้องกันสาเหตุของการเกิดสิวอย่างแข็งแรงอีกชั้นค่ะ

          5. สิวเสี้ยน

          มีลักษณะเป็นจุดดำ หรือตุ่มไขมันสีขาว มักพบบริเวณจมูก แก้ม คาง เมื่อกดสิว หรือใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนจะเห็นว่า มีเส้นไขมันสีขาวหรือเม็ดสิวเล็ก ๆ หลุดออกมา ซึ่งเกิดจากการอุดตันของไขมัน และสิ่งสกปรกในรูขุมขน

          วิธีรักษาสิวเสี้ยน

          1. ใช้สครับบริเวณสิวเสี้ยน การสครับผิวเพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยควรสครับอผิวอย่างเบามือเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอค่ะ
          2. ลอกสิวเสี้ยน เป็นวิธีการรักษาสิวเสี้ยนที่ถูกวิธี แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวแห้งและลอกได้
          3. เลือกใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวชนิดไม่มันมากเกินไป และควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้สะอาด ถึงแม้ไม่ได้แต่งหน้าก็ควรเช็ดทำความสะอาดคราบความมันและสิ่งสกปรกออกจากผิวทุกวัน
          4. การรักษาสิวโดยเลเซอร์ เพื่อลดการทำงานของต่อมไขมัน และช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเนียนใสขึ้นด้วยค่ะ
          image007 3

          6. สิวหนอง

          มีลักษณะเป็นนูนๆ สีขาวซึ่งมีหนองอยู่ข้างใน สาเหตุของสิวหนองเกิดจากการอักเสบของรูขุมขนหรือจากไขมันภายในร่างกายขับออกมาจากรูขุมขนในปริมาณมาก จนทำให้รูขุมขนมีการอักเสบและกลายมาเป็นสิวหนองนั่นเอง สิวชนิดนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะมีอาการเจ็บปวดสิวร่วมด้วย

          วิธีรักษาสิวหนอง

          1. เมื่อสิวมีลักษณะเป็นไต คือเป็นตุ่มแดงและแข็งเมื่อสัมผัสและจับดูอาจจะรู้สึกเจ็บ การดูแลในเบื้องต้นเพื่อลดการ เป็นสิวหัวหนองควรล้างหน้าอย่างเบามือ และหายาทาเพื่อลดการอักเสบของผิว ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน แต่สิวลักษณะนี้จะค่อยๆ หายและยุบลงไปโดยไม่เกิดหนองได้ค่ะ
          2. สิวเกิดหัวหนองและหัวสิวยังไม่สุกดี วิธีการรับมือที่ดีที่สุดของระยะนี้คือ การกระตุ้นหรือกดสิวออกให้เร็วที่สุด ซึ่งควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันรอยแผลเป็นค่ะ
          3. เมื่อสิวหนองสุกเต็มที่แล้ว การรักษาสิวหนองในระยะนี้เราสามารถที่จะเอาหนองออกได้หมดอย่างง่าย โดยใช้ยาทาแต้มสิวหรือครีมแต้มสิวที่ช่วยเรื่องการสมานแผลสิวให้หายได้เร็วขึ้น และลดการทิ้งรอยแผลหรือหลุมสิวที่จะตามมาจากการเอาหนองออก
          image009

          7. สิวหัวช้าง

          สิวอักเสบขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการรวมของสิวอักเสบทั้งหลายที่เป็นสิวอุดตันที่อักเสบแล้วพลอยลามให้สิวอุดตันรอบข้างอักเสบไปด้วย พอรวมตัวกันเป็นแผงเลยกลายเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ เราเรียกว่า สิวหัวช้าง

          วิธีรักษาสิวหัวช้าง

          1. รักษาด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ ถ้ายังไม่ถึงขนาดเรื้อรัง สามารถรักษาสิวด้วยสมุนไพรในครัวเรือนอย่างน้ำมะนาว และหัวหอมแดง โดยการคั้นเอาเฉพาะน้ำ แล้วใช้สำลีจุ่มแปะที่สิว ทำทุกครึ่งชั่วโมง และทาทิ้งไว้ก่อนนอน
          2. แต้มด้วยยาฆ่าเชื้อ สิวอักเสบขนาดใหญ่อย่างสิวหัวช้างนั้น หากปล่อยจนมีการแตก แห้ง จะมีโอกาสเกิดสิวซ้ำตรงที่เดิมอีก ดังนั้น ควรใช้ยาฆ่าเชื้อแต้มที่สิวเพื่อฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดสิว
          3. กินยารักษาสิว กรณีที่เราไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาสิว แพทย์จะสั่งยารักษาสิว ซึ่งจะเป็นลักษณะยาแก้อักเสบนั่นเองค่ะ
          4. ฉีดสิว นิยมทำในกรณีจำเป็นเร่งด่วน เช่น ต้องออกงาน และรอการรักษาสิววิธีอื่นไม่ทันการ
          5. รักษาด้วยเลเซอร์ สามารถทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

