คืนความอ่อนวัยด้วย Ultherapy Prime ดีกว่าอย่างไร เมื่อเทียบกับหัตถการอื่น?

คืนความอ่อนวัยด้วย Ultherapy Prime ดีกว่าอย่างไร เมื่อเทียบกับหัตถการอื่น

ในยุคที่ภาพลักษณ์และความมั่นใจมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การดูแลผิวพรรณให้ดูสดใสและอ่อนกว่าวัย จึงกลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง วัยทำงานหรือวัยกลางคน ต่างก็เริ่มมองหาวิธีคืนความอ่อนวัยให้ใบหน้า โดยไม่ต้องใช้วิธีที่ต้องพักฟื้นนานหรือมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด

หนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าแบบไม่ใช่เข็ม ไม่ต้องศัลยกรรม ก็คือ Ultherapy Prime เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์เฉพาะจุด ยิงลึกถึงชั้นผิว SMAS ที่เทียบเท่าการดึงหน้าเพื่อช่วยยกกระชับ  ลดความหย่อนคล้อย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ใบหน้ากลับมาดูแน่น กระชับ และเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก Ultherapy Prime อย่างลึกซึ้ง พร้อมเปรียบเทียบกับหัตถการคืนความอ่อนวัยรูปแบบอื่น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นว่าวิธีไหนเหมาะสม ไม่ว่าจะต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า หรือเพียงแค่ต้องการให้ผิวกลับมาดูสดใสขึ้นอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัด

 

เทคโนโลยียกกระชับผิว Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย ที่ตอบโจทย์มากขึ้น

Ultherapy Prime หรือที่บางคนเรียกว่า Ulthera Prime เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่พัฒนาโดยบริษัท Merz Aesthetics โดยพัฒนาต่อยอดมาจาก Ulthera SPT ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านความแม่นยำ ความรวดเร็ว และความสามารถในการปรับให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หัวใจสำคัญของ Ultherapy Prime คือการใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด (Micro-Focused Ultrasound หรือ MFU) ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวลึกระดับเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า  จุดนี้เองที่ทำให้เทคโนโลยีนี้โดดเด่น เพราะสามารถยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม และไม่มีแผลหลังทำ

ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ดูแน่นขึ้น เรียบเนียนขึ้น พร้อมลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูชัดเจนขึ้นโดยยังคงความเป็นธรรมชาติของใบหน้าไว้ ไม่เปลี่ยนรูปหรือโครงสร้างเดิม

 

Ultherapy Prime ดีกว่าหัตถการอื่นอย่างไร?
Ultherapy Prime ดีกว่าหัตถการอื่นอย่างไร?

 

Ultherapy Prime ดีกว่าหัตถการอื่นอย่างไร?

Ultherapy Prime ดีกว่าหัตถการอื่นตรงที่สามารถยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS แบบแม่นยำด้วยภาพ Real-Time ช่วยยกกระชับผิวได้ลึกและแม่นยำโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์ดูกลมกลืนกับใบหน้า อยู่ได้นาน 12–24 เดือน พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน เหมาะกับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนวัยแบบไม่มีแผลและไม่มีอันตราย

 

Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย ดีกว่ารุ่นเดิมอย่างไร?

Ultherapy Prime ได้รับการพัฒนาหลายด้านเพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสะดวกในการรักษา ได้แก่

  • หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 35% พร้อมความละเอียดระดับ Full HD ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นรายละเอียดของชั้นผิวได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้การวางจุดยิงแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  • ระบบประมวลผลเร็วขึ้น ทำให้เวลาที่ใช้น้อยลงกว่าเดิมถึง 20% ช่วยให้ใช้เวลารับบริการน้อยลงแต่ได้ประสิทธิภาพเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม
  • ภาพ Real Time ขณะทำหัตถการ (Visualization Real-Time) แสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์สามารถควบคุมความลึกและตำแหน่งได้แม่นยำมากขึ้น
  • เหมาะกับผิวบริเวณบอบบาง เช่น รอบดวงตา ริมฝีปาก หรือหน้าผาก โดยมีพลังงานที่แม่นยำและอ่อนโยน ลดโอกาสระคายเคืองหรือบวมแดงหลังทำ
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน โดยทั่วไปอยู่ได้ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองหลังทำ

 

เปรียบเทียบ Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย กับหัตถการยอดนิยมอื่น ๆ
เปรียบเทียบ Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย กับหัตถการยอดนิยมอื่น ๆ

 

เปรียบเทียบ Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย กับหัตถการยอดนิยมอื่น ๆ

