มหากาพย์เรื่องสิว ไม่ได้มีแค่ปัญหาเม็ดสิวที่เห่อขึ้นบนใบหน้าที่มีทั้ง สิวผด สิวหนอง สิวหัวดำ สิวหัวช้าง และอื่นๆ อีก แต่เรื่องราวของคนเป็นสิวยังคงมีภาคต่อยืดยาวมากกว่านั้น เพราะหลังจากที่รักษาสิวให้ยุบไปแล้วแต่รอยแดง รอยดำ หรือหลุมสิวจะยังคงทิ้งร่องรอยของความเจ็บช้ำใจไว้ให้เห็น ยิ่งอายุมากขึ้น รอยก็ยิ่งหายช้าลง หน้าสดก็ไม่สวย แถมยังต้องแต่งหน้าหนาๆ ปิดรอยสิวอีก ใครที่กำลังเจอปัญหาน่าหงุดหงิดแบบนี้อยู่ล่ะก็ มาดูวิธีรักษารอยสิวให้หายแบบไม่ทิ้งร่อยรอยให้กวนใจกันอีกต่อไปค่ะ
ลบรอยสิวอย่างไรให้หายหลังรักษาสิว
1. ลบรอยสิวด้วยวิธีธรรมชาติ
- กระเทียม เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นดั่งยาฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อราบนผิวได้เป็นอย่างดี โดยนำกระเทียมมาฝานบางๆ จากนั้นก็นำกระเทียมมาถูลงบนหัวสิว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลบรอยสิวให้ค่อยๆ จางลงและหายไปจากใบหน้าได้แล้วค่ะ
- น้ำแข็ง วิธีลบรอยสิวนี้ทำได้ง่ายมากค่ะ เพียงแค่นำก้อนน้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูที่มีความนุ่ม จากนั้นนำมาวางบนสิว จะช่วยลดการอักเสบ ลดอาการคัน ที่สำคัญยังช่วยลบรอยสิวได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อสิวหายจากอาการคันหรือเจ็บจากอาการอักเสบ ก็จะไม่ทำให้เกิดพฤติกรรมการเกาหรือแกะสิวนั่นเองค่ะ
- ไข่ขาว ก่อนอื่นล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นนำไข่มาแยกเอาเฉพาะไข่ขาวแล้วนำมาทาบางๆ ให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำแบบนี้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยลบรอยสิว ทำให้เริ่มจางลง พร้อมทั้งมีผิวหน้าที่กระชับมากขึ้นด้วยค่ะ
- มะเขือเทศ โดยหั่นมะเขือเทศเป็นแว่นๆ หรือจะใช้วิธีการบดมะเขือเทศให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะช่วยลบรอยสิวและค่อยๆ จางลงค่ะ
2. ทาครีมลบรอยสิว
วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆ สำหรับใครที่ต้องการให้รอยสิวหายไวๆ ค่ะ โดยเลือกครีมลบรอยสิวที่มีส่วนผสมของสารสกัดที่เป็นผลไม้ เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว นั่นก็คือ รอยดำจากสิว นั่นเองค่ะ โดยควรทาเป็นประจำเช้า-เย็น แต่ทายาลบรอยสิวแล้ว อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้รอยดำ รอยแดงเข้มกว่าเดิม และหายช้ามากขึ้นไปอีกค่ะ
3. มาส์กหน้าด้วยแผ่นมาส์กหน้า
แผ่นมาส์กหน้า ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้ใบหน้านุ่มชุ่มชื่นขึ้นเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีบางตัวบางสูตรที่ช่วยในเรื่องของการลบรอยสิวได้ด้วย ซึ่งการเลือกซื้อแผ่นมาส์กหน้าก็แนะนำให้เลือกซื้อแบบที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการแพ้ค่ะ
4. ทาเจลว่านหางจระเข้
เจลว่านหางจระเข้ เป็นอีกหนึ่งไอเท็มช่วยรักษาสิวได้ดี จะสิวอักเสบ ลบรอยสิว รอยดำ รอยแดง ก็สามารถจัดการได้ ซึ่งถ้าใครไม่สามารถหาว่านหางจระเข้สดได้ ก็มีเจลว่านหางจระเข้เกือบ 100% ให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์ค่ะ สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย แนะนำว่าให้เลือกซื้อแบบที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์จะดีต่อผิวหน้าที่สุดค่ะ
5. ทานวิตามิน
สำหรับคนที่ไม่ชอบทาครีมหรือทายาลบรอยสิวใดๆ การการวิตามินเสริมที่ช่วยในการรักษาสิว ลบรอยสิว พร้อมช่วยในเรื่องหน้าขาวใสได้เช่นกันค่ะ แต่การทานวิตามินอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผล อย่างน้อย 1-2 เดือน และต้องทานเป็นประจำต่อเนื่อง จึงจะเห็นผลชัดที่สุด ซึ่งวิตามินที่ช่วยในการลบรอยสิวก็ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี โดยวิตามินเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปค่ะ มีหลากหลายยี่ห้อ ทั้งนี้ควรศึกษาข้อมูลการทานวิตามินที่ถูกต้องก่อนเลือกซื้อจะดีที่สุดค่ะ
6. โปรแกรม Acne Away & Brightening
โปรแกรมนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิว ลบรอยสิว กำจัดปัญหาความหมองคล้ำอันเกิดจากสิว รอยสิว และขจัดต้นตอของปัญหาสิวในคราวเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย เทคนิคการกด-ฉีดสิว โดยแพทย์ เพื่อลดปริมาณการอักเสบและอุดตันของสิว เพื่อเอาไขมันใต้ผิวส่วนเกินออก ป้องกันการอุดตันและอักเสบในอนาคต
ต่อมาคือ เทคโนโลยีการรักษาสิวด้วยสำแสงช่วยฆ่าเชื้อสิว ช่วยให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานน้อยลง ส่งผลให้สิวอุดตันที่เกิดการอักเสบเป็นเม็ดบวมแดงหรือเป็นหนองนั้นลดปริมาณลง โดยแพทย์จะทำการเลือกชนิดของของเทคโนโลยีสำแสงให้เข้ากับปัญหาของสิว เช่น สิวอักเสบ บวมแดง จะใช้เลเซอร์ประเภทที่สามารถทำปฏิกิริยากับเส้นเลือด เพื่อลดอาการบวมแดงได้ และสิวอุดตัน จะใช้เทคโนโลยีสำแสงประเภทที่สามารถลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ เป็นต้น
ตามด้วย เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความขาวใส เพื่อช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นเก่า อันเกิดจากสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง ต่างๆ หลังจากนั้นแพทย์จะทำการทำทรีทเม้นท์ที่ช่วยทำลายเชื้อสิว ด้วยเทคนิคการผลักตัวยา P Anti Acne ด้วยเทคโนโลยีการผลักวิตามินบำรุงผิว เพื่อสร้างสมดุลแก่ชั้นผิว ปกป้องผิวจากสิวอย่างได้ผล เรียกว่าสวยครบใน 4 ขั้นตอนการรักษาสิวแบบไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้ดูต่างหน้าเลยล่ะค่ะ