          สำหรับคนที่มีสิวหัวช้างนั้นจะมีอาการเจ็บปวดอย่างมาก หากยังคงปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจกลายมาเป็นฝีหรือผิวหนังอักเสบหนักขึ้นได้  ดังนั้น หากใครเป็นสิวหัวช้าง แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรีบทำการรักษาสิวอย่างถูกต้องโดยเร็วจะดีที่สุดค่ะ

          สิวอักเสบ ต้องรักษาสิวอย่างไรให้หายขาด

          95

          ขึ้นชื่อว่า “สิว” เชื่อว่าใครๆ ก็ไม่อยากเป็นสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ที่สร้างปัญหาแสนปวดใจของคนที่เคยเป็นหรือกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่เพราะสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัดบนใบหน้า แถมเมื่อสิวยุบยังทิ้งรอยแผลไว้ให้ช้ำใจ ส่งผลต่อความรู้สึกจนทำบางคนให้ขาดความมั่นใจในการเข้าสังคมไปเลยก็มีค่ะ

          สิวอักเสบนี้สามารถเกิดขึ้นได้แทบทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งนอกจากใบหน้าแล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นในโพรงจมูก ในหู บริเวณลำคอ แผ่นหลัง และที่แก้มก้น (จนบางครั้งนึกว่าเป็นฝี) ซึ่งสิวเหล่านี้ถ้าเราไปบีบหรือเแกะจะทำให้เกิดรอยหรือแผลเป็นสีดำ บางครั้งเกิดเป็นหลุมที่ผิวหนังเหมือนผิวพระจันทร์ได้ค่ะ

          แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะถึงจะเป็นสิวอักเสบก็รักษาสิวให้หายได้ค่ะ แล้วเจ้าสิวอักเสบมันมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง และวิธีใดที่จะสามารถป้องกันและรักษาสิวอักเสบให้หายขาดได้ มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ

          สาเหตุของสิวอักเสบ

          สิวอักเสบ คือ สิวที่มีขนาดใหญ่กว่าสิวปกติ เป็นตุ่มนูนขึ้นมาอย่างชัดเจน มีอาการบวมแดงและเจ็บเมื่อสัมผัส และจะรู้สึกตึงๆ ชาๆ ตรงจุดที่เกิด การอักเสบของสิวชนิดนี้จะมีการกลัดหนองที่กลางตุ่มสิว (หัวสิว) จนบางคนเรียกว่าสิวหัวหนองหรือสิวหัวช้าง (เพราะใหญ่มาก) สิวอักเสบนี้จะหายได้ช้าและหายยากถ้าเราไปบีบหรือแกะ เพราะจะเป็นการเพิ่มการอักเสบทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ขึ้นและเกิดการติดเชื้อประเภทอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น

          ส่วนสาเหตุของสิวอักเสบ อาจเกิดจากการอุดตันในรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนังบริเวณสิวอุดตัน หรืออาจเกิดกระบวนการอักเสบขึ้นมาเองบริเวณผิวหนังปกติ โดยปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวอักเสบ เช่น