Ultherapy Prime vs Super HIFU

ความลึกของพลังงาน

  • แม้ทั้ง Ultherapy Prime และ Super HIFU จะใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์เหมือนกัน แต่ Ultherapy Prime มีความแม่นยำสูงกว่า เพราะสามารถยิงพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ โดยการใช้ภาพ Real Time  ขณะทำหัตถการ ทำให้พลังงานลงลึกและกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วน Super HIFU เป็นการยิงพลังงานตามแนวโครงสร้างที่คาดไว้โดยไม่มีภาพ Real Time 

ระยะเวลาของผลลัพธ์

  • Ultherapy Prime มักเริ่มเห็นผลใน 2-3 เดือนหลังทำ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-24 เดือน ส่วน Super HIFU เริ่มเห็นผล 2-3 เดือน แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน 

 

Ultherapy Prime vs Thermage FLX

ความลึกของพลังงาน

  • Ultherapy Prime ใช้พลังงานคลื่นเสียง MFU ยิงลงลึกถึงชั้น SMAS ขณะที่ Thermage FLX ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ยิงลงสู่ผิวชั้นหนังแท้และชั้นไขมันเพื่อกระตุ้นการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน สร้างผิวใหม่ให้ดูแน่นกระชับขึ้น

ระยะเวลาและผลลัพธ์หลังทำ

  • Ultherapy Prime เน้นการยกผิวที่หย่อนคล้อยแบบไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-24 เดือน ส่วน Thermage FLX เด่นด้านเพิ่มความกระชับ ความแน่นของผิว ลดความหย่อนเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่มีไขมันบาง เช่น แก้ม ใต้คาง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-24 เดือน

 

Ultherapy Prime vs โปรแกรมฉีดโบ

หลักการทำงาน

  • การฉีดโบทำงานโดยยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณที่เกิดริ้วรอย เช่น หน้าผาก หางตา ทำให้ผิวเรียบขึ้นชั่วคราว ในขณะที่ Ultherapy Prime ใช้พลังงาน MFU กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึก

ระยะเวลาและผลลัพธ์หลังทำ

  • การฉีดโบจะเห็นผลค่อนข้างเร็ว ภายในประมาณ 1–2 สัปดาห์หลังทำ แต่ไม่ได้มีผลต่อการสร้างคอลลาเจนโดยตรง ขณะที่ Ultherapy Prime ใช้เวลาประมาณ 2–3 เดือนจึงเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ได้นานถึง 1–2 ปี

 

Ultherapy Prime vs โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์

หลักการทำงาน

  • โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใช้สารเติมเต็มเพื่อแก้ไขร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือคาง ฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปหน้า เติมความอิ่มฟู เห็นผลรวดเร็ว แต่ไม่ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อย ขณะที่ Ultherapy Prime ไม่เติมอะไรเข้าไปในร่างกาย แต่กระตุ้นให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง ทำให้ผิวดูกระชับแบบกลมกลืนกับใบหน้า

ระยะเวลาและผลลัพธ์หลังทำ

  • ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูสมดุลขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้ 6–18 เดือน แล้วแต่บริเวณและชนิดของสารเติมเต็ม Ultherapy Prime ยกกระชับผิวหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวในระยะยาว อยู่ได้ 1–2 ปี 

 

Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย ช่วยอะไรบ้าง?
Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย ช่วยอะไรบ้าง?

 

Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัย ช่วยอะไรบ้าง?

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
  • ยกกระชับผิวเฉพาะจุด เช่น หางตา มุมปาก ใต้คาง
  • ช่วยปรับโครงหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น
  • เสริมความแข็งแรงของชั้นผิวลึก
  • เปิดดวงตาและยกคิ้วให้ดูสดใสขึ้น
  • ลดความหย่อนคล้อยบริเวณเปลือกตา
  • ช่วยให้แนวกรามและกรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
  • ลดร่องแก้มและร่องมุมปากที่เห็นชัดตามวัย
  • เก็บเหนียงหรือคางสองชั้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

 

รวมข้อดีของ Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัยที่เด่นชัด
รวมข้อดีของ Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัยที่เด่นชัด

 

