วัยรุ่นจ๋า… ใครมีปัญหาสิวผดบ้างยกมือขึ้น! (ยกมือกันพรึ่บ) สำหรับน้องๆ คนไหนที่มีปัญหาสิวผดมาบดบังความน่ารักสดใสในวัยรุ่น เดี๋ยวเราลองมาทำความรู้จักกับสิวผดกันค่ะ ว่ามันเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง แล้วเราจะสามารถรักษาสิวผดให้หายพร้อมกับมีผิวหน้าใสๆ วิ้งๆ เหมือนไอดอลเกาหลีต้องทำอย่างไร บทความนี้ น้องๆ วัยรุ่นทั้งหลายไม่ควรพลาดค่ะ
ลักษณะของสิวผด
สิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ นูนๆ จำนวนมาก เวลาสัมผัสจะรู้สึกไม่เรียบ เป็นเม็ดทราย กระจายทั่วใบหน้า เป็นสีแดง ทำให้ใบหน้าดูแดงๆ มีอาการคันและแสบบริเวณที่เกิดสิวผด ซึ่งที่จริงแล้วสิวผดมีความสัมพันธ์กับการเป็นผื่นมาก่อน เมื่อเกิดผื่นขึ้น การทำงานของต่อมไขมันก็ผิดปกติ เกิดการอุดตัน จากนั้นอาการแสบและคันก็ตามมาค่ะ
โดยเฉพาะมือที่สกปรก เมื่อแบคทีเรียจากมือสัมผัสเข้ากับบริเวณที่มีการอุดตันของต่อมไขมัน จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้นมา ผื่นจึงแปลงร่างกลายเป็นสิวอักเสบ ลุกลามไป บางครั้งก็มีหัวเป็นหนองข้างใน หรือเป็นตุ่มน้ำใสๆ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าที่ถูกแสงแดดประจำ เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม ข้างจมูก คาง หรือในบางคนอาจมีสิวผดเกิดขึ้นบริเวณที่ไม่ได้โดนแสงแดด อย่างแผ่นหลัง บริเวณหน้าอกก็ได้
สิวผดนั้น หากลองสังเกตดูจะพบว่า จะไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเช้าๆ แต่มักเกิดขึ้นตอนช่วงบ่ายๆ หลังจากผิวหนังสัมผัสกับฝุ่นละอองผสมกับอากาศร้อนๆ สิวผดก็จะปรากฎขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวค่ะ
สิวผดเกิดจากอะไร
สิวผดส่วนมากแล้วจะเกิดจากมลภาวะแสงแดดและความร้อน เพราะความร้อนและแสงแดดทำให้ต่อมเหงื่อไม่สามารถระบายเหงื่อออกได้หมด จนทำให้ต่อมเหงื่อตันแล้วเกิดเป็นตุ่มเล็กๆ เหมือนเป็นผด ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้สิวผดหายตัวไปในช่วงเช้าที่มีอากาศเย็น แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยงที่อากาศกำลังร้อนแบบบ้านเราด้วยล่ะก็ สิวผดก็จะกลับมาเห่อบนใบหน้าอีก จึงทำให้หลีกเลี่ยงสิวชนิดนี้ได้ยากค่ะ โดยทางการแพทย์พบว่าเชื้อราหรือยีสต์ชนิดหนึ่ง ชื่อ P. ovale เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดขึ้นมา ยิ่งเมื่อเวลาอากาศร้อน ต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันออกมาเยอะกลายเป็นอาหารชัั้นดีของเจ้ายีสต์ตัวนี้เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดสิวผดขึ้นได้ เช่น
- มลพิษจากสิ่งแวดล้อม ทางน้ำ และอากาศ
- เกิดจากการแพ้น้ำหรือเหงื่อ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ฟองมากจนเกินไป หรือใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิวของเรา
- ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเป็นประจำ
- การเช็ดถูหน้าบ่อยๆ หรือการเช็ดถูหน้าแรงๆ
- เครื่องสำอางบางประเภท หรืออุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด
- พักผ่อนน้อยเกินไป
- ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอหรือร่างกายไม่แข็งแรง
วิธีรักษาสิวผดให้หาย หน้าใสวิ้ง
1. หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นตัวการสำคัญอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดสิวผดได้ค่ะ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงกลางวัน หรือทาครีมกันแดดชนิดควบคุมความมันทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
2. ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ ใน 1 วัน ล้างหน้าแค่ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็พอแล้วค่ะ รวมถึงควรเลี่ยงการล้างหน้าแรงๆ เพราะทั้งสองอย่างนี้เป็นสาเหตุของสิวผดค่ะ
3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหรือบำรุงผิวหน้าก็ตาม รวมถึงครีมกันแดด และควรล้างออกให้สะอาด เพื่อป้องกันการเกิดสิวผดหรือสิวอุดตันได้ในภายหลังค่ะ
4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว หากต้องการป้องกันสิวทุกชนิดและยับยั้งไม่ให้มันลุกลาม ด้วยการฝึกตัวเองและยับยั้งห้ามใจไม่ไปรบกวนผิวหน้า เช่น การนวดหน้า ขัดหน้า เช็ดถูหน้า คุ้ย แคะ แกะเกาใบหน้าบ่อยๆ เพราะบางคนเป็นสิวก็เกิดความกังวลและลูบไล้ใบหน้าอยู่บ่อยๆ จนลืมไปว่ามือเราไม่สะอาด และอาจเป็นการไปกระตุ้นสิวที่มีอยู่แล้วให้ลุกลามมากยิ่งขึ้นได้นะคะ
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ น้องๆ ควรหันมารับประทานผักและผลไม้ให้เยอะๆ นะคะ พยายามเสริมแร่ธาตุอย่างสังกะสี (Zinc) เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น รักษาสิว สิวผด อักเสบและดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายภายในให้เย็นและชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวพรรณและใบหน้าสดใสได้ค่ะ
6. ไม่เครียด ความเครียดมีส่วนทำให้ต่อมไขมันต้องทำงานหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดได้ค่ะ ดังนั้น เราจึงควรพยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ อย่าเครียดค่ะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก ทั้งนี้ ยังรวมถึงต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ใบหน้าของเราก็ห่างไกลจากสิวผดได้แล้วค่ะ
7. สูตรพอกหน้ารักษาสิว มีหลายสูตรให้เลือกปฏิบัติ ดังนี้ค่ะ
- สูตรไข่ขาว นำไข่แดงแยกออกเอาเฉพาะไข่ขาว ล้างหน้าของเราให้สะอาดแล้วนำมาพอกบริเวณใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นวิธีการรักษาสิวผดแบบง่ายๆ ที่รับรองว่าทำบ่อยๆ สิวผดหายแน่นอนค่ะ
- สูตรมะเขือเทศผสมโยเกิร์ต นำมะเขือเทศมาสับให้ละเอียด ให้โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับมะเขือเทศที่สับเตรียมไว้ จากนั้น นำมาพอกใบหน้าบริเวณที่เกิดสิวผด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น หากรักษาสิวผดด้วยสูตรนี้เป็นประจำรับรองว่าสิวผดหายแน่นอนค่ะ
- สูตรน้ำผึ้ง ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้น นำน้ำผึ้งบริสุทธิ์ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ มาทาบริเวณที่เป็นสิวผด ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น อีกวิธีง่ายๆ ของการรักษาสิวผดค่ะ
8. หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือยาที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น เช่น Retinoic acid, Benzoyel peroxide AHA, BHA เป็นต้น
9. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังรักษาสิวผด วิธีนี้จะช่วยรักษาสิวผดได้อย่างปลอดภัย และยังเป็นการป้องกันการเกิดสิวผดอย่างถาวรได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งเป็นการรักษาสิวผดตั้งแต่สาเหตุและรักษาสิวผดอย่างถูกวิธี ที่สำคัญก็คือไม่ควรซื้อยามารับประทานหรือรักษาสิวด้วยตนเอง เนื่องจากยารักษาสิวส่วนมากมักมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ อาจทำให้เป็นสิวมากขึ้นได้ค่ะ
10. รักษาสิวผดด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากทำครั้งเดียวก็สามารถรักษาสิวผด และสิวอุดตันได้ทั่วทั้งใบหน้าอย่างทันใจ แต่อาจจะทิ้งรอยดำไว้บ้าง ซึ่งเราก็สามารถทาครีมลดรอยดำได้ในภายหลัง อย่างไรก็ดี ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.romrawinclinic.com/