          • กรดไขมันอิสระและไขมันผิวหนัง (Sebum) ที่ซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง
          • สารที่ผลิตโดยแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว (Propionibacterium Acnes หรือ P.Acne) แพร่เข้าสู่ชั้นผิวหนังและเนื้อเยื่อโดยรอบ
          • การอุดตันในรูขุมขนที่อาจนำไปสู่ปฏิกิริยาอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันจะห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมไว้จนเกิดเป็นก้อนสะสมใต้ผิวหนัง
          • สารก่ออาการอักเสบ ที่ถูกผลิตขึ้นภายในเยื่อบุเซลล์ ต่อมไขมัน หรือในระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
          • ภาวะภูมิไวเกิน หรือปฏิกิริยาที่มากเกินไปของภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
          • ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่เพิ่มมากขึ้น (Testosterone) ซึ่งฮอร์โมนนี้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเจริญเติบโตในวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์ ทำให้ฮอร์โมนนี้ไปกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวหนังให้ทำงานมากขึ้น
          • กรรมพันธุ์ หากมีพ่อแม่ที่เป็นสิว ผู้สืบสายเลือดรุ่นต่อมามีโอกาสที่จะเป็นสิว หรือมีแนวโน้มเป็นสิวในระดับรุนแรงได้
          • เพศหญิง ผู้ป่วยเพศหญิงมีแนวโน้มเป็นสิวได้มากในช่วงที่ฮอร์โมนเพศในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะตอนช่วงมีประจำเดือนหรือช่วงที่ตั้งครรภ์
          • การอุดตันของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว สิ่งสกปรกจากการมีสุขอนามัยที่ไม่ดี ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน หรือสวมใส่เครื่องแต่งกายที่รัดหรือลงน้ำหนักบนผิวหนังที่เป็นสิว เป็นต้น
          • การใช้ยารักษาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาลิเทียม ยาต้านอาการชัก เป็นต้น
          • การสูบบุหรี่ อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดสิว โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมาก

          รักษาสิวอักเสบให้หายขาดต้องทำอย่างไร

          การดูแลตัวเองเพื่อรักษาสิวอักเสบ

          1. หลีกเลี่ยงมลภาวะและล้างหน้าให้สะอาด การเดินทางเข้าไปในสถานที่ที่มีแต่ฝุ่นควันเยอะๆ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวบนใบหน้าได้ค่ะ สิ่งสกปรกอาจลอยมาเกาะ และเข้าไปในรูขุมขนจนเกิดการอักเสบ หรือการติดเชื้อได้ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงใบหน้าให้พ้นจากแสงแดดค่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผด แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เมื่อกลับมาที่บ้านให้รีบทำความสะอาดใบหน้าทันที หากใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกโฟมล้างหน้าทำความสะอาด ขอแนะนำว่าไม่ควรใช้เกินวันละ 2 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งจนเกินไป ทางที่ดี ควรใช้น้ำเปล่าล้างหน้าจากนั้นจึงซับให้แห้งค่ะ

          image003 13

          2. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานเป็นปกติ เนื่องจากฮอร์โมนเป็นต้นเหตุของการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน หากฮอร์โมนทำงานแปรปรวนก็จะทำให้ไปกระตุ้นต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป และก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้

          3. รักษาความสะอาดของเครื่องนอน บรรดาเครื่องนอนต่างๆ ที่เราต้องใช้อยู่ทุกวัน อย่าง ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เป็นสิ่งที่จะต้องสัมผัสกับผิวหน้าของเราโดยตรง เราไม่อาจรู้ได้ว่าเครื่องนอนเหล่านี้จะเป็นที่สะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ในจำนวนที่มากขนาดไหน ฉะนั้น เราจะต้องถอดออกมาทำความสะอาดบ่อยๆ นะคะ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก็ทำความสะอาด 1 ครั้ง ก็จะช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวบนหน้าได้แล้ว

          4. ผ่อนคลายความตึงเครียด ความเครียดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น และยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำให้ร่างกายติดเชื้อง่ายมากขึ้น รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย acnes ที่ก่อให้เกิดสิวด้วยเช่นกันค่ะ

          5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมันๆ หรือของทอด ยิ่งสาวๆ ทานอาหารที่มีน้ำมัน หรือของทอดๆ เยอะขึ้นเท่าไหร่ ปริมาณน้ำมันบนผิวหน้าของเราก็จะยิ่งเยอะตามไปด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันในรูปขุมขนจนเกิดเป็นสิว สิวอักเสบ หรือสิวเสี้ยนได้

          6. ดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ การขับถ่ายเป็นประจำทุกวันจะช่วยขับของเสียในร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยทำให้สิวลดลงได้ เนื่องจากปริมาณสารพิษที่สะสมในร่างกายลดน้อยลงนั่นเองค่ะ