รวมข้อดีของ Ultherapy Prime คืนความอ่อนวัยที่เด่นชัด

  • ใช้เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound (MFU) ลงลึกถึงชั้น SMAS
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม ลดความเสี่ยงจากแผล หรือการติดเชื้อ
  • ไม่มีระยะพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • ใช้ภาพ Real-Time Visualization ขณะทำหัตถการ ยิงพลังงานได้แม่นยำ
  • ยิงพลังงานได้แม่นยำสูง ปรับระดับความลึกได้ตามแต่ละบริเวณของใบหน้า
  • ลดความเสี่ยงการยิงพลาด หรือพลังงานลงผิดชั้นผิว
  • หน้าจอ Full HD ขนาดใหญ่ เพิ่มความคมชัดในการมองเห็นชั้นผิว
  • ระบบประมวลผลเร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 20% ใช้เวลาทำหัตถการน้อยลง
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1–2 ปี แล้วแต่สภาพผิวและการดูแล
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่จากภายใน ฟื้นฟูคุณภาพผิว
  • ช่วยให้ใบหน้ากระชับขึ้น โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างใบหน้า
  • ช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้าและลำคออย่างเห็นได้ชัด
  • สามารถทำบริเวณที่ผิวบอบบางได้ เช่น รอบดวงตา ใต้ตา หน้าผาก หรือขมับ
  • เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
  • เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ หรือไม่อยากผ่าตัด
  • เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีงานวิจัยรองรับ
  • ใช้ได้กับหลายบริเวณของร่างกาย เช่น กรอบหน้า คอ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง
  • ช่วยปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น (V-shape) โดยไม่ต้องใช้สารเติมเต็ม
  • เหมาะกับทุกสีผิว ไม่เกิดปัญหาเรื่องรอยดำหลังทำ
  • สามารถทำปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ต่อเนื่อง
  • เหมาะกับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อย
  • สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น ฟิลเลอร์หรือฉีดโบ
  • ทำซ้ำได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อเดิม
  • แพทย์สามารถควบคุมพลังงานได้ละเอียดมากขึ้น
  • ทำให้ผิวดูสดใส มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ช่วยชะลอสัญญาณความร่วงโรยของผิวในระยะยาว
  • ทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นผลลัพธ์ ไม่ต้องทำบ่อย ๆ
  • ภาพลักษณ์ดูดีขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม

 

ใครบ้างที่ควรยกกระชับ คืนความอ่อนวัยด้วย Ultherapy Prime?
ใครบ้างที่ควรยกกระชับ คืนความอ่อนวัยด้วย Ultherapy Prime?

 

ใครบ้างที่ควรยกกระชับ คืนความอ่อนวัยด้วย Ultherapy Prime?

  • ผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ที่เริ่มสังเกตเห็นสัญญาณความร่วงโรยของผิว
  • ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่มีผิวหน้าดูอ่อนล้า ไม่สดใส แม้พักผ่อนเพียงพอ
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ผ่าตัดหรือใช้เข็ม
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังทำหัตถการ
  • ผู้ที่ต้องทำงานพบปะผู้คนบ่อย ต้องการดูดีอยู่เสมอ
  • ผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการดูแลผิวอย่างลึกแต่ไม่เปลี่ยนรูปหน้า
  • ผู้ที่มีริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก หรือหางตาเริ่มปรากฏชัด
  • ผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัด คางสองชั้น หรือเหนียงเริ่มหย่อน
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวบาง ไม่เหมาะกับการร้อยไหมหรือฉีดโบ
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานกว่า 1 ปีโดยไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
  • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติจากภายใน
  • ผู้ที่มีร่องแก้มตก หรือแก้มหย่อนลงมาจากตำแหน่งเดิม
  • ผู้ที่มองหาวิธีคืนความอ่อนวัยแบบไม่เติมสารเข้าสู่ร่างกาย
  • ผู้ที่มีแนวโน้มแก่เร็ว หรือมีประวัติครอบครัวผิวหย่อนไว
  • ผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วใบหน้าดูโทรม ต้องการยกกระชับผิวให้เข้ารูป
  • ผู้ที่มีลำคอเหี่ยวย่น และอยากกระชับแนวคอ-กราม
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ไม่แข็งหรือฝืนโครงหน้า
  • ผู้ที่ไม่เคยทำหัตถการมาก่อน และต้องการเริ่มต้นดูแลผิวอย่างอ่อนโยน
  • ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก แต่ยังไม่อยากฉีดฟิลเลอร์
  • ผู้ที่อยากยกกระชับปรับหน้าให้ดูเรียวขึ้นแบบไม่ต้องศัลยกรรม
  • ผู้ที่ต้องการยกหางตา ยกคิ้ว หรือปรับแนวตาให้ดูยกขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้สดใสหลังความเครียด หรือพักผ่อนน้อย
  • ผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดดึงหน้ามา และต้องการรักษาผลลัพธ์ให้นานขึ้น
  • ผู้ที่มีผิวหน้าไม่เรียบตึงจากวัยทองหรือฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
  • ผู้ที่กังวลเรื่องริ้วรอยในอนาคต และอยากเริ่มดูแลก่อนสายเกินไป
  • ผู้ที่ต้องการผิวแน่นขึ้นแต่ไม่ชอบความรู้สึกของฟิลเลอร์
  • ผู้ที่มีใบหน้าเบี้ยวจากความหย่อนคล้อยไม่เท่ากัน และอยากปรับสมดุล
  • คนที่มีผิวไวต่อสารเคมี และไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเข้มข้นได้
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวเพื่อความมั่นใจก่อนโอกาสสำคัญ

 

หมายเหตุ

ผลลัพธ์และความเหมาะสมในการรักษาอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล การประเมินโดยแพทย์จึงเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าผิวตอบสนองต่อการรักษาได้ดี และได้รับผลลัพธ์ที่ตรงความคาดหวัง การปรึกษาอย่างละเอียดก่อนเข้ารับบริการจะช่วยให้การฟื้นฟูผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจยิ่งขึ้น

 

ใครที่ไม่ควรยกกระชับ คืนความอ่อนวัยด้วย Ultherapy Prime?

  • ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยรุนแรงมากเกินระดับที่เทคโนโลยีจะยกกระชับได้
  • ผู้ที่มีแผลติดเชื้อบริเวณที่จะทำการรักษา เช่น แผลเปิด สิวอักเสบหนอง หรือผื่นรุนแรง
  • ผู้ที่มีวัสดุฝังอยู่ใต้ผิวในบริเวณที่จะทำ เช่น โลหะ ฝังเข็มซิลิโคน 
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร 
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนังเฉพาะจุดในบริเวณทำการ เช่น โรคสะเก็ดเงิน, โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ง่าย หรือมีผื่นแพ้สัมผัสในบริเวณใบหน้า
  • ผู้ที่มีโรคระบบประสาท หรือมีประวัติการชัก 
  • ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดใบหน้าหรือดึงหน้ามาไม่นาน 
  • ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์ หรือหัตถการที่ทำให้ผิวบาง
  • ผู้ที่มีโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เบาหวานรุนแรง ความดันสูงจัด
  • ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย
  • ผู้ที่มีแผลเป็นนูนง่าย หรือมีประวัติ Keloid อาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ผู้ที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ที่ยังไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามวัย
  • ผู้ที่มีใบหน้าที่ผิวบางมากจนเสี่ยงต่อการระคายเคือง
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบทันทีทันใด
  • ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับผิวหนัง เช่น มะเร็งผิวหนังในบริเวณที่ทำ
  • ผู้ที่รับยาหรือสารกระตุ้นผิวบางประเภท เช่น สเตียรอยด์เรื้อรัง หรือยาละลายลิ่มเลือด
  • ผู้ที่เคยมีอาการชาตามเส้นประสาทใบหน้า อาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ผู้ที่มีพฤติกรรมเกาบ่อย ขยี้หน้าแรง หรือดูแลผิวไม่ดีหลังทำ อาจกระทบต่อผลลัพธ์
  • ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาทางทันตกรรมบางประเภท เช่น การฝังรากฟัน

 

หมายเหตุ

ความเหมาะสมของแต่ละคนยังขึ้นอยู่กับสภาพผิว ประวัติสุขภาพ และข้อจำกัดเฉพาะบุคคล การเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ก่อนทำหัตถการจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าการยกกระชับและคืนความอ่อนวัยด้วย Ultherapy Prime จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามความคาดหวัง

 

วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Ultherapy Prime

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นตัวได้ดี
  • ทาครีมบำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
  • ใช้ครีมกันแดดทุกวัน เพื่อลดโอกาสเกิดความหมองคล้ำหลังทำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายและผิวมีเวลาฟื้นฟู
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีสารผลัดเซลล์ชั่วคราว
  • สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรล้างเครื่องสำอางให้สะอาดทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการตากแดดแรง ๆ โดยตรงในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
  • หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสผิวแรง ๆ ในช่วง 3–5 วันแรก
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ในช่วงแรก เพราะอาจกระทบต่อการฟื้นฟูผิว
  • งดซาวน่า อบไอน้ำ ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก ประมาณ 1 สัปดาห์

 