          รักษาสิวอักเสบด้วยวิธีธรรมชาติโดยใช้สมุนไพร

          shutterstock 621994616

          มีสมุนไพรหลากหลายชนิดเลยนะคะ ที่มีคุณสมบัติและกรดต่างๆ ในการรักษาสิว เช่น การใช้โยเกิร์ตผสมน้ำผึ้ง หรือใช้น้ำมันมะกอกและมะนาว นำมาทำเป็นสูตรพอกหน้าแบบต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเริ่ดๆ ที่ช่วยรักษาสิวในแบบธรรมชาติค่ะ

          การรักษาสิวอักเสบโดยใช้ยาทาและแผ่นแปะสิว

          ยาทารักษาสิวภายนอกที่นิยม เช่น Benzoyl peroxide (หรือที่เราเรียกกันว่า Benzac) ยาตัวนี้มีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อ P. acne และยังช่วยให้สิวอุดตัน ทั้งสิวอุดตันหัวขาวและดำให้หลุดง่ายด้วยค่ะ หรือจะเป็นยากลุ่ม Retinoid ยากลุ่มนี้มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ เหมาะสำหรับคนผิวมัน โดยยากลุ่มนี้จะช่วยลดความมันบนใบหน้าทำให้เกิดสิวลดลงด้วย แต่ข้อเสียคือค่อนข้างจะระคายเคือง คนผิวแพ้ง่ายหมดสิทธิ์เลยค่ะ

          นอกจากนี้ ยาฆ่าเชื้อก็ได้ผลดี เช่น Clindamycin ช่วยเรื่องการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แนะนำให้ทารักษาสิวเฉพาะจุด พอสิวหายดีแล้วก็ควรหยุดใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อยา สุดท้ายคือ แผ่นซิลิโคนใสแปะรักษาสิว ส่วนมากมักจะมียาที่ลดการอักเสบเฉพาะที่ สามารถใช้ได้ในคนที่มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่หรือหัวช้างเท่านั้นนะคะ แต่ไม่แนะนำในสิวเม็ดเล็กๆ เพราะจะเกิดอาการระคายเคืองบริเวณข้างเคียง หรือผิวแห้งลอกได้ค่ะ

          รักษาสิวอักเสบด้วยโปรแกรม Acne Away and Bright

          วิธีการรักษาสิวด้วยโปรแกรมนี้ นอกจากจะช่วยในการดูแลผู้ที่ประสบปัญหาสิวให้หายแล้ว ขั้นตอนการรักษาสิวยังช่วยฟื้นฟูผิวหลังการรักษาสิวจากรอยแดง รอยดำ หรือแผลเป็นที่เกิดจากสิว ให้เรียบเนียนและขาวกระจ่างใสในโปรแกรมเดียวอีกด้วยค่ะ

          image007 2

          ขั้นตอนการรักษาสิว เริ่มจากการวินิจฉัยลักษณะและสาเหตุของสิวที่เกิดขึ้น โดยจะประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การกดและฉีดสิว เพื่อลดปริมาณการอักเสบและอุดตันของสิว  พร้อมเอาไขมันใต้ผิวเป็นการป้องกันไม่ให้อุดตันและอักเสบขึ้นในอนาคต จากนั้นจึงเลเซอร์ฆ่าเชื้อสิว ช่วยให้ต่อมไขมันใต้ผิวทำงานน้อยลง ส่งผลให้สิวอุดตันที่เกิดการอักเสบลดปริมาณลง โดยแพทย์จะทำการเลือกชนิดของเลเซอร์ให้เข้ากับปัญหาสิวที่เป็นอยู่เพื่อทำการรักษาสิวค่ะ

          การเลเซอร์ช่วยลดรอยดำและแดงจากสิว ขั้นตอนนี้ช่วยลดเลือนรอยสิวและเพิ่มความขาวใสให้กับผิวขึ้นด้วยค่ะสุดท้ายคือการทำทรีทเม้นท์ เพื่อกำจัดหัวสิวด้วยการผลักตัวยา P Anti Acne เข้าผิวไปสร้างสมดุลและป้องกันสาเหตุของการเกิดสิวอย่างแข็งแรงอีกชั้นค่ะ

          สาเหตุสิวผดในวัยรุ่น และวิธีรักษาสิวให้หน้าใสวิ้ง

          94

          วัยรุ่นจ๋า… ใครมีปัญหาสิวผดบ้างยกมือขึ้น! (ยกมือกันพรึ่บ)  สำหรับน้องๆ คนไหนที่มีปัญหาสิวผดมาบดบังความน่ารักสดใสในวัยรุ่น เดี๋ยวเราลองมาทำความรู้จักกับสิวผดกันค่ะ ว่ามันเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง แล้วเราจะสามารถรักษาสิวผดให้หายพร้อมกับมีผิวหน้าใสๆ วิ้งๆ เหมือนไอดอลเกาหลีต้องทำอย่างไร บทความนี้ น้องๆ วัยรุ่นทั้งหลายไม่ควรพลาดค่ะ

          ลักษณะของสิวผด

          สิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ นูนๆ จำนวนมาก เวลาสัมผัสจะรู้สึกไม่เรียบ เป็นเม็ดทราย กระจายทั่วใบหน้า เป็นสีแดง ทำให้ใบหน้าดูแดงๆ มีอาการคันและแสบบริเวณที่เกิดสิวผด ซึ่งที่จริงแล้วสิวผดมีความสัมพันธ์กับการเป็นผื่นมาก่อน เมื่อเกิดผื่นขึ้น การทำงานของต่อมไขมันก็ผิดปกติ เกิดการอุดตัน จากนั้นอาการแสบและคันก็ตามมาค่ะ

          โดยเฉพาะมือที่สกปรก เมื่อแบคทีเรียจากมือสัมผัสเข้ากับบริเวณที่มีการอุดตันของต่อมไขมัน จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้นมา ผื่นจึงแปลงร่างกลายเป็นสิวอักเสบ ลุกลามไป บางครั้งก็มีหัวเป็นหนองข้างใน หรือเป็นตุ่มน้ำใสๆ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าที่ถูกแสงแดดประจำ เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม ข้างจมูก คาง หรือในบางคนอาจมีสิวผดเกิดขึ้นบริเวณที่ไม่ได้โดนแสงแดด อย่างแผ่นหลัง บริเวณหน้าอกก็ได้

          สิวผดนั้น หากลองสังเกตดูจะพบว่า จะไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเช้าๆ แต่มักเกิดขึ้นตอนช่วงบ่ายๆ หลังจากผิวหนังสัมผัสกับฝุ่นละอองผสมกับอากาศร้อนๆ สิวผดก็จะปรากฎขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวค่ะ

          สิวผดเกิดจากอะไร

          สิวผดส่วนมากแล้วจะเกิดจากมลภาวะแสงแดดและความร้อน เพราะความร้อนและแสงแดดทำให้ต่อมเหงื่อไม่สามารถระบายเหงื่อออกได้หมด จนทำให้ต่อมเหงื่อตันแล้วเกิดเป็นตุ่มเล็กๆ เหมือนเป็นผด ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้สิวผดหายตัวไปในช่วงเช้าที่มีอากาศเย็น แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยงที่อากาศกำลังร้อนแบบบ้านเราด้วยล่ะก็ สิวผดก็จะกลับมาเห่อบนใบหน้าอีก จึงทำให้หลีกเลี่ยงสิวชนิดนี้ได้ยากค่ะ โดยทางการแพทย์พบว่าเชื้อราหรือยีสต์ชนิดหนึ่ง ชื่อ P. ovale เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดขึ้นมา ยิ่งเมื่อเวลาอากาศร้อน ต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันออกมาเยอะกลายเป็นอาหารชัั้นดีของเจ้ายีสต์ตัวนี้เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดสิวผดขึ้นได้ เช่น

          • มลพิษจากสิ่งแวดล้อม ทางน้ำ และอากาศ
          • เกิดจากการแพ้น้ำหรือเหงื่อ
          • ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ฟองมากจนเกินไป หรือใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิวของเรา
          • ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเป็นประจำ
          • การเช็ดถูหน้าบ่อยๆ หรือการเช็ดถูหน้าแรงๆ
          • เครื่องสำอางบางประเภท หรืออุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด
          • พักผ่อนน้อยเกินไป
          • ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอหรือร่างกายไม่แข็งแรง

          วิธีรักษาสิวผดให้หาย หน้าใสวิ้ง

          1. หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นตัวการสำคัญอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดสิวผดได้ค่ะ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงกลางวัน หรือทาครีมกันแดดชนิดควบคุมความมันทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

          2. ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ ใน 1 วัน ล้างหน้าแค่ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็พอแล้วค่ะ รวมถึงควรเลี่ยงการล้างหน้าแรงๆ เพราะทั้งสองอย่างนี้เป็นสาเหตุของสิวผดค่ะ

          3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหรือบำรุงผิวหน้าก็ตาม รวมถึงครีมกันแดด และควรล้างออกให้สะอาด เพื่อป้องกันการเกิดสิวผดหรือสิวอุดตันได้ในภายหลังค่ะ

          image003 12

          4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว หากต้องการป้องกันสิวทุกชนิดและยับยั้งไม่ให้มันลุกลาม ด้วยการฝึกตัวเองและยับยั้งห้ามใจไม่ไปรบกวนผิวหน้า เช่น การนวดหน้า ขัดหน้า เช็ดถูหน้า คุ้ย แคะ แกะเกาใบหน้าบ่อยๆ เพราะบางคนเป็นสิวก็เกิดความกังวลและลูบไล้ใบหน้าอยู่บ่อยๆ จนลืมไปว่ามือเราไม่สะอาด และอาจเป็นการไปกระตุ้นสิวที่มีอยู่แล้วให้ลุกลามมากยิ่งขึ้นได้นะคะ

          5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ น้องๆ ควรหันมารับประทานผักและผลไม้ให้เยอะๆ นะคะ พยายามเสริมแร่ธาตุอย่างสังกะสี (Zinc) เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น รักษาสิว สิวผด อักเสบและดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายภายในให้เย็นและชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวพรรณและใบหน้าสดใสได้ค่ะ

          6. ไม่เครียด ความเครียดมีส่วนทำให้ต่อมไขมันต้องทำงานหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดได้ค่ะ ดังนั้น เราจึงควรพยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ อย่าเครียดค่ะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก ทั้งนี้ ยังรวมถึงต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ใบหน้าของเราก็ห่างไกลจากสิวผดได้แล้วค่ะ

          7. สูตรพอกหน้ารักษาสิว มีหลายสูตรให้เลือกปฏิบัติ ดังนี้ค่ะ

          • สูตรไข่ขาว นำไข่แดงแยกออกเอาเฉพาะไข่ขาว ล้างหน้าของเราให้สะอาดแล้วนำมาพอกบริเวณใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นวิธีการรักษาสิวผดแบบง่ายๆ ที่รับรองว่าทำบ่อยๆ สิวผดหายแน่นอนค่ะ
          • สูตรมะเขือเทศผสมโยเกิร์ต นำมะเขือเทศมาสับให้ละเอียด ให้โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับมะเขือเทศที่สับเตรียมไว้ จากนั้น นำมาพอกใบหน้าบริเวณที่เกิดสิวผด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น หากรักษาสิวผดด้วยสูตรนี้เป็นประจำรับรองว่าสิวผดหายแน่นอนค่ะ
          • สูตรน้ำผึ้ง ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้น นำน้ำผึ้งบริสุทธิ์ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ มาทาบริเวณที่เป็นสิวผด ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น อีกวิธีง่ายๆ ของการรักษาสิวผดค่ะ

          8. หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือยาที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น เช่น Retinoic acid, Benzoyel peroxide AHA, BHA เป็นต้น

          9. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังรักษาสิวผด วิธีนี้จะช่วยรักษาสิวผดได้อย่างปลอดภัย และยังเป็นการป้องกันการเกิดสิวผดอย่างถาวรได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งเป็นการรักษาสิวผดตั้งแต่สาเหตุและรักษาสิวผดอย่างถูกวิธี ที่สำคัญก็คือไม่ควรซื้อยามารับประทานหรือรักษาสิวด้วยตนเอง เนื่องจากยารักษาสิวส่วนมากมักมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ อาจทำให้เป็นสิวมากขึ้นได้ค่ะ

          image005 10

          10. รักษาสิวผดด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากทำครั้งเดียวก็สามารถรักษาสิวผด และสิวอุดตันได้ทั่วทั้งใบหน้าอย่างทันใจ แต่อาจจะทิ้งรอยดำไว้บ้าง ซึ่งเราก็สามารถทาครีมลดรอยดำได้ในภายหลัง อย่างไรก็ดี ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ

           

          ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.romrawinclinic.com/

          เช็คด่วน! สาเหตุที่ทำ “สิวเห่อ” แบบไม่รู้ตัว

          สิว

          มีใครกำลังงงกับปัญหาสิวอยู่บ้างมั้ยคะ… ว่าทำไมทั้งๆ ที่เราเองก็หมั่นทำความสะอาดใบหน้า ล้างหน้าล้างตาอยู่เป็นประจำ แถมยังใช้สารพัดครีมที่เขาว่ากันว่าสามารถรักษาสิวใช้แล้วทำให้หน้าใส แต่ทำไม๊ทำไมสิวก็ยังเห่อขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทั้งนี้ สาเหตุของการเกิดสิวที่นอกเหนือจากพันธุกรรมและฮอร์โมนแล้ว อีกสาเหตุก็คือพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรานี่เองค่ะที่อาจทำให้เกิดสิวโดยไม่รู้ตัว เอาล่ะสิ…แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าพฤติกรรมไหนบ้างที่ส่งผลทำให้เกิดสิว? ไม่ต้องกังกลนะคะ เพราะบทความนี้เราได้รวบรวมพฤติกรรมที่ทำให้สิวเห่อแบบไม่รู้ตัวมาฝาก เพื่อทราบถึงปัญหาและสามารถรักษาสิวได้อย่างตรงจุดค่ะ

          ทำความเข้าใจกับปัญหาสิวก่อนรักษาสิว

          โดยปกติภายใต้ผิวของเราจะมีต่อมไขมันทำหน้าที่ผลิตน้ำมันเพื่อเคลือบและให้ความชุ่มชื้นกับผิว แต่หากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป น้ำมันที่ทำหน้าที่คล้ายกาวก็จะยึดติดเซลล์ผิวด้านบนไว้ ทำให้ไม่มีการผลัดเซลล์ผิวที่มักจะเกิดขึ้นทุก 28 วัน ผิวจึงเกิดปัญหาการอุดตัน สิวจึงมักพบในคนที่มีผิวมัน ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่เหมาะสมกับปัญหาสิว เช่น

          • ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีสารที่ช่วยดูดซับหรือควบคุมความมันของผิว
          • สารที่ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุสำคัญของสิวอักเสบ
          • ควรเลือกใช้สารที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวบาง เพื่อลดการอุดตันของผิว และสารที่มีคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ช่วยลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิวค่ะ

          หาต้นตอหรือสาเหตุของการเกิดสิวเพื่อหาวิธีการรักษาสิว โดยพยายามเลี่ยงสาเหตุนั้นๆ หรือลองสังเกตปัญหาสิวว่ามักเป็นสิวเมื่อไหร่เพื่อรักษาสิวได้อย่างถูกจุด เช่น

          • การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (ที่จะต้องมาสัมผัสใบหน้า) เช่น เปลี่ยนยาสีฟัน หากลองเปลี่ยนยาสีฟันแล้วปรากฏว่าสิวบริเวณคางค่อยๆ ลดลงและไม่เกิดขึ้นอีก ก็สันนิษฐานได้ว่าสาเหตุอาจเกิดจากยาสีฟันเดิมที่เคยใช้อยู่ค่ะ
          • รักษาสิวโดยการทำความสะอาด ปลอกหมอน/ที่นอน เมื่อเป็นสิวด้านใดด้านหนึ่ง อาจเกิดจากปลอกหมอนไม่สะอาด เพราะปลอกหมอนเป็นตัวกักเก็บฝุ่นละอองและแบคทีเรียต่างๆ มากมาย และขณะนอนหลับก็ไม่รู้ว่าคุณดิ้นเอาหน้าแนบหมอนไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ดังนั้น ควรซักปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนให้บ่อยๆ ได้ยิ่งดีค่ะ
          • สังเกตตัวเองว่ามักเป็นสิวช่วงก่อนหรือหลังการมีรอบเดือนหรือไม่
          • ทานอาหารบางประเภทแล้วเป็นสิว เช่น ช็อคโกแลต แต่อาจไม่เสมอไปกับทุกคนค่ะ บางคนอาจเป็นสิวจากการทานอาหารบางประเภท แต่บางคนไม่มีผลใดๆ
          • สิวหลังการแต่งหน้า ลองทำความสะอาดแปรงปัดหน้า เพราะแปรงแต่งหน้าเป็นแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรียไว้มาก ทั้งปัดแป้ง ปัดแก้ม ปัดเฉดดิ้ง สารพัดที่ต้องสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง ถ้าไม่อยากเป็นสิวก็เอาแปรงแต่งหน้า ออกมาล้างสัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดสิว รักษาสิวได้เยอะ ทั้งยังรักษาเนื้อสัมผัสเครื่องสำอางด้วยนะคะ