ทำไมหลายคนเลือก Ultherapy Prime เมื่ออยากคืนความอ่อนวัยให้ผิว

Ultherapy Prime กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่ต้องการยกกระชับและฟื้นฟูใบหน้าแบบไม่ใช่เข็ม ไม่ผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนจำนวนมากไว้วางใจเลือกใช้ เมื่อคิดถึงการคืนความอ่อนวัยให้ผิวพรรณ

  • เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า พร้อมการทำงานแบบเฉพาะจุด

Ultherapy Prime ใช้พลังงานคลื่นเสียงแบบโฟกัส (Micro-Focused Ultrasound – MFU) สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มีความสำคัญต่อการยกกระชับ เพราะเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

จุดเด่นของ Ultherapy Prime คือมีระบบ Visualization Real-Time ที่ช่วยให้แพทย์เห็นชั้นผิวจริงในขณะทำการรักษา จึงสามารถส่งพลังงานได้อย่างแม่นยำ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการยิงพลังงานได้

  • คืนความกระชับแบบไม่เปลี่ยนรูปหน้า

ผลลัพธ์จาก Ultherapy Prime ไม่ได้เพียงแค่ยกผิวแต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวแน่นขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น และริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ที่สำคัญ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามเวลา ไม่เปลี่ยนใบหน้าหรือทำให้ดูผิดธรรมชาติ คนรอบข้างจึงมักสังเกตเห็นว่าใบหน้าดูสดใสขึ้นโดยไม่รู้ว่าผ่านหัตถการใด ๆ มา ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนวัยแบบนุ่มนวล

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

Ultherapy Prime เป็นหัตถการที่ไม่ก่อให้เกิดบาดแผล ไม่ต้องใช้ยาชาแบบฉีด และไม่ต้องนอนพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ข้อได้เปรียบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับคนทำงาน คนที่ไม่สามารถลางานหลายวัน หรือผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองโดยไม่เสี่ยงกับการฉีดสารหรือการเจ็บตัวจากศัลยกรรม

  • ผลลัพธ์ยาวนาน และคุ้มค่าต่อการลงทุน

หนึ่งในเหตุผลที่หลายคนพึงพอใจ Ultherapy Prime คือผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้ยาวนาน โดยไม่ต้องทำบ่อย ๆ โดยเฉลี่ยสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 12 ถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับอายุ การดูแลผิว และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

นอกจากนี้ยังมีการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องหลังทำ โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นในช่วง 2–3 เดือนแรก จึงถือเป็นการคืนความอ่อนวัยที่ให้ผลในระยะยาวและดูพัฒนาเรื่อย ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ชั่วคราว

  • ใช้ได้กับทุกวัย และตอบโจทย์หลายปัญหาผิว

Ultherapy Prime ออกแบบมาให้ ใช้ได้กับหลากหลายช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือผู้ที่มีริ้วรอยชัดเจน ก็สามารถปรับระดับพลังงานให้เหมาะกับสภาพผิวได้อย่างไม่อันตราย

บริเวณที่สามารถทำได้มีทั้งใบหน้า รอบดวงตา กรอบหน้า คอ และเนินอก รวมถึงบริเวณที่มีผิวบาง ที่สำคัญ Ultherapy Prime ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสื่อมของคอลลาเจนและความหย่อนคล้อยในอนาคต หรือที่เรียกกันว่าการดูแลผิวแบบป้องกันก่อนเกิดปัญหา

 

เมื่อพูดถึงทางเลือกในการคืนความอ่อนวัยให้ผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด Ultherapy Prime ถือเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและความแม่นยำ ด้วยการส่งพลังงานคลื่นเสียงลึกถึงชั้น SMAS โดยมีระบบภาพเรียลไทม์ช่วยให้แพทย์สามารถออกแบบการรักษาได้เฉพาะบุคคล ทั้งยังไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล และไม่เสี่ยงจากการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย

เมื่อเปรียบเทียบกับหัตถการอื่น Ultherapy Prime โดดเด่นทั้งด้านความลึก และการกระตุ้นคอลลาเจนจากภายใน จึงไม่แปลกที่ใครหลายคนไว้วางใจให้เป็นตัวช่วยสำคัญในการคืนความอ่อนวัยให้กับผิวหน้าได้อย่างมั่นใจ

แม้ Ultherapy Prime จะไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน แต่หากได้รับการประเมินอย่างรอบคอบจากแพทย์ การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคลจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่แข็งตึงจนเกินไปและแม่นยำยิ่งขึ้น การคืนความอ่อนวัยจึงไม่ใช่เรื่องยาก หากเริ่มจากความเข้าใจที่ถูกต้อง