          รักษาสิวง่ายๆ โดยปรับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดสิว

          1. การนอนดึก เป็นพฤติกรรมกระตุ้นสิวชั้นดีเชียวค่ะ โดยเฉพาะคนเป็นสิวฮอร์โมนการนอนดึกจะกระตุ้นการเกิดสิว ทำให้สิวอักเสบง่ายขึ้น นอกจากนี้ สาวๆ ที่ชอบนอนดึกมักขี้เกียจล้างเครื่องสำอาง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สิวอุดตันมาเยือนค่ะ เพราะมีเครื่องสำอางเคลือบผิวอยู่ ซึ่งนอกจากสิวแล้ว ยังทำให้ใบหน้าแก่ก่อนวัยอีกด้วย
          2. ความเครียด อีกสาเหตุของการเกิดสิวของใครหลายคน
          3. การแคะ แกะ กดใบหน้า เป็นการไปรบกวนสิว เพราะจะยิ่งทำให้สิวเกิดอาการรุนแรง เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น รอยหรือหลุมสิวค่ะ
          4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น เพราะสิ่งสกปรกบนมือเราอาจไปกระตุ้นให้มีการเกิดสิว หรือเกิดการกำเริบของสิวได้ค่ะ
          image003 11

          รักษาสิวโดยให้ความสำคัญกับขั้นตอนทำความสะอาด

          1. ใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง รักษาสิวในกรณีแต่งหน้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางทุกครั้งก่อนการล้างทำความสะอาดใบหน้า เพื่อการทำความสะอาดอย่างหมดจด
          2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH เป็นกลางในการ รักษาสิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ดีควรมีค่า pH เท่าหรือใกล้เคียงกับผิวหน้า คือ 4.5-6.5
          3. ล้างหน้าวันละไม่เกิน 2 ครั้ง ยิ่งคุณล้างหน้าเอาความมันออกจากใบหน้ามากเท่าไหร่ ผิวก็จะผลิตความมันเพิ่มขึ้นมากเท่านั้นค่ะ และแน่นอนมันทำให้เกิดสิวได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น ควรล้างหน้าให้พอประมาณ ซึ่งจำนวนครั้งที่เหมาะสม คือ 2-3 ครั้งต่อวันเท่านั้นค่ะ
          4. สครับผิว หากมีผิวมันควรสครับเพื่อขัดเซลล์ผิวที่ทับถม ช่วยลดปัญหาผิวอุดตันอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
          5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าเป็นสูตรที่ไม่ทำให้ผิวอุดตัน ในการรักษาสิว เช่น ผลิตภัณฑ์กันแดด เพราะหลายคนเชื่อว่าการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดจะทำให้ผิวอุดตันจึงเลี่ยงไม่ใช้ครีมกันแดด ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ค่ะ เพราะแสงแดดทำร้ายผิวมากกว่าที่คุณคิดเป็นสาเหตุของ สิว ฝ้า และรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ดังนั้น หากเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้ผิวอุดตัน เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันจะเป็นทางเลือกที่ดีและถูกต้องที่สุดค่ะ

          รักษาสิวโดยการดื่มน้ำและทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

          image005 9

          ให้เวลากับการรักษาสิว ดูแลปัญหาสิว

          สิวเป็นปัญหากวนใจทั้งก่อนเกิดสิว (เจ็บบริเวณที่จะเป็นสิว) และยังทิ้งร่องรอยกวนใจ รวมถึงปัญหาอื่นๆ ทั้งความมันเงาบนใบหน้า รูขุมขนกว้าง ถ้ายิ่งเร่งรีบในการรักษาสิว เช่น ไปเลือกใช้ยารักษาสิวที่มีสารสเตรียรอยด์เพื่อการเห็นผลที่ดีกว่าในระยะสั้น แต่อาจต้องเผชิญกับปัญหาที่หนักหนากว่าเดิมในระยะยาว ดังนั้น เพื่อการรักษาสิวให้ได้ผลอย่างถาวรเราต้องให้เวลาทั้งหาสาเหตุ ทำความเข้าใจ และแก้ไขดูแลไปพร้อมๆ กันค่